จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 253
บทที่ 252 แข็งแกร่งมาก
“ไม่งั้นล่ะ?” หลี่โม่กล่าวเบา ๆ”
พวกอันธพาลถูกทำร้ายจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามเหลือเพียงเหล่าไป๋และศิษย์น้องสองคนเท่านั้น
แม้ว่าพวกเหล่าไป๋ทั้งสามคนจะมีพลังอยู่ไม่น้อย แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของหลี่โม่เลย
ถ้าหากลงมือขึ้นมา หลี่โม่มั่นใจว่าจะพวกเขาจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่เกิน 3 นาที
ศิษย์น้องสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเหล่าไป๋ ได้ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ยืนอยู่ด้านหน้าของเหล่าไป๋ ทั้งสามคนยืนเป็นรูปสามเหลี่ยม
นี่คือท่าเริ่มต้นของค่ายกลซานฉาย ที่เหล่าไป๋และศิษย์น้องทั้งสองของเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน พวกเขาเริ่มต้นฝึกตั้งแต่เพิ่งฝึกวรยุทธ์แล้ว ฝึกฝนมาจนถึงทุกวันนี้ สามารถกล่าวได้ว่าการร่วมมือประสานกันของทั้งสามคนอยู่ในสถานะที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ
เพียงแต่ว่าพวกเหล่าไป๋ยังไม่เคยใช้ค่ายกลซานฉายในการต่อสู้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากใช้ แต่มันไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้
แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับการไล่ล่าของทหารหน่วยรบพิเศษ แต่พวกเหล่าไป๋ทั้งสามคนก็ไม่เคยใช้ค่ายกลท่าไม้ตายเช่นนี้
พวกทหารหน่วยรบพิเศษที่ไล่ล่าพวกเขา ท้ายที่สุดก็ถูกพวกเหล่าไป๋ทั้งสามคนทำร้ายจนพิการ ตอนนี้ไร้ร่องรอย
แต่ในขณะนี้ ช่วงเวลาที่เผชิญหน้ากับหลี่โม่ ทั้งสามคนตัดสินใจจะใช้ท่าค่ายกลซานฉายนี้เท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้
เหล่าไป๋โยนบุหรี่ครึ่งมวนที่เขาถืออยู่ลงพื้น แล้วยกเท้าขึ้นขยี้ก้นบุหรี่จนดับ
“คนหนุ่มช่างไม่รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ถ้าตอนนี้แกนั่งลงแล้วเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย ฉันจะให้แกมีทางรอด มิเช่นนั้น แกจะต้องตายอย่างเดียว”
หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกมาแล้วกระดิกนิ้วชี้เรียกพวกเหล่าไป๋ทั้งสามคน
ดวงตาของเหล่าไป๋หรี่ลง รู้ว่าต้องลงมือแล้วล่ะ
“รนหาที่ตาย!”
เหล่าไป๋คำราม เหมือนเสือที่ดุร้าย พุ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าหลี่โม่ พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่งอเป็นกรงเล็บ ข่วนหน้าอกของหลี่โม่
เสือดำควักใจ ถึงจะเป็นเพลงยุทธทั่วไป แต่เมื่อเหล่าไป๋ใช้เพลงยุทธนี้ กลับรู้สึกจากความเสื่อมโทรมกลายเป็นความรู้สึกมหัศจรรย์
เพียงแค่เสียงลมเบา ๆ มือของเหล่าไป๋ดูเหมือนจะกลายเป็นกรงเล็บที่แหลมคม ขอแค่เขาสามารถข่วนไปที่ตัวหลี่โม่ได้ ก็สามารถทำให้เนื้อของหลี่โม่หลุดออกมาเป็นชิ้นใหญ่ได้แน่นอน
ศิษย์น้องทั้งสองคนก็เหล่าไป๋เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน พวกเขาทั้งสองล้อมหลี่โม่ขนาบทั้งซ้ายขวา แล้วจู่โจมทางด้านข้างของหลี่โม่
คนหนึ่งเตะไปที่เข่าของหลี่โม่ อีกคนหนึ่งใช้กำปั้นจู่โจมไปที่กระดูกสันหลังตรงเอวของหลี่โม่
การแยกโจมตีเป็นกุญแจสำคัญของค่ายกลซานฉาย ทั้งสามคนรุกและล่าถอยพร้อมกัน เป็นการต่อสู้ที่ใช้ชีวิตแลกชีวิต ไม่ว่าหลี่โม่จะเผชิญกับใคร คนที่เผชิญหน้ากับหลี่โม่จะโจมตีหลี่โม่อย่างไม่คิดชีวิต เพื่อสร้างโอกาสให้สองคนนั้นโจมตี
ขณะนี้เหล่าไป๋พร้อมที่จะบุกออกไป ถึงตายก็ต้องการสกัดกั้นหลี่โม่ให้ได้ เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ศิษย์น้องทั้งสองชนะ
เหล่าไป๋รู้ว่า ขอแค่สามารถสกัดกั้นหลี่โม่เอาไว้ได้ ให้ศิษย์น้องทั้งสองคนจู่โจมจุดยุทธศาสตร์ของหลี่โม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นถึงหลี่โม่ไม่ตายก็ต้องพิการ ถึงเวลานั้นก็สามารถทำลายหลี่โม่ได้อย่างง่ายดาย
สายตาของหลี่โม่ยิ่งอยู่ยิ่งเยือกเย็น จนทำให้อุณหภูมิรอบตัวลดลงหลายองศาทันที
ที่ลงมือไปเมื่อสักครู่หลี่โม่ไม่ได้เอาจริง แต่ในขณะนี้หลี่โม่เริ่มเอาจริงแล้ว
หลี่โม่สะบัดมือ พุ่งเข้าไปหาเหล่าไป๋ที่กำลังพุ่งเข้ามา
การเคลื่อนไหวของเหล่าไป๋รวดเร็วมาก แต่การเคลื่อนไหวของหลี่โม่เร็วกว่า หลี่โม่ใช้สองมือสร้างพลังสายฟ้าอยู่กลางอากาศ ก่อนที่เหล่าไป๋จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง มือขวาของเขาก็อยู่ที่คอของเหล่าไป๋แล้ว
การเคลื่อนไหวของเหล่าไป๋หยุดนิ่งทันที จากนั้นความรู้สึกกลัวก็พุ่งตรงเข้ามาในหัวของเขา ก้มลงมองมือของหลี่โม่ที่จับคอของตนเองไว้ ตอนนี้เหล่าไป๋รู้สึกสับสนไปหมด
หลี่โม่บีบคอของเหล่าไป๋ และก็ดันเขาไปข้างหน้า ในขณะที่มือซ้ายของเขาชกไปที่หัวใจของเหล่าไป๋อย่างรุนแรง
กร๊อบ แกร๊บ!
เสียงกระดูกหักดังขึ้น เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เหล่าไป๋รู้สึกว่าหลี่โม่ทำให้ซี่โครงของเขาต้องหักหลายเส้น
การโจมตีของศิษย์น้องทั้งสองคนของเหล่าไป๋ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เมื่อเห็นภาพที่หลี่โม่จู่โจมเหล่าไป๋บนผนังอย่างรุนแรง เปลือกตาของทั้งสองคนกระตุกอย่างดุเดือด แม่ง มันเป็นคนหรือเปล่า!
วิชาของเหล่าไป๋ไม่ใช่ฝึกไปเสียเปล่า ร่างกายแข็งแกร่งราวกับคนเหล็ก นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกหลี่โม่ทำร้ายอยู่บนผนังจนสำลักโลหิต
ไอเย็นแผ่จากฝ่าเท้าขึ้นไปสู่หน้าผาก ขณะนี้ศิษย์น้องทั้งสองคนของเหล่าไป๋มองหน้ากัน ลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจช่วยเหล่าไป๋
แต่ว่าตอนนี้ตัวเหล่าไป๋ถูกหลี่โม่ทำร้ายจนไม่เหลือสภาพ และหลี่โม่จับเขาวางไว้บนเก้าอี้
“นั่งลง แล้วค่อยดูฉันจัดการพวกเขา จะทำให้พวกแกทั้งสามคนมีสภาพเดียวกัน”
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
มีเลือดสด ๆไหลออกจากปากของเหล่าไป๋ไม่หยุด สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวด เหล่าไป๋ไม่รู้ว่ากระดูกในร่างกายของเขาหักไปกี่ชิ้นแล้ว รู้สึกราวกับว่ากระดูกทั่วร่างกายถูกหลี่โม่ตีหักไปหมด
เขาเป็นคนที่โหดเหี้ยม! ช่างเป็นคนโหดเหี้ยมจริง ๆ!
เหล่าไป๋สรุปอยู่ภายในใจ
ศิษย์น้องทั้งสองคนของเหล่าไป๋หยุดฝีเท้าพร้อมกัน ขาของทั้งสองคนรู้สึกสั่นเล็กน้อย ความคิดที่อยากจะหลบหนีผุดขึ้นมาในสมอง
ทั้งสองคนไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับหลี่โม่ได้อีกต่อไป วิชาค่ายกลซานฉายก็นำออกมาใช้แล้ว ซึ่งเป็นวิชาที่ใช้ชีวิตแลกชีวิต แต่ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่
แค่ดูความโหดร้ายของหลี่โม่เมื่อสักครู่ ทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าเจอของแข็งสักแล้ว
หันหลัง หลบหนี!
แต่ทั้งสองคนเพิ่งจะก้าวไป หลี่โม่ก็กระโดดขึ้นไปเตะคนทั้งสองคนล้มลงไปที่พื้น
หลี่โม่ลงบนพื้นอย่างมั่นคง มองทั้งสองด้วยสายตาเหยียดหยาม
ปากของศิษย์น้องทั้งสองคนของเหล่าไป๋มีเลือดสด ๆ ไหลออก หลังจากถูกหลี่โม่กระโดดเตะ พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในไม่น้อย
“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราแค่รับจ้างช่วยคนอื่น ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“พวกเรามีแม่ที่แก่กับเด็กต้องดูแล ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่มีใครอยากทำเรื่องเช่นนี้”
หลี่โม่ยิ้มเยือกเย็น ยกเท้าเตะไปที่คอของทั้งสองคน จนทำให้สองคนนั้นสลบไป
จากนั้นหลี่โม่ก็เดินไปหากู้หยุนหลันอย่างรวดเร็ว ปลดเชือกที่มัดกู้หยุนหลันออก
“คุณภรรยา ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ฉันไม่เป็นไร”
กู้หยุนหลันโผเข้าไปหาหลี่โม่ ใช้มือทั้งสองข้างกอดหลี่โม่ไว้แน่น
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นค่อย ๆหายจากอาการตกใจ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกว่าให้วิ่งหนี กู้เจี้ยนกั๋วจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอกเป็นเหมือนฝูงสัตว์ที่วิ่งเพราะหวาดกลัว และเกรงว่าตนเองจะถูกจับเป็นตัวประกันอีกหากวิ่งช้า
ประตูที่เล็กของห้องประชุมสามารถรองรับคนเข้าออกพร้อมกันได้เพียงสามคน แต่ภายใต้ฝูงชนที่ต้องการหนีออกไปพร้อมกัน ทำให้ฝูงชนไปอัดแน่นติดอยู่ที่ประตู
กู้หยุนหลันเห็นประตูห้องประชุมที่อัดแน่นด้วยผู้คน อดไม่ได้จึงหัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าวเบา ๆ ว่า “พวกเขาช่างโง่เสียจริง”
“ใช่ โง่จริง ๆ คุณภรรยา คุณรอสักครู่ ผมจะจัดให้พวกเขาออกไปอย่างเป็นระเบียบ คุณกลับไปพักผ่อนที่สำนักงานก่อน ผมจะตรวจสอบว่าใครเป็นคนบงการอยู่ข้างหลัง”
กู้หยุนหลันพยักหน้าอย่างช้า ๆ แล้วก็ปล่อยมือออกจากหลี่โม่
หลี่โม่เดินไปที่ประตูของห้องประชุมที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน แยกผู้คนออกเป็นสองฝั่ง เห็นมีคนสี่คนติดอยู่ตรงประตู
หลี่โม่ยกเท้าถีบ ทำให้สี่คนที่ติดอยู่ที่ประตูกระเด็นออกไป “ทำไมไม่ออกให้เป็นระเบียบ จะรีบอะไรกัน”
ไม่มีใครสนใจคำพูดของหลี่โม่ พวกเขารีบวิ่งหน้าตั้งออกไป
ไม่ช้าพวกเข้าก็วิ่งออกไปจนหมด หลี่โม่จึงพยุงกู้หยุนหลันออกไป แล้วพากู้หยุนหลันไปพักผ่อนที่สำนักงานของเธอ