จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 299
เหอซูฟางกับซีเหมินจื้อเผิงคนทั้งสองต่างรีบปิดประตูห้องวีไอพีให้สนิท ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าเผยให้เห็นท่าทีหวาดกลัว
หลี่โม่เห็นท่าทางของเหอซูฟางกับซีเหมินจื้อเผิงแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนจะไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเช่นนี้
หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินก็มองออกว่าจะต้องเกิดเรื่องแน่ ๆ หวังฟางเดินเข้าไปประคองเหอซูฟาง ตบไปที่หลังเหอซูฟางเบา ๆ พูดว่า: “พี่ซูฟาง นั่งลงก่อนทำใจให้สบาย พวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“เกิดเรื่องแล้ว ด้านนอกมีคนมากมาย ในมือถือมีดดาบบุกเข้ามา พวกเราไม่กล้าที่จะออกไป จึงทำได้เพียงวิ่งกลับเข้ามา ไม่รู้ว่าใครไปก่อเรื่องไว้ แต่หวังว่าพวกมันจะไม่มาทำร้ายพวกเรา”
เหอซูฟาง อธิบายไปพลางๆ พร้อมกับค่อย ๆนั่งลงบนเก้าอี้
สีหน้าซีเหมินจื้อเผิงดำคล้ำหม่นหมอง คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ เหงื่อไหลท่วมตัว เนื้อตัวสั่นเทา
“ผมเห็นพวกบอดี้การ์ดถูกมีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ คงไม่ใช่บุกเข้ามาหาพวกเรานะ แต่ว่าในประเทศผมไม่ได้มีศัตรูที่ไหน หรือว่าจะเป็นคู่แข่งต่างชาติจ้างวานนักฆ่า เพื่อมาฆ่าผม?”
ในความคิดของซีเหมินจื้อเผิงคิดเอาเองว่าเหตุการณ์นี้เป็นนักฆ่าที่คู่แข่งจ้างวานมา ยิ่งขึ้นยิ่งรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้น
ฟังคำพูดของซีเหมินจื้อเผิงที่พูดทึกทักเอาเอง เหอซูฟางตกใจกลัวจนขนหัวลุก
“เป็นไปได้ยังไง งั้นพวกเราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ จื้อเผิงลูกรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เขารีบมาปกป้องพวกเรา”
เหอซูฟาง พูดด้วยน้ำเสียงไม่อยู่กับร่องกับรอย
หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินสีหน้าไม่สู้ดี นึกเสียใจว่าวันนี้ออกมากับเหอซูฟางกับลูกของเขา คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ได้ถึงขนาดนี้
กู้หยุนหลัน มองไปทางหลี่โม่ หลี่โม่ขยิบตาให้กับกู้หยุนหลัน ส่งสัญญาณให้กลับกู้หยุนหลันว่าไม่ต้องร้อนใจ เรื่องทุกอย่างถ้ามีเขาอยู่ไม่ต้องกลัว
ไม่นานนักด้านนอกห้องวีไอพีมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงตะโกนหยาบคาย: “พังประตูเข้าไป!”
ตึ่งตึ่ง
หลังมีเสียงเอะอะโวยวาย ประตูใหญ่เกิดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในที่สุดประตูก็ถูกเปิดออกจนได้
กลุ่มชายฉกรรจ์ร่างกำยำ มีดดาบครบมือบุกเข้ามาในห้องวีไอพี กวาดสายตามองหลี่โม่กับพวก
“ใช่แล้ว ที่นี่แหละ พวกคุณทุกคนทำตัวให้ดี ๆ เชื่อฟังคำสั่ง หากใครคิดเล่นตุกติก ผมจะใช้มีดตัดขาทุกคนทิ้ง”
ชายฉกรรจ์คนหนึ่ง ใช้มีดชี้ไปรอบ ๆ จากนั้น เดินออกไปข้างนอกห้องวีไอพี เพื่อไปพบกับจางจงหยาง
สิบนาทีก่อนหน้านี้ หลังจากจางจงหยางพาพรรคพวกมาถึง จัดแจงให้คนล้อมฝ้านหยวนไว้ทั้งหมด จากนั้นสั่งให้ลูกน้องบุกเข้าไปข้างในฝ้านหยวน
หลังจากที่ปะทะกับบอดี้การ์ดของซีเหมินจื้อเผิงและ พนักงานรักษาความปลอดภัยของฝ้านหยวน ในที่สุดลูกน้องของจางจงหยาง ก็บุกเข้ามาข้างในฝ้านหยวน ควบคุมฝ้านหยวนได้ทั้งหมด
กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางตกใจกลัวอย่างมาก ทั้งสองคนตัวสั่นเทากอดกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องวีไอพี
และเหอซูฟางกับซีเหมินจื้อเผิงทั้งสอง คิดถึงแต่ภาพสยองขวัญที่กำลังจะเกิดขึ้น ต่างก็คิดว่าอันธพาลพวกนี้บุกเข้ามาหาตน ตกใจกลัวเหมือนจะต้องตายแล้วตอนนี้
หลี่โม่โอบกอดกู้หยุนหลันไว้เบา ๆ พูดเสียงต่ำว่า: “คุณไม่ต้องตกใจ มีผมอยู่ทั้งคน”
กู้หยุนหลันใช้สายตาเพ่งมองไปที่หลี่โม่ พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดเสียงต่ำว่า: “คุณก็ระมัดระวังตัวเองด้วย อย่าอวดดีจนเกินเหตุล่ะ”
“วางใจได้ ไม่มีอะไรเกินกว่าเหตุ”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
หลี่โม่สอดสายตามองไปข้างนอกห้องวีไอพี เห็นคนอยู่หัวมุมหนึ่ง หลี่โม่เห็นการ์ดของสำนักหลงเหมิน
หลี่โม่ห้อยมือลงด้านล่างส่งสัญญาณมือให้กับเขาทั้งสอง การ์ดของสำนักหลงเหมินเข้าใจสัญญาณมือของหลี่โม่ทันที จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
มีการ์ดของสำนักหลงเหมินอยู่ หลี่โม่ไม่เห็นอันธพาลพวกนี้อยู่ในสายตา เพียงแค่ต้องการจะดูละครฉากนี้ก็เท่านั้น
ไม่นานนัก มีคนเข็นรถเข็นเข้ามา คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็คือจางจงหยาง เมื่อเห็นจางจงหยางกู้หยุนหลันก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดโดยทันที
“ฮ่าฮ่า พบกันอีกแล้ว คงคิดไม่ถึงสิ ว่าพวกเราจะได้พบกันในสถานการณ์เช่นนี้ ไอ้สวะหลี่!”
จางจงหยางหัวเราะเยาะอย่างลำพอง
พวกซีเหมินจื้อเผิงที่ตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวเช่นนี้ ได้ยินคำพูดของจางจงหยาง จู่ ๆก็ตกตะลึง ใช้สายตาประหลาดจ้องมองไปที่หลี่โม่
หลี่โม่ ยิ้มเล็กน้อยตอบกลับไปว่า: “เป็นไงล่ะ หลังจากให้คุกเข่าก้มหัวโขกศีรษะ ทำโทษตามกฎของวงการ คุณยังไม่เข็ดอีกเหรอ”
“คุณมันรนหาที่ตาย! ตอนนี้คนของผมควบคุมฝ้านหยวนไว้ได้หมดแล้ว วันนี้คุณต้องตายสถานเดียว!”
มองเห็นท่าทางจางจงหยางเดือดด้านในตัวหลี่โม่ ซีเหมินจื้อเผิง ดีใจจนแทบจะกระโดดออกมา ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน
แต่ว่าซีเหมินจื้อเผิงไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา ๆว่า: “พี่ท่านนี้ คุณมาหาหลี่โม่เพื่อแก้แค้นเหรอ?”
“คุณก็คือคนที่กลับมาจากต่างประเทศคนนั้นเหรอ? ทำไมล่ะ หรือคุณอยากจะปกป้องหลี่โม่ ไอ้สวะคนนี้?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมก็อยากให้สวะคนนี้ตายไปเร็ว ๆ เขามีชีวิตอยู่ไปก็สิ้นเปลืองอากาศหายใจ”
จางจงหยางหัวเราะขึ้นและสอดสายตากวาดมองไปที่พวกของซีเหมินจื้อเผิงแล้วพูดว่า: “พวกคุณก็เป็นเพื่อนสนิทของหลี่โม่เหรอ อยากจะมีชีวิตรอดมั้ย? ถ้าพวกคุณไม่อยากตายนั้นง่ายมาก ให้พวกคุณรุมกันด่า ดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่ ไอ้สวะว่าโง่เง่าคนนี้!”
จับตัวหลี่โม่นั้นเป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรก ที่สำคัญก็คือเพื่อล่อให้ฉู่จงเทียนออกมา ก่อนที่ฉู่จงเทียนจะมาถึง เหยียดหยามลบหลู่หลี่โม่สักครั้ง ในความคิดของจางจงหยางก็เป็นเหมือนเป็นการฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
หวังฟางที่ตกใจกลัวจนขาดสติ เดินเข้าหาหลี่โม่สบถด่าด้วยความโมโหว่า: “แกมันคนโง่ไร้สมองเป็นพวกชอบทำร้ายคนอื่น แกไปก่อเรื่องไว้อีกล่ะสิ แกทำลายพวกเราจะให้ตายให้ได้เลยใช่ไหม! ฉันมีลูกเขยที่จ้องแต่ทำร้ายแม่ภรรยาขนาดนี้เลยเหรอ!”
“หยุนหลัน เธอดูสิ เจ้าสุนัขตัวนี้ทำเรื่องชั่ว ๆไว้ วันๆ จ้องจะหาเรื่องใส่ตัว เธอไม่รีบหย่ากับมันซะเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เขาไปก่อเรื่องและสร้างปัญหาแบบนี้ เธอลองคิดดูสิ อนาคตจะไปก่อเรื่องกับคนใหญ่คนโตได้อีกสักกี่คน!”
กู้เจี้ยนหมินรีบตามสบถด่าเหมือนอย่างกองหนุน
“เฮ้ย พวกคุณเป็นพ่อตาแม่ยายไอ้สวะหลี่คนนี้ไม่ใช่เหรอ พวกคุณมีลูกเขยประเภทนี้ อีกเดี๋ยวผมจะบดกระดูกของมันตั้งแต่หัวไปจนถึงเท้า ต่อไปมันจะได้เป็นคนไร้ประโยชน์ได้อย่างเต็มภาคภูมิเสียที!”
จางจงหยางส่งสายตามองไปที่หลี่โม่เหมือนดั่งจะกินเลือดกินเนื้อ
บดกระดูกของหลี่โม่ทั้งตัว เป็นความตั้งใจที่จางจงหยางคิดไว้ก่อนที่จะมาถึง ทำให้หลี่โม่ตายไปเฉย ๆ มันยังไม่ทำให้สะใจ จะต้องทำให้หลี่โม่เหมือนตายทั้งเป็นถึงจะดี
ซีเหมินจื้อเผิงหัวเราะขึ้น ยกนิ้วโป้งขึ้นเพื่อแสดงความชมเชยในตัวจางจงหยางแล้วพูดว่า: “ลูกพี่ใหญ่ท่านนี้ช่างร้ายกาจจริง ๆ กระทำเช่นนี้กับหลี่โม่ไอ้สวะคนนี้ บดกระดูกของมันทั้งตัว อีกทั้งกระทืบมันซ้ำ ๆ อีกวันละสิบกว่าครั้ง แล้วจับมันโยนไปไว้ในห้องน้ำเหมือนดั่งชักโครก”
“ไอ้สวะคนนี้พวกคิดจะฆ่ามันให้ตายตั้งนานแล้ว ฉันไม่เคยพบเคยเจอไอ้สวะที่โง่เง่าเต่าตุ่นขนาดนี้ โง่เง่าเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ควรจะถูกทำลายล้างไปให้สิ้นซาก”
เหอซูฟางสบถด่าตามกับคนอื่นด้วย
จางจงหยางพยักหน้าด้วยความสะใจ สายตามองไปที่กู้หยุนหลัน ในแววตาส่องประกายความโลภที่อยากจะครอบครอง
“คุณกู้คนสวย พวกเราพบกันอีกแล้วนะ ถ้าตอนนี้คุณเข้ามาปรนนิบัติผมซักหน่อย ผมอาจจะพิจารณาทุบกระดูกของสามีของคุณให้น้อยลงสักสองท่อน”
จางจงหยางยิ้มหรี่ตาพูดอย่างมีนัย
สติของกู้หยุนหลันตกอยู่ในความสับสน หลี่โม่บีบไปที่มือของกู้หยุนหลันเบา ๆและพูดว่า: “จางจงหยาง คุณมันรนหาที่ตาย”