จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 27
บทที่ 27 ลวนลาม
กู้หยุนหลันได้ยินดังนั้น ก็ใจเต้น แล้วถลนตามองหลี่โม่
เขากำลังพูดอะไรอยู่นะ?
พูดจริงๆ เลย ในตอนนั้น ใจของกู้หยุนหลันก็สั่นคลอน ถ้าหลี่โม่มีอำนาจและรวยจริงๆ มันจะเป็นอย่างไรนะ?
แต่ว่า มันเป็นไปได้หรือ?
“หลี่โม่ ฉันรู้ว่าคุณกำลังปลอบฉัน แต่ต่อไปคุณอย่าพูดแบบนี้อีก” สายสายตาของกู้หยุนหลันผิดหวังเล็กน้อย
หลี่โม่ยิ้ม แล้วพยักหน้า “ได้ ผมเข้าใจแล้ว”
กลางดึก
หลี่โม่นอนเอนหลังที่พื้น นอนไม่หลับ ฟังเสียงลมหายใจของคนข้างเตียง เขาก็รู้สึกว่าสบายใจ
กู้หยุนหลันนอนหันหลังให้หลี่โม่ เธอเองก็นอนไม่หลับ ในหัวก็เกิดแต่ภาพเหตุการณ์ตอนที่อยู่โรงแรมข่ายซ่ากงตลอดเวลา
3ปีมาแล้ว ในที่สุดเขาก็ใช้ได้ขึ้นมาบ้าง
คิดๆ ไป กู้หยุนหลันก็หันมา มองหลี่โม่ที่นอนอยู่ที่พื้น ลังเลอยู่สักพัก แล้วพูดว่า “ฉันว่า คุณขึ้นมานอนข้างบนดีกว่า”
หลี่โม่เอียงหัว แล้วยิ้มๆ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก”
แต่ว่า พอพูดจบ หลี่โม่ก็เหมือนสัมผัสอะไรได้ แล้วก็รู้สึกเสียใจภายหลังจนอยากทุบหน้าอกตนเอง
3ปีมานี้ กู้หยุนหลันเพิ่งพูดแบบนี้กับเขาเป็นครั้งแรก แต่เขากลับปฏิเสธไปอย่างโง่ๆ
จากนั้น เขาก็พลิกตัวไปมา แล้วก็ยิ้มมุมปากมองกู้หยุนหลัน พูดเบาๆ ว่า “เอ่อ เมื่อครู่คุณว่าไงนะ คุณว่า อะไรสักอย่างนะ?”
กู้หยุนหลันก็งอนไปแล้ว ไอ้ทึ่มนี่!
กว่าตัวเองจะรวบรวมความกล้าพูดออกมาได้ แต่เขากลับปฏิเสธไปง่ายเลยหรือ?
หลี่โม่บ้า!
นอนพื้นไปทั้งชีวิตเถอะ สมน้ำหน้า!
“ไม่มีอะไร หลับเถอะ!” กู้หยุนหลันโกรธ แล้วก็พลิกตัวไปแรงๆ แต่ว่า มุมปากก็ยังคงยิ้มอย่างมีความสุข แล้วก็หลับตาลงอย่างสงบใจ
หลี่โม่ก็ทำอะไรไม่ได้ ปวดเจ็บดั่งเข็มทิ่มแทง ไม่น่าพลาดเลย
เช้าวันต่อมา กู้หยุนหลันก็อารมณ์ดี ร้องเพลงเล่นจนมาถึงที่ทำงาน คนในบริษัท ก็มองเธออย่างแปลกๆ
“ทำไมผู้อำนวยการกู้ถึงได้อารมณ์ดีขนาดนั้น?”
“ไม่เข้าใจ เมื่อวานที่โรงแรมข่ายซ่ากงครึกครื้นขนาดนั้น หรือว่าจะไม่กระทบต่อเธอเลย?”
“เหอะๆ ผมคิดว่าแกล้งทำเป็นเข้มแข็งมากกว่า ไม่อยากขายหน้าต่อหน้าพวกเรา จะโทษก็โทษที่เธอไปแต่งงานกับคนที่ไม่เอาไหนเอง”
เรื่องเมื่อวานดังไปทั่วเมืองฮ่าน ทั้งทีวีและโลกออนไลน์ มีแต่การรายงานเรื่องดอกกุหลาบคริสตัลสีขาวของโรงแรมข่ายซ่ากง
ตอนที่ทุกคนกำลังประหลาดใจนั้น กู้หยุนหลันยังถูเอามาล้อเลียนได้อีก
คนในบริษัทส่วนใหญ่คิดว่า วันนี้กู้หยุนหลันคงจะไม่มาทำงานแน่ เพราะมีเรื่องขายหน้ามากมาย เป็นใครก็จิตใจไม่ดีกันทั้งนั้น
แต่ว่า ดูท่าทางของเธอแล้ว เหมือนกับเธอเป็นนางเอกของฉากเมื่อคืนอย่างนั้น ทักทายกับเพื่อนร่วมงานอย่างเป็นกันเอง
กู้ชิงหลินยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานหัวหน้ากลุ่ม สองมือกอดอก สายตาจ้องมองกู้หยุนหลันเดินเข้าห้องทำงานด้วยความริษยา แล้วส่งเสียงไม่พอใจ แล้วหันหน้าไปบอกกับกู้ซิงเว๋ยในห้องว่า “ดูยัยตัวดีนั่นสิ ยังจะมีหน้าทำท่าดีใจอีก ฉันละโมโหจริงๆ”
กู้ซิงเว๋ยไม่ค่อยได้มาตรวจงานที่ฝ่ายการผลิต เขานั่งที่โซฟาจิบน้ำชา ยิ้มพูดว่า “คุณก็ไม่ต้องรีบ รอคอยใจเย็นๆ เธอก็แค่แกล้งทำไปอย่างนั้นแหละ”
กู้ชิงหลินพูดอย่างโมโหว่า “สืบได้ความหรือยัง การร่วมมือกับบริษัทรุงคาง ว่ายัยกู้หยุนหลันเอาหน้าตาไปเข้าแรกมาหรือเปล่า”
กู้ซิงเว๋ยส่ายหัว สีหน้าก็จริงจังไป “ผมให้คนไปสืบแล้ว หรุงฉางเวยได้รับบาดเจ็บอยู่ที่คลับป่ายลี่เหริน กู้หยุนหลันก็ถูกคนช่วยไป ส่วนใครช่วยไปนั้น ยังสืบไม่ได้ เป็นไปได้ที่สุดก็คือ ยัยนั่นกับหรุงฉางเวยเกือบจะมีสัมพันธ์อะไรกัน”
“อะไรนะ? แล้วยัยนั่นมันเอาสัญญากับบริษัทรุงคางมาได้อย่างไร?” กู้ชิงหลินก็รีบร้อน เอามือกอดอก กัดปาก เดินไปเดินมาในห้องทำงาน
เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงกลางปี หรุงปินเอาสัญญามาส่งเอง เธอก็โกรธมากแล้ว
ในนั้น จะต้องเกิดเรื่องอะไรที่พวกเขาไม่รู้แน่ๆ
กู้ซิงเว๋ยไหล่ตกทำท่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่า เขาก็ยิ้มเบาๆ “คุณก็อย่ารีบร้อนไป ในเมื่อมันไม่เป็นอย่างนั้น พวกเราก็สร้างเรื่องมันขึ้นมาเองสิ อาศัยให้ผู้คนเขาแต่งเติมเรื่องราวเอาเอง ก็ไม่ธรรมดานะ”
กู้ชิงหลินได้ยินดังนั้น ก็คลายขมวดคิ้ว แล้วถามว่า “คุณหมายความว่า?”
กู้ซิงเว๋ยก็นั่งไขว่ห้าง แล้วทำท่าวางมาดนิ่งๆ “ก็ใส่ไข่มันไป สร้างเรื่องให้มันแดงขึ้นมา ผมไม่เชื่อหรอกว่า ถึงตอนนั้นกู้หยุนหลันจะยังคงนั่งนิ่งอยู่ในบริษัทได้”
กู้ชิงหลินตบมือ หางตาก็เผยความได้ใจ “ใช่นะสิ ทำไมฉันคิดไม่ถึงจุดนี้นะ กู้ซิงเว๋ย ไม่ธรรมดา ฉลาดจริงๆ”
กู้ซิงเว๋ยก็ยักไหล่ แล้วก็ดื่มชาต่อไป
กู้หยุนหลัน ครั้งนี้ ฉันจะให้แกมีชื่อเสียงเน่าเฟะ
ตระกูกลกู้และบริษัทวินเซิง จะไม่เหลือที่ให้แกยืน!
เปลี่ยนจุดโฟกัส หลังจากนั้นไม่นาน กู้ชิงหลินก็หอบเอาเอกสารมากมายมาที่ห้องทำงานของกู้หยุนหลัน สายตาก็ยังคงมีความเยาะเย้ยอยู่
“อ้าว อารมณ์ดีจังเลยนะ เรื่องที่โรงแรมข่ายซ่ากงเมื่อวาน เป็นอย่างไรบ้างละ? รู้สึกว่าตัวเองขายหน้าไหม รู้สึกว่าหลี่โม่ไม่เอาถ่านไหม?”
กู้ชิงหลินประชดไปไม่กี่คำ สายตาก็จ้องมองไปที่ตัวของกู้หยุนหลัน รูปร่างเหมือนนางเอกของงานเมื่อคืนเลย
เพียงแต่ กู้ชิงหลินคิดหรอกว่านางเอกของงานเมื่อคืนจะเป็นกู้หยุนหลัน
เพราะว่า เธอไม่คู่ควร!
วันนี้กู้หยุนหลันอารมณ์ดี ไม่อยากจะสนใจกู้ชิงหลิน พร้อมพูดว่า “เธออยากจะมาพูดให้ฉันเจ็บปวดหรือ อย่าลำบากเลย ฉันสบายดี เรื่องเมื่อคืน ไม่มีผลอะไรกับฉันทั้งสิ้น แต่เธอละ เดือนนี้ผลงานทีมเธอแย่มาก อาทิตย์ในการประชุมใหญ่ของบริษัท เธอจะอธิบายอย่างไร”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของกู้ชิงหลินก็เปลี่ยนไป
เธอกำลังสงสัยในความสามารถของตนเองอย่างนั้นหรือนี่?
“กู้หยุนหลัน เธอพูดให้ชัดเจนนะ อย่ามาเปลี่ยนเรื่องพูดถึงฉัน!ที่ผลงานทีมฉันมันแย่ ก็เป็นเพราะว่าผู้อำนวยการห่วยๆ อย่างเธอไง! ทำไม ได้เป็นผู้อำนวยการแล้ว ก็จะโยนขี้ให้ลูกน้องงั้นหรือ?” กู้ชิงหลินพูดอย่างโมโห
กู้ชิงหลินคิดว่าตนเองเก่งตลอด คิดว่าตนเองเก่งกว่ากู้หยุนหลัน
“แล้วทำไมฉันถึงได้เป็นผู้อำนวยการละ แต่เธอกลับได้เป็นแค่หัวหน้าทีม” กู้หยุนหลันพูดช้า แล้วก็ค่อยๆ เงยหน้ามองกู้ชิงหลินที่หน้าเสีย
“นี่แก……” กู้ชิงหลินโกรธจนหน้าเขียว โกรธชี้หน้ากู้หยุนหลัน พูดว่า “อย่าคิดว่าตัวเองได้เป็นผู้อำนวยการแล้วจะเก่งนะ อีกไม่นาน แกก็ต้องไสหัวไปจากที่นี่ นังชั่ว ฉันจะคอยดูวันที่แกล่มจม!”
ตุบ!
กู้ชิงหลินพูดจบ เอามือตบโต๊ะ แล้วหยิบเอกสารเดินจากไป
……
สายตากลับมามองที่หลี่โม่ เขาก็ไปทำงานตั้งแต่เช้า
เพิ่งเข้าประตูมา เขาก็รู้สึกว่าสายตาของพนักงานคนอื่นๆ มองเขาแปลกๆ ทุกคนนินทาเขาอย่างนู้นอย่างนี้
ถึงแม้ในใจของหลี่โม่จะไม่พอใจ แต่ก็ยังแสดงออกนิ่งๆ ถือเอกสารเข้าเวรวันนี้ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนั่งอยู่ที่ห้องพักพนักงาน เพื่อรอลูกค้าเรียก
“อ้าว หลี่โม่ยังกล้าเข้ามาทำงานด้วย ไม่กลัวขายหน้ารึไง”
“เหอะๆ เขาหรือจะขายใครอีก ขายหน้าไปหมดแล้วไง นึกถึงเมียเขาสิ นั่นแหละที่น่าอนาถของแท้ เรื่องโรงแรมข่ายซ่ากงเมื่อคืน เกรงว่าคงจะโดนเมียว่าไปไม่น้อย”
“สวะก็คือสวะ คนแบบนี้มาอยู่ในร้านเรา ก็ขายหน้าเปล่าๆ ถ้าเป็นผมนะ ลาออกไปนานแล้ว”
พนักงานชายสวมชุดสีขาวและพนักงานหญิงสวมชุดสีชมพู ต่างก็พากันนินทาหลี่โม่
แต่ละคำพูดมันช่างเสียดแทงหัวใจ
หลี่โม่ก็ส่ายหัว แล้วลุกขึ้น เตรียมจะจากไป
“หลี่โม่ หมายเลข56 เร็วหน่อย!”
ทันใดนั้น ก็มีคนเรียกหมายเลขเขา หลี่โม่ก็รีบถือกล่องอุปกรณ์ของตนเอง พยักหน้าโน้มตัวตอบรับว่า “ครับ มาแล้วๆ”
ที่นี่เป็นร้านนวดสปา จะจ่ายเงินตามบิลที่ได้ทำงานไป
พอเข้าไป หลี่โม่ก็โค้งคำนับอย่างมีมารยาท แล้วก็พูดกับผู้หญิงที่นอนเปิดแผ่นหลังอยู่บนเตียงว่า “คุณผู้หญิงครับ ผมคือหมอนวดหมายเลขที่17ของคุณ”
“อืม เข้ามาเถอะ”
ผู้หญฺงที่นอนคว่ำอยู่นั้น แผ่นหลังเรียบเนียน ดูไปแล้ว น่าจะอายุ20กว่าๆ ศีรษะก็พันด้วยผ้าขนหนู
หลี่โม่เดินเข้าไป เหลือบมองไป รู้สึกว่าร่างกายของผู้หญิงคนนี้ดีมาก เอวเล็กมีสะโพก ผิวชุ่มชื้น น่าจะเป็นที่มีเงินไม่น้อย
แต่ที่หลี่โม่ทำงานมาหลายปีนี้ ก็ไม่ได้มีความคิดชั่วแบบนั้นแล้ว พอพูดอะไรกันจบ หลี่โม่ก็เทน้ำมันอโรม่าลงบนตัวผู้หญิงคนนั้น แล้วก็เริ่มนวด
ในขณะที่นวด ผู้หญิงคนนั้นก็สบายตัวจนพูดออกมาว่า “ไม่เลวเลยนะ นวดได้ดีมาก”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง หลี่โม่ก็เก็บของ แล้วยิ้มพูดว่า “คุณผู้หญิงครับ เรียบร้อยแล้ว”
ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้น แล้วคลุมด้วยผ้าคลุม มองไปที่หลี่โม่ แล้วก็ร้องอย่างตกใจว่า “นายคือหลี่โม่หรือ?”
หลี่โม่ก็เงยหน้ามอง รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้า หน้าตาคุ้นๆ
“เหอะๆ ทำไมละ ไม่รู้จักฉันแล้วหรือ? ฉันไง ฟางถิง เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของกู้หยุนหลัน”
ตอนนี้ฟางถิงกำลังสวมชุดผ้าคลุมอยู่ ร่างกายยืนย้อนแสงอยู่ ทำให้หลี่โม่ไม่กล้ามองตรงๆ
แต่ว่า คำพูดต่อไปของเธอ ทำให้หลี่โม่ต้องขมวดคิ้ว
“ไม่เลวนะหลี่โม่ ไม่คิดว่านายจะมาทำงานที่นี่ ยอมลดตัวมาทำงานแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นคิดอย่างไร ทำไมกู้หยุนหลันทำไมถึงยอมแต่งกับนาย ฉันคิดว่าเธอจะแค่ล้อเล่น โชคดีที่ฉันไม่ได้ไปงานแต่งของนาย ไม่เช่นนั้น คงจะขายหน้าแย่”
ฟางถิงพูดหยิ่ง สองมือกอดอก สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก
หลี่โม่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่ เธอเป็นศัตรูตัวฉกาจของกู้หยุนหลัน
เคยได้ยินกู้หยุนหลันเคยบอกว่า ฟางถิงและเธอ ตอนอยู่มหาลัยก็ไม่ค่อยลงรอยกัน หาเรื่องกันตลอด เป็นคู่กัด ลิ้นกับฟันของแท้
4ปีก่อน ยังเคยตบหน้าหลี่โม่มาแล้ว ใส่ร้ายว่าเขาแอบจับก้นเธอ
ดังนั้น ในงานคืนสู่เย้า หลี่โม่ก็ทำให้กู้หยุนหลันขายหน้าไม่น้อย
ห่างมาจนวันนี้ ไม่คิดว่า จะมาพบกันที่นี่
“คุณฟางครับ เรียบร้อยแล้วครับ เชิญไปยังห้องพักผ่อน” หลี่โม่ไม่อยากพูดอะไรกับเธอ
แต่ว่า ฟางถิงไม่มีทางละเว้นหลี่โม่
ผัวะ!
เธอตบไปที่หน้าของหลี่โม่อย่างจัง สีหน้าก็ยังนิ่งๆ “หลี่โม่ ฝ่ามือนี้ คือฝ่ามือที่กู้หยุนหลันตบฉันในตอนนั้น วันนี้ฉันมาเอาคืน”
หลี่โม่ก็กำหมัด หางตาบีบตัว แล้วก็จ้องมองฟางถิงนิ่งๆ
เขาเป็นถึงเจ้านายของสำนักหลงเหมิน วันข้างหน้าก็จะได้เป็นหลงจวูน!
เป็นแค่ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนเดียว บังอาจกล้ามาตบ!
ที่ประตู ก็มีคนมาล้อมไม่น้อย มีแขก มีพนักงาน ต่างก็ซุบซิบกัน นินทากัน
แต่หางตาของฟางถิงก็เผยความร้ายออกมา แล้วก็ร้องว่าตะโกนว่า “เขาลวนลามฉัน พวกคุณเป็นร้านอย่างไรเนี่ย ไอ้บ้านี่ เมื่อครู่นี้มันจับก้นฉัน แล้วยังจะปล้ำฉันด้วย ผู้จัดการพวกแกอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการคำอธิบาย!