จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 281
“ลุงใหญ่ อย่าด่าเขาอีกเลย เขาจะไปจัดการเคลียร์เอง คุณเชื่อเขาได้หรือไม่”
กู้หยุนหลันยืนกล่าวอยู่ข้างหลี่โม่
“ฉิบหาย! หยุนหลัน คุณมันบ้าไปแล้ว คุณเชื่อสามีเศษสวะของคุณหรือ? คุณเชื่อว่าเขาจะจัดการเคลียร์ได้จริงหรือ? สมองโดนลาเตะมาหรือ? ถึงได้โง่เช่นนี้!”
กู้ซิงเว๋ยตะคอกด้วยความโกรธ
กู้เจี้ยนเจียงเยาะเย้ยและกล่าวว่า “หยุนหลัน นี่ไม่ใช่แค่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกคุณเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของทุกคนในตระกูล ทางที่ดีพวกคุณบอกมาเลยว่าได้ไปล่วงเกินใครไว้ พวกเราจะได้ทุ่มสุดตัวบากหน้าพาพวกคุณไปขอโทษ”
กู้หยุนหลันก็รู้สึกเหน็บหนาวในใจ เมื่อนึกถึงเรื่องขอโทษ สิ่งที่ญาติเหล่านี้ทำก่อนหน้านั้น ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกเสียใจ
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันเชื่อว่าหลี่โม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้”
กู้หยุนหลันกล่าวอย่างหนักแน่น
“คุณเชื่อมีประโยชน์อะไร! สามีไร้ประโยชน์ของคุณเป็นเหมือนอึเหม็น นอกจากทำให้คนขยะแขยงแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกเลย! พวกคุณอยากถูกขับไล่ออกจากตระกูลใช่ไหม!”
กู้เจี้ยนกั๋วตบโต๊ะแล้วตะคอกเสียงดัง
“หยุนหลัน คุณอย่าไปเชื่อสามีไร้ประโยชน์ของคุณ ถ้าเขาสามารถแก้ปัญหาได้ นั่นคือโลกกำลังจะแตกแล้ว คุณควรสงบสติอารมณ์ และบอกเล่าเรื่องราวให้ชัดเจน ว่าพวกคุณไปล่วงเกินใครไว้กันแน่ ซึ่งมันนำความหายนะใหญ่หลวงมาสู่ตระกูลเช่นนี้!”
“ไอ้เศษสวะหลี่โม่คุกเข่าแล้วอธิบายเรื่องราวมา ถ้าวันนี้แกไม่สามารถอธิบายได้ พวกเราจะสั่งสอนแกแทนพี่รองเอง! ดูว่าต่อไปแกจะซื่อสัตย์ได้หรือไม่!”
พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนบีบบังคับหลี่โม่กับกู้หยุนหลันพร้อมกัน ทำให้กู้หยุนหลันเสียใจจนน้ำตาไหลนองหน้า
“ผมบอกว่าสามารถแก้ปัญหาได้ก็คือแก้ปัญหาได้แน่นอน ถ้าใครยังตะคอกใส่ภรรยาผมอีก ผมก็จะไม่เกรงใจมันอีกต่อไป!”
หลี่โม่มองไปที่พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนอย่างเย็นชา
พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนรู้สึกสั่นสะท้าน เพราะพวกเขาต่างก็นึกถึงภาพที่หลี่โม่ต่อสู้กับอันธพาลตอนที่พวกเขาถูกลักพาตัวไป
เมื่อนึกถึงฝีมือการต่อสู้ของหลี่โม่ พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนนิ่งเงียบไปพร้อม ๆ กัน คงจะไม่ดีถ้าพวกเขาถูกหลี่โม่ทำร้าย
“พวกเราไม่ได้ตะคอก เพื่อแก้ปัญหาจึงทำให้อารมณ์ไม่ปกติเล็กน้อย”
กู้ซิงเว๋ยกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเราไม่ได้ตะคอก พวกคุณก็ต้องอธิบายเรื่องราวให้พวกเราฟังอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
หลี่โม่กำลังจะพูด ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู เห็นว่าฉู่จงเทียนเป็นคนโทรมา หลี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลี่โม่กดรับสาย มีเสียงโกลาหลดังออกมาจากโทรศัพท์ ฉู่จงเทียนหายใจหอบ ราวกับว่าเขากำลังวิ่งอยู่
“คุณหลี่ ผมถูกซุ่มโจมตีระหว่างทางกลับเมืองฮ่าน เป็นฝีมือของไอ้จางจงหยาง เขาได้ไปพึ่งพาอาศัยเจ้าพ่อของเมืองเอกแล้ว และยืมกองกำลังยอดฝีมือมามากมาย ผมกลัวว่าจะไม่เป็นผลดีต่อคุณด้วยเช่นกัน”
ฉู่จงเทียนกล่าวขณะวิ่ง ความเร็วในการวิ่งของเขาช้าลงเล็กน้อย
ข้างฉู่จงเทียนมีบอดี้การ์ดเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ข้างหลังพวกเขาคือกลุ่มคนที่ถือมีดมาเชเต้วิ่งไล่ตาม
“ท่านเทียน พวกคุณรับวิ่งเร็ว ผมจะอยู่ถ่วงเวลาพวกเขาอยู่ข้างหลังเอง!”
“เสี่ยวลิ่ว คุณกลับมา! กลับมา!”
ฉู่จงเทียนตะโกนเสียงดัง พยายามจับตัวเสี่ยวลิ่วที่หยุดฝีเท้าลง
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างฉู่จงเทียน ดึงตัวฉู่จงเทียนวิ่งอย่างบ้าคลั่ง “ท่านเทียน รีบไปก่อน แล้วค่อยล้างแค้นให้พี่ลิ่วทีหลัง!”
หลี่โม่ฟังเสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ เขาขมวดคิ้วแน่นเป็นปม เห็นได้ชัดว่าฉู่จงเทียนกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเอาชีวิตรอด
ไม่นานเสียงของฉู่จงเทียนก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์อีกครั้ง “นายน้อย คุณต้องดูแลตนเองให้ดี ผมเหล่าฉู่เกรงว่าคราวนี้จะประสบเคราะห์ร้ายเสียแล้ว”
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปช่วยคุณเดี๋ยวนี้”
หลี่โม่กล่าวเบา ๆ
ฉู่จงเทียนตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็มีความหวังอย่างเปี่ยมล้น ถ้าหลี่โม่สามารถมาช่วยตนเอง ไม่! แค่หลี่โม่ส่งคนมาช่วยตนเอง ตนเองต้องรอดแน่นอน!
ฉู่จงเทียนมีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวหลี่โม่โดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่หลี่โม่ทำไม่ได้
“ผมอยู่ อยู่ที่หมู่บ้านหวงเย่น พวกเรากำลังจะไปที่โกดังนอกหมู่บ้านหวงเย่น โกดังนั้นเป็นเซฟเฮ้าส์ที่ผมสร้างไว้ ขอแค่ผมสามารถหลบหนีเข้าไปได้ ผมคาดว่าพวกเขาจะไม่สามารถเปิดประตูได้ภายในเจ็ดหรือแปดชั่วโมง”
“โอเค คุณรีบหนีไปที่นั่นโดยเร็ว ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
หลังจากหลี่โม่พูดจบก็วางสาย กู้เจี้ยนกั๋วจ้องไปที่หลี่โม่อย่างดุดัน “แกจะไปทำอะไร! แกจะออกไปสร้างปัญหาอีกครั้งใช่ไหม! ถ้าแกไม่ได้เห็นตระกูลกู้หายนะ แกไม่มีความสุขใช่ไหม?”
“เรื่องที่ธนาคารระงับสินเชื่อผมจะแก้ปัญหาเอง พวกคุณแสดงกิริยาดีต่อภรรยาผมหน่อย”
หลี่โม่เตือนพวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคน หลี่โม่พากู้หยุนหลันเดินออกไปจากห้องประชุม “ผมจะออกไปทำธุระหน่อย คุณรอผมอยู่ที่บริษัท ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาผม”
“อึ่ม คุณระวังตัวด้วยน่ะ”
กู้หยุนหลันไม่ได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ เฝ้าดูหลี่โม่เดินออกไปจากบริษัท
พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนรู้สึกกลุ้มใจ เมื่อเห็นหลี่โม่จากไป พวกเขาก็เริ่มตะคอกใส่กู้หยุนหลัน แต่กู้หยุนหลันเพิกเฉยไม่สนใจพวกเขาสามคน ทำให้พวกกู้เจี้ยนกั๋วทั้งสามคนยิ่งอยู่ยิ่งไม่รู้จะทำยังไง
……
หลี่โม่นั่งแท็กซี่ไปถึงหมู่บ้านหวงเย่น เมื่อมาถึงทางเข้าหมู่บ้านเขาเห็นโกดังอยู่ไม่ไกล
มีชายฉกรรจ์จำนวนมากนั่งยองๆ และยืนอยู่นอกโกดัง เหมือนกับกำลังปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกันอยู่
เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ หลี่โม่ก็รู้สึกสบายใจขึ้น รู้ว่าพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรฉู่จงเทียน
เขาส่งข้อความให้ฉู่จงเทียน ฉู่จงเทียนได้ตอบข้อความกลับมาว่าปลอดภัย จากนั้นหลี่โม่ก็เดินไปที่โกดังอย่างช้าๆ
ไม่ไกลจากโกดังอันธพาลสี่คนยืนถือดาบอยู่ในมือ หัวเราะพูดคุยและสูบบุหรี่กันอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะมีหน้าที่ดูลาดเลา
หลี่โม่เดินเข้าไปใกล้พวกเขา มีชายหนุ่มคนหนึ่งใช้ดาบชี้มาที่หลี่โม่ กล่าวอย่างหยาบคายว่า “หยุด แม่ง ห้ามเดินเข้ามาข้างหน้า ไม่เห็นหรือว่าพวกเรากำลังทำงานอยู่”
“ฉันมาตามหาคน”
หลี่โม่พูดขณะเดิน
“ฉิบหาย! บอกให้แกหยุดไม่ได้ยินหรือ? ไอ้ปัญญาอ่อนแกอยากโดนทุบตีใช่ไหม!”
ชายหนุ่มทั้งสี่คนจ้องมองหลี่โม่ดาบในมือถูกยกขึ้น
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคน พวกคุณคงจะไม่ห้ามฉันอยู่อย่างนี้ ไม่ให้ฉันเข้าไปตามหาคนใช่ไหม”
“พูดมาสิว่าแกจะมาหาใคร ดูสิว่าพวกเราจะรู้จักหรือเปล่า”
“ฉันมาตามหาฉู่จงเทียน”
หลี่โม่มองไปที่ชายหนุ่มทั้งสี่อย่างหยอกเย้า
ชายหนุ่มทั้งสี่ตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“แม่งฉิบหาย แกจะมาหาฉู่จงเทียน แกรู้หรือไม่ว่าพวกเรากำลังทำอะไรอยู่? แกจะรนหาที่ตายหรือ!”
“รีบคุกเข่าลง ให้กูค้นตัว กล้าพูดถึงฉู่จงเทียนต่อหน้าพวกเรา ไอ้หนูแกใจกล้ามาก”
“จะไปพูดไร้สาระกับมันอยู่ทำไม จัดการสั่งสอนมันก่อน แล้วค่อยลากไปให้เฮียเหมิ่งสอบสวน บางทีไอ้หมอนี่อาจรู้วิธีเปิดประตูก็ได้”
ชายหนุ่มทั้งสี่ล้อมหลี่โม่ขณะที่พวกเขากำลังพูด พวกเขาโบกดาบที่ส่องประกายอยู่ในมือต่อหน้าหลี่โม่
“บอกมาสักดี ๆ ว่าแกเป็นใคร มาตามหาฉู่จงเทียนทำไม ถ้าไม่บอก ก็จะให้แกได้ลิ้มรสของการถูกเฉือน”
หลี่โม่ส่ายศีรษะ “เรียกพี่ใหญ่ของพวกแกมา พวกแกยังไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดกับฉัน”
“เชี่ย! แม่งแกกล้าพูดว่าพวกเราไม่มีคุณสมบัติ แกอยากตายใช่ไหม! จัดการมัน!”