จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 280
วันรุ่งขึ้น
ใกล้เที่ยง กู้เจี้ยนกั๋วได้พากู้เจี้ยนเจียง และกู้ซิงเว๋ย ไปยืนที่ประตูของบริษัท เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ
ไม่นานรถออดี้สามคันก็มาจอดอยู่ที่ประตูอาคาร ใบหน้ากู้เจี้ยนกั๋วเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเดินไปที่รถออดี้สามคันนั้น
ประตูของรถออดี้สามคันเปิดออกพร้อมกัน มีเด็กหนุ่มสามคนลงจากรถ ทำให้กู้เจี้ยนกั๋วตกตะลึงเล็กน้อย
เดิมพวกเขาจะมาต้อนรับผู้จัดการสินเชื่อของสามธนาคาร แต่กู้เจี้ยนกั๋วมองไปที่เด็กหนุ่มแปลกหน้าสามคนที่ลงมาจากรถ เขารู้สึกสับสนฐานะของพวกเขา
“พวกคุณคือ?”
กู้เจี้ยนกั๋วถามด้วยความสงสัย
“ฉันเป็นพนักงานของธนาคารจงเต้า นี่เป็นจดหมายอย่างเป็นทางการจากธนาคารของเรา โปรดเซ็นชื่อด้วย”
“ฉันเป็นพนักงานของธนาคารเมืองฮ่าน ฉันก็มาส่งจดหมายอย่างเป็นทางการจากธนาคารของเราเหมือนกัน โปรดเซ็นชื่อด้วย”
“จดหมายอย่างเป็นทางการมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าคนที่พวกคุณตระกูลกู้ล่วงเกินจะไม่ธรรมดา”
กู้เจี้ยนกั๋วตกตะลึง มองไปที่พนักงานทั้งสามธนาคารด้วยความงุนงง ความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจ
“ผู้จัดการของพวกคุณล่ะ มีโทรศัพท์แจ้งว่าผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารของพวกคุณกำลังจะมา!” กู้เจี้ยนกั๋วถามเสียงดัง
กู้เจี้ยนเจียงกับกู้ซิงเว๋ยรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปกติ จึงเดินเข้าไปสอบถาม
“ผู้จัดการของพวกเราไม่เวลาสนใจพวกคุณ พวกคุณดูจดหมายอย่างเป็นทางการดีกว่า พวกเราขอตัวก่อน”
พนักงานทั้งสามคนยัดจดหมายอย่างเป็นทางการลงในมือของกู้เจี้ยนกั๋ว หันหลังแล้วเดินขึ้นรถออดี้
หลังจากมองดูรถออดี้ขับออกไป กู้เจี้ยนกั๋วจึงก้มลงดูจดหมายอย่างเป็นทางการที่อยู่ในมือ
จดหมายอย่างเป็นทางการเป็นปกมาตรฐาน ซึ่งพิมพ์ชื่อและโลโก้ของธนาคารต่าง ๆไว้
มือของกู้เจี้ยนกั๋วที่ถือจดหมายสั่น ไม่กล้าเปิดดูจดหมาย เหมือนว่าถ้าเปิดจดหมายแล้วจะเจอสัตว์ประหลาดบินออกมา
“พ่อ เปิดดูเถอะ ยังไงก็ต้องรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
กู้ซิงเว๋ย กระซิบ
กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้า กระซิบว่า “ไปห้องประชุม”
ทั้งสามคนเดินไปห้องประชุมพร้อมกัน กู้เจี้ยนกั๋ววางจดหมายไว้ตรงหน้ากู้ซิงเว๋ย “ลูกเป็นคนเปิด ดูว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ แล้วบอกพวกเรา”
หลังจากพูดจบกู้เจี้ยนกั๋วเอามือปิดหน้า และอธิษฐานอยู่ในใจ
กู้ซิงเว๋ยหยิบจดหมายแล้วเปิดออก หลังจากเหลือบมองใบหน้าของกู้ซิงเว๋ยก็ขาวซีดเผือด
“คือ มันคือเป็นจดหมายอย่างเป็นทางการที่ระงับสินเชื่อ ระงับเงินกู้ยืมของพวกเรา และเงินสดในบัญชีของพวกเราก็ถูกระงับ ยังเรียกร้องให้พวกเราชำระคืนเงินกู้ทั้งหมดภายในหนึ่งอาทิตย์ หากเกินกำหนดจะประมูลขายหลักทรัพย์ค้ำประกันของพวกเรา”
กู้ซิงเว๋ยพูดด้วยริมฝีปากที่สั่น และมองไปที่จดหมายอีกสองฉบับ
ในความงุนงง กู้ซิงเว๋ยรู้สึกว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่จดหมายอย่างเป็นทางการ แต่เป็นจดหมายเร่งให้ตาย!
นี่มันเป็นการเอาชีวิต มันเป็นการเอาชีวิตของตระกูลกู้!
เงินสดในบัญชีถูกระงับ เรียกร้องให้ชำระคืนเงินกู้ทั้งหมดภายในหนึ่งอาทิตย์ เช่นนี้ทำให้แหล่งเงินทุนของตระกูลกู้ถูกตัด!
“นี่แสดงว่ามีคนกำลังเล่นงานพวกเรา”
กู้ซิงเว๋ยคำรามอย่างเคียดแค้น
สีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงขาวซีดเผือด ทั้งสองได้เห็นเรื่องราวเลวร้ายต่าง ๆมามากขึ้น เรื่องที่คิดได้ก็มากเช่นกัน
สามารถทำให้ทั้งสามธนาคารทำสิ่งนี้พร้อมกัน ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทำได้ คนที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ จะต้องเป็นบุคคลชั้นนำของเมืองฮ่านแน่นอน
เร็ว ๆนี้ได้ล่วงเกินใครไว้หรือ?
กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ได้ล่วงเกินใครเลย!
“พี่ใหญ่ พี่ไปถามข่าวจากคนสนิทในธนาคารก่อน ให้รู้ชัดเจนก่อนว่าใครกำลังเล่นงานพวกเรา ถ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนทำ จะหาคนไกล่เกลี่ยก็ไม่สามารถทำได้”
กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้า ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออก
หลังจากโทรติดแล้ว พูดไม่ถึงสองสามคำก็ถูกวางสาย กู้เจี้ยนกั๋วโทรไปสามที่ติดต่อกันก็เป็นเหมือนกันทั้งหมด
“พี่ใหญ่ สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
กู้เจี้ยนเจียงกระซิบถาม
กู้เจี้ยนกั๋วส่ายศีรษะอย่างช้า ๆ “ไม่ได้เรื่องอะไรเลย พวกเขาบอกให้ฉันหยุดถาม ถึงถามก็ไม่ตอบ พวกเขายังบอกอีกว่าเราควรเตรียมเงินให้เร็วที่สุด หากถึงเวลาแล้วพวกเรายังไม่จ่าย จะฟ้องร้องและนำทรัพย์สินของพวกเราไปประมูลขายโดยเร็วที่สุด”
“ฮืด!”
กู้เจี้ยนเจียงหายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“คนที่สามารถทำสิ่งนี้ได้ สามารถนับได้เพราะมีไม่กี่คน และพวกเราไม่ได้ล่วงเกินพวกเขาเหล่านี้เลย”
สีหน้าของกู้ซิงเว๋ยเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็ตบโต๊ะอย่างดุเดือด “มันต้องเกี่ยวข้องกับไอ้เศษสวะหลี่โม่แน่นอน! ไอ้ไร้ประโยชน์มันมักก่อเรื่อง เพราะพวกเราไม่ได้ก่อเรื่องอะไรเลย มันต้องเป็นคนก่อเรื่องแน่นอน! เรื่องคราวก่อนมันก็เป็นก่อขึ้นมา!”
กู้เจี้ยนเจียงพยักหน้า รู้สึกว่าสิ่งที่กู้ซิงเว๋ยพูดมีเหตุผลมาก
“ฉันรู้สึกแบบเดียวกัน เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับไอ้เศษสวะแน่นอน และกู้หยุนหลันก็ต้องเกี่ยวข้องด้วย!”
กู้เจี้ยนกั๋วสีหน้าเคร่งขรึม หยิบโทรศัพท์มือถือโทรไปหากู้หยุนหลัน
หลังจากโทรติดแล้ว กู้เจี้ยนกั๋วตะคอกเสียงดังว่า “กู้หยุนหลัน! พาสามีไร้ประโยชน์ของคุณมาที่ห้องประชุมของบริษัท!”
“ลุงใหญ่ มีธุระอะไร?”
กู้หยุนหลันถามด้วยความสงสัย
“บริษัทกำลังจะปิดตัวลงเพราะพวกคุณทำให้หายนะ! คุณยังมีหน้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น! ฉันจะให้เวลาคุณสามนาที ถ้าถึงสามนาทีแล้วยังมาไม่ถึง พวกคุณก็รอถูกไล่ออกจากตระกูลเถอะ!”
กู้เจี้ยนกั๋วกล่าวจบก็โยนโทรศัพท์มือถือไปบนโต๊ะอย่างแรง
กู้หยุนหลันเก็บโทรศัพท์มือถือ ถอนหายใจเบา ๆ “หลี่โม่ คิดว่าคนพวกนั้นที่อยู่เมืองจินไห่เริ่มแก้แค้นแล้ว ลุงใหญ่ให้พวกเราไปบริษัทตอนนี้”
“งั้นก็ไป ถ้าเป็นเรื่องนี้เกี่ยวกับพวกเมืองจินไห่จริง ๆ ผมจะจัดการแก้ปัญหาเอง”
กู้หยุนหลันอยากจะถามหลี่โม่ว่า จะเอาปัญญาอะไรไปแก้ปัญหา แต่เมื่อเห็นหลี่โม่มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก กู้หยุนหลันก็ไม่ได้พูดในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด
หลังจากผ่านแผนสกปรกมากมาย กู้หยุนหลันรู้สึกมั่นใจในตัวหลี่โม่มากขึ้น และเธอก็คาดเดาบางอย่างได้
หลี่โม่จูงมือกู้หยุนหลัน ทั้งสองออกจากบ้านด้วยกัน และตรงไปที่บริษัท
เมื่อพวกเขามาถึงห้องประชุมของบริษัท กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆกำลังโมโหเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินเข้าประตูมา กู้เจี้ยนกั๋วหยิบแก้วน้ำขึ้นมา แล้วขว้างไปที่หลี่โม่ หลี่โม่เบี่ยงตัวหลบ ทำให้แก้วน้ำกระแทกไปที่ผนังห้อง
“แกไอ้คนไร้ประโยชน์! เรื่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทแกเป็นก่อเรื่องใช่ไหม!”
กู้เจี้ยนกั๋วคำรามด้วยความโกรธ
“ลุงใหญ่ ใจเย็น ๆ ลุงพูดให้ชัดเจนก่อน”
กู้หยุนหลันถามอย่างกังวล
กู้ซิงเว๋ยโยนจดหมายอย่างเป็นทางการสามฉบับไปตรงหน้ากู้หยุนหลัน
“ดูให้ดี ๆ! ธนาคารระงับสินเชื่อของพวกเรา! มันต้องเกิดจากพวกคุณแน่ๆ!”
หลี่โม่เหลือบมองจดหมาย และกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ทำไมคุณถึงพูดว่ามันเกี่ยวข้องกับพวกเรา คุณมีหลักฐานหรือ?”
“แก!”
ชี้ไปที่หน้าของหลี่โม่ด้วยความโกรธ
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดจาพล่อย ๆ”
“ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน! เพราะพวกเราไม่เคยล่วงเกินใคร มีแต่ไอ้เศษสวะอย่างแกที่มักล่วงเกินคนอื่น แกลองคำนวณดูว่า ช่วงนี้แกได้ก่อเรื่องหายนะกี่ครั้งแล้ว? ครั้งนี้ก็ต้องเป็นแกแน่นอน!”
กู้เจี้ยนเจียงเคาะโต๊ะ ก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “ถ้าแกก่อเรื่องก็อธิบายมา พวกเราจะหาวิธีช่วยแก แต่ถ้าแกไม่พูดอะไร คนทั้งตระกูลก็จะตายเพราะแก!”
“มีอะไรน่าอธิบาย เกิดเรื่องแล้ว ผมจะจัดการเคลียร์ให้จบ โอเคไหม”
หลี่โม่กล่าวอย่างดูถูก
“แกจะจัดการเคลียร์ให้จบ? แกสามารถจัดการเคลียร์ให้จบเหี้ยอะไรได้! คนที่สามารถทำให้สามธนาคารระงับสินเชื่อกู้ยืมได้ แกรู้ไหมว่าเขามีอำนาจมากมายแค่ไหน! ไอ้ปัญญาอ่อน!”