จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 20
บทที่ 20 ผมเอามาให้คุณ
“ได้มาแล้ว? หลี่โม่ คุณอย่าล้อเล่นกับฉันนะ!”
กู้หยุนหลันตกใจ และตามด้วยความโกรธ
ถึงขั้นนี้แล้ว หลี่โม่ยังมีกะจิตกะใจมาล้อเล่นอีก
เขาไม่รู้ความหมายของสัญญาครั้งนี้หรือไง?
หลี่โม่ยังไม่ทันได้อธิบายอะไร กู้หยุนหลัน ก็นอนหันหลังให้
ช่วยไม่ได้ หลี่โม่ทำได้แค่นั่งเงียบๆเป็นเพื่อน
กู้หยุนหลัน สิ่งที่คุณต้องแบกรับ ผมหลี่โม่ขอรับแทนคุณเอง
งานเลี้ยงตระกูลกู้ในวันพรุ่งนี้ คุณจะต้องโดดเด่นกว่าทุกคน!
เพียงแค่คุณอยากได้ ผมหลี่โม่จะเตรียมให้คุณเอง!
ในช่วงเย็นของวันรุ่งขึ้น ตระกูลกู้จองโถงใหญ่ของโรงแรมสี่ดาวในเมืองฮ่าน เพื่อจัดงานเลี้ยงกลางปี
ประตูโรงแรม ร่างที่สวยงามยืนรออยู่ และเต็มไปด้วยความกังวลและความโกรธ
กู้หยุนหลันมาถึงนานแล้ว มองนาฬิกาข้อมืออย่างร้อนใจ รอหลี่โม่
ทำไมเขายังไม่มาอีกนะ?
วันนี้ให้เขาทำตัวมีชีวิตชีวาหน่อย ไม่ใช่ว่าพอเรื่องมาถึงตัว ก็หายหัวกันหมด
งานเลี้ยงกลางปีของตระกูลกู้ ทุกคนต้องมาเข้าร่วม แต่ทุกครั้งหลี่โม่มักจะเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย ช่วยไม่ได้ ถือว่ามาสร้างความสนุกสนานก็แล้วกัน
ครั้งนี้ หลี่โม่จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมรึเปล่า……
กู้หยุนหลันส่ายหัวตำหนิตัวเอง ที่คิดกับหลี่โม่แบบนั้น
“หยุนหลัน”
หลี่โม่วิ่งมาอย่างไว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพูดว่า “รอนานแล้วเหรอ?”
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่อย่างใจเย็น พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมเพิ่งมา ให้ไปเปลี่ยนลุค ทำไมถึงมาในสภาพนี้ล่ะ?”
หลี่โม่ลูบๆจมูกพูดว่า “ผมไม่มีเสื้อผ้านี่ อีกอย่าง ทุกปีก็แบบนี้ ไม่เป็นไรหรอก”
คิ้วสวยของกู้หยุนหลันขมวดแน่น หน้าตาไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ยังคาดหวังกับอะไรได้อีก?
ก็เป็นคนที่ถูกหัวเราะเยาะมาตลอด กู้หยุนหลันก็ชินแล้ว
อีกอย่าง หลี่โม่ผู้ไร้อนาคตคนนี้ ต่อให้สวมชุดฮ่องเต้ ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้
แถมคืนนี้ กู้ซิงเว๋ยคงไม่ปล่อยตนไปแน่
สักพัก กู้หยุนหลันพูดนิ่งๆว่า “เอาล่ะ หลังจากนี้อย่าพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ฉันให้พูดอะไรก็พูดอย่างนั้น จะได้ไม่โดนพวกนั้นหัวเราะเยาะ เข้าใจไหม?”
หลี่โม่พยักหน้า หัวเราะแหะๆ ดูเฉยเมย
เห็นท่าทางเอ้อระเหยลอยชาของหลี่โม่ กู้หยุนหลันอยากจะถีบเขาออกไปซะเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ดั่งใจเลย!
ทั้งสองเดินเข้าไปในโถงโรงแรม บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ก็มากันเยอะแล้วพอเข้าไป กู้หยุนหลันกับหลี่โม่กูถูกเมินจากคนของตระกูลกู้
ในโถง เต็มทุกที่นั่ง เต็มไปด้วยญาติของตระกูลกู้
เมื่อเห็นกู้หยุนหลันพาหลี่โม่กลับมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม อย่างไม่เกรงใจ
แต่ว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนจึงทักทายกันอย่างอบอุ่น
“หยุนหลันมาแล้ว มานั่งนี่สิ”
“หยุนหลัน สวยขึ้นนะ”
“มานั่งเร็ว พ่อกับแม่ของคุณมาถึงนานแล้ว”
ญาติๆทักทายกู้หยุนหลันด้วยการถามคำตอบคำ สำหรับหลี่โม่ไร้ตัวตนอยู่แล้ว เลยถูกมองข้าม
หลี่โม่รู้สึกหดหู่ แต่ไม่ใส่ใจ บรรยากาศแบบนี้ เขาชินซะแล้ว ก็แค่นั่งอยู่เป็นเพื่อนกู้หยุนหลันอยู่เงียบๆ
กู้เจี้ยนหมินกับเมียเขาหวังฟาง นั่งที่โต๊ะหลักฟังคนโน้นคนนี้คุยกันสักพักแล้ว
แต่ดูท่าทางสีหน้าพวกเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เมื่อเห็นหลี่โม่เข้ามา หวังฟางพ่นลมและตะโกน “เอาอะไรมาก็ไม่เอา ไปเอาหมามาไม่เป็นมงคลเลย!”
หวังฟางไม่ปลื้มมาก ตนกับกู้เจี้ยนหมินอุตส่าห์มาล่วงหน้า ก็โดนบ้านพี่ใหญ่กับบ้านน้องสามเยาะเย้ยให้อับอาย
นั่นก็เพราะกู้หยุนหลันแต่งงานกับเศษสวะนี่
หวังฟางที่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ถูกหัวเราะเยาะ ก็เดือดดาล และโกรธมาก
หลี่โม่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ก็ได้ยินสิ่งที่แม่ยายตำหนิ ถอนหายใจและดื่มน้ำเงียบๆ
คนจนถูกเหยียดหยาม ขนาดน้ำยังเป็นน้ำเย็นเลย
จู่ๆ เสียงผู้ชายหัวเราะเยาะเย้ย ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งและเย้ยหยันดังมา
“โอ้ะ นี่หลี่โม่นี่นา หึหึ ทำไมถึงนั่งตรงนี้ล่ะ คนดังในเมืองฮ่านอย่างคุณ ต้องไปนั่งที่โต๊ะหลักสิ”
กู้ซิงเว๋ยสองมือล้วงกระเป๋ามองไปที่หลี่โม่อย่างผยอง แล้วเดินเข้าไป ท่าทางมั่นใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่กู้หยุนหลันที่อยู่ข้างๆหลี่โม่เช่นกัน พูดเยาะเย้ย: “กู้หยุนหลัน วันนี้เป็นงานเลี้ยงสรุปกลางปีของบริษัท เธอพาสิ่งที่น่าอายขนาดนี้มา ไม่กลัวคุณปู่โกรธเหรอ?”
กู้ซิงเว๋ยว่างๆก็ชอบพูดให้หลี่โม่อับอาย และหันไปเยาะเย้ยกู้หยุนหลันต่อ อวดความเหนือกว่าในฐานะที่ตนเป็นหลานชายคนโต
ช่วยไม่ได้ ตระกูลกู้หยุนหลัน ก็น่าขันแบบนี้แหละ
โดยเฉพาะหลี่โม่ เศษสวะแท้ๆเลยล่ะ!
หลี่โม่ทำหน้าหงอย ไม่ยินดี แต่ก็อดกลั้นโทสะไว้ นั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้น
กู้ซิงเว๋ยเห็นท่าทางเขาแบบนั้น ก็ไม่พอใจ เอื้อมมือไปตบๆแก้วของเขา แล้วพูดยั่งโมโห“ฮ่าๆ ขี้ขลาดจริงๆโดนด่าก็ไม่โต้ตอบ โดนตบก็ไม่สวนกลับ”
กู้หยุนหลันเห็นกู้ซิงเว๋ยกระทำต่ำๆกับหลี่โม่ ก็รู้สึกไม่สบายใจ
ถึงยังไง หลี่โม่ก็เป็นสามีของตน
“กู้ซิงเว๋ย พอได้แล้ว!”
กู้หยุนหลันลุกขึ้น จับมือกู้ซิงเว๋ยออก แล้วยืนตรงหน้าหลี่โม่ เหมือนแม่นกอินทรีปกป้องลูก
กู้ซิงเว๋ยหัวเราะหึหึ และด่าว่าเศษสวะแล้วจากไป
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันนั่งลง พูดเบาๆว่า “ขอบคุณนะ”
เขาไม่คิดว่า กู้หยุนหลันที่ดูถูกตนมาตลอด จะช่วยตน
จากนั้น กู้หยุนหลันก็ตอบกลับอย่างนิ่งๆว่า “ไม่ต้องคิดมาก ฉันแค่กลัวคุณทำฉันขายหน้า”
ตอนนี้เธอกังวลใจมาก เดี๋ยวคุณปู่ถามถึงสัญญาระหว่างบริษัทรุงคางขึ้นมาจะทำไง?
หรือว่า ตนจะตกงานงั้นเหรอ?
กู้หยุนหลันรู้สึกเสียใจ ที่ตอนแรกหลงเชื่อหลี่โม่ รับคำท้า
หลี่โม่ยิ้มแห้งๆ ไม่สนใจ
ไม่นาน งานเลี้ยงก็เริ่ม
คุณปู่กู้เดินด้วยไม้เท้ามาหน้าโถง และมีลูกชายคนโตช่วยพยุงเข้ามาในโถง มานั่งที่โต๊ะหลัก
ทุกคนยืนขึ้น แล้วพูดกับคุณปู่เสียงดัง “สวัสดีคุณปู่”
“เอาล่ะๆ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วสินะ งั้นก็กินกันได้” คุณปู่ตระกูลกู้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
โต๊ะหลัก มีคนของบ้านพี่ใหญ่และคนของบ้านน้องสามนั่งอยู่ มีเพียงกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ที่ถูกจัดให้ไปนั่งเบียดเสียดกับพนักงานของบริษัท
นี่ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกอับอายมาก และกัดปากอย่างโกรธเคือง
กู้ซิงเว๋ยนั่งอยู่โต๊ะหลัก ข้างๆคุณปู่ มองไปที่กู้หยุนหลันด้วยสายตาภาคภูมิใจ
ไม่ผิดแน่ ที่นั่งครั้งนี้ ถูกจงใจจัดขึ้น
กู้หยุนหลันหลานสาวที่แต่งออก ยังอยากสำคัญในตระกูลกู้ ฝันไปเถอะ!
เห็นความครึกครื้นและเสียงหัวเราะของโต๊ะหลัก และมองพนักงานทั่วไปที่นั่งข้างๆ ความเหลื่อมล้ำนี้ ทำให้กู้หยุนหลันโกรธจนอิ่ม
ขณะเดียวกัน กู้หยุนหลันก็เกลียดหลี่โม่มากขึ้น ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะสวะนี่จริงๆ!
“หยุนหลัน คุณอยากไปนั่งตรงนั้นไหม?” หลี่โม่ถาม
กู้หยุนหลัน ตอบแบบไม่ยั้งคิด “ใช่น่ะสิ ฉันอยากนั่งตรงนั้น แต่เป็นไปได้เหรอ? นั่นเป็นที่สำหรับตระกูลกู้ ฉันก็แค่หลานสาวที่แต่งงานกับเศษสวะ มีสิทธิ์อะไรที่จะไปนั่งตรงนั้น?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันกับพ่อแม่ก็ไม่ถูกไล่ออกจากตระกูลกู้หรอก?”
“หลี่โม่ ทั้งหมดนี้ เป็นความผิดของคุณ! ทำไมคุณถึงไร้ประโยชน์เช่นนี้!”
พูดไป กู้หยุนหลันก็ตาแดงก่ำและร้องไห้ออกมา
เธอเกลียด!
เกลียดหลี่โม่ที่ไม่เอาไหน!
หลี่โม่เหม่อ มองดูกู้หยุนหลันที่กำลังเศร้า ในใจเจ็บปวดมาก
เขาเป็นเศษสวะ?
ไม่!
หลี่โม่เป็นถึงนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินเชียวนะ!
มีทรัพย์สินหลายล้านล้านในครอบครอง!
อย่าว่าแต่ตระกูลกู้ เศรษฐีทั้งหมดในเมืองฮ่านรวมกัน ก็ยังเทียบไม่ได้แม้แต่ขี้เล็บ!
ตั้งแต่ที่เขากับแม่ถูกไล่ออกจากสำนักหลงเหมิน แล้วเร่ร่อนมาถึงเมืองฮ่าน เขาก็ปกปิดตัวตนมาถึงสี่ปี ก็เพราะหลบหนีความปากหวานก้นเปรี้ยวของสำนักหลงเหมิน และหนีจากการไล่ล่าของหญิงผู้นั้น
เขาเบื่อหน่ายการใช้ชีวิตของสำนักหลงเหมิน
หลี่โม่รักกู้หยุนหลัน เพื่อเธอ เขาทำได้ทุกอย่าง!
เงียบไปชั่วขณะ หลี่โม่พูดกับกู้หยุนหลันอย่างหนักแน่น “หยุนหลัน แค่คุณต้องการ ผมจะให้คุณนั่งบนโต๊ะนั้น รวมถึงตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลกู้ ผมก็จะทำให้คุณได้”
กู้หยุนหลันตัวสั่น มองไปที่หลี่โม่ที่นั่งข้างๆด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ดูถูกอย่างเย็นชา “หลี่โม่ คุณเพ้อเจ้ออะไร? อย่างคุณเนี่ยนะ?”
“ขอแค่คุณเชื่อผม ผมจะหามาให้คุณให้ได้”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง แววตามีความชัดเจน
กู้หยุนหลันมองดวงตาอันบริสุทธิ์ของหลี่โม่ รู้สึกเหมือนโดนสะกดจิต
เธอไม่เคยเห็นหลี่โม่พูดอะไรแบบนี้มาก่อน แถมมันยังดูจริงจังเอามากๆ
จริงๆ เมื่อกี้เธอเกือบเชื่อสนิทใจเลย
แต่ว่า เธอมองไปที่โต๊ะหลักที่กำลังครึกครื้น ก็ทำให้กู้หยุนหลันได้สติ แล้วพูดกับหลี่โม่ว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้ดีว่าคุณเป็นคนยังไง? ถึงคุณทำได้จริงๆ วันนี้จะยังนั่งอยู่ตรงนี้เหรอ?”
หลี่โม่ คุณเป็นคนขี้โม้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
กู้หยุนหลันโกรธมาก วางตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ
หลี่โม่ทำได้แค่มองกู้หยุนหลันที่เดินไปพร้อมยักไหล่เบาๆ และสัญญาเบาๆว่า หยุนหลัน คุณจะต้องสมหวังในสิ่งที่คุณต้องการ
ไม่นาน กู้หยุนหลันก็กลับมา ตาแดงเหมือนกับเพิ่งร้องไห้มา
หลี่โม่อยากพูดอะไรบ้าง แต่ก็พูดไม่ออก
เขารู้ กู้หยุนหลันยังไม่อยากคุยกับตน
งานเลี้ยงเดินมาได้ครึ่งทาง กู้ซิงเว๋ยยืนขึ้น เหลือบมองไปที่กู้หยุนหลันที่ทำหน้าบูดบึ้ง พูดหาเรื่อง “กู้หยุนหลัน เรื่องสัญญาระหว่างบริษัทรุงคางไปถึงไหนแล้ว? ผมได้ยินมาว่าคุณได้พบกับคุณชายของบริษัทรุงคางมาแล้วลุล่วงดีไหม? งั้นผมก็ยินดีด้วย มาทุกคน ชนแก้วแสดงความยินดีที่ผู้อำนวยการกู้เซ็นต์สัญญากับบริษัทรุงคางได้”
กู้หยุนหลันนั่งอยู่ตรงนั้น ขบฟันอย่างโกรธเกรี้ยว!
กู้ซิงเว๋ยจงใจ!
นี่มันฆ่ากันชัดๆ!
ทำไงดี?
ตัวเองยังไม่ทันพูดถึงปัญหาสัญญาเลย แต่ดันถูกไอ้เจ้าหรุงฉางเวยนั่น……
“ทำไมเหรอ กู้หยุนหลัน หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลย? หรือว่า สัญญายังไม่คืบหน้า?”
กู้ซิงเว๋ยชูผ้าคลุมขึ้นแล้ววางไว้บนโต๊ะเบาๆ พูดว่า “ถ้าจำไม่ผิดวันก่อนคุณใช้ตำแหน่งเป็นเดิมพัน”
กู้หยุนหลันร้อนใจ น้ำตาคลอเบ้า
คุณปู่กู้ทำหน้าโกรธ ถามว่า “หยุนหลัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ได้สัญญามาหรือยัง?!”
“คุณปู่ ฉัน ……”
กู้หยุนหลันยืนขึ้นด้วยท่าทางรู้สึกผิด อยากสารภาพผิด
แต่จู่ๆ หลี่โม่ที่อยู่ข้างก็จับมือเล็กๆที่สั่นเทาของเธอ แล้วมองเธออย่างอบอุ่น พูดกับกู้ซิงเว๋ยและคุณปู่ว่า “สัญญาของบริษัทรุงคาง หยุนหลันได้มาแล้วครับ