จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 303
จางจงหยางเดิมทีที่ร้องขอความเหลือจากหลี่โม่ เมื่อได้ยินคำของผู้ตรวจการทีม ก็แข็งทื่อไปทั้งตัว
จากเดิมทีที่คิดว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากการจัดฉากของหลี่โม่ แต่ทำไมถึงมีคุณซีเหมินโผล่มาได้ โดยคำพูดของผู้ตรวจการทีมทำให้จางจงหยางนั้นสับสนไปหมด
หลี่โม่สบตากับผู้ตรวจการทีมด้วยความพึงพอใจ ทั้งหมดนี้หลี่โม่ใช้สัญลักษณ์มือโดยให้องครักษ์ของสำนักหลงเหมินเป็นคนจัดการ
ตั้งแต่ปราบปรามกองกำลังของจางจงหยางที่เมืองจินไห่ จนถึงตำรวจหน่วยงานลาดตระเวนมาปรากฏตัวที่เมืองฮ่าน ทั้งหมดถูกวางแผนมาอย่างดีจากองครักษ์ของสำนักหลงเหมิน
เมื่อเห็นหลี่โม่แสดงสีหน้าพึงพอใจ เลือดในตัวของผู้ตรวจการทีมก็ลุกซู่ซ่า เขารู้สึกว่าอีกไม่นานก็จะได้เลื่อนขั้นและขึ้นเงินเดือนแล้ว
จางจงหยางและพวกถูกตำรวจหน่วยงานลาดตระเวนจับกุมตัวไป หลี่โม่พยุงกู้หยุนหลันไปดูอาการของกู้เจี้ยนหมินและหวังฟาง
ซีเหมินจื้อเผิงที่งุนงงอยู่ในความเจ็บปวดได้สติกลับมา เช็ดนํ้าตาและพูดกับผู้ตรวจการทีมว่า:“ขอบคุณที่พวกคุณมาช่วยผม ช่วยส่งผมและแม่ไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหม”
ผู้ตรวจการทีมยิ้มแล้วบอกว่า:“ไม่ได้ คุณต้องกลับไปสอบปากคำกับพวกเราก่อน ในขณะเดียวกันเราจะได้ดูแลรักษาความปลอดภัยของคุณไปในตัวด้วย”
สีหน้าซีเหมินจื้อเผิงซีดเผือดทันที แล้วชี้ไปที่บาดแผลของตัวเองพูดว่า“ผมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน!”
“คุณตำรวจหน่วยงานลาดตระเวน คุณควรจะจัดการกับอาการเจ็บของลูกฉันก่อน จะต้องส่งฉันและลูกชายไปโรงพยาบาลไม่อย่างนั้นฉันจะคอมเพลนพวกคุณ!”เหอซูฟางตะโกนพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันประคองกู้เจี้ยนหมินและหวังฟางให้ลุกขึ้น ทั้งสองตกใจจนแขนขาอ่อนแรง แม้เเต่เสียงพูดก็ไม่มี
ฉู่จงเทียนเข้ามาช่วยพยุงกู้เจี้ยนหมินแล้วพูดว่า:“ขึ้นรถผม เดียวผมพาพวกคุณไปโรงพยาบาลเช็คสักหน่อย”
หลี่โม่พยักหน้า และพาครอบครัวเดินออกจากห้องไป
ซีเหมินจื้อเผิงงุนงง คิดไปคิดมารู้สึกแปลกๆ ชี้ตามหลังของหลี่โม่แล้วพูดว่า:“พวกเขา พวกเขาทำไมถึงไปได้!”
“เหอะ เหอะ คุณคิดว่าเป็นเพราะคุณจริงเหรอ? คุณคิดว่ามีเงินไม่กี่บาทก็สามารถทำได้อะไรก็ได้เหรอ ที่ผมพูดไปเมื่อกี้ก็เพราะว่าคุณหลี่ได้เตรียมการไว้แล้ว ส่วนผมก็พูดไปตามบทที่ได้เขียนไว้”
ผู้ตรวจการทีมพูดทิ้งท้ายไว้ โบกมือและพาลูกทีมทั้งหมดเดินจากไป
ซีเหมินจื้อเผิงโกรธจนใบหน้าและลำคอแดงกํ่า รู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปทั่วใบหน้า คำพูดของผู้ตรวจการทีมก็เหมือนช่วยหลี่โม่ตบหน้าเขาดีดีนี่เอง
ว่าแต่ตำรวจหน่วยงานลาดตระเวนทำไมถึงยอมช่วยหลี่โม่!
หมอนั้นก็แค่คนไร้ประโยชน์เองไม่ใช่เหรอ
“พวกคุณกลับมาก่อน! พวกคุณต้องส่งลูกชายฉันไปโรงพยาบาล! ไอ้บ้าเอ้ย!”
เหอซูฟางตะโกนด่าอย่างโกรธเคือง
“แม่ หยุดตะโกนได้แล้ว แค้นนี้ต้องชำระ!”
ซีเหมินจื้อเผิงคำรามเสียงตํ่า
“แก้แค้น ใช่ต้องชำระแค้นนี้กับพวกมัน แม่โทรเรียกรถฉุกเฉิน แกอดทนหน่อยนะ เราต้องไปโรงพยาบาลเอากระสุนปืนออกก่อน”
เนื่องจากอาการบาดเจ็บของลูกชาย ทำให้เหอซูฟางร้อนรน ไม่เหลือความเฉลียวฉลาดเช่นเคย
หลังจากโทรเรียกรถฉุกเฉินเสร็จ เหอซูฟางค่อยๆสงบลงพร้อมพูดว่า:“ประโยคสุดท้ายที่นายตำรวจหน่วยงานลาดตระเวนพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร? คนพวกนั้นเป็นแผนของหลี่โม่เหรอ?”
“ต้องใช่แน่นอน หลี่โม่นี่ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ไม่ใช่ย่อย ครั้งนี้ประเมินเขาตํ่าไป!”
ซีเหมินจื้อเผิงรู้สึกว่าตัวเองประมาทเกินไป ก็เพราะความร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ของหลี่โม่ ทำให้เขาวันนี้ต้องอับอายขายขี้หน้าแบบนี้
เสียงโหวกเหวกของรถฉุกเฉินได้ดังขึ้น ไม่นานหมอและพยาบาลก็วิ่งเข้ามา ยกซีเหมินจื้อเผิงไว้ในแปลแล้วหามขึ้นรถฉุกเฉินไป ทุกคนต่างเร่งรีบขึ้นรถฉุกเฉินมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล
……
กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลเรียบร้อย อาการไม่มีอะไรมาก แค่ตกใจขวัญเสียมากเกินไปเท่านั้น
ฉู่จงเทียนส่งหลี่โม่และครอบครัวกลับบ้านจากนั้นเขาก็ขอลากลับไป กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางนั่งอยู่ตรงโซฟาอย่างไร้เรี้ยวแรง จ้องมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่สับสน
จากการกระทำของหลี่โม่เมื่อกี้นี้ทำให้ทั้งสองประหลาดใจ แต่เนื่องจากกลุ่มหน่วยงานลาดตระเวนพุ่งเข้ามาแล้วบอกว่ามาเพื่อช่วยซีเหมินจื้อเผิง เลยทำให้ทั้งสองไม่ได้ประหลาดใจไปมากกว่านี้
“หลี่โม่ เรื่องวันนี้เป็นยังไงกันแน่ จางจงหยางนั้นนายเป็นคนไปยั่วยุเขาเหรอ?”
กู้เจี้ยนหมินถามด้วยเสียบแหบแห้ง
“พ่อค่ะ ก็เรื่องเมืองจินไห่เมื่อครั้งก่อน จางจงหยางช่วยเฝิงจื่อฉายจับตัวหนู ฉู่จงเทียนช่วยหลี่โม่ห้ามพวกเขาไว้ เลยสร้างความบาดหมางกันไว้” กู้หยุนหลันตอบแทนหลี่โม่
กู้เจี้ยนหมินขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอยหายใจแล้วพูดว่า“ช่างก่อเรื่องจริงเชียว สรุปเรื่องเมืองจินไห่จบลงแล้วหรือยัง แกไอ้ไร้ประโยชน์ยังไปสร้างเรื่องไว้กับใครอีก!”
กู้หยุนหลันอึ้งไปชั่วครู่ คิดในใจว่า ช่วงนี้จางจงหยาง, เฝิงจื่อฉายและพวกผิดหวังอยู่มาก คิดว่าเรื่องน่าจะจบแล้วละมั่ง
แต่กู้หยุนหลันก็ยังกังวลเล็กน้อย หากคนพวกนั้นก็เหมือนแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตาย แล้วกลับมาทำรังใหม่อีกละ?
กู้หยุนหลันยิ่งคิดยิ่งกังวล สายตามองไปทางหลี่โม่ที่อยู่ข้างๆ
หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า:“ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว จะไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มอีกแล้ว”
“ฮึ่ม!”
กู้เจี้ยนหมินแค่นเสียง:“ถ้าจัดการเรียบร้อยแล้วก็ดี หากจัดการไม่ได้ นายก็รีบพูดมา ฉันจะบากหน้าไปหาคุณท่านเพื่อช่วยหาวิธีแก้ไข จะได้ไม่เกิดเรื่องกระทันหันอีก ทำให้คนอื่นไม่ทันได้ตั้งตัว!”
“ไม่มีแน่นอนครับ จะไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว”
หลี่โม่พูดอย่างหนักแน่น
อำนาจของจางจงหยางถูกถอนรากถอนโคน เฝิงจื่อฉายตกใจจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง คาดเดาว่าตระกูลอสังหาริมทรัพย์ของเมืองจินไห่ทั้งหลาย ตอนนี้คงตกใจจนฉี่ราดกางเกงละมั่ง ไหนยังจะกล้ามาก่อกวนอีกละ
เป็นอย่างที่หลี่โม่คิดไว้ไม่มีผิด ตระกูลอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญของเมืองจินไห่กำลังรวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
เหอลี่ฉุนและคนอื่นๆนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนเก้าอี้ ผู้อาวุโสหลายท่านได้ด่าทอพวกเขาอยู่นานแล้ว ด่าจนพวกเขาร้องไห้ไปหลายรอบ ร้องจนนํ้าตาแห้งหมด
“พวกนายนี่เปล่าประโยชน์จริงๆ ตาบอดไปแล้วใช่ไหม ถึงไม่เห็นว่าคนไหนควรยุ่ง คนไหนไม่ควรจะยุ่งด้วย ลู่เจี้ยนปินแห่งเมืองจินไห่และฉู่จงเทียนแห่งเมืองฮ่านต่างก็ออกหน้ามาช่วยแล้ว พวกนายยังกล้าไปรังควานหลี่โม่อีก ใครให้ความกล้ากับพวกนาย”
เหอลี่หัวโกรธจนตับเจ็บ เหอลี่ฉุนตะคอกด่าลูกชายโง่เขลาของตัวเองอยู่นาน จนรู้สึกเสียบแหบเสียงแห้ง
“พวกเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเก่งกาจขนาดนั้น ตามที่สืบมาเขาก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านธรรมดา ที่คอยเกาะเมียกิน ไม่เห็นว่าจะมีประวัติเบื้องลึกอะไรเลย”
เหอลี่ฉุนพูดอย่างละอายใจ
เหอลี่หัวจุดบุหรี่ แล้วสูบไปสองคำใหญ่ หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วเขามองไปที่ผู้นำตระกูลอื่นๆ
“จางจงหยางไม่รอดแน่นอน ถูกจับกุมที่เมืองฮ่าน ได้ข่าวว่าสารภาพผิดเกือบทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องมืดลับของพวกเรา
เฝิงจื่อฉายถูกจับในระหว่างทางหนี เขายิ่งกุมความลับพวกเราไว้มากมาย ก่อนอื่นพวกเราต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจ พร้อมด้วยมอบของขวัญให้เพื่อเป็นการขอโทษ”
ผู้นำตระกูลทั้งหลายพยักหน้า พวกเขาต่างรู้สึกว่าเหอลี่หัวพูดได้สมเหตุสมผลมาก ถ้าไม่รีบออกตัวขอโทษ เกรงว่าจะเกิดภัยพิบัติมากกว่าตอนนี้อีก
“พวกเราควรหาคนกลางมาช่วยเจรจา และจัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นการขอโทษ ฉันว่าลู่เจี้ยนปินเหมาะสมดีนะ แล้วก็ติดต่อฉู่จงเทียนแห่งเมืองฮ่าน”
“มีคนกลางเป็นผู้ช่วยเจรจา แต่ที่สำคัญคือจะขอโทษอย่างไร ฉันว่าแค่ขอโทษธรรมดาไม่เหมาะสม ต้องคิดสิว่าคุณหลี่นั้นอยากได้อะไร จะได้ให้สมดั่งใจปรารถนาที่เขาต้องการ”