จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 259
บทที่ 259 ขอร้องคุณโปรดปล่อยตระกูลซู
หลังจากที่ซูเม่าเหวินฟังรายงานของผู้ช่วย เขาไม่มีความลังเลใด ๆ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรออกไปยังหมายเลขของซูเหวินปิน
เวลานี้ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก เพียงแค่ต้องตรวจสอบ ตรวจสอบว่าซูเหวินปินได้ล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินใช่ไหม!
ความคิดของซูเม่าเหวินนั้นกระชับและมีประสิทธิภาพมาก
ขณะที่ซูเม่าเหวินกำลังโทรศัพท์ออกไป ซูเหวินปินที่นอนอยู่บนพื้น มองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ดุร้าย
“คนแซ่หลี่ แม่ง แกก็เก่งใช่ย่อย แต่ฉันจะคอยดูว่าแกจะสามารถหยิ่งผยองได้ถึงเมื่อไหร่ แม้ว่าวันนี้แกจะฆ่าฉัน ตระกูลซูมีคนตั้งมากมายที่จะล้างแค้นให้ฉัน และฆ่าล้างครอบครัวของแกทั้งหมด!”
“ตอนนี้แกทุบตีทำร้ายฉันแกรู้สึกมีความสุขใช่ไหม? ในอนาคตตระกูลซูจะจับญาติและเพื่อนของแกทั้งหมด แล้วทุบตีทำร้ายพวกเขาทีละคนต่อหน้าแก ในตอนนั้นจะดูว่าแกยังมีความสุขอยู่หรือเปล่า คนไร้ประโยชน์อย่างแกคิดจะต่อกรกับตระกูลซู แกมันไม่คู่ควรเลย!”
ซูเหวินปินยอมตายดีกว่ายอมจำนน เพราะซูเหวินปินรู้ดีว่าตระกูลซูสามารถเป็นที่พึ่งให้เขาได้ และท้ายที่สุดหลี่โม่ก็จะถูกบดขยี้ลงกับพื้น
หลี่โม่หยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา และกล่าวเบา ๆ ว่า “ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”
“แม่งฉิบหาย! แกยังเสแสร้งอีก ใกล้จะถึงเวลาเหี้ยอะไร! ตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะขอโทษ มิฉะนั้น ตระกูลซูสามารถฆ่าทุกคนในครอบครัวของแกได้ตลอดเวลา! ”
ขณะที่ซูเหวินปินกำลังมีความสุข เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
ซูเหวินปินอดทนต่อความเจ็บปวด ใช้มือซ้ายล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา เมื่อเห็นว่าหมายเลขผู้โทรเป็นชื่อของซูเม่าเหวิน ซูเหวินปินกดรับโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น “พี่ใหญ่!”
เมื่อได้ฟังเสียงที่เศร้ารันทดของซูเหวินปิน ทำให้ซูเม่าเหวินรู้สึกขนลุกขึ้นมา
“พี่ใหญ่ พี่รีบมาช่วยผม รีบส่งคนมาช่วยผม!” ซูเหวินปินกล่าวอย่างรีบร้อน
ซูเม่าเหวินขมวดคิ้วจนเป็นปม ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าซูเหวินปินเป็นคนก่อเรื่อง
อีกฝ่ายมีอำนาจยิ่งใหญ่ ที่สามารถโค่นล้มตระกูลซูได้ทุกเวลา เป็นเรื่องง่ายหากต้องการจัดการซูเหวินปิน
“ช่วยแกเหี้ยอะไร! แกไปล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตนใด! รู้ไหมตอนนี้สมบัติทั้งหมดตระกูลเราถูกอายัดไปจนหมด! ราคาหุ้นดิ่งลงเป็นอย่างมาก ตอนนี้ลดลงถึง 95%!”
ซูเม่าเหวินตะคอกด้วยความโกรธ
ซูเหวินปินรู้สึกเหน็บหนาวทันที เขารู้สึกว่าตนเองหูฝาด ทรัพย์สินของตระกูลซูจะถูกอายัดได้อย่างไร! และราคาหุ้นดิ่งลงไป 95% แล้วตอนนี้หุ้นที่ตระกูลซูถืออยู่ก็ไม่มีค่าอะไรแล้วสิ!
“พี่ พี่ใหญ่ พี่ไม่ได้พูดล้อเล่นใช่ไหม”
ซูเหวินปินถามอย่างอ่อนแรง
“ล้อเล่นเหี้ยอะไร! แกได้ล่วงเกินใคร! รีบขอโทษยอมรับผิดกับเขา มิเช่นนั้นก็ไสหัวออกไปจากตระกูลซู ไปเกิดเองตายเองอยู่ข้างนอก!”
ตอนนี้ซูเม่าเหวินรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เขาอยากจะเอาค้อนทุบหัวของซูเหวินปินแรง ๆ ตนเองกังวลมาก แต่ซูเหวินปินกลับถามว่าเขาล้อเล่นหรือเปล่า!
ซูเหวินปินรู้สึกเยือกเย็น เขามองไปที่หลี่โม่ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
หลี่โม่โทรศัพท์ออกไปเมื่อสักครู่ บอกว่าเขาต้องการที่จะทำให้ตระกูลซูหมดสิ้นทุกอย่าง ตามคำพูดของพี่ใหญ่ ตระกูลซูเหมือนจะหมดสิ้นทุกอย่างจริงๆ! หลี่โม่เป็นคนทำจริง ๆหรือ?
ตามข้อมูลเขาเป็นแค่เศษสวะที่อาศัยเกาะเมียกินเท่านั้น
ทำไมถึงสามารถทำเรื่องมากมายพวกนี้ได้ หากจะทำการตรวจสอบธุรกิจทั้งหมดของตระกูลซู ต้องใช้อำนาจขนาดไหน ผู้ชายที่เกาะเมียกินมันทำได้อย่างไร!
ตอนนี้เหมือนมีคลื่นลูกใหญ่โหมกระหน่ำซัดกระหน่ำอยู่ในใจของซูเหวินปิน
“แกได้ยินที่ฉันพูดไหม! ไอ้เลวตอบคำถามของฉัน! แกต้องขอโทษเขาตอนนี้ทันที จะต้องให้เขายกโทษให้แก และปล่อยตระกูลซูของเราไป มิเช่นนั้น แกก็ไปตายซะ!”
เสียงคำรามของซูเม่าเหวินยังคงดังมาจากโทรศัพท์ ในที่สุดก็ทำให้ซูเหวินปินตื่นจากภวังค์
ซูเหวินปินกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ผม ผมจะพยายาม”
“ไม่ใช่ให้พยายาม จะต้องทำให้สำเร็จ! มิเช่นนั้นตระกูลซูก็จบสิ้น! พวกเราทั้งหมดก็จะหมดสิ้นไม่เหลืออะไร! แกจะต้องทำให้เขาอภัยแกให้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของแกก็ตาม!”
ซูเหวินปินรู้สึกขมขื่น และวางสายโทรศัพท์อย่างเงียบ ๆ
“แก แกทำได้อย่างไร? แกเป็นใครกันแน่!”
ซูเหวินปินถามอย่างไม่พอใจ
“นี่คือสิ่งที่แกควรถามหรือ?”
หลี่โม่กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น
ซูเหวินปินรับรู้ถึงความเป็นจริงในทันที นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตนเองจะถามได้จริง ๆ คนที่มีความสามารถทำลายตระกูลซูได้ในชั่วพริบตาเดียว ต้องเป็นบุคคลที่มีฐานะภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่แน่นอน
เมื่อตระหนักถึงความเป็นจริงแล้ว ซูเหวินปินรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และกล่าวด้วยความกังวล “ผมผิดไปแล้ว ผมรู้ว่าผิดอย่างมหันต์ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
หลี่โม่มองซูเหวินปินอย่างตลก “แกขอโทษอย่างนี้หรือ? ถ้าหากคนอื่นขอโทษแกแบบนี้ แกจะยกโทษให้เขาไหม?”
“ไม่ ไม่ยกโทษให้ แต่ร่างกายของผม…….”
ซูเหวินปินร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากมีคนจะขอโทษตนเอง การคุกเข่าเป็นพื้นฐานที่สุด และการก้มกราบถึงจะเป็นการแสดงความจริงใจ
ตอนนี้ให้ซูเหวินปินคุกเข่าลงและก้มกราบ ซูเหวินปินรู้สึกว่าตนเองทำไม่ได้ เพราะแขนขวาและขาขวาถูกหลี่โม่ทุบจนกระดูกแตกร้าวหมด นี่จะให้คุกเข่ายังไง และจะก้มกราบได้อย่างไร!
“แกโทษฉันใช่ไหม?”
หลี่โม่ยิ้มและนั่งลงบนโซฟา
“ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมไม่ได้รับรู้เรื่องจริง ผมสำนึกผิดด้วยความจริงใจ ขอให้คุณดูการกระทำของผม”
ซูเหวินปินกัดฟันด้วยความเจ็บปวดลุกจากพื้นแล้วคุกเข่า ก้มกราบหลี่โม่
“ผมซูเหวินปินสำนึกผิดแล้ว ขอให้คุณหลี่โปรดยกโทษให้ผมด้วย คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ จะให้ผมตายก็ได้ ขอร้องได้โปรดปล่อยตระกูลซูไป คุณปล่อยตระกูลซูไปเถอะ”
หลี่โม่ส่ายศีรษะ ยืนขึ้นและเดินผ่านซูเหวินปินไป
ซูเหวินปินมองไปที่ร่างของหลี่โม่ที่เดินจากไปด้วยความหวาดกลัว แล้วตะโกนว่า “คุณหลี่ โปรดยกโทษให้ผมด้วย ได้โปรดปล่อยตระกูลซูไป ผมสำนึกผิดแล้ว!”
ขณะนี้ซูเหวินปินรู้สึกถึงความกลัวที่สุดในชีวิตของเขา และรู้สึกว่าตนเองถูกห้อมล้อมไปด้วยความหวาดกลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยความกลัวสุดขีด ทำให้ซูเหวินปินหน้ามืด และหมดสติไป
หลังจากที่หลี่โม่ออกจากคลับเฮาส์หลงถิง แล้วสูบบุหรี่ไปหนึ่งมวน จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่กลับไปที่เมืองฮ่าน เรื่องของตระกูลซูจัดการเรียบร้อยแล้ว หลี่โม่รู้ว่า ตระกูลกู้ยังมีเรื่องอีกมากมาย
……
ณ.ห้องประชุมของบริษัท กู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียง กู้ซิงเว๋ย กู้ชิงหลิน ทั้งหมดจ้องมองไปที่กู้หยุนหลันด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
กู้เจี้ยนกั๋วยังรู้สึกตะลึงอยู่ ฉากนี้คุ้นเคยดังกล่าว ทำให้กู้เจี้ยนกั๋วนึกถึงเรื่องของโอหยางจงเฉิงเมื่อไม่นานมานี้
“กู้หยุนหลัน! คุณกับหลี่โม่ได้ล่วงเกินใครไว้ ถึงทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้!”
กู้เจี้ยนเจียง เป็นคนแรกที่โจมตีกู้หยุนหลัน
กู้ชิงหลินกล่าวอย่างประชดประชันว่า “เรื่องนี้มันอาจเกิดจากการที่คุณไปยุ่งกับผู้ชายข้างนอกหรือเปล่า? สามีเศษสวะของคุณรู้ว่าถูกคุณสวมเขา ดังนั้นเขาจึงไปทำร้ายคนอื่นใช่ไหม จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายขนาดนี้”
“คุณพูดอย่าพล่อย ๆ ฉันไม่ได้ทำเช่นนั้น! หลี่โม่บอกว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เอง พวกคุณรอให้เขากลับมาจัดการดีไหม”
กู้หยุนหลันมองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาอ้อนวอน