จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 198
บทที่ 198 แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร
หวงจิ่งซานหยิบโทรศัพท์โทรไปหาผู้เป็นพ่ออย่างหวงติ้งฟา
“พ่อ รีบมาที่โรงแรมถังซ่ง เมื่อกี้ผมโดนลุงหานตบหน้าไปสองที พ่อต้องมาตัดสินให้ผมด้วย!”
เมื่อหวงติ้งฟาได้ยินเสียงร้องของลูกชาย หัวใจของเขาบีบรัดขึ้นมา เขาพูดอย่างเคร่งเครียดว่า “ลูกรอก่อน หารลี่เฉิงบ้าไปแล้วหรือไง ฉันจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง!”
หวงติ้งฟามีลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา ขนาดตัวเขาเองยังไม่กล้าทำอะไรลูก แล้วเขาจะทนได้อย่างไรเมื่อคนอื่นมาทำร้ายลูกชายของเขา
หวงจิ่งซานก็ไม่กล้าพูดความจริงออกไป จึงพูดแค่ว่าตัวเองถูกตบ แต่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร
เมื่อเก็บโทรศัพท์ หวงจิ่งซานก้มหน้าแล้วพูดว่า “เดี๋ยวพ่อฉันก็มาแล้ว ลุงหานคิดไว้เลยว่าจะอธิบายกับพ่อผมยังไง”
หารลี่เฉิงนั่งยิ้มอยู่ข้างหลี่โม่บนโซฟา เขายกกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้หลี่โม่
ไม่นานหวงติ้งฟาก็วิ่งเข้ามาในโรงแรมถังซ่ง หลังจากที่เขากวาดตามองไปทั่วก็วิ่งเข้าไปหาหวงจิ่งซาน
“จิ่งซานทำไมหน้าลูกถึงบวมขนาดนี้”
“เพราะพวกเขาไงพ่อ ลุงหานกับไอ้สวะนั่นร่วมมือกันทำให้ผมอับอาย!”
หวงจิ่งซานชี้ไปที่หารลี่เฉิงกับหลี่โม่แล้วพูดออกมา
หวงติ้งฟาขมวดคิ้วเป็นปม เขามองไปยังหลี่โม่ เห็นว่าการแต่งตัวของหลี่โม่ก็แค่คนธรรมดาทั่วไป จึงไม่เห็นหลี่โม่อยู่ในสายตา จึงหันไปมองหารลี่เฉิงและครุ่นคิด
หวงติ้งฟาคือผู้จัดการสมาคมอาหาร และพอดีกับที่เขารับผิดชอบดูแลบริษัทอาหารขนาดใหญ่อย่างโรงแรมถังซ่ง จึงสามารถถือหุ้นในโรงแรมถังซ่งที่เมืองฮ่าน
“หารลี่เฉิงตบลูกจริงเหรอ” หวงติ้งฟาเอ่ยถาม
“จริงสิครับ พอลุงหานเข้ามาก็ตบผมสองทีโดยไม่ถามอะไรสักคำ” หวงจิ่งซานตอบกลับอย่างหงุดหงิดและรู้สึกไม่ยุติธรรมอย่างมาก
หวงติ้งฟาโกรธจนความดันขึ้น เขาชี้หน้าหารลี่เฉิงแล้วตวาดออกมาว่า “หารลี่เฉิง นายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม หรือเห็นว่าฉันแก่แล้วจึงไม่มีแรงทำอะไรได้ กล้าทำร้ายลูกชายฉัน เราจะได้เห็นดีกัน!”
“ไอ้คนจนนี่มันมีอะไร นายถึงต้องออกหน้าแทนไอ้ขยะอย่างมัน แล้วมาทำร้ายลูกฉัน สมองนายมีปัญหาใช่ไหม!”
หวงติ้งฟาเอียงหน้ามองหวงจิ่งซาน จากนั้นจึงตวาดใส่หลี่โม่ “ไอ้จนนี่มันยั่วโมโหอะไรลูก เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะไอ้ขยะนี่ใช่ไหม”
“เพราะมันนั่นแหละ ลุงหานถึงตบหน้าผมแทนมัน มันเป็นลูกเขยของตระกูลกู้ เป็นแมงดาที่เอาแต่เกาะผู้หญิงกิน” หวงจิ่งซานแสร้งทำเป็นถูกกลั่นแกล้งแล้วพูดออกมา
หลี่โม่ปรายตามองสองพ่อลูก แล้วส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ นี่มันลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ เป็นพ่อลูกที่ไร้สมอง
หวงติ้งฟามองหลี่โม่ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาตวาดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า “แมงดาที่เกาะผู้หญิงอย่างแกยังกล้ามาหาเรื่องลูกชายของฉัน แกไม่รู้จักคำว่าตายใช่ไหม ชื่อเสียงของฉันในเมืองฮ่านนับว่าไม่น้อย ไอ้ขยะที่ไหนจะมากลั่นแกล้งลูกชายของฉันตามอำเภอใจไม่ได้”
จากนั้นหวงติ้งฟาก็หันไปตวาดใส่หารลี่เฉิง “หารลี่เฉิง นายต้องอธิบายมา ถ้านายอธิบายให้ฉันพอใจไม่ได้ อย่าว่าฉันไม่รู้จักกับนายก็แล้วกัน ต่อจากนี้โรงแรมถังซ่งของพวกนายก็ไม่ต้องทำกิจการแล้ว ฉันจะทำให้พวกนายเลิกทำกิจการตลอดไป”
หารลี่เฉิงแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้นมา “ลูกชายของนายยั่วโมโหคนใหญ่คนโต นายยังไม่รู้ตัวอีก ตอนนี้นายยังจะปกป้องลูกชายตัวเอง ฉันว่านายนั่นแหละที่ไม่รู้จักคำว่าตาย”
“เหอะ เหอะ ยังกล้าพูดขู่อีกเหรอ นายคิดว่าฉันขี้ขลาดขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้านายทำได้ก็ฆ่าฉันสิ ตอนนี้ฉันจะโทรไปหาสมาคมอาหาร พรุ่งนี้โรงแรมถังซ่งต้องปิดลง!”
หวงติ้งฟาคิดว่าจะจับจุดอ่อนของหารลี่เฉิง เขามีอำนาจของสมาคมอาหารอยู่ในมือ จึงไม่กลัวว่าหารลี่เฉิงจะไม่ยอม ไม่แน่อาจจะใช้โอกาสครั้งนี้ได้หุ้นของโรงแรมถังซ่งอีกเล็กน้อย
“หวงติ้งฟา นายจะแตกหักกันจริงๆ ใช่ไหม กิจการร้านอาหารของโรงแรมเราไม่ใช่กิจการเล็กๆ นะ” หารลี่เฉิงมองหวงติ้งฟาอย่างไม่พอใจ บรรยากาศคุกรุ่นขึ้นมาทันที
“เหอะ เหอะ ฉันแตกหักกับนายตั้งแต่ตอนที่นายตบหน้าลูกชายฉันแล้ว เวลานี้คือเวลาที่ฉันจะคิดบัญชีกับพวกนาย! หรือไม่พวกนายก็คุกเข่าให้ลูกชายฉันตบ ถ้าลูกฉันตบจนพอใจแล้ว ฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย” หวงติ้งฟาพูดโดยไม่เห็นหารลี่เฉิงอยู่ในสายตา
หารลี่เฉิงโกรธจนแทบจะหายใจไม่ออก
หวงจิ่งซานหัวเราะออกมาแล้วสบถใส่หลี่โม่ “ไอ้สวะ เห็นความน่ากลัวของตระกูลฉันแล้วใช่ไหม คิดว่าตัวเองเจ๋งมากหรือไง พรุ่งนี้ที่นี่จะเลิกกิจการ และจะต้องเสียเงินทุกวัน แกรอวันที่เสียเงินจนไม่เหลืออะไรก็แล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลี่โม่ยิ้มแล้วหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาเฉียนฝูอีกครั้ง
“มีผู้จัดการสมาคมอาหารมาเห่าอยู่หน้าฉัน”
“นายน้อยรอสักครู่นะครับ ผมจะให้ประธานสมาคมอาหารจัดการให้ครับ”
“อืม”
หลี่โม่พูดจบอย่างง่ายดายและวางสายลง
หารลี่เฉิงมองหลี่โม่อย่างเลื่อมใส คิดในใจว่าไม่เสียแรงที่ทำให้ท่านประธานซ่งหวาดกลัวได้ คุยโทรศัพท์ยังยโสขนาดนี้ แค่สายเดียวจะทำให้หวงติ้งฟาคุกเข่าลงได้ไหม
“ถุย!”
หวงติ้งฟาถุยน้ำลายออกมาแล้วเอียงคอเหลือบมองหลี่โม่
“ไอเด็กเวรอวดดีจริงๆ มาอวดดีต่อหน้าฉันแล้วยังบอกว่าฉันเห่าอีกเหรอ ฉันจะทำให้แกคุกเข่าเห่าที่หน้าประตูเอง!”
คำพูดของหลี่โม่ทำให้หวงติ้งฟาเดือดจัด หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครไม่เคารพเขา
หวงจิ่งซานเลิกคิ้วขึ้นมองท่าทางคุยโทรศัพท์ของหลี่โม่ มันรู้สึกคุ้นเคย เหมือนหลี่โม่เพิ่งทำเช่นนี้เมื่อไม่นานมานี้
“อืม งั้นแกก็เตรียมใจให้ดี” หลี่โม่ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
“เตรียมอะไร เตรียมบ้านแกสิไอ้เวร แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ฉันไม่เคยกลัวใครในเมืองฮ่าน คนที่สุดยอดอย่างอู๋เต้าเหวิน เมื่อเจอฉันยังต้องเรียกพี่!” หวงติ้งฟาพูดอย่างมั่นใจ โดยไม่รู้ถึงสิ่งที่กำลังจะมาถึง เขายังพูดโม้ไม่หยุด
“ร้านอาหารที่เปิดอยู่ในเมืองฮ่าน ต้องได้รับการอนุมัติจากมือฉัน เมื่อพวกเขาเจอฉันต้องระวังเป็นอย่างมาก คนที่เรียกฉันว่าท่านหวงก็ใช่ว่าจะไม่มี คนจนๆ อย่างแกเคยเห็นโลกด้านนี้หรือเปล่า ถ้าแกอยากเปิดร้านอาหารก็ต้องเรียกฉันว่าท่านหวง!”
“แกก็อีกคนหารลี่เฉิง แกปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม กิจการของโรงแรมถังซ่งดีแล้วสิ ถึงกล้าอวดดีใช่ไหม ลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนหน้านี้แกประจบสอพลอฉันยังไง ถ้าวันนี้ฉันไม่จัดการแก แกคงไม่รู้ฤทธิ์ของฉัน!”
“ท่านประธานซ่งอะไรนั่นก็ไม่เห็นมีดีอะไร ขี้เหนียวอย่างกับอะไรดี แกกลับไปบอกมันเลยนะ ถ้าอยากเปิดโรงแรมนี้ต่อไป ก็แบ่งหุ้นให้ฉันเยอะอีกหน่อย ไม่งั้นแกก็อย่าหวังจะทำกิจการในเมืองฮ่านอีก!”
หวงติ้งฟาพล่ามออกมาไม่หยุด ราวกับว่าตัวเองคือผู้ครองโลกนี้และสามารถควบคุมชีวิตของทุกคนได้
หารลี่เฉิงมองหวงติ้งฟาอย่างหมดคำจะพูด สายตาของเขาเหมือนกำลังมองคนโง่
“มองอะไร ไม่เชื่อว่าฉันจะทำให้โรงแรมถังซ่งปิดตัวได้เหรอ พรุ่งนี้เช้าจะมีป้ายติดไว้ที่หน้าประตูร้านของพวกแก!” หวงติ้งฟายังคงพล่ามติดต่อกันสิบนาที
จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากทางประตู
“อวดดีจริงๆ หวงติ้งฟา แกคิดว่าตัวเองเก่งมากหรือไง!”