จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 275
การประมูลใกล้จะสิ้นสุด และหินธรรมชาติที่ผู้เชี่ยวชาญชื่นชอบมากที่สุด ถูกเฝิงจื่อฉายประมูลไปในราคาหนึ่งล้านหยวน
“เฮียฉายสุดยอดมาก เพิ่มราคาสองครั้งจนทำให้ผู้ชมตกใจไม่มีใครกล้าเสนอราคาแข่งกับเฮียฉายอีกเลย”
“คาดว่าผู้ตั้งประมูลคงอยากร้องไห้ ผมได้ยินมาว่าหินธรรมชาติชิ้นนี้มีมูลค่าประมาณหกหรือเจ็ดล้าน แต่เฮียฉายประมูลมาด้วยราคาแค่หนึ่งล้าน”
“พวกเราประมูลหินธรรมชาติได้แล้ว ไอ้คนไร้ประโยชน์ยังไม่เคลื่อนไหว เป็นเพราะกลัวพวกเราจนโง่ไปแล้วใช่ไหม จะลองไปดูมันหน่อยมั้ย”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ จ้องมองที่ไปหลี่โม่ตลอด ในห้องประมูลมีแต่หลี่โม่คนเดียวที่ไม่ยกป้ายประมูล ทำให้เหอลี่ฉุนและคนอื่นๆ ดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่
เฝิงจื่อฉายยิ้มเยาะเย้ย ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ไป ไปทำให้ไอ้เศษสวะอับอายขายหน้า ตอนนี้ที่เหลืออยู่ชิ้นเดียวคือหินธรรมชาติที่คุณภาพแย่ที่สุด คาดว่าเงินที่ไอ้เศษสวะมีคงซื้อได้แค่หินธรรมชาติก้อนนั้น”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ เดินตามเฝิงจื่อฉายไปหาหลี่โม่ เวลานี้การประมูลกำลังจะจบ ตอนนี้เหลือหินธรรมชาติที่คุณภาพแย่ที่สุดเพียงชิ้นเดียว ไม่มีใครสนใจประมูล และทุกคนเอาแต่จ้องเฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ
กลุ่มเฝิงจื่อฉายเดินไปหยุดข้างหลี่โม่ กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางเปลี่ยนไปนั่งที่อื่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่โม่
หวังฟางพยายามดึงตัวกู้หยุนหลันออกจากหลี่โม่ แต่กู้หยุนหลันปฏิเสธ หวังฟางจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้
“เจี้ยนเฟิง คนพวกนี้คือเพื่อนร่วมธุรกิจของคุณใช่ไหม? สักครู่คุณต้องดูแลหยุนหลันให้ดี อย่าให้หยุนหลันได้รับผลกระทบ”
หวังฟางดึงตัวฮั่วเจี้ยนเฟิงและพูดกำชับ
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณป้าโปรดวางใจ หยุนหลันจะไม่มีปัญหาใด ๆ พวกเขาพุ่งเป้าไปที่หลี่โม่เท่านั้น”
จากนั้นหวังฟางถึงจะหายห่วง และกระซิบว่า “ทางที่ดีที่สุดให้ไอ้หายนะนั้นตาย จะได้ไม่อยู่ทำร้ายคนอื่นได้อีก”
เฝิงจื่อฉายมองไปที่กู้หยุนหลันแวบหนึ่ง จากนั้นก็แหงนหน้า เหลือบมองหลี่โม่
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ การประมูลใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นี่เป็นหินธรรมชาติชิ้นสุดท้ายแล้ว แม่งแกรีบเสนอราคาประมูล หรือว่าแกยากจนมากจนไม่สามารถเพิ่มราคาประมูลหนึ่งร้อยได้?”
“ผมไม่คิดว่าไอ้คนไร้ประโยชน์จ่ายไม่ได้แม้แต่สักแดงเดียว คาดว่าเดือนนี้ภรรยาไม่ได้ให้เงินค่าขนม ไอ้เศษสวะที่เกาะเมียกินคนนี้มันน่าสังเวชเสียจริง”
“แกคิดว่าถ้าไม่ประมูลหินธรรมชาติ ก็ไม่ต้องพนันกับพวกเราแล้วใช่ไหม? ถ้าแกไม่มีหินธรรมชาติ แกก็แพ้พนันโดยตรง แม้แต่ท่านเทียนก็ไม่สามารถปกป้องแกได้”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ หัวเราะเฮฮาดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่ รู้สึกมีความสุขมาก พวกเขารู้สึกว่าเมื่อสักครู่ที่ต้องทนรองรับอารมณ์ของฉู่จงเทียนและลู่เจี้ยนปิน ความโกรธพวกนั้นได้ระบายออกมาจนหมดแล้ว
เฝิงจื่อฉายยิ้มเยาะเย้ยแล้วกล่าวว่า “คนไร้ประโยชน์ ถ้าแกไม่มีเงินประมูล ก็คุกเข่าลงเรียกฉันว่าพ่อ แค่แกเรียนฉันว่าพ่อ ฉันก็จะประมูลหินธรรมชาติก้อนนั้นให้แก ให้โอกาสแกได้เปลี่ยนโชคชะตาของตนเอง”
ผู้ประมูลทั้งหมดรายล้อมเข้ามารวมตัวกัน พวกเขาเฝ้าดูอย่างสอดรู้สอดเห็น ไป๋เชียนหลี่บอกกับผู้คนรอบ ๆถึงข้อตกลงการพนันของหลี่โม่กับเฝิงจื่อฉาย
ผู้คนรอบ ๆที่สอดรู้สอดเห็นได้ฟังแล้วก็หัวเราะดัง รู้สึกว่าหลี่โม่ไม่เจียมตัว
“นี่ล้อเล่นหรือ? หินธรรมชาติก้อนสุดท้ายนี้ไม่โปร่งแสง ไม่มีลักษณะผิวของหินหยกธรรมชาติเลย คาดว่าเป็นหินธรรมดาที่ปะปนเข้ามา”
“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหินหยกธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีทางเทียบได้กับหินธรรมชาติที่เฮียฉายประมูลได้ หินธรรมชาติก้อนนั้นของเฮียฉายผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ตรวจดูแล้ว ต่างก็บอกว่าเป็นหินธรรมชาติที่มีคุณภาพดีและหายาก”
“นี่ยังจะพนันอะไรกันอีก ถ้าเป็นผม ผมจะคุกเข่าลงให้เฮียฉายโดยตรงเลย เกียรติยศเป็นแค่หัวโขน การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งสำคัญกว่า”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพวกสอดรู้สอดเห็น ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกกังวลมาก
เดิมคิดว่าหลี่โม่เสี่ยงมากแล้ว หลังจากได้ยินเสียงพึมพำของคนเหล่านี้แล้ว ยิ่งทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกว่าหลี่โม่จะพ่ายแพ้
หลี่โม่ยิ้ม แล้วชูป้ายประมูล โบกมือให้กับพนักงานประมูล
พนักงานประมูลที่มองดูห้องประมูลที่วุ่นวายจนอยากร้องไห้ และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกับสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้
เดิมของที่ประมูลชิ้นสุดท้ายนี้จะจัดการตามลำดับขั้นตอนการประมูล พนักงานประมูลเห็นหลี่โม่โบกป้ายประมูล
พนักงานประมูลรู้สึกตื่นเต้น กล่าวเสียงดังว่า “คุณหมายเลข 99 เสนอราคาหนึ่งร้อยหยวน มีใครจะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหม?”
เฝิงจื่อฉายกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “เพิ่มราคาเหี้ยอะไร รีบตกลงซื้อขาย ไม่เห็นหรือว่าฉันมีธุระต่อ!”
“ครับ ๆ”
พนักงานประมูลตกใจจนหดคอ โบกค้อนไม้ในมือแล้วเคาะลงทันที
“ยินดีกับคุณหมายเลข 99 ที่ประมูลหินหยกธรรมชาติก้อนนี้ด้วยราคาหนึ่งร้อยหยวน”
สีหน้ากู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางเคร่งขรึม รู้สึกว่าหลี่โม่ทำให้ขายหน้า และคิดว่าอีกสักครู่หลี่โม่จะทำให้ขายหน้ามากไปกว่านี้อีก ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ดูต่อไป
“เจี้ยนเฟิง พวกเราจะกลับโรงแรมก่อน คุณช่วยดูแลหยุนหลันหน่อย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับไอ้คนไร้ประโยชน์นั้น คุณไม่ต้องสนใจ แค่พาหยุนหลันกลับมาก็พอแล้ว”
สีหน้าฮั่วเจี้ยนเฟิงมีความสุข พยักหน้าและกล่าวว่า “คุณป้า คุณลุง พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมจะดูแลหยุนหลันอย่างดีแน่นอน”
กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางเดินออกไปพร้อมกัน ฮั่วเจี้ยนเฟิงมองหลี่โม่ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ไอ้เศษสวะ ถึงเวลาไปตัดหินธรรมชาติแล้ว แกรอคุกเข่าขอร้องพวกเราเถอะ”
เฝิงจื่อฉายกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น
หลี่โม่ดึงกู้หยุนหลันลุกขึ้นยืน และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมจะไปจ่ายเงิน”
“จะไปจ่ายเงินเหี้ยอะไร แกเก็บเงินหนึ่งรอยนี้ไว้เตรียมตัวไปโรงพยาบาลเถอะ!”
เฝิงจื่อฉายหันไปมองเหอลี่ฉุน
เหอลี่ฉุนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เครื่องตัดหินถูกติดตั้งไว้ข้างนอก ตอนนี้ไปตัดหินได้แล้ว”
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ แกเอาหินธรรมชาติของแกตามพวกเราไป”
พนักงานประมูลได้เตรียมรถเข็นไว้แล้ว หินธรรมชาติที่เฝิงจื่อฉายประมูลถูกนำใส่รถเข็น ในขณะที่หินธรรมชาติที่หลี่โม่ประมูล ถูกโยนไปที่ข้างเท้าของหลี่โม่
เฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆเดินออกไปข้างนอก และกลุ่มคนที่สอดรู้สอดเห็นก็รีบเดินตามไปข้างนอก
หลี่โม่ก้มลงไปอุ้มหินธรรมชาติ กู้หยุนหลันมองไปที่หลี่โม่ด้วยความกังวล
“คุณจะไปพนันกับพวกเขาจริงเหรอ? ถึงแม้ว่าคุณจะไปพนันกับพวกเขา คุณควรบอกให้ฉู่จงเทียนทราบ มิเช่นนั้นอีกสักครู่ถ้าคุณแพ้พนันแล้ว…….”
กู้หยุนหลันไม่กล้าคิด ผลที่ตามมาจากการแพ้พนัน แทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง) คิดแล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
หลี่โม่พากู้หยุนหลันเดินออกไปข้างนอก กล่าวช้า ๆว่า “ถึงฉู่จงเทียนจะอยู่ด้วยก็ไม่มีประโยชน์ มันต้องมีกฎกติกา และเขาก็ไม่สามารถแหกกฎกติกาของการยอมรับเมื่อตัวเองพ่ายแพ้ได้”
“ทำไมคุณถึงไม่ร้อนใจเลย ถ้าแพ้จะต้องแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)!”
กู้หยุนหลันรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องกังวล คุณเชื่อผมหรือไม่? ผมเป็นคนที่โชคดีมาก หยกที่ผมมอบให้งานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อครั้งก่อนเป็นหยกที่มีคุณภาพในพิเศษ คราวนี้ผมก็สามารถชนะพวกเขาด้วยโชคได้เช่นกัน”
หลี่โม่กล่าวด้วยท่าทางมั่นใจ
กู้หยุนหลันรู้สึกมึนงง เมื่อนึกถึงของขวัญวันเกิดที่หลี่โม่มอบให้กู้เจี้ยนหมินในงานเลี้ยงวันเกิด
“โชคของคุณดีเสมอมาเลยหรือ? บางทีโชคทั้งหมดของคุณอาจจะใช้หมดไปเมื่อคราวที่แล้วก็ได้”
กู้หยุนหลันยังคงกังวล
“ในโลกนี้ไม่มีใครโชคดีไปกว่าผมแล้ว เพราะว่าผมได้พบเจอคุณ”
หลี่โม่กล่าวแล้วมองไปที่กู้หยุนหลันด้วยสายตาอ่อนโยน