จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 194
บทที่194 บีเอ็มสิบคัน
กู้ชิงหลินชี้ไปที่หลี่โม่ร้องเสียงสูง หลี่โม่ขมุ่นคิ้ว
พวกฉินเย่ยังคงพูดคุยหัวเราะคิกคัก วินาทีถัดไปก็ได้ยินเสียงโวยวายของกู้ชิงหลิน ต่างก็จ้องเขม็งไปที่หล่อน
วันนี้หลี่โม่ขึ้นเงินเดือนเลื่อนตำแหน่งให้ทุกคน แถมยังพาทุกคนให้ก้าวขึ้นจุดสูงสุดของชีวิต ช่วงเวลาดีๆแบบนี้ มีคนมาตำหนิผู้นำของพวกหล่อนเข้า แน่นอนว่าฉินเย่ต้องรู้สึกเดือดดาล
“หล่อนเป็นใคร ทำไมพูดกับเถ้าแก่เราแบบนี้”
พูดอย่างโกรธเคือง
“แหม สวะอย่างหลี่โม่เป็นเถ้าแก่ แถมยังเป็นเถ้าแก่ให้กลุ่มสาวๆด้วย สวรรค์ หลี่โม่คงขึ้นสวรรค์แล้วจริงๆ หรือไม่ก็คงเป็นแขกของเธอ”
กู้ชิงหลินพูดอย่างตะลึง
“แม่เจ้าโว้ย ตอนนี้สวะฮอทขนาดนี้ พาคนมาเที่ยวเยอะแยะ ไม่กลัวโดนตรวจหรือไง ตลกสิ้นดี หรือจะให้ฉันโทรรายงานดี”
พี่เฟยกวัดแกว่งมือถือ หรี่ตามองหลี่โม่
พี่หยุนแค่นยิ้ม โอบเอวกู้ชิงหลินพูด“ไอ้สวะนี่แน่เหมือนกัน หัดอยู่ด้วยตัวเองได้โว้ย เลือกธุรกิจได้ไม่เลวนี่หว่า ไม่ควรเป็นไนติงเกล ควรไปเป็นเป็ด ให้แนะนำเศรษฐีนีให้มั้ย รับรองว่าได้เงินไว”
พวกฉินเย่โกรธจนแทบร้องไห้ ต่างก็โต้ตอบการเย้ยหยันของพี่หยุน
“พวกแกพูดอะไรน่ะ เถ้าแก่เปิดสถาบันความงาม เป็นธุรกิจถูกต้อง รับแต่ลูกค้าหญิง พวกแกต่างหากสวะ”
“ดูผู้หญิงรอบๆแกไม่น่าใช่ผู้หญิงดีอะไร พวกเราทำมาหากินสุจริต เถ้าแก่เป็นคนดี พวกแกจะมาดูหมิ่นไม่ได้”
กู้ชิงหลินชี้ไปที่หลี่โม่ เบ้ปากอย่างดูแคลน พูดอย่างไม่เชื่อ“ไอ้ยาจกนี่นะเป็นเถ้าแก่สถาบันเสริมความงาม พวกเธอบ้าไปแล้ว หรือว่าฝันเฟื่อง สวะนี่ไม่มีปัญญาแม้แต่ซื้อกางเกงใน จะเปิดสถาบันความงามได้ไง”
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้แมงดาแกรู้มั้ยว่าเปิดสถาบันความงามต้องใช้เงินเท่าไหร่ จ้างพนักงานมากมายขนาดนี้ ใช้กระแสเงินสดเดือนเท่าไหร่ แกรู้มั้ยว่าเท่าไหร่ อย่าออกมาทำเป็นเก๊กหน่อยเลย ไม่มีอะไรน่าเก๊กนักหรอกนะ”
“กระทืบแมงดาแบบนี้ กูก็ไม่มีอารมณ์ว่ะ ดูเด๊ะกระทืบเป็นนานสองนาน แม้แต่ตดยังไม่กล้าปล่อย แข็งข้อยังไม่กล้าเลย ไม่สนุกเลยว่ะ”
พี่หยุนกับพี่เฟยเริ่มหมดสนุก เพราะสีหน้าหลี่โม่สงบนิ่งเกินไป ไม่พูดอะไรสักคำ หากกลับปลอบประโลมพนักงานเอาไว้ ไม่เร้าอารมณ์ให้เกิดความสนุกแม้แต่น้อย
กู้ชิงหลินรู้สึกลำพองในใจ แดกดันหลี่โม่ช่างง่ายดายเหลือเกิน ง่ายเหมือนกับให้กู้ชิงหลินไปนั่งกินแตงโมติดต่อกันสามวันแบบนั้น เหงื่อออกท่วมตัวสบายใจ
“หมดอารมณ์ละ สวะอย่างแกไม่มีแม้แต่แรงต่อต้านด้วยซ้ำ กลัวล่ะสิ ต่อไปเห็นฉันก็ว่าง่ายหน่อยแล้วกันนะ ทางที่ดีให้คุกเข่าขอร้อง ไม่งั้นฉันจะให้แกไปกวาดถนน”
พี่หยุนกลอกตาขาวมองหลี่โม่ โอบเอวกู้ชิงหลินพลางหมุนตัว“สวะเอ๊ย ต่อไปถ้ายังเก๊กแบบนี้ เห็นแกทีนึงฉันก็จะซ้อมแกทีนึง ไป ไปแดกข้าวหมาไป”
พี่หยุนพาคนจากไป พวกฉินเย่กระทืบเท้าโครมๆ แต่ละคนต่างอยากจะเรียกร้องความยุติธรรมให้หลี่โม่
“เถ้าแก่ เมื่อกี้เถ้าแก่ไม่น่าห้ามพวกเราเลยนะคะ น่าจะให้พวกเราไปแหกอกมันเป็นชิ้นๆ”
“ใช่ๆ แม้ว่าพวกเราจะหาเรื่องวิวาทไม่เป็น แต่พวกเราล้อมตัวไว้ได้นี่นา จะล้อมจนให้พ่อมันจำไม่ได้เลย”
หลี่โม่ยิ้ม พูดอย่างไม่ยี่หร่า“ก็แค่พวกตัวตลกน่ะ สนใจทำไมกัน อย่าโกรธเลย เราเข้าไปกินข้าวเถอะ พวกเธออยากกินอะไรก็สั่งเอาแล้วกัน”
พาพวกฉินเย่เข้าไปในโรงแรมถังซ้ง หลี่โม่บอกห้องที่อู๋เต้าเหวินจองไว้ให้ พนักงานบริกรพาหลี่โม่เข้าไปในห้องส่วนตัว ในห้องนั้นมีโต๊ะใหญ่สามตัว พอดีกับที่กลุ่มคนของหลี่โม่จะนั่งลง
“ทุกคนสั่งตามสบายเลยนะไม่ต้องเกรงใจ อีกเรื่องที่ฉันอยากจะประกาศ”
สิ้นเสียงหลี่โม่ พนักงานทุกคนต่างมองด้วยสายตาใจจดใจจ่อ รอฟังคำประกาศของหลี่โม่
“ผมตัดสินใจว่า โบนัสสินปี พนักงานที่ยอดขายสูงสุดสิบอันดับ ได้รางวัลเป็นรถบีเอ็มคนละคัน”
พวกพนักงานต่างตกตะลึง รถบีเอ็มสำหรับพวกเขาแล้ว เป็นของล้ำค่าหายาก เป็นของฟุ่มเฟือยเกิน กำลัง
แต่หลี่โม่กลับเอาของมีค่าแบบนี้ออกมา เป็นของรางวัล
“เถ้าแก่ นี่……นี่เรื่องจริงหรือนี่”
“เรื่องจริงแน่นอน ฉันพูดได้ทำได้ ยอดขายอันดับหนึ่งบีเอ็มซีรีย์เจ็ด ยอดขายอันดับสองถึงห้าบีเอ็มซีรีย์ห้า ยอดขายอันดับห้าถึงสิบบีเอ็มซีรีย์สาม ขอแค่ทุกคนตั้งใจทำงาน ทุกความฝันย่อมเป็นจริงได้”
พวกพนักงานต่างตื่นเต้นขึ้นมาทันที โห่ร้องยินดีกึกก้อง
“เถ้าแก่จงเจริญ!เถ้าแก่ใจดีที่สุดในโลก”
“ฉันจะพยายามให้เป็นที่หนึ่งเลยค่ะ!”
“เถ้าแก่ดีจังเลย ฉันยินดีรับใช้เต็มที่เลย!”
เห็นพนักงานโห่ร้องยินดี หลี่โม่จึงยิ้มออก รีบบอกให้ทุกคนสั่งอาหาร
ไม่นานอาหารก็ถูกเสริฟขึ้นโต๊ะ พวกพนักงานต่างคารวะเหล้ากับหลี่โม่
หลี่โม่เองก็ไม่ปฏิเสธ เขาชนแก้วกับพนักงานอย่างเป็นกันเอง แล้วก็ให้กำลังใจทุกคน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครื่นเครงและสมัครสมาน
“เถ้าแก่เป็นเถ้าแก่ที่ไม่วางท่าเลยค่ะ ขอแค่เถ้าแก่ไม่ไล่พวกเราออก ฉินเย่ยินดีทำงานกับเถ้าแก่ไปตลอดชีวิตเลยค่ะ ”ฉินเย่ชูแก้วเหล้าขึ้น คารวะหลี่โม่
หลี่โม่ชนแก้วกับฉินเย่ ยิ้มพลางพูด“ได้สิ ขอแค่เธอช่วยฉันทำให้สถาบันเสริมความงามเติบโต ต่อไปฉันจะปันหุ้นให้ เธอจะเป็นผู้ถือหุ้นของฉัน”
“ขอบคุณเถ้าแก่ค่ะ ฉันหมดแก้ว เถ้าแก่ตามสบาย”
แววตาฉินเย่เป็นประกาย กระดกหมดแก้ว หลี่โม่เองก็กระดกหมดแก้วเช่นกัน
เธอคีบอาหารส่งให้หลี่โม่ ฉินเย่เม้มปากเล็กน้อย“เถ้าแก่ทานกับข้าวค่ะ เถ้าแก่ดื่มเยอะขนาดนี้ ทานกับข้าวดับหน่อยนะคะ”
หลี่โม่เรียกให้ทุกคนกินกับข้าว ไม่นานนักกับข้าวก็หมดโต๊ะ พวกพนักงานต่างพิงเก้าอี้ลูบท้องกัน
อย่างอิ่มเอม
เนื่องจากการกระตุ้นให้ตื่นเต้นต่างๆนานาของหลี่โม่ ทุกคนจึงเจริญอาหารและเบิกบานเป็นพิเศษ กินมากขึ้นๆ กินเสร็จ ก็รู้สึกอิ่มจุกๆ
“กินเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ ฉินเย่เธอพาทุกคนขึ้นรถกลับ เดินทางปลอดภัยนะ”
หลี่โม่กำชับ พาพวกฉินเย่ออกจากห้อง
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกจากห้องอย่างเอิกเกริก วัยรุ่นสวมสูทคนหนึ่ง ยืนโดดเด่นต่อหน้าฝูงชน
จ้องหลี่โม่เขม็ง สีหน้าชายวัยรุ่นคนนั้นดูอึดอัด“หลี่โม่เองหรือ สวะอย่างแกทำไมมาอยู่นี่”
ชายวัยรุ่นเดินไปหาหลี่โม่อย่างหัวร้อน กดบ่าหลี่โม่ลง
“แหม นี่หลี่โม่นี่ มีหน้ามากินข้าวที่ร้านอาหารข้าด้วยโว้ย