จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 272
คุกเข่า หรือไม่คุกเข่า?
นี่เป็นปัญหาที่เลือกยากมาก
สายตาของจางจงหยางกวาดไปมองที่ฉู่จงเทียนกับลู่เจี้ยนปินที่เหมือนเทพเจ้า สุดท้ายไปหยุดลงที่หลี่โม่
หลี่โม่นั่งนิ่งสงบ ใบหน้าของเขาไม่มีความโศกเศร้าหรือความปีติใด ๆ ราวกับว่าเขาไม่สนใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนนั้น
จางจงหยางจ้องไปที่ดวงตาของหลี่โม่อย่างดุดัน แทนที่จะเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของหลี่โม่ แต่กลับเห็นความเยาะเย้ยในดวงตาของหลี่โม่แทน
สำหรับหลี่โม่แล้ว จางจงหยางเป็นแค่เพียงคนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ฉู่จงเทียนต้องการแสดงความสามารถต่อหน้าเขา ดังนั้นหลี่โม่จึงให้โอกาสเขาแสดงความสามารถออกมา
ถึงแม้ว่าการเยาะเย้ยในดวงตาของหลี่โม่จะทำให้จางจงหยางรู้สึกขายหน้า จางจงหยางยังมีความกังวล เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ถือเสียว่าการขอโทษครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้หลุดพ้นจากฉู่จงเทียน กลับทำให้ไอ้หมอแซ่หลี่เป็นคนได้เปรียบ
จางจงหยางก้าวเดินไปอย่างหนักหน่วง แล้วคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าหลี่โม่ “ขอโทษครับคุณหลี่ ผมผิดไปแล้ว”
“ไม่มีความจริงใจ”
หลี่โม่กล่าวอย่างราบเรียบ
ฉู่จงเทียนใช้เท้าเหยียบเข่าอีกข้างที่ยังไม่ถึงพื้น เหยียบจนจางจงหยางได้ยินเสียงกระดูกตรงหัวเข่าดังก๊อกแก๊ก
“เมื่อก่อนฉันเคยสอนคุณยังไง ลืมไปหมดแล้วหรือ?”
ฉู่จงเทียนกล่าวด้วยเสียงเย็นชา
หน้าของจางจงหยางกระตุก เขามองไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ กล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “ผมจะจำเรื่องในวันนี้ไว้”
ในที่สุดเข่าข้างที่ไม่ลงพื้นก็ลงถึงพื้นเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้จางจงหยางได้คุกเข่าลงบนพื้นทั้งสองข้างแล้ว
ภาพนี้ทำให้เปลือกตาขอเฝิงจื่อฉายกระตุก เขารู้สึกเหน็บหนาวไปทั้งตัว
เขาเป็นถึงเจ้าพ่อของเมืองจินไห่ แต่กลับถูกเหยียบหยามขนาดนี้!
คุกเข่าข้างเดียวยังไม่พอ!
ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกสั่นสะท้าน ปกติสมองที่คิดคำนวณได้รวดเร็ว แต่ตอนนี้เหมือนสมองค้าง เหมือนโรคสมองเสื่อม มองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆกัดฟันแน่น หากความโกรธในดวงตาสามารถแผ่เผาได้ ก็แผ่เผาจนกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว
จางจงหยางมองหลี่โม่ไม่วางตา ราวกับว่าเขาต้องการที่จะจดจำใบหน้าของหลี่โม่ไว้ในสมอง จากนั้นจางจงหยางก้มกราบหลี่โม่สามครั้ง
“คุณหลี่ วันนี้ผมจางจงหยางได้ทำให้คุณขุ่นเคืองใจ ตามกฎธรรมเนียมของบ้านท่านเทียน ผมจะขอโทษด้วยการแทงตนเองสามครั้ง!”
กู้หยุนหลันรู้สึกเครียดเล็กน้อย หันหลังไปไม่มองจางจงหยาง การแทงตนเองสามครั้งจะต้องมีเลือดไหลมากมาย กู้หยุนหลันไม่อยากเห็นฉากนองเลือด
เมื่อหลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันมองไปทางอื่น เขารู้ว่ากู้หยุนหลันไม่สามารถมองเลือดได้ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าทำให้ที่นี่สกปรก มันขวางหูขวางตา”
จางจงหยางโกรธจนหน้าเขียว เขาเป็นถึงเจ้าพ่อ ขอโทษคุกเข่าก้มกราบแล้วแทงตนเองสามครั้ง นี่เป็นวิธีการขอโทษสูงสุดแล้ว แต่หลี่โม่กลับบอกว่ามันขวางหูขวางตา!
เฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ ตกตะลึง การคุกเข่าก้มกราบสามครั้งอย่างมากสุดแค่ขายหน้า แต่แทงตนเองสามครั้ง……….มันเป็นเรื่องยากที่จะทำได้
แล้วอีกสักครู่เขาจะขอโทษหลี่โม่ด้วยวิธีใด?
ถ้าปฏิบัติตามวิธีจางจงหยาง เฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆรู้สึกว่าตนเองจะต้องบ้าแน่
ฉู่จงเทียนโค้งคำนับและกล่าวว่า “คุณหลี่พูดถูก ผมจะพาพวกเขาออกไปปฏิบัติตามกฎธรรมเนียมข้างนอก รับรองว่าเสร็จสมบูรณ์แน่นอน”
“ไปเถอะ”
ฉู่จงเทียนจ้องมองไปที่จางจงหยาง กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “ตามผมออกไปข้างนอก”
“โอเค ท่านเทียน นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเรียกคุณว่าท่านเทียน วันนี้คุณทำลายความสัมพันธ์อันดีเพราะไอ้ยาจกคนนี้ ดังนั้นในอนาคตอย่าโทษว่าผมจางจงหยางไร้ความปรานี”
“ฮ่า ๆ”
ฉู่จงเทียนหัวเราะอย่างเหยียดหยาม คิดในใจว่าคุณได้ล่วงเกินเจ้านายของสำนักหลงเหมิน การที่ให้คุณแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)เป็นการช่วยคุณ แต่ว่าคุณกลับมองข้ามความหวังดีของผู้อื่น
ฉู่จงเทียนพาจางจงหยางออกไปจากห้องประมูล ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงจางจงหยางดังมาจากข้างนอกสามครั้ง เห็นได้ชัดว่าจางจงหยางแทงตนเองสามครั้งจริงๆ
ลู่เจี้ยนปินยิ้มที่มุมปาก มองไปที่เฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆ แล้วกล่าวว่า “ถึงเวลาของพวกคุณแล้ว”
เหอลี่ฉุน กล่าวด้วยเสียงสั่นว่า “พวกเรา พวกเราว่าเขาไปแค่ไม่กี่คำ แค่ขอโทษก็น่าจะเพียงพอมั้ง”
“ใช่ พวกเราไม่ต้องถึงกับแทงตนเองสามครั้งก็ได้มั้ง ให้พวกเราคุกเข่าก้มกราบขอโทษก็ได้”
ไป๋เชียนหลี่กล่าวอย่างประหม่า
เฝิงจื่อฉายอดทนต่อความกลัวและความโกรธในใจ มองไปที่หลี่โม่และกล่าวว่า “ทางที่ดีอย่าให้มันเกินไป ที่นี่คือเมืองจินไห่ มีท่านเทียนและลุงลู่ปกป้องคุณได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่สามารถปกป้องคุณได้ทั้งชีวิต!”
“คุณ ไม่เต็มใจยอมรับหรือ?”
หลี่โม่หัวเราะแล้วกล่าวถาม
“ไม่เต็มใจยอมรับแน่นอนอยู่แล้ว! ถ้าไม่มีท่านเทียนกับลุงลู่ปกป้องคุณ คุณคิดว่าคุณเป็นตัวอะไร! ถ้าคุณมีความสามารถก็มาพนันกับผมสักครั้ง” เฝิงจื่อฉายตะคอก
“โอเค”
หลี่โม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เฝิงจื่อฉายผงะไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าหลี่โม่จะตกลงง่ายดายเช่นนี้ เดิมเขาคิดว่าจะใช้เวลาพูดครึ่งค่อนวัน
หลี่โม่มองไปที่เฝิงจื่อฉายด้วยท่าทางกวน ๆ “แล้วแต่คุณจะพนันอย่างไร ถ้าหากคุณแพ้ พวกคุณทุกคนจะต้องปฏิบัติตามวิธีการขอโทษของจางจงหยาง คือต้องคุกเข่าก้มกราบสามครั้ง และแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)”
“เฮียฉาย คุณ คุณมั่นใจไหม ถ้าแพ้จะต้องแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)”
ไป๋เชียนหลี่ถึงแขนเฝิงจื่อฉายแล้วถาม
เฝิงจื่อฉายพยักหน้าอย่างหนักแน่น หินธรรมชาติก้อนนั้นผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันธรณีวิทยาและเหมืองแร่เคยตรวจสอบดูแล้ว ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงในแวดวงการพนันหิน และเขามองไม่พลาดอย่างแน่นอน
แล้วเฝิงจื่อฉายยังรู้อีกว่า การประมูลหินหยกครั้งนี้นี้เป็นหินหยกธรรมชาติได้รับความนิยมมาก ส่วนมากจะเป็นหินธรรมชาติธรรมดาทั่วไป มีเพียงหินธรรมชาติก้อนนั้นเท่านั้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นของที่ดีที่สุด
“คุณวางใจเถอะ ไม่แพ้แน่นอน!”
เฝิงจื่อฉายกล่าวด้วยความมั่นใจ
เมื่อเห็นว่าเฝิงจื่อฉายมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆต่างก็ฝากความหวังไว้ที่เฝิงจื่อฉาย
ไม่มีปัญหา ขอแค่คุณชนะ ผมก็จะคุกเข่าลงก้มกราบสามครั้ง และแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง) แต่ถ้าผมชนะ คุณก็จะต้องคุกเข่าลงก้มกราบสามครั้ง และแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)เช่นกัน”
“ตกลง ให้ลุงลู่เป็นพยาน”
หลี่โม่ชี้ไปที่ลู่เจี้ยนปิน
ลู่เจี้ยนปินยิ้มและกล่าวว่า “คุณอย่าเรียกผมว่าลุงลู่ เรียกผมว่าลู่เจี้ยนปินก็พอ”
“มองลู่เจี้ยนปินประจบหลี่โม่ เฝิงจื่อฉายคิดว่าลู่เจี้ยนปินนั้นแก่แล้วจริงๆ ถึงได้เกรงกลัวเขยเศษสวะคนนี้
“โอเค บอกไว้ก่อน ผมจะประมูลหินหยกธรรมชาติหมายเลข 9 คุณเลือกจากหินหยกธรรมชาติที่ประมูลมาหนึ่งก้อน หลังจากนั้นพวกเราตัดหินหยกธรรมชาติออกเพื่อพนันดูว่าหินหยกธรรมชาติของใครมีคุณภาพดีกว่า”
หลังจากที่เฝิงจื่อฉายพูดจบก็มองไปที่หลี่โม่อย่างหยิ่งผยอง รู้สึกว่าคราวนี้ตนเองชนะแน่นอน แม้ว่าฉู่จงเทียนและลู่เจี้ยนปินจะอยู่ข้างหลี่โม่ ครั้งนี้พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยหลี่โม่ได้ คนน่ะ ถ้าตนเองรนหาที่ตายจะห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้
เฝิงจื่อฉายรู้สึกว่าหลี่โม่กำลังรนหาที่ตาย ตอนนี้ในสมองของเขาได้ปรากฏภาพที่หลี่โม่คุกเข่าให้ตนเอง
เปลือกตาของลู่เจี้ยนปินกระตุกสองครั้ง ไม่คิดว่าเฝิงจื่อฉายจะพนันด้วยวิธีนี้
“ช้าก่อน การพนันดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล”
ลู่เจี้ยนปินต้องการพลิกสถานการณ์ เพราะเขาไม่สามารถปล่อยให้หลี่โม่แพ้ต่อหน้าตนเอง
“ลุงลู่ คุณหมายความว่ายังไง?”
เฝิงจื่อฉายมองไปที่ลู่เจี้ยนปินด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
หลี่โม่โบกมือ “พนันด้วยวิธีนี้แหละ”