จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 242
บทที่ 242 เฉียวเจิ้งหลง ท่านหลง!
คุณปู่หวางรู้สึกแปลกใจ เพราะเขาเชิญอู๋เต้าเหวินให้ไปนั่งที่ที่นั่งหลัก แต่อู๋เต้าเหวินกลับไม่สนใจเขาเลย ซึ่งทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าอู๋เต้าเหวินไม่ได้ตั้งใจมาอวยพรวันเกิดของเขา
อีกอย่างในตอนนี้อู๋เต้าเหวินมองไปรอบๆ เหมือนกับเขากำลังมองหาใครบางคนอยู่ จึงทำให้คุณปู่หวางยิ่งสงสัยมากขึ้น
เขามาที่นี่เพื่อหาศัตรู?
หรือว่ามาหาเพื่อน?
หรือว่ามาหา……
ในขณะที่คุณปู่หวางยังคงสับสนอยู่ อู๋เต้าเหวินก็ได้เห็นหลี่โม่ที่นั่งอยู่มุมห้องแล้ว
ทันทีที่เห็นหลี่โม่ อู๋เต้าเหวินก็ยิ้มอย่างอ่อนน้อม จากนั้นเขาผลักหวางจินซานออกแล้วเดินเข้าไปหาหลี่โม่
“ท่านเหวินครับ ท่านกำลังจะ……”
คุณปู่หวางยังไม่ทันพูดจบก็เห็นอู๋เต้าเหวินเดินไปอย่างไม่สนใจ จากนั้นเขาก็พาลูกหลายเดินตามอู๋เต้าเหวินไปด้วย
คนระดับแบบนี้คนของตระกูลหวังจะผิดใจไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเดินตามไปอย่างระมัดระวัง
แต่เมื่อเห็นอู๋เต้าเหวินเดินไปหาหลี่โม่ คุณปู่หวางก็เบิกตากว้างและไม่รู้ว่าอู๋เต้าเหวินกำลังคิดจะทำอะไร
หลังจากที่อู๋เต้าเหวินเดินไปหาหลี่โม่ เขาก็ยืนนิ่งและโค้งคำนับแล้วพูดด้วยความเคารพ “คุณหลี่ครับ ผมได้เจอคุณสักทีนะครับ จะรังเกียจไหมครับถ้าผมขอนั่งกับคุณด้วยคน”
หลี่โม่ยกเปลือกตาขึ้นมองแล้วตอบอย่างเฉยเมย “ไม่รังเกียจ”
อู๋เต้าเหวินนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหลี่โม่อย่างระมัดระวังและได้แต่นั่งเฉียงๆ เท่านั้น
ทุกคนในงานมักจะเป็นกลุ่มจำพวกสอดรู้สอดเห็นและเป็นคนช่างสังเกตในเรื่องของคนอื่นทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อเห็นอู๋เต้าเหวินนั่งลงข้างๆ หลี่โม่ด้วยท่าทีที่ให้เกียรติทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ท่านเหวินแทบจะไม่กล้านั่งบนเก้าอี้นั้นเลย ท่านั่งของเขาเหมือนผู้น้อยที่นั่งข้างๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ และเหมือนรุ่นน้องที่นั่งกับผู้อาวุโสกว่า”
“ฉันตาฝาดไปใช่ไหม ใครที่ทำให้ท่านเหวินมีท่าทีแบบนี้ได้? แล้วไอ้หนุ่มคนนั้นคือใครกันแน่”
“ฉันคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย เมื่อกี้คนตระกูลหวังยังดูถูกคนแซ่หลี่คนนั้นอยู่เลยนะ แล้วตอนนี้ท่านเหวินกลับแทบจะเลียขาเขา”
แขกทุกคนเกิดความสงสัยมากมายขึ้น พวกเขาต่างก็สงสัยว่าอู๋เต้าเหวินนั้นกำลังคิดจะทำอะไร แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือสงสัยถึงความสัมพันธ์ของระหว่างหลี่โม่กับอู๋เต้าเหวิน
หวางจินซานและคนอื่นๆ ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนหวางจงเหิงกับหวางจงเฉิงนั้นถึงกับอ้าปากค้างไปเลย
นี่มันอะไรกัน ถ้าอู๋เต้าเหวินมีท่าทีแบบนี้กับพวกเรา นั่นจะกลายเป็นภาพที่ทรงเกียรติและเป็นเรื่องที่โดดเด่นที่สุดในงานเลี้ยงนี้อย่างแน่นอน
แต่ทำไม ทำไมอู๋เต้าเหวินถึงปฏิบัติกับหลี่โม่แบบนี้ด้วย!
สีหน้าของคุณปู่หวางเต็มไปด้วยความสงสัย หลังจากที่เขาลังเลไปสักพักก็เดินเข้าไปพูดกับอู๋เต้าเหวิน “ท่านเหวินครับ ท่านรู้จักไอ้หมอนี่ด้วยเหรอครับ? ท่านเป็นแขกผู้มีเกียรติของเราในงานนี้นะครับ เชิญท่านไปนั่งที่นั่งหลักเถอะครับ”
แม้ว่าคุณปู่หวางจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของหลี่โม่กับอู๋เต้าเหวิน แต่เนื่องจากเขาเป็นเจ้าภาพจึงควรที่จะเชิญอู๋เต้าเหวินไปนั่งในที่นั่งหลักของงานนี้ เพราะถ้าปล่อยให้เขานั่งที่มุมอับแบบนี้มันจะเป็นการละเลยแขกผู้มีเกียรติ
อู๋เต้าเหวินยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “ได้นั่งกับคุณหลี่ก็คือที่นั่งหลักสำหรับผมครับ คุณปู่หวางไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหรอกครับ”
หวางจงเหิงที่ยืนอยู่ด้านข้างดวงตาแดงก่ำเพราะความอิจฉาและความเกลียดชัง จากนั้นเขาตะโกนใส่หลี่โม่ “ไอ้คนเหลือขอ วันๆ รู้จักกินอย่างเดียว ยังไม่รีบหลบที่นั่งให้คุณปู่ คุณปู่จะได้ต้อนรับท่านเหวิน”
อู๋เต้าเหวินสีหน้าเย็นชาแล้วมองไปที่หวางจงเหิงด้วยแววตาอันดุดัน “ช่างกล้า! กล้าพูดกับคุณหลี่แบบนี้ได้ไง นายเชื่อไหมว่าข้าจะอัดนายให้อาบเลือดเพื่อเป็นการเซอร์ไพรซ์ให้กับงานวันเกิดของคุณปู่หวาง!”
หวางจงเหิงสะดุ้งตกใจจนสีหน้าซีดเซียวแล้วเดินถอยหลังไปอยู่ในท่ามกลางผู้คนอย่างเงียบๆ
ทุกคนในตระกูลหวังและแขกที่มาร่วมงานต่างก็มองไปที่หลี่โม่ด้วยความสงสัย พวกเขาไม่สามารถเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลี่โม่กับอู๋เต้าเหวินได้เลย ทำไมอู๋เต้าเหวินถึงเอาอกเอาใจหลี่โม่ได้เช่นนี้
ทุกคนต่างก็เข้าใจกันว่าหลี่โม่เป็นคนเกียจคร้านไม่เอาไหน แล้วคนไม่เอาไหนแบบนี้จะมีภูมิหลังได้ยังไง ทำไมถึงได้รับความเคารพจากอู๋เต้าเหวินได้เช่นนี้ มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ
ในขณะที่ทุกคนยังคงสับสนกันอยู่ คนใช้ในบ้านก็วิ่งเข้ามาอีกครั้ง
“คุณท่านคะ ท่านหลง! เฉียวเจิ้งหลงนำยาอายุวัฒนะมาสี่เม็ดมาเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดของคุณท่านค่ะ”
หือ!
ทุกคนในงานต่างอุทานออกมาพร้อมกัน!
จากนั้นทุกคนต่างก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง!
คุณปู่หวางค่อยๆ หันหน้ามาและสีหน้าของเขาก็แปลกประหลาดขึ้นอีกครั้ง
การมาเยือนของอู๋เต้าเหวินโดยที่ไม่ได้รับเชิญก็ทำให้คุณปู่หวางสงสัยมากพอแล้ว แต่ตอนนี้เฉียวเจิ้งหลงก็มาเยือนถึงที่โดยที่ไม่ได้รับเชิญอีกคน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หวางจินซานพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เรายังไม่ได้เชิญเขาเลย แล้วมีใครเชิญเขาบ้างไหม?”
หวางจินไห่และคนอื่นๆ ได้แต่ส่ายหัว จากนั้นคุณปู่หวางก็ขมวดคิ้วพูดต่อ “ในเมื่อมีแขกผู้มีเกียรติมาเยือนแล้วเราก็ต้องออกไปต้อนรับ พวกนายก็ไปด้วยกัน”
ในขณะที่คุณปู่หวางกำลังจะเดินออกไป เฉียวเจิ้งหลงก็ได้เดินเข้ามาในงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เฉียวเจิ้งหลงโบกมือทักทายคุณปู่หวางเพื่อเป็นมารยาท “ขอให้คุณปู่หวางมีความสุขนะครับ”
“ขอบคุณท่านหลงที่ให้เกียรติมาร่วมงานถึงที่ด้วยนะครับ เชิญท่านหลงนั่งโต๊ะหลักของเราครับ”
คุณปู่หวางพูดด้วยรอยยิ้ม
แต่เฉียวเจิ้งหลงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของคุณปู่หวางเลย เขาหันมองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่
ท่าทีของเฉียวเจิ้งหลงนั้นทำให้คุณปู่หวางรู้สึกคุ้นเคยมาก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับอู๋เต้าเหวินในก่อนหน้านี้เลย
แขกในงานมองไปที่เฉียวเจิ้งหลงด้วยความตะลึงและเกิดคำพูดซุบซิบขึ้นมา
“ท่านหลงมาเยือนถึงที่จริงๆ ด้วย ท่านหลงก็เป็นหนึ่งในสี่ของราชาใต้ดินในเมืองฮ่านด้วยนะ สถานะของเขาไม่ต่างอะไรกับอู๋เต้าเหวินเลยนะ”
“แต่ถ้าพูดถึงภูมิหลังส่วนตัวของท่านหลงแล้ว เขามีอำนาจมากกว่าท่านเหวินเลยล่ะ”
“ครั้งนี้ตระกูลหวังได้รับเกียรติจริงๆ เลย คุณปู่หวางคงคุยโม้ถึงเรื่องนี้ได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ”
ในขณะที่ผู้คนกำลังพูดคุยซุบซิบกันอยู่ เฉียวเจิ้งหลงก็ได้เห็นหลี่โม่อยู่ที่ไม่ไกล จากนั้นเขาผลักคนในตระกูลหวังออกแล้วเดินเข้าไปหาหลี่โม่อย่างรวดเร็ว
จากพฤติกรรมเฉียวเจิ้งหลงกับอู๋เต้าเหวิน ครอบครัวตระกูลหวังทำได้เพียงสับสนและคิดหาสาเหตุไม่ได้จริงๆ
“ทำไมต้องเดินไปหาหลี่โม่ด้วย ท่านเหวินกับท่านหลงสติแตกไปแล้วเหรอเนี่ย ไอ้คนกระจอกแบบนั้นมีอะไรน่าเคารพกัน?”
“สภาพอย่างหลี่โม่ไม่คู่ควรแม้แต่จะเลียรองเท้าให้ท่านเหวินกับท่านหลงด้วยซ้ำ แต่……แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ทำไมกัน?”
“เรารีบตามไปดูกันดีกว่า เพื่อเป็นการต้อนรับตามมารยาท จะได้ดูสถานการณ์ด้วย”
หลายๆ คนในตระกูลหวังกระซิบพูดคุยกันและเดินเข้าไปหาเฉียวเจิ้งหลงพร้อมกับคุณปู่หวาง
เฉียวเจิ้งหลงโค้งคำนับและกล่าวทักทายหลี่โม่ด้วยความเคารพ จากนั้นขออนุญาตหลี่โม่เพื่อนั่งในโต๊ะของเขาด้วยท่าทีที่เหมือนกับอู๋เต้าเหวินไม่ผิด ซึ่งทำเหมือนกับหลี่โม่เป็นลูกพี่ของเขา
สีหน้าของคุณปู่หวางเริ่มแย่ลงและเดินเข้าไปหาเฉียวเจิ้งหลงด้วยร่างกายที่สั่นเทา
“ท่านหลงครับ เราขอเชิญท่านไปนั่งในที่นั่งของแขกผู้มีเกียรติดีกว่าครับ”
“อะไรคือที่นั่งของแขกผู้มีเกียรติ ที่นั่งของคุณหลี่ก็คือที่นั่งที่มีเกียรติที่สุด ผมยังต้องเสิร์ฟอาหารให้กับคุณหลี่อีกด้วย พวกคุณจะไปไหนก็รีบไป”
เฉียวเจิ้งหลงพูดอย่างไม่พอใจมาก!