จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 214
บทที่ 214 เอาเรื่องถึงที่
เช้าวันใหม่ กู้หยุนหลันที่ไม่ได้นอนหลับทั้งคืนและลุกจากเตียงด้วยสีหน้าซีดเซียว
ในใจเธอเต็มไปด้วยเรื่องของโอหยางจงเฉิง จึงทำให้เธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันนั่งอยู่ข้างเตียงเขาจึงยื่นมือออกไปกอดเธอจากด้านหลัง
“คุณกังวลอยู่เหรอ?”
หลี่โม่ถามเบาๆ
กู้หยุนหลันพยักหน้าแล้วเอียงศีรษะไปพิงอยู่ที่บนไหล่ของหลี่โม่ที่อยู่ด้านหลัง
“เรื่องวันนี้คงผ่านไปยากแล้วล่ะ”
กู้หยุนหลันตอบอย่างเศร้าใจ
สิ่งที่หลี่โม่พูดเมื่อคืนกู้หยุนหลันไม่ได้จริงจังเลยแม้แต่น้อย เธอไม่คิดว่าหลี่โม่จะจัดการกับคนอย่างโอหยางจงเฉิงได้แน่นอน
อย่าว่าแต่เป็นหลี่โม่เลย แม้แต่คนในเมืองฮ่านก็มีไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับโอหยางจงเฉิงได้ ดังนั้นครั้งนี้กิจการของตระกูลกู้คงต้องเจอกับวิกฤตครั้งใหญ่แล้ว
“อย่ากังวลนะ ผมคอยช่วยคุณอยู่”
หลี่โม่พูดเบาๆ
กู้หยุนหลันส่ายหัวแล้วขยับศีรษะออกจากบนไหล่ของหลี่โม่
“ฉันจะเตรียมตัวไปบริษัทก่อนนะ วันนี้ที่บริษัทมีประชุมด่วนน่ะ”
“คุณไปเตรียมตัวก่อนสิ ผมจะไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณนะ”
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินออกจากห้องนอนแล้วตรงไปที่ห้องครัว กู้หยุนหลันก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย
แต่ความอุ่นใจนั้นก็ถูกความกังวลในใจกลืนกินไปในไม่ช้า
หลังจากกู้หยุนหลันเตรียมตัวเสร็จและกินอาหารเช้าที่หลี่โม่เตรียมไว้ให้เธอเรียบร้อย เธอก็เดินออกจากประตูบ้านอย่างเร่งรีบ
หลี่โม่เก็บถ้วยชามบนโต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความไปหาโอหยางจงเฉิงเพื่อเน้นย้ำถึงรายละเอียดในการมาขอขมาของพวกเขา
กู้หยุนหลันมาถึงบริษัทอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อไปถึงในห้องประชุมของบริษัทก็เห็นคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้นั่งอยู่ที่นั่งประธาน ส่วนด้านซ้ายขวาของเขาก็มีกู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียง กู้ซิงเว๋ย กู้ชิงหลินนั่งอยู่ด้วย
ทั้งห้าคนเมื่อเห็นกู้หยุนหลันเดินเข้ามาก็มองเธอด้วยความรังเกียจ ในสายตาทุกคนกู้หยุนหลันก็คือสาเหตุที่ทำให้ตระกูลต้องเจอกับปัญหานี้
“สารเลว เธอยังมีหน้ามาอีกเหรอ! เธอดูนี่สิ ผู้ร่วมธุรกิจที่ขอยกเลิกสัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ! ยังมีคนที่จะขอคืนสินค้าอีกมากมาย!”
กู้ชิงหลินโยนเอกสารให้กับกู้หยุนหลัน
แม้กู้หยุนหลันจะรู้สึกเสียใจ แต่เธอทำได้เพียงค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งลงในที่นั่งของเธอ
“กู้หยุนหลัน! เดิมทีธุรกิจของเรากำลังเฟื่องฟูและกำลังจะขยายไปทั่วเมือง แต่เพราะเธอคนเดียว! ดันไปหาเรื่องคุณโอหยางจงเฉิง เป็นไงล่ะทีนี้เจอปัญหาเข้าแล้ว ไม่ว่ายังไงเธอต้องรับผิดชอบเรื่องนี้!”
กู้เจี้ยนเจียงดุด่าเธออย่างรุนแรง
ในตอนนี้ ต้นตอของปัญหาทั้งหมดอยู่ที่โอหยางจงเฉิง ถ้าสามารถทำให้โอหยางจงเฉิงพึงพอใจได้ ตระกูลกู้ก็อาจจะรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ในขณะนี้ก็คิดเหมือนกับกู้เจี้ยนกั๋ว อีกอย่างคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ที่ถูกกู้เจี้ยนกั๋วพูดกรอกหูก็เห็นด้วยกับความคิดของเขา นั่นก็คือการบังคับให้กู้หยุนหลันไปอยู่กับโอหยางจงเฉิง
“หยุนหลัน เธอต้องเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ของครอบครัวเรา ปัญหาทุกอย่างในตอนนี้ขึ้นอยู่กับคุณโอหยางคนเดียว ถ้าเธอสามารถทำให้คุณโอหยางมีความสุขได้ปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเธอว่าไหม? เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอต้องคิดให้รอบคอบ เธอต้องทำเพื่อครอบครัว”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง และคำพูดที่มีนัยนี้ทำให้กู้หยุนหลันฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจมาก
กู้ซิงเว๋ยหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วหันมาพูดกับกู้หยุนหลันด้วยความดูถูก
“จนกระทั่งตอนนี้แล้ว เธอยังแกล้งให้ดูน่าสงสารอีก จะรอให้ธุรกิจครอบครัวล้มละลายก่อนเธอถึงจะสำนึกใช่ไหม ทั้งหมดนี้ก็เพราะเธอกับสามีของเธอที่ไร้ประโยชน์คนนั้น ถ้ามันไม่มีปัญญารับผิดชอบได้ เธอก็ต้องรับผิดชอบคนเดียว”
“หนูจะพยายามหาทางเอง แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีที่พวกคุณพูด”
กู้หยุนหลันพูดด้วยสีหน้าขมขื่น
รสชาติที่คุ้นเคยและวิธีการข่มเหงที่คุ้นเคยค่อยๆ ปรากฏขึ้นในความรู้สึกของกู้หยุนหลัน
“แมร้งเอ๊ย! เธอจะไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม ไฟลนก้นขนาดนี้แล้ว ดีไม่ดีพรุ่งนี้พวกเราทุกคนก็ต้องตกงานกันแล้ว เธอยังจะแสร้งทำตัวเป็นนางเอกอีกเหรอ!”
“เธอไม่ได้นอนกับผู้ชายครั้งแรกสักหน่อย หรือว่าเธอไม่ชอบคุณโอหยางจริงๆ? ถึงแม้คุณโอหยางจะอายุมากไปหน่อย แต่เธอก็คิดซะว่าเขาเป็นพ่อของเธอก็ได้นี่นา เรียกคุณโอหยางพ่อสิ ถ้าเขาชอบเธอ เธอก็จะได้ผลประโยชน์ด้วยไม่ใช่เหรอ!”
ดูเหมือนกู้ชิงหลินจะแนะนำประสบการณ์ของเธอเองให้กับกู้หยุนหลัน
กู้ซิงเว๋ยอดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปด้วย ฉากนี้มันช่างดูน่าตื่นเต้นเหลือเกิน
“ชิงหลินพูดมีเหตุผลดีนะ หยุนหลันเธอก็หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง ในโลกนี้ไม่มีอะไรเพอร์เฟคเสมอไปหรอก เธอจำเป็นต้องซีเรียสกับเรื่องนี้ขนาดนั้นเลยเหรอ อีกอย่างคุณโอหยางก็ดีกว่าไอ้สามีกระจอกของเธออยู่แล้ว ยังไงเธออยู่กับคุณโอหยางก็ดีกว่าอยู่กับไอ้สามีกระจอกของเธออย่างแน่นอน”
กู้หยุนหลันโกรธจนตัวสั่น เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เพราะเธอรู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้สีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “หยุนหลัน ปัญหาที่เธอสร้างขึ้นมาเองเธอก็ต้องรับผิดชอบเองสิ ถึงยังไงเธอก็ต้องไปขอโทษคุณโอหยาง เธอต้องทำตามคำขอของคุณโอหยางทุกอย่างนะเข้าใจไหม รีบติดต่อคุณโอหยางตอนนี้เลย”
กู้หยุนหลันเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันแล้วมองไปที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ด้วยความตกใจ
การที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้บังคับให้เธอทำแบบนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
“ยังเหม่ออะไรอีก คุณปู่ก็พูดขนาดนี้แล้วเธอยังไม่รีบทำตามอีกเหรอ อย่าทำตัวให้เป็นเหมือนนางเอกในหนังเลย เธอก็ไม่ได้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ยังจะเสแสร้งอะไรอีก ครอบครัวเราใกล้จะล้มละลายกันหมดแล้วเธอรู้บ้างไหม!”
กู้ซิงเว๋ยพูดกระตุ้นอีกเสียง
กู้ชิงหลินยิ้มอย่างได้ใจแล้วหยิบมือถือขึ้นมา “มา ฉันจะช่วยเธอโทรเอง”
“พวกคุณ……”
กู้หยุนหลันน้ำตาเต็มเบ้าตา เธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีก
“พวกเราทำไม เพราะเธอกับไอ้สามีเหลือขอของเธอที่ไปทำร้ายร่างกายคุณโอหยางต่างหาก ไม่อย่างนั้นเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้ไหม? ครอบครัวเธอมันไร้ประโยชน์เลยจริงๆ!”
กู้เจี้ยนกั๋วทุบโต๊ะแล้วพูดอย่างเสียงดัง “รีบโทรหาคุณโอหยางเดี๋ยวนี้!”
กู้ซิงเว๋ยลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเข้าไปแย่งกระเป๋าของกู้หยุนหลันเพื่อจะหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา
“คิดให้ดีก่อนที่จะไปขอโทษคุณโอหยางนะ พูดจากับเขาดีๆ พูดเสียงหวานๆ พูดเพราะๆ เข้าใจไหม? อย่าทำตัวซื่อบื้ออีก อย่าทำให้เรื่องมันใหญ่กว่านี้ ถ้ายังทำให้คุณโอหยางพอใจไม่ได้พวกเราทุกคนต้องไส้แห้งอย่างแน่นอน!”
กู้หยุนหลันกัดฟันแล้วพูดอย่างหนักแน่น “หนูไม่ไป”
“แมร้งเอ๊ย!”
กู้ซิงเว๋ยโกรธจนพูดโพล่งออกมาแล้วนำกระเป๋าของกู้หยุนหลันโยนลงไปบนโต๊ะ “เธอหาเรื่องใช่ไหม!”
กู้ชิงหลินเม้มปากแล้วพูดอย่างดูถูกว่า “เธอจะเสแสร้งจนเคยชินไปแล้ว เชื่อไหมว่าฉันจะหาคนมาลากคอเธอไปนอนอยู่บนเตียงของคุณโอหยางอย่างเปลือยกายได้ พูดดีๆ ก็ฟังกันด้วยนะ อุตส่าห์ให้เกียรติกันแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของเธอคนเดียว มันเป็นเรื่องของทุกคนในบ้านเธอเข้าใจไหม!”
แคร่ก!
ประตูห้องประชุมถูกผลักออกแล้วเลขาก็เดินเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก “ข้างนอกมีขบวนรถหรูขับเข้ามาค่ะ เป็นป้ายทะเบียนของเมืองเอกด้วยนะคะ”
“ป้ายทะเบียนเมืองเอก? คุณโอหยางมาเอาเรื่องถึงที่แล้ว!”