จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 286
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่กลับมาแล้ว กู้ซิงเว๋ยเป็นคนแรกที่ยืนออกมาและตะโกนให้หลี่โม่คุกเข่า
เฝิงจื่อฉายมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาเยาะเย้ย และกำลังรอดูว่าตระกูลกู้จะกดหลี่โม่คุกเข่าให้ตนเองอย่างไร
ควรจะถุยเสมหะใส่หน้าของหลี่โม่ที่กำลังคุกเข่าขอความเมตตา หรือควรเตะหน้าหลี่โม่เพื่อระบายความโกรธดี?
เฝิงจื่อฉายเริ่มเพ้อฝัน
กู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียง กู้ชิงหลินต่างใช้สายตาโจมตีหลี่โม่ สำหรับความอัปยศอดสูที่พวกเขาเพิ่งได้รับหลี่โม่จะต้องชดใช้เป็นทวีคูณ
“ไอ้สารเลว ในที่สุดแกก็กลับมา แกรู้ไหมว่าแกได้สร้างเรื่องใหญ่ขนาดไหน! คนในเมืองจินไห่ถูกแกล่วงเกินจนเกือบหมดแล้ว ทำไมแกถึงได้ใจกล้าขนาดนี้!”
“แม่ง ยังยืนซื่ออยู่ทำไม รีบคุกเข่ายอมรับผิดกับคุณเฝิง ถ้าคุณเฝิงไม่อภัยให้แก แกต้องคุกเข่าตลอดไป!”
“การคุกเข่าตลอดไปนั้นไอ้สารเลวมันก็ได้เปรียบสิ ควรหักขาทั้งคู่ของเขาเสีย เพื่อให้เขารู้ว่าพวกเราร้ายกาจแค่ไหน ดูสิว่าต่อไปเขาจะกล้าออกไปสร้างปัญหาหรือไม่!”
กู้เจี้ยนกั๋ว และคนอื่นๆ ถุยน้ำลายใส่หลี่โม่อย่างบ้าคลั่ง น้ำลายพุ่งขึ้นไปในอากาศ แล้วตกอยู่บนใบหน้าของหลี่โม่
หลี่โม่เช็ดหน้าเบา ๆ ใช้สายตาดูถูกกวาดมองกู้เจี้ยนกั๋ว และคนอื่น ๆ สุดท้ายสายตาไปหยุดอยู่ที่เฝิงจื่อฉาย
เฝิงจื่อฉายเงยหน้าขึ้นมองหลี่โม่ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
“ไอ้เศษสวะ แกรู้จักกลัวแล้วใช่ไหม รู้รสชาติของการที่ถูกญาติทรยศแล้วใช่ไหม ตอนที่ให้กูคุกเข่าแกรู้สึกมีความสุขใช่ไหม? ตอนที่ให้กูแทง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)แกรู้สึกมีความสุขใช่ไหม? วันนี้กูจะเอาคืนเป็นทวีคูณ แม่งคุกเข่าให้กูเดี๋ยวนี้!”
หลี่โม่ยิ้มเบา ๆ ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ดูแล้วเหมือนยังไม่หลาบจำ ยังกล้ามาหาเรื่อง”
“ฉิบหาย! ไอ้เศษสวะแกพูดกับคุณเฝิงเช่นนี้ได้ยังไง แกอยากรนหาที่ตายใช่ไหม! ตอนนี้ความเป็นความตายของตระกูลกู้อยู่ในกำมือของคุณเฝิง คุณเฝิงให้แกขอโทษยังไง แกก็ต้องขอโทษอย่างนั้น!”
“ที่คุณเฝิงให้แกขอโทษถือว่าให้หน้าแกแล้ว แม่งให้หน้าแต่แกไม่เอา ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ ตระกูลกู้จะไล่ครอบครัวของพวกแกออกจากตระกูล!”
“บ้าจริง แกรีบคุกเข่าให้คุณเฝิง ถ้าคุณเฝิงไม่พอใจ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก ไม่เพียงแต่แกเท่านั้น! กู้หยุนหลันก็จะเดือดร้อนเช่นกัน!”
คนของตระกูลกู้ตกใจมากเมื่อเห็นหลี่โม่ขัดแย้งกับเฝิงจื่อฉาย พวกเขาดุด่าหลี่โม่ และขอให้หลี่โม่คุกเข่าขอโทษ
เฝิงจื่อฉาย มองไปที่หลี่โม่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม และกล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “แม่ง แกอย่าทำเป็นเสแสร้ง ที่นี่ไม่มีใครปกป้องคุ้มครองแก ไม่ว่าจะเป็นลู่เจี้ยนปินหรือชายชราแซ่ฉู่ พวกเขาล้วนปกป้องคุ้มครองแกไม่ได้!”
เหอลี่ฉุน ไป๋เชียนหลี่และคืนอื่น ๆ ต่างมองหลี่โม่ด้วยความโกรธ หากความโกรธในดวงตาของพวกเขาเป็นอุณหภูมิที่ร้อน คงจะเผาหลี่โม่จนสุกแน่นอน
“ทวดมึงสิ ยังหยิ่งผยองอะไรอยู่ที่นี่ ถ้าวันนั้นไม่มีคนปกป้องแก พวกเราคงแล่เนื้อของแกเป็นชิ้น ๆไปแล้ว แกคงตายไปนานแล้ว! ตอนนี้คนที่ปกป้องแกกำลังจะจบเห่!”
“พวกเราเตรียมตัวมาอย่างดีที่สุด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกเราคือสี่ตระกูลที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองจินไห่ แม่งตอบมาสิว่าแกกลัวหรือยัง พวกเราได้เตรียมเงินจำนวนมากมายไว้เพื่อฆ่าแก แกรอความตายเถอะ!”
“ไม่ต้องฆ่าไอ้สุนัขตัวนี้หรอก ฝึกฝนให้มันเป็นยอดสุนัข ให้มันเป็นสุนัขรับใช้เฮียฉายกับเฮียหยาง และคอยดูเฮียฉายกับเฮียหยางย่ำยีเมียของมัน แบบนี้มันถึงจะสนุก”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆหัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นชีวิตที่น่าสังเวชของหลี่โม่แล้ว
เฝิงจื่อฉาย ยิ้มอย่างมีชัย “หลี่โม่นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของแก ถ้าแกไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ผลที่ตามมาจะอยู่เหนือจินตนาการของแก”
กู้หยุนหลันจับมือหลี่โม่ และบีบฝ่ามือของหลี่โม่เบา ๆ
“ลุงใหญ่ ถึงแม้ว่าพวกคุณจะให้ฉันกับหลี่โม่ขอโทษพวกเขา พวกเขาก็ไม่ปล่อยตระกูลกู้ไปหรอก ทำไมพวกคุณถึงดูไม่ออก”
“พูดเหลวไหล!”
กู้เจี้ยนกั๋ว ตบโต๊ะด้วยความโกรธ ชี้ไปที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลัน และตะโกนว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแกสองคน จะไม่เกิดเรื่องกับตระกูลกู้แน่นอน ตอนนี้แกกำลังพูดเพื่อปัดความรับผิดชอบ? บอกเลยว่าไม่มีทาง!”
“พวกแกสองคนอย่ามาเสแสร้งที่นี่ แม่งรีบขอโทษคุณเฝิง ตอนนี้พวกแกพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ พวกคุณเฝิงได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกแกควรขอโทษพวกคุณเฝิงด้วย!”
“กู้หยุนหลันไม่ใช่ว่าไม่เคยนอนกับคนอื่น แม่ง หลี่โม่แกก็มีเขาอยู่บนหัวอยู่แล้วนี่ แล้วพวกแกสองคนจะเสแสร้งทำไม หยุนหลันรีบไปปรนนิบัติคุณเฝิง หลี่โม่ไอ้คนไร้ประโยชน์แกก็ถูกสวมเขาต่อไป!”
กู้หยุนหลันตัวสั่นด้วยความโกรธ จ้องไปที่กู้ชิงหลินแล้วกล่าวว่า “คุณอย่าพูดพล่อย ๆ! ฉันไม่เคยทำ!”
“ไม่เคยทำอะไร ทุกคนรู้ดี เรื่องที่แกเซ็นสัญญาคราวก่อน แล้วยังมีคุณหลี่ผู้ลึกลับคนนั้น แกต้องไปนอนกับเขามาแล้วแน่นอน แกมันอีดอกทอง!”
กู้ชิงหลินด่าด้วยความโกรธ แค้นจนอยากจะแต่งเรื่องอื้อฉาวใส่ความกู้หยุนหลันอีก
หลี่โม่เดินไปหากู้ชิงหลิน กู้ชิงหลินตกใจรีบไปหลบอยู่หลังกู้ซิงเว๋ย กู้ซิงเว๋ยตะโกนอย่างดุดันว่า “ไอ้เศษสวะแกจะทำอะไร! สิ่งที่กู้ชิงหลินพูดเป็นความจริง! แม่งแกไม่ต้องมาทำเป็นสง่าน่าเกรงขามอยู่ที่นี่! รีบไปขอโทษคุณเฝิง!”
“หลีกไป กล้าใส่ร้ายภรรยาผม วันนี้คนใหญ่คนโตก็ไม่สามารถช่วยเธอได้”
หลี่โม่กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น
กู้หยุนหลันร้อนใจ รีบดึงหลี่โม่และกล่าวว่า “อย่าไปสนใจเธอ เธอเป็นคนบ้าแบบนั้นแหละ”
“แกนั่นแหละที่บ้า พวกแกบ้ากันทั้งครอบครัว แกบอกว่าแกไม่เคยนอนกับคนอื่น? ถ้าแกไม่เคยนอนกับคนอื่น แล้วข่าวมันจะออกมาได้ไง หลี่โม่เป็นเศษสวะที่ควบคุมเมียไม่ได้ถึงได้ถูกสวม!”
กู้ชิงหลินกล่าวอย่างดุดัน
กู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาเย็นชา ไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลก
“หลี่โม่ คุกเข่า คุกเข่าให้คุณเฝิงได้ยินไหม! นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของตระกูลกู้ แกต้องฟังคำสั่งของฉัน!”
กู้เจี้ยนกั๋วกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“จะพูดกับเขาทำไม แค่กดเขาคุกเข่าลงบนพื้น! ซิงเว๋ย จับไอ้เศษสวะ ให้เขาคุกเข่าก้มกราบคุณเฝิง!”
กู้เจี้ยนเจียงขยิบตาให้กู้ซิงเว๋ยขณะพูด กู้ซิงเว๋ยเข้าใจทันทีว่ากู้เจี้ยนเจียงหมายถึงอะไร ทั้งสองเดินไปหาหลี่โม่
“หลี่โม่ ถ้าแกไม่คุกเข่าให้คุณเฝิง อย่าโทษว่าพวกเราไม่เกรงใจ เพื่อความปลอดภัยของตระกูลกู้ วันนี้แกต้องคุกเข่าให้คุณเฝิง!”
ขณะพูดกู้ซิงเว๋ยคว้าข้อมือของหลี่โม่ เตรียมจับและกดหลี่โม่คุกเข่าลงบนพื้น
กู้เจี้ยนเจียงลังเลเล็กน้อย เขาไม่ได้ลงมือพร้อมกับกู้ซิงเว๋ย
หลี่โม่เลิกคิ้ว มองกู้ซิงเว๋ยด้วยท่าทางเคร่งขรึม และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “รนหาที่ตาย!”