จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 208
บทที่ 208 แนวทางสามง่าม
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้และคนอื่นๆ มองไปที่หลี่โม่อย่างประหลาดใจและแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยาม
“ไอ้เหลือขอ นายคงจะฝันกลางวันอยู่สินะ นายบอกว่าจะจัดการเรื่องของคุณโอหยางเองงั้นเหรอ ถามจริงนายเอาอะไรมาพูด เกรงว่านายคงจะไม่ได้เห็นหน้าคุณโอหยางด้วยซ้ำ!”
กู้ซิงเว๋ยพูดอย่างดูถูก
กู้ชิงหลินก็มองไปที่หลี่โม่แล้วพูดอย่างเย็นชา “นายคงไม่ได้คิดจะไปทำร้ายคุณโอหยางอีกนะ ช่างไร้เดียงสาจริงๆ ข้าเชื่อว่าครั้งนี้นายยังเข้าไม่ถึงตัวของคุณโอหยางก็ถูกอัดเละจนกลายเป็นกองขี้หมาไปก่อนแล้วล่ะ”
กู้เจี้ยนกั๋วครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า “เรื่องทุกอย่างนี้ครอบครัวนายเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ไปจัดการเลย ถ้าจัดการไม่ได้ก็เตรียมตัวถูกไล่ออกจากตระกูลไปเลย!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้พยักหน้าเบาๆ และเห็นด้วยกับคำพูดของกู้เจี้ยนกั๋ว
“เจี้ยนกั๋วพูดถูก เรื่องนี้ครอบครัวนายเป็นคนก่อขึ้นมาเอง เจี้ยนหมิน นายต้องพาครอบครัวนายไปจัดการเอง ถ้าเคลียร์ปัญหานี้ไม่ได้ก็ออกจากตระกูลกู้ไปเลยนะ”
“พ่อครับ! นี่มัน……”
กู้เจี้ยนหมินรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดเลยว่าพ่อจะถูกพี่ใหญ่กับน้องสามเป่าหูจนต้องพูดคำพูดที่รุนแรงขนาดนี้
“นี่อะไร นี่ถือว่าให้โอกาสพวกนายแล้ว อย่ายืนทื่ออยู่นี่ รีบพาไอ้ลูกเขยกระจอกของนายไปให้พ้น!”
กู้เจี้ยนหมินได้แต่ถอนหายใจแล้วจากไปพร้อมกับหลี่โม่ กู้หยุนหลันและหวังฟาง
“ถุย!”
กู้ซิงเว๋ยถ่มน้ำลายอยู่ด้านหลังหลี่โม่แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “แสร้งทำเป็นเก่ง คอยพูดว่านายจะไปคุยกับคุณโอหยางยังไง ไอ้คนเหลือขอ!”
ระหว่างทางกลับ กู้เจี้ยนหมินขับรถด้วยความรู้สึกหดหู่
ส่วนหวังฟางก็โกรธจนลุกเป็นไฟ
เธอมองหลี่โม่ผ่านกระจกหลังและอดใจไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา
“ไอ้คนไร้ประโยชน์หลี่โม่ นายจะไปหาเรื่องคุณโอหยางเขาทำไมกัน ต่อให้นายจะไปช่วยหยุนหลัน แต่นายถึงขั้นต้องทำร้ายร่างกายคนอื่นไหม นายแค่ช่วยหยุนหลันออกมาก็พอแล้วสิ! นายจะไปทำกร่างกับคนอื่นทำไม นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่!”
“แม่คะ แม่อย่าว่าเขาแบบนี้สิ”
กู้หยุนหลันพูดเข้าข้างหลี่โม่
“เธอไม่ต้องพูด”
หวังฟางดุใส่กู้หยุนหลัน จากนั้นต่อว่าหลี่โม่ต่อ “นายบ้าไปแล้วใช่ไหม นายคิดว่าใช้กำลังแล้วจะสามารถจัดการทุกเรื่องได้งั้นเหรอ? นายคิดว่านายทำร้ายคนอื่นแล้วจะทำให้ตัวเองดูมีประโยชน์ขึ้นมาล่ะสิ ยิ่งแสดงความไร้ค่าต่างหาก!”
“ถ้านายไม่ทำร้ายคุณโอหยาง แล้วบ้านเราจะมีปัญหาแบบนี้ไหม? เราต้องอับอายต่อหน้าคุณท่านไหม? ช่างไม่รู้จักคิด! ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”
หวังฟางยิ่งพูดยิ่งโกรธ
หลี่โม่ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร กู้หยุนหลันจับมือของหลี่โม่ไว้แน่นๆ เขาถึงรู้สึกอบอุ่นใจและกุมมือของกู้หยุนหลันไว้แน่นๆ
“หยุนหลัน คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะ กลับบ้านพักผ่อนดีๆ ล่ะ”
หลี่โม่พูดด้วยความเป็นห่วง
กู้หยุนหลันรู้สึกตึงเครียดและพูดอย่างกระวนกระวาย “คุณจะทำอะไร ดึกแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
“กลับบ้าน? กลับบ้าอะไร ไอ้คนไร้ค่ายังมีหน้ากลับบ้านด้วยเหรอ! คนแบบนี้สมควรไปอยู่ข้างนอกมากกว่า! นายบอกว่าจะไปจัดการเรื่องของคุณโอหยางไม่ใช่เหรอ ก็ไปสิ เคลียร์ปัญหาไม่ได้นายไม่ต้องคิดว่าจะเข้ามาเหยียบที่บ้านเราอีกนะ!”
จากนั้นหวังฟางก็หันไปตะโกนใส่กู้เจี้ยนหมินอย่างเสียงดัง “ยังจะขับอะไรอีก จอดรถ ให้ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้ลงไป ให้มันดูแลตัวเองบ้าง ทางที่ดีไม่ต้องกลับมาเลยจะดีกว่า”
กู้เจี้ยนหมินจอดรถโดยไม่พูดอะไร หลี่โม่ตบมือกู้หยุนหลันเบาๆ แล้วลงจากรถ
“หลี่โม่……คุณ ตั้งสติก่อนนะ”
กู้หยุนหลันพยายามเตือนสติเขาอย่างกังวล
“ไม่ต้องห่วงนะ ผมมีสติอยู่ รีบกลับบ้านพักผ่อน ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ”
หลี่โม่ยิ้มพูดกับกู้หยุนหลัน
“รีบไปให้พ้น ปิดประตูซะ อย่าพูดให้มากกว่านี้ ไม่ต้องมาเล่นละครหรอก ไปให้พ้นเลย!”
หวังฟางตะโกนดุด่าผ่านหน้าต่างรถ
หลี่โม่จึงปิดประตูรถแล้วเฝ้ามองรถแล่นออกไปจากเขาด้วยความเร็ว
กระทั่งไฟท้ายรถหายไปจากสายตาของหลี่โม่ เขาถึงจะสติแล้วแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่มืดมิด
นี่ไม่ใช่ค่ำคืนแห่งการสังหาร แต่เป็นค่ำคืนที่เหมาะสมที่สุดในการสั่งสอนโอหยางจงเฉิง
หลี่โม่หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความไปหาฉู่จงเทียนเพื่อให้ฉู่จงเทียนส่งตำแหน่งของโอหยางจงเฉิงมาให้เขา
จากนั้นไม่นานฉู่จงเทียนก็โทรมา “คุณชายครับ โอหยางจงเฉิงกับพรรคพวกของเขาอยู่ที่ห้องวีไอพีในคลับเฮาส์เหาถิงครับ พวกมันรบกวนคุณชายใช่ไหมครับ ให้ผมพาคนไปจัดการมันเดี๋ยวนี้ก็ได้นะครับ”
“ไม่จำเป็นๆ ผมแค่ไปคุยธุระกับเขาหน่อย” หลี่โม่พูดเบาๆ
“ครับนาย รับทราบครับ”
หลี่โม่วางสายแล้วนั่งรถแท็กซี่ไปที่คลับเฮาส์เหาถิงทันที
……
ณ ห้องวีไอพีในคลับเฮาส์เหาถิง
ในขณะนี้ โอหยางจงเฉิงกับคุณเฉียนและคนอื่นๆ กำลังดื่มอยู่ในห้องส่วนตัวนี้
แม้ทั้งสี่จะมีผ้าก๊อซพันทั่วใบหน้า แต่สาวดริ้งค์สิบกว่าคนที่รายล้อมก็ไม่ได้รังเกียจพวกเขา เพราะโอหยางจงเฉิงจ่ายหนักมาก
ค่าแรงชั่วโมงห้าหมื่นหยวนต่อคนเพียงพอสำหรับพวกเธอในการให้บริการเสี่ยใหญ่กลุ่มนี้
“แมร้งเอ๊ย เกือบไปแล้วไอ้นางตัวแสบกู้หยุนหลัน น่าเสียดายที่ผัวมันมาขัดขวางไว้ เซ็งชะมัด”
โอหยางจงเฉิงพูดด้วยความโกรธ
“ใจเย็นก่อนครับคุณโอหยาง เดี๋ยวนางก็ต้องเป็นของท่านอยู่ดี ถึงเวลานั้นท่านอยากได้ท่าไหน นางก็ต้องทำท่านั้นครับ ฮ่าๆ ๆ ๆ”
คุณเฉียนพยายามพูดจายกยอเขา
“เสี่ยทั้งหลายชอบท่าไหนกันบ้างคะ พวกเราก็มีท่าเยอะเหมือนกันนะ เสี่ยต้องการท่าไหน เราก็ให้ท่านั้นได้นะคะ” สาวดริ้งค์คนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา
โอหยางจงเฉิงกอดสาวดริ้งค์คนนั้นแล้วลูบไล้ไปมาอย่างไม่เกรงใจ “ฮ่า ๆ ๆ คืนนี้เราแข่งกันนะ ดูว่าท่าของใครเยอะกว่า”
“เสี่ยต้องมีท่าเยอะกว่าสิคะ ชนแก้วค่ะ”
โอหยางจงเฉิงดื่มอย่างมีความสุข จากนั้นวางแก้วแล้วพูดต่อ “เราต้องจัดการตระกูลกู้ก่อน ถึงเวลานั้นกู้หยุนหลันไม่มีที่พึ่ง แล้วนางก็จะมาร้องขอผมเอง อีกอย่างผมจะต้องจัดการให้หมอนั่นด้วย!”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณโอหยาง ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ เรายกเลิกสัญญาซื้อขายกับตระกูลกู้ก่อน จากนั้นตัดขาดเงินกู้จากธนาคารของพวกมัน เดี๋ยวผมจะส่งคนไปหาเรื่องพวกมันเองครับ ใช้สามวิธีนี้จัดการพวกมัน รับรองว่าตระกูลกู้อยู่ได้ไม่ถึงสิบวันหรอกครับ”
คุณเฉียนยิ้มพูด
“ดีมาก สิบวัน หลังจากสิบวันแล้วเราค่อยไปกวาดซื้อกิจการของตระกูลกู้ จากนั้นเราค่อยจัดการกับกู้หยุนหลันแล้วก็ไอ้เศษสวะหลี่โม่ด้วย”
โอหยางจงเฉิงพูดอย่างได้ใจและโกรธแค้น
“สมเป็นคุณโอหยางจริงๆ เลยครับ แค่เอ่ยนามของท่านออกไปก็มีแต่คนที่คอยจะยื่นมือมาช่วยครับ”
ในขณะที่คุณเฉียนพูดจาประจบสอพลอ หลี่โม่ก็ได้มาถึงหน้าประตูห้องวีไอพีนี้และยืนจ้องหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเฉยเมย
“มองบ้าอะไร รีบไปให้พ้นซะ!”
บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูตะโกนใส่หลี่โม่!