จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 148
บทที่148 หาเรื่องทะเลาะ
สวี่หมานยืนตะลึง มองดูหลี่โม่ด้วยจิตใจคับแค้น ไม่คิดจะไปขอโทษหลี่โม่
“แม่ ขอโทษเจ้าสวะนี้เพื่ออะไร ถือดีอะไรให้ลูกขอโทษมัน”
“ลูกจะให้แม่โมโหตายใช่ไหม นั่นเงินหลายล้าน ได้เพิ่มขึ้นหลายล้านนะ! เพียงเงินเหล่านั้นคืนเข้ามาในบัญชี แม่จะซื้อรถBMWคันใหม่ให้ลูกทันที ทำเดี๋ยวนี้ เรียนรู้จากเถ้าแก่หลูสิ ตบหน้าตนเองเพื่อไถ่โทษ”
จางชุ่ยฮัวกดเสียงต่ำพูดกับสวี่หมาน
เงินหลายล้าน เพียงพอให้คนธรรมดาสบายไปทั้งชาติ มีหลายคนทั้งชีวิตไม่เคยสัมผัสเงินทองมากมายถึงเพียงนี้ สวี่หมานเริ่มลังเล ระหว่างหน้าตากับรถBMW เทียบกันแล้ว ในที่สุดสวี่หมานก็เลือกรถBMW
เสียหน้าให้กับหลี่โม่ ก็เพียงแค่คุณป้าที่อยู่ที่ในเหตุการณ์รู้เท่านั้น
แต่ว่าหลังจากได้รถBMWมาแล้ว ก็สามารถไปอวดรวยต่อหน้าเพื่อนร่วมงานได้อีก วันนี้เสียหน้า แต่ภายหลังได้ชดเชยกลับมาหลายเท่า!
สวี่หมานกัดฟันกรอดเดินไปหาหลี่โม่แล้วพูดว่า “เมื่อครู่ผมผิดเองครับ คุณโปรดให้อภัย ผมจะตบหน้าตนเองเพื่อชดเชยความผิด”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ
เสียงตบหน้าดังสนั่น สวี่หมานตบหน้าตนเองแบบยั้งมือไปสองฉาด จากนั้นมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาขอร้อง
หลี่โม่หัวเราะอย่างสุขใจพูดว่า “เมื่อครู่ล้อเล่นกับพวกคุณเท่านั้น”
“โอ้บ้าฉิบ……”
สวี่หมานกำลังจะสบถคำด่าออกไป พลันเหลือบเห็นหลูหมิงเซิงกำลังจ้องมองตนอยู่ จึงรีบเปลี่ยนท่าทีโอหังในทันที
“ฮ่าฮ่า คุณนี่นะ หลี่โม่คุณยังล้อเล่นอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเรารอเงินคืนเข้ามาในบัญชี ขอตัวก่อนครับ ขอตัวก่อน”
สวี่หมานไม่ปรารถนาอยู่ต่อแม้วินาทีเดียว เดี๋ยวหลี่โม่ล้อเล่นจนโมโหตายจะทำยังไง ตอนนี้เงินหลายล้านอยู่ในการควบคุมของหลี่โม่ รอจนกว่าได้เงินคืนมาทั้งหมดค่อยหาโอกาสแก้แค้นก็ยังไม่สาย
จางชุ่ยฮัวกับพวกต่างก็กล่าวอำลากับหวังฟางและหลี่โม่
ฮั่วเจี้ยนเฟิงปะปนอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นเดินออกไปเช่นกัน ไม่คิดจะทักทายหวังฟางแม้แต่นิดเดียว กัดฟันกรอดเดินไปที่รถBMWของตน
นั่งบนรถ มองดูแก้มที่บวมเป่งของตนผ่านกระจกมองหลังในรถยนต์ ฮั่วเจี้ยนเฟิงเดือดดาลจนทุบที่ข้างประตู
“สารเลว! ไอ้สวะนี้ได้เชิดหน้าชูคออีกแล้ว ไอ้สวะนี้เพราะอะไรถึงโชคดีทุกครั้ง! ไอ้เฮงซวยเอ้ย!
ความเดือดดาลปรากฏขึ้นในแววตาของฮั่วเจี้ยนเฟิง ฮั่วเจี้ยนเฟิงสงบสติพักหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาคนผู้หนึ่ง
“เฮียเตา ช่วยจัดการคน ๆ นึงให้หน่อย ชื่อว่าหลี่โม่ รูปภาพของมันอีกเดี๋ยวผมส่งไปให้ ต้องจัดการให้มันนอนเป็นผักให้น้ำเกลือไปตลอดชีวิต!”
“มัดจำก่อนหนึ่งแสน เสร็จเรื่องโอนให้อีกสองแสน”
เฮียเตาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่มีปัญหา ผมจะรีบโอนเงินไปให้”
โอนเงินไปให้เฮียเตา ส่งรูปภาพของหลี่โม่ ฮั่วเจียนเฟิงหยิบบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายใจ
“เหอะ ข้าจะคอยดูว่าครั้งนี้โชคจะเข้าข้างเจ้าอีกไหม!”
ในขณะเดียวกัน หวังฟางจ้องหน้าหลี่โม่ด้วยความอับอาย พูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “เก่งมากนักใช่มั้ย ไอ้สวะไร้ประโยชน์อย่างเจ้าอยากจะเชิดหน้าชูคอมากใช่มั้ย? อยากพิสูจน์ว่าตนมีความสามารถมากใช่มั้ย ก็แค่พวกจิ้งจอกคลุมหนังเสือเท่านั้น!”
“อ๋าว ผมไม่ได้อยากพิสูจน์อะไร เห็นว่าฮั่วเจี้ยเฟิงทำไม่สำเร็จแน่ ๆ ดังนั้นจึงยื่นมือเข้าไปช่วยก็เท่านั้นครับ”
หลี่โม่ไม่กล่าวถึงฮั่วเจี้ยนเฟิงจะดีกว่า พูดถึงฮั่วเจี้ยนเฟิงทำให้หวังฟางบันดาลโทสะขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าหลี่โม่ใช้ชื่อฮั่วเจี้ยนเฟิงเพื่อดูหมิ่นตนว่ามีตาแต่ไร้แวว
“เจี้ยนเฟิง เจ้าเทียบกับเขาไม่ได้หรอก สวะอย่างเจ้าอย่าคิดว่ายื่นมือช่วยเหลือแล้ว จะทำให้ฉันเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเจ้าได้ กลับบ้านแล้วค่อยคิดบัญชีกัน”
หวังฟางที่กำลังโมโหสะบัดหน้าเดินจากไป ไม่มีท่าทีที่ดีต่อหลี่โม่แม้แต่น้อย
หลี่โม่ส่ายหัวเล็กน้อย ในใจคิดว่าการช่วยเหลือครั้งนี้กลับทำให้คิดแค้นขึ้นไปอีก จิตใจคนเราช่างลำเอียงจริง ๆ
หลูหมิงเซิงมองดูหลี่โม่ด้วยความระแวดระวัง ในใจคิดว่านายน้อยสำนักหลงเหมินวิปริตไปหรือเปล่า หรือว่าใช้ชีวิตหรูหราจนเบื่อ ดังนั้นคิดจะสัมผัสรสชาติการเป็นพวกสวะซักครั้ง?
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง หลูหมิงเซิงรู้สึกว่าตนนั้นไม่น่าจะคิดผิด ต่างประเทศมีเศรษฐีมากมายชื่นชอบแต่งตัวเป็นขอทาน และยังมีอดีตฮ่องเต้อีก ชอบใช้ชีวิตเหมือนปุถุชนคนธรรมดา นายน้อยคงเหมือนกลุ่มคนเหล่านี้แน่นอน
“คุณหลี่ คุณฉู่ยังรอคุณอยู่ในรถครับ พวกเราไปสนทนากันในรถดีไหมครับ? “
หลูหมิงเซิงแสดงท่าทีเหมือนกับหัวหน้าขันทีในวังหลวง พูดกับหลี่โม่ด้วยความนอบน้อม
“ฉู่จงเทียนมาด้วยเหรอ งั้นไปพบซักหน่อย”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ได้ครับ เชิญทางนี้ครับ”
หลูหมิงเซิงเดินนำทาง ในใจคิดว่านายน้อยก็คือนายน้อย เห็นท่าทีนายน้อยเรียกชื่อฉู่จงเทียน รู้สึกได้ถึงท่าทางที่มีอำนาจ
ฉู่จงเทียนออกมายืนอยู่ข้างรถเบนซ์ S600 เห็นหลี่โม่เดินมาถึง โค้งคำนับด้วยความนอบน้อมพูดว่า “คุณหลี่”
“อืม”
หลี่โม่ส่งเสียงอืมในลำคอ เป็นการตอบรับคำฉู่จงเทียน
ฉู่จงเทียนหันหลังกลับเพื่อเปิดประตู แย้มยิ้มพูดว่า “คุณหลี่ เชิญขึ้นรถ”
หลี่โม่ขึ้นไปนั่งบนรถ ฉู่จงเทียนปิดประตูรถเสร็จ เดินไปขึ้นอีกฝั่งของตัวรถ
หลูหมิงเซิงเห็นพฤติกรรมการปรนนิบัติเช่นนี้ของฉู่จงเทียนเป็นครั้งแรก เมื่อก่อนมีแต่คนอื่นปรนนิบัติกับฉู่จงเทียนเช่นนี้!”
คนมีอำนาจ ทำให้ลูกพี่เราอ่อนน้อมได้ถึงเพียงนี้ นั่นคืออำนาจ!
หลูหมิงเซิงรีบวิ่งขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ มองดูหลี่โม่ที่นั่งอยู่แถวหลัง เผยรอยยิ้มประจบประแจง
“คุณหลี่ เสี่ยวหลูพบท่านเป็นครั้งแรก คิดไม่ถึงว่าทำเรื่องเข้าใจผิดถึงเพียงนี้ ยังไงขอให้คุณหลี่ยกโทษให้ผมด้วย ผมจัดเตรียมห้องที่คลับเฮาส์มังกรดำเรียบร้อยแล้ว พวกเราไปหาความสุขกันที่คลับเฮาส์มังกรดำกันเถอะครับ”
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย แม้แต่เสียงในลำคอก็ไม่มีให้กับหลูหมิงเซิง
ฉู่จงเทียนขมึงตามองหลูหมิงเซิง จากนั้นพูดว่า “ปกติไอ้อ้วนหลูไม่ค่อยมีไหวพริบ มักก่อเรื่องโง่ ๆ หลายต่อหลายครั้ง เมื่อครู่ผมต่อว่าเขาไปยกใหญ่แล้วครับ ตอนนี้คนนี้อยากล้างมือเตรียมตัวมาทำธุรกิจสุจริต”
“ใช่ ใช่ ผมต้องการทำธุรกิจสุจริต ยังต้องให้คุณหลี่ช่วยชี้แนะด้วยครับ คุณให้ผมทำธุรกิจอะไร เสี่ยวหลูทำธุรกิจนั้น”
หลูหมิงเซิงพูดโดยไม่ต้องคิดถึงหน้าตาแล้ว ในใจคิดแต่เพียงว่าอาศัยอำนาจของคนอื่น อาศัยอำนาจของคุณหลี่ที่เหมือนกับทองคำ99.99% ต่อไปสามารถทำกำไรได้มากกว่าเปิดบริษัทเงินทุนเสียอีก อีกทั้งไม่ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัวอีกต่อไป
หลี่โม่หลับตาไม่พูดซักคำ เหมือนกับว่าไม่อยากจะพูดกับหลูหมิงเซิง
หลูหมิเซิงรู้สึกผิดอยู่ในใจ รู้สึกว่าหลี่โม่ยังไม่หายโมโหตน ยังคงกังวลในตัวเขาแน่นอน ดังนั้นจึงแสดงท่าที่เช่นนี้ออกมา
ฉู่จงเทียนเห็นท่าทางเช่นนี้ไม่กล้าพูดอะไรไปมากความ ช่วยพูดให้กับหลูหมิงเซิงไปแล้ว ถือได้ว่าให้เกียรติเขาไปมากแล้ว ถ้าทำให้หลี่โม่เกลียดชังเพราะหลูหมิงเซิง นั่นจะได้ไม่คุ้มเสีย
เอี๊อดๆๆๆๆๆ
รถเบนซ์เหยียบเบรกกะทันหัน จอดนิ่งบนถนน
หลูหมิงเซิงถูกแรงผลักขณะรถเหยียบเบรกกะทันหัน จนหัวไปชนกับกระจกหน้ารถ แต่ว่าในเวลากระชั้นชิดหลูหมิงเซิงไม่ได้สนใจตนเอง หันหลังกลับไปมองหลี่โม่
“คุณหลี่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ผมขับรถไม่ดี ขับอยู่ดี ๆ เหยียบเบรกกะทันหัน ผมจะลงไปดูพวกเขาหน่อย!”
หลี่โม่ขมวดคิ้วมองออกไปดูนอกรถ เห็นรถตู้สองคัน จอดประกบรถเบนซ์ทั้งหน้าและหลัง พวกหัวสิงโตเจ็ดแปดคนทำท่าทางเป็นนักเลงหัวไม้ มือถือไม้เบสบอลเดินตรงมาที่รถ
“มีคนอยากหาเรื่องทะเลาะ” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย