จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 175
บทที่ 175 แกสมควรตาย
“พี่ ฉันถูกไอ้ยาจกคนหนึ่งทำร้ายที่โรงพยาบาล ลูกสาวของมันดูเหมือนจะเป็นคนไข้ในแผนกของพวกพี่ พี่รีบมาเลย!” หวังหลิงพูดทั้งน้ำตา
“พวกเธออยู่ในพื้นที่ผู้ป่วย? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เสียงทุ้มต่ำดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
หวังหลิงวางโทรศัพท์ แล้วชี้ไปที่หลี่โม่และตะโกนว่า “พี่ชายของฉันกำลังมา แกไอ้ยาจกเตรียมรอคุกเข่าให้ฉันได้เลย! พวกแกทั้งครอบครัวต้องคุกเข่าขอโทษฉัน!”
กู้หยุนหลันปลอบซีซีแล้ว และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร ในตอนนี้ได้ยินความหยิ่งผยองของหวังหลิง ในใจรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
“คุณนี่มันเปลี่ยนดำเป็นขาว ลูกชายของคุณต่างหากที่รังแกลูกสาวฉัน คุณไม่ให้ลูกชายของคุณรับผิดก็ไม่เป็นไร แต่คุณรู้ไหมว่าอะไรคือจริยธรรม มโนธรรม สุจริตธรรมและยางอาย”
กู้หยุนหลันด่ากลับ ในใจของเธอ ซีซีคือสมบัติ
ไม่ว่าจะลูกใครก็เป็นหัวใจของแม่ทั้งนั้น
หวังหลิงมองไปที่กู้หยุนหลันอย่างดูถูก ถ่มน้ำลายและตะโกนว่า”คนจนที่เข้าเมืองมาทำงานอย่างพวกแก ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องจริตธรรม มโนธรรม สุจริตธรรมและยางอาย พวกแกมันไม่คู่ควร!”
“พวกแกทั้งบ้านรีบคุกเข่าคำนับขอขมาฉันกับลูกชายฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเรื่องในวันนี้ไม่จบแน่ พี่ชายของฉันเป็นผู้อำนวยการภาควิชาโลหิตวิทยาหรือก็คือผู้ดูแลแผนกนี้! ”
กู้หยุนหลันใจกระตุกเล็กน้อย ถ้าเป็นเรื่องจริง เรื่องก็คงจะยุ่งยากไม่น้อย
กู้หยุนหลันจับแขนของหลี่โม่และกำลังจะพูด แต่เห็นหวังหย่องหัวหน้าแพทย์ในแผนกเดินเข้ามา
“น้องหลิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครทำร้ายน้อง เหิงเหิงเป็นยังไงบ้าง?”
หวังหย่องพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของหวังหย่องและหวังหลิงค่อนข้างดี ยิ่งไปกว่านั้นสามีของหวังหลิงค่อนข้างที่จะมีอำนาจ ช่วยให้หวังหย่องนั่งในตำแหน่งหัวหน้าแผนก ดังนั้นหวังหย่องจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความรู้สึกและความคิดเห็นของน้องสาวของเขา
ในตอนนี้หวังหลิงถูกรังแกในถิ่นของเขาเอง และหวังหย่องก็โกรธมาก อยากจะฆ่าคนที่รังแกหวังหลิงซะ
“พี่ ในที่สุดพี่ก็มา เป็นพวกมัน ไอ้ครอบครัวยาจก!”
หวังหลิงพูดและชี้ไปที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลัน
“พี่ดูหน้าฉันสิ ถูกผู้ชายหยาบคายคนนั้นตบ คนป่าเถื่อนอย่างพวกมัน ไม่ควรอยู่ในโรงพยาบาล พวกมันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาหาหมอ พวกมันทั้งหมดควรจะป่วยและตายไปซะ สภาพแวดล้อมของโลกจะได้บริสุทธิ์!”
มองที่รอยตบบนใบหน้าของหวังหลิง เส้นเลือดสีเขียวบนหน้าผากของหวังหย่องก็ปูดขึ้น
“ลงมือได้อย่างไร้ความปรานีจริงๆ!”
หวังหย่องมองไปที่หลี่โม่และกู้หยุนหลัน ในพริบตาเดียวก็จำครอบครัวนี้ได้
“เป็นพวกคุณ ปกติแล้วซีซีดูเป็นเด็กน่ารักมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีพ่อแม่ที่น่าขยะแขยงอย่างพวกคุณ และพวกคุณยังกล้าลงมือกับน้องสาวของฉันอย่างหยาบคาย!”
หวังหย่องเลิกคิ้วและสบถ
“คุณหมอหวัง ฟังฉันอธิบายก่อน มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้องสาวคุณพูด สิ่งที่เธอพูดเป็นเพียงคำพูดด้านเดียว”
กู้หยุนหลันพยายามอธิบาย
การมีเรื่องกับแพทย์ที่ดูแลแผนกนี้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด
หวังหย่องที่อยู่ตรงหน้านี้ เพียงแค่ขยับริมฝีปากเท่านั้น โรงพยาบาลในเมืองฮั่นทั้งหมดก็จะไม่รับซีซีเข้าการรักษา
“แล้วสิ่งที่คุณพูดจะไม่ใช่คำพูดเพียงด้านเดียวอย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่ควรเชื่อในสิ่งที่น้องสาวพูด แล้วฉันควรจะเชื่อในสิ่งที่คนนอกอย่างพวกคุณพูดหรือไง!” หวังหย่องตะคอกเสียงดัง
“แต่ว่า ความผิดหลักไม่ใช่ของทางเรา มันเป็นน้องสาวของคุณที่ลงมือกับซีซีก่อน ดังนั้น… ”
กู้หยุนหลันอธิบาย
“ดังนั้นกับผีอะไร! ฉันตีลูกป่าเถื่อนของพวกแก ถือว่าเป็นการสั่งสอนลูกแทนพวกแก แกมีสิทธิ์อะไรมาลงมือกับฉัน!” หวังหลิงตะโกนเสียงแหบ
วังหย่องตบหลังหวังหลิง ช่วยหวังหลิงให้หายใจรื่นขึ้น และพูดเสียงต่ำ”น้องไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ แล้วพี่จะให้พวกมันขอโทษแต่โดยดี”
หวังหลิงพยักหน้า และดึงลูกชายของเธอถอยหลังไปสองก้าว
หวังหย่องพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “พวกแกยังอยากให้ซีซีรักษาต่อที่นี่หรือไม่? ถ้ายังต้องการการรักษา ครอบครัวของแกจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษน้องสาวของฉัน”
“สำหรับค่าใช้จ่าย ดูสภาพแล้วพวกแกก็ไม่ค่อยมีเงิน จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ว่าแกสองผัวเมียต้องทำอะไรสักอย่าง ไปเป็นคนใช้ในบ้านน้องสาวฉันสักสามถึงห้าเดือนละกัน”
หวังหย่องหยิบยกเงื่อนไขที่น่ารังเกียจให้ จากอารมณ์ของหวังหลิง ถ้าไปเป็นคนใช้ที่บ้านของเธอสามถึงห้าเดือน คาดว่าคงโกรธจนเป็นโรคประสาทแน่
“ น้ำเข้าสมองแกรึไง พูดอะไรผ่านสมองก่อนไม่ดีหรือไง?”
หลี่โม่พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เชี่ยเอ๊ย! แกยังกล้าย้อนฉัน! ฉันคิดว่าแกคงไม่อยากให้ลูกสาวได้รับการรักษาแล้วสินะ ฉันแค่พูดคำเดียว เมืองฮั่นทั้งเมือง จะไม่มีโรงพยาบาลไหน และหมอคนใด ที่รักษาลูกสาวของแก ลูกสาวแกเตรียมรอวันตายได้เลย! ”
หวังหย่องเชิดหน้าขึ้น พูดอย่างหยิ่งผยอง
ในตอนนี้ หัวใจของหวังหย่องเต็มไปด้วยความเหนือกว่า และรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเทพเจ้าที่ควบคุมความเป็นความตาย
หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้า กู้หยุนหลันก็คว้าตัวหลี่โม่ไว้ และพูดด้วยเสียงต่ำ”คุณจะทำอะไร นี่คือหมอที่รับผิดชอบการรักษานะ คุณอย่าทำอะไรบ้าๆล่ะ!”
กู้หยุนหลันกังวลว่าช่วงนี้หลี่โม่จะทำร้ายคนจนเคยชิน ถ้าหลี่โม่ทำร้ายหวังหย่อง อาการป่วยของซีซีในอนาคต คงไม่มีใครกล้ารับช่วงต่อ
“ไม่ต้องกังวล ผมแค่จะคุยกับเขาอย่างมีเหตุผล”
หลี่โม่พูดเบาๆ
เมื่อเห็นกู้หยุนหลันขัดขวางหลี่โม่ หวังหย่องก็ยิ่งได้ใจ
“ฮ่าฮ่า ไอ้ยาจกอย่างพวกแก เหล้าดีไม่ดื่มแต่อยากดื่มเหล้าลงโทษ จะรู้สึกเจ็บก็ต่อเมื่อถูกสั่งสอน ถึงจะยอมก้มหัวเชื่อฟัง ฉันจะให้เวลาพวกแกคิดหนึ่งนาที หลังจากหนึ่งนาทีหากพวกแกยังไม่ยอมคุกเข่าสำนึกผิด ฉันจะสั่งให้คนหยุดการรักษาของซีซี”
หวังหย่องใช้การหยุดการรักษาของซีซีเป็นคำขู่ โดยคิดว่าหลี่โม่และภรรยาของเขาจะใจสลายแน่นอน ถึงตอนนี้เขาก็จะสามารถทำอะไรพวกเขาก็ได้
หลี่โม่กระตุกมือ สลัดมือของกู้หยุนหลันออก และเดินไปทางหวังหย่อง
หวังหย่องขมวดคิ้ว มองไปที่หลี่โม่อย่างระมัดระวังและถามว่า”แกจะทำอะไร คุกเข่าให้ฉันแต่โดยดีได้ยินไหม!”
“คนที่ควรคุกเข่าคือแก!”
หลี่โม่พุ่งไปข้างหน้าหวังหย่อง กำปั้นทั้งสองต่อยไปที่หน้าของวังหย่องอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เสียงพั๊วะๆดังขึ้น ใบหน้าและจมูกของหวังหย่องก็ฟกช้ำทันใด เลือดกำเดาก็พุ่งออกมา ทำให้เสื้อผ้าของวังหย่องกลายเป็นสีแดง
“เย็xแม่งเอ๊ย!”
หวังหย่องส่ายหัวและถอยห่างออกไป รู้สึกว่ามีดวงดาวลอยอยู่ตรงหน้า เห็นสิ่งของทับซ้อนกันไปหมด
“พี่ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม พวกแกไอ้พวกยาจกก่อเรื่องใหญ่แล้ว แม้แต่พี่ชายฉันแกก็กล้าต่อย!”
หวังหลิงตกใจกลัวเล็กน้อย และก็โกรธเป็นอย่างมาก ภายใต้ความรู้สึกสับสนนี้ หวังหลิงเริ่มกลายเป็นบ้า
“เย็xแม่ง มึงกล้ามากที่ต่อยกู วันนี้กูจะไม่ให้พวกมึงได้ตายดี มึงคิดว่าโรงพยาบาลเป็นถิ่นของแกหรือไง! ที่นี่เป็นถิ่นของกูโว้ย!”
หวังหย่องหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรหาหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล
“ฮัลโหล หัวหน้าถง ฉันถูกญาติของผู้ป่วยทำร้ายจนเกือบตายแล้ว นายรีบพาคนมาที่นี่ พามาเยอะหน่อยล่ะ!”
“ได้ครับ คุณหมอหวังรอสักครู่ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”
วังหย่องวางสาย และหัวเราะเยาะมองไปที่หลี่โม่”แน่จริงมึงอย่าหนีล่ะ”
หลี่โม่ยิ้มและหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา โทรไปผู้อำนวยการหลิวซินหมิน”ฉันไม่หนี ก็แค่โทรเรียกคนมา ลองมาแข่งกันสิว่าคนของใครเจ๋งกว่ากัน”