จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 294
เช้าตรู่สไตลิสต์ ผมบลอนด์ตาสีฟ้าทีมหนึ่ง ถือกระเป๋าเครื่องสำอางและเสื้อผ้าแบบต่าง ๆ เข้ามา ในห้องเพรสซิเดนสูทเพื่อออกแบบให้กับซีเหมินจื้อเผิงโดยเฉพาะ
เหอซูฟางยืนพูดอยู่ข้าง ๆ ซีเหมินจื้อเผิงว่า: “ลูกต้องฉวยโอกาสนี้ไว้ เวลาตกฟากแปดตัวและโหงวเฮ้งของกู้หยุนหลันพวกเราให้ปรมาจารย์ซ่งดูมาแล้ว ท่านอาจารย์พูดว่าพวกเธอทั้งสองคนเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมา เพียงแค่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่เพียงแต่งงานกันมีลูกหลานเต็มบ้าน ยังสามารถทำให้กิจการของตระกูลเจริญรุ่งเรืองได้อีกด้วย”
ซีเหมินจื้อเผิงยิ้มแล้วพยักหน้า ภาพถ่ายของกู้หยุนหลัน ซีเหมินจื้อเผิงก็ได้ดูมาแล้ว รู้สึกว่ากู้หยุนหลันเหมาะสมที่จะเป็นผู้หญิงแสนสวยของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นความคิดของท่านแม่ แม้ขณะนี้กิจการของตระกูลยังไม่ได้อยู่ในมือของซีเหมินจื้อเผิงทั้งหมดก็ตาม ซีเหมินจื้อเผิงจึงไม่คิดจะขัดขืนดื้อรั้นกับมารดา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาการรับช่วงต่อมรดกที่จะมีมาภายหลัง
“คุณแม่ ท่านวางใจเถอะ ผมจะฉวยโอกาสนี้ไว้ให้ดี แต่ว่าสามีไอ้สวะคนนั้นของกู้หยุนหลันเหมือนจะสร้างความยุ่งยากอยู่นะ”
เมื่อนึกถึงหลี่โม่ ซีเหมินจื้อเผิงก็รู้สึกติดใจอยู่บ้าง
เหอซูฟางส่งเสียงฮึที่ดูเย็นชา พูดดูถูกไปว่า: “ก็เป็นแค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่งเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ เพียงแค่ในใจของกู้หยุนหลันมีเธอ ไอ้สามีสวะจะต้องถูกเตะออกไปทันที ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้เงินเล็กๆ น้อยๆ กับเรื่องพวกนี้”
สไตลิสต์ผมบลอนด์ตาสีฟ้ารีบรุดออกแบบแต่งตัวให้กับซีเหมินจื้อเผิง จัดแจงเครื่องแต่งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าให้กับซีเหมินจื้อเผิง เลือกชุดที่สวมใส่ทั้งหมดอย่างตั้งใจให้กับซีเหมินจื้อเผิง
ไม่นานการออกแบบการแต่งตัวก็เสร็จสิ้นลง เดิมทีรูปร่างของซีเหมินจื้อเผิงนั้นดูบึกบึนแข็งแรง ดูไปแล้วเป็นหนุ่มหล่อที่ร่างกายกำยำ รูปร่างหน้าตาของซีเหมินจื้อก็นับได้ว่าหล่อเหลาติดอันดับต้น ๆคนหนึ่ง
เหอซูฟางพยักหน้าด้วยความพอใจ: “ลูกชายของแม่หล่อจริง ๆ ต้องทำให้กู้หยุนหลันหลงเสน่ห์แน่นอน หญิงสาวที่อยู่ในเมืองเล็ก ๆ ต้องไม่เคยเห็นโลกอะไรแบบนี้มาก่อน พวกเราอวดความร่ำรวยให้เห็นเสียหน่อย ก็ร้องไห้วิ่งตามลูกแล้ว”
“ยิ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ แบบนี้อีก”
ซีเหมินจื้อเผิงมองกระจกดูความหล่อของตนเอง จากนั้นพูดว่า: “แม้ว่าเป็นหญิงสาวอยู่ที่เมืองหลวง เซี่ยงไฮ้ จำพวกนั้น เห็นผมแล้วก็จะต้องร้องขอที่จะตามผมมาให้ได้”
“มีความมั่นใจก็ดี พวกเราไปบ้านคุณน้าหวังของเธอ ตอนเที่ยงเชิญพวกเขาทั้งครอบครัวมารับประทานอาหารมื้อใหญ่ร่วมกัน เพียงแค่ลูกแสดงศักยภาพของตัวเองให้ดี ทำให้กู้หยุนหลันประทับให้ได้”
เหอซูฟางมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในตัวลูกชายของตัวเอง ทั้งหล่อทั้งรวยอยู่ที่ไหนก็เป็นลูกเขยแห่งชาติ จะต้องดึงดูดสาว ๆให้ร้องกรี๊ดได้อย่างแน่นอน
แม่ลูกทั้งสองคนออกจากโรงแรม รถโรลส์รอยซ์รุ่นโกสต์คันหนึ่งจอดรออยู่หน้าประตูโรงแรมแล้ว
แม้ว่ารุ่นโกสต์จะเป็นรถโรลส์รอยซ์รุ่นพื้นฐาน แต่ราคาก็ต้องมากกว่าห้าล้านเหรียญ
“อยู่ที่บ้านคงจะดี ออกมาแล้วนั่งรถรุ่นต่ำแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกเสียหน้ามาก”
ซีเหมินจื้อเผิงมองดูรถรุ่นโกสต์แล้วตำหนิออกไป
ขณะที่อยู่ต่างประเทศ ซีเหมินจื้อเผิงเดินทางเข้าออกอย่างน้อยจะต้องเป็นรถโรลส์รอยซ์รุ่นแพนทอมใช้งาน หากไปเยี่ยมเยือนทักทายปกติแล้วซีเหมินจื้อเผิงจะใช้รถบูกัตติ เวย์รอนมูลค่ากว่าสามสิบล้านเหรียญ
“เมืองเล็ก ๆ แบบนี้ ออกไปข้างนอกก็ไม่ต้องบ่นให้มากเกินไป เรื่องที่เธอต้องใส่ใจก่อนก็คือการจัดการเรื่องสะใภ้ของฉัน”
เหอซูฟางพูดเตือน
แม่ลูกสองคนขึ้นรถแล้ว เหอซูฟางเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาหวังฟาง บอกกล่าวว่าจะไปเยี่ยมที่บ้านในไม่ช้า
หวังฟางวางสายโทรศัพท์ ตื่นเต้นอย่างผิดปกติขึ้นทันที กระตือรือร้นขึ้นมาอย่างมาก
หวังฟางกวาดตามองกู้หยุนหลัน กู้เจี้ยนหมิน หลี่โม่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้วใช้เสียงสูงพูดว่า: “เหอซูฟางจะพาลูกชายมาในเร็ว ๆนี้ หยุดกินได้แล้ว รีบเก็บของให้เรียบร้อยแล้วออกไปต้อนรับที่หน้าประตู หลี่โม่ไอ้สวะรีบไสหัวไป วันนี้ไม่ต้องอยู่ที่บ้าน”
หลี่โม่อึ้งไปขณะหนึ่ง ขณะที่จะเอ่ยปากพูด กู้หยุนหลันก็พูดขึ้นว่า: “คุณแม่ หลี่โม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้าน หากท่านให้หลี่โม่ไป งั้นลูกก็จะไปพร้อมกับหลี่โม่ด้วย”
“ลูกจะให้แม่โมโหตายใช่มั้ย! คุณน้าเหอของเธอพาลูกชายมาทำอะไร เธอก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ เธอให้ไอ้สวะนั้นอยู่ที่บ้านมันน่ารังเกียจมากรู้มั้ย”
หวังฟางพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
กู้หยุนหลันแหยะที่มุมปากพูดอย่างดูหมิ่น: “ก็เพราะรู้ดีว่าเขามาเพื่อจะทำอะไร หลี่โม่จึงไม่ควรไปไหน”
“เลิกเถียงกันได้แล้ว ให้ไอ้สวะนั้นอยู่ดูความแตกต่างของตัวเองกับคนอื่นบ้าง หากเกิดความละอายใจ ไอ้สวะนี่ก็ควรจะเลือกที่จะจากไปเอง อย่าอยู่ที่นี่เป็นภาระหยุนหลันของพวกเราอีก”
กู้เจี้ยนหมินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หวังฟางพยักหน้า จ้องมองหลี่โม่ด้วยความโมโห: “แกมันคนไร้ค่า เบิ่งตาหมา ๆของแกดูดี ๆสิ ดูความแตกต่างระหว่างเธอกับคนอื่นว่ามันมากมายขนาดไหน!”
หลี่โม่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรก้มหน้ารับประทานอาหาร ไม่ใส่ใจคำพูดของหวังฟางแม้แต่น้อย
“กินกินกิน! รู้จักแต่กิน! ยังไม่รีบไปไสหัวไป สภาพของแกตอนนี้เหมือนกับขยะอย่างไรอย่างนั้น หากใครเห็นเข้าทำให้บ้านของพวกเราต้องขายขี้หน้าหมด”
หลี่โม่มองไปที่หวังฟาง วางจานข้าวเบา ๆ หันหลังเดินกลับไปที่ห้อง
กู้หยุนหลันเดินตามหลี่โม่กลับไปที่ห้อง ดึงมือของหลี่โม่แล้วพูดว่า: “คุณอย่าโกรธแม่ของฉันเลยนะ เขาก็เป็นอย่างนี้คุณก็รู้ดี รอให้ฉันต้อนรับพวกเขาสักครู่ แล้วพวกเราค่อยออกไปดีมั้ย”
หลี่โม่ยิ้มแล้วพยักหน้า: “ก็เอาตามที่คุณตัดสินใจแล้วกัน”
“งั้นฉันหยิบเสื้อผ้าให้คุณนะ เอาอย่างนี้คุณจะลองสวมชุดเวอร์ซาเช่รุ่นลิมิเต็ดชุดนั้นดีมั้ย? อย่างไรซะสามีของฉันก็ไม่แพ้ให้กับ
ซีเหมินอะไรคนนั้น”
กู้หยุนหลันหาชุดเวอร์ซาเช่รุ่นลิมิเต็ดชุดนั้นให้หลี่โม่เปลี่ยน หลังจากนั้นก็ช่วยหลี่โม่จัดแต่งทรงผม ยิ้มแล้วมองไปที่หลี่โม่ที่มีหน้าตาหล่อเหลามากยิ่งขึ้น
“พวกเธอกำลังทำอะไร! เสร็จหรือยัง! รีบออกไปต้อนรับคุณน้าเหอของเธอ”
หวังฟางตะโกนเสียงดัง กู้หยุนหลันแบะปากอย่างไม่พอใจ เดินจูงมือหลี่โม่ออกจากห้อง
หวังฟางและกู้เจี้ยนหมินใช้สายตาที่ดูถูกมองไปทางหลี่โม่
“แกไอ้สวะแต่งตัวเป็นผู้ดีทำไมกัน แม้ว่าเธอจะใส่ชุดคลุมมังกรก็ไม่มีทางเหมือนกับองค์ชายอยู่ดี คิดว่าใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็สามารถปลอมเป็นคนชั้นสูงได้แล้ว ปัญญาอ่อนเสียจริงเลย”
“พูดมากกับเขาไปทำไม อีกเดี๋ยวเขาได้พบกับซีเหมินจื้อเผิงแล้ว ไอ้สวะของบ้านนี้จะได้เห็นว่าช่องว่างของชนชั้นนั้นมันมากแค่ไหน เสื้อผ้าแบรนด์ดัง ไอ้สวะอย่างมันไม่ใช่ว่าจะใส่กันได้ง่าย ๆ”
กู้เจี้ยนหมินสามีภรรยาร่วมกันดุด่าหลี่โม่ไปหลายประโยค เปิดประตูห้องเดินออกไปคนแรก
คนทั้งบ้านเดินออกไป ยืนรออยู่ที่ทางเดินนอกประตู คอยไม่นานรถโรลส์รอยซ์รุ่นโกสต์ขับตรงเข้ามาสู่สายตาของทุกคน
“ที่มานั่นเป็นรถโรลส์รอยซ์ใช่เปล่า เป็นเหอซูฟางพวกเขามาถึงแล้ว หยุนหลันเธอต้องตั้งสติให้ดี พูดคุยสนทนากับจื้อเผิงให้ดี ๆ คนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอจะต้องมีเรื่องคุยกันไม่น้อยแน่ ๆ”
หวังฟางดึงตัวกู้หยุนหลันให้มองดูให้ละเอียด
รถโรลส์รอยซ์ โกสต์จอดลงช้า ๆ หวังฟางชักสีหน้าถมึงทึงพูดเสียงต่ำใส่หลี่โม่ว่า: “ไอ้สวะยังไม่รีบไปเปิดประตูรถอีก!”
“คุณแม่ ทำไมให้หลี่โม่ไปเปิดประตูรถ”
กู้หยุนหลันแบะปากด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้สวะคนนี้กินฟรีดื่มฟรี ให้เขาไปเปิดประตูรถก็นับว่าเห็นคุณค่ามากแล้วนะ”
หวังฟางใช้หางตามองอย่างดูถูก
ขณะที่หวังฟางและกู้หยุนหลันกำลังโต้เถียงกันอยู่ ซีเหมินจื้อเผิงลงจากรถมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาดูถูก: “คุณก็คือไอ้สวะคนนั้นเหรอ”