จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 307
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ห้องประชุมเงียบลงทันที คิ้วของซีเหมินจื้อเผิงขมวดเข้าหากันแน่น ไม่คิดว่าคู่แข่งขันเก่าจะไล่ตามมาถึงที่นี่ แล้วยังจะร่วมลงทุนกับตระกูลกู้อีกด้วย
การปรากฏตัวของคู่แข่งขันเก่า ทำให้ซีเหมินจื้อเผิงได้กลิ่นแปลกๆ รู้สึกว่ากำลังจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆอึ้งและตกตะลึง ทางนี้กำลังคุยกับซีเหมินจื้อเผิงอยู่ แล้วทำไมถึงยังมีบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจะมาคุยเกี่ยวกับการร่วมลงทุนด้วยกันอีก หรือว่าสวรรค์จะลิขิตให้ตระกูลกู้เจริญรุ่งเรืองยิ่งยิ่งขึ้นไปอีกแน่แล้ว?
กู้เจี้ยนกั๋วที่กำลังฝันหวานอยู่ในใจ อ้าปากกว้างจวนจะถึงบนฟ้า
“และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของเมืองจินไห่ก็มาพร้อมกัน บอกว่าจะมาขอโทษคุณหลี่”
เลขาพูดต่อ ทำให้ฝันของกู้เจี้ยนกัั๋วแตกสลาย
ได้ยินว่ามาขอโทษคุณหลี่ประโยคนี้ ในใจของกู้เจี้ยนกั๋วก็มีเงามืดปรากฏขึ้น
เมื่อไม่นานมานี่ ฉากที่ผู้นำตระกูลซูของเมืองเอกได้มาขอโทษหลี่โม่ ภาพนั้นได้ผุดขึ้นมาในหัวใจของกูเจี้ยนกั๋วอีกครั้ง
ทำไมถึงมีคนมาขอโทษหลี่โม่อีก เหตุผลอะไรที่ทำให้คนมาขอโทษหลี่โม่ มันไม่สมเหตุสมผลเลย
กู้เจี้ยนกั๋วมึนงงไปเล็กน้อย กู้เจี้ยนเจียงและคนอื่นๆสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก รู้สึกกระวนกระวายใจ
มุมปากของหลี่โม่ยกขึ้นแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มบางๆ กะพริบตาปริบๆให้กับกู้หยุนหลัน
ใจของกู้หยุนหลันสงบทันที
ซีเหมินจื้อเผิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า:“กู้เจี้ยนกั๋ว นายไม่อยากจะเจรจาการเซ็นสัญญากับฉันแล้วใช่ไหม ถึงกล้าติดต่อกับบริษัทคู่แข่งขันของฉัน!
“ไม่ ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้ติดต่อกับคนของเหิงฮุย นี่คือการเข้าใจผิด เลขา เธอรีบไปไล่คนของเหิงฮุยออกไป แล้วก็นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์พวกนั้น ก็ไล่ไปให้หมด!”
ขณะที่กู้เจี้ยนกั๋วตะโกนพูดอยู่ ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกกว้าง ลู่เจี้ยนปินเหอลี่หัวพร้อมคนอื่นๆ และฝรั่งชาวต่างชาติผมทองสองคนได้เดินเข้ามาในห้องประชุม
“พวกคุณเป็นใคร นี่คือห้องประชุมของตระกูลกู้ พวกคุณจะบุกรุกเข้ามาแบบนี้ไม่ได้ ไปรีบออกไปซะ!”
กู้เจี้ยนกั๋วตวาดอย่างร้อนรน
ซีเหมินจื้อเผิงสีหน้าบิดเบี้ยว และจ้องมองไปยังหนึ่งในฝรั่งชาวต่างชาติที่ตัวสูงผอม
“ครัฟฟ์ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา นายรีบไปจากที่นี่ซะ”
ซีเหมินจื้อเผิงพูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชา
ครัฟฟ์ซีอีโอของบริษัทผลิตยาเหิงฮุย ยักไหล่แล้วส่ายหัวให้ซีเหมินจื้อเผิง
“ซีเหมิน ฉันมาที่นี่เพื่อดูจุดจบของนาย ฉันได้ยินคำพูดของท่านผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ทางทิศตะวันออกนั้นมีคุณหลี่ผู้น่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นผมเลยยอมข้ามมหาสมุทรหลายพันไมล์เพื่อมาพบคุณหลี่ เพื่อนแสดงถึงความเคารพอย่างจริงใจต่อคุณหลี่”
ครัฟฟ์โค้งคำนับให้กับหลี่โม่ พร้อมพูดอย่างอ่อนน้อม
ทุกคนในตระกูลกู้เบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าครัฟฟ์แสดงความเคารพให้กับหลี่โม่ มันน่าอัศจรรย์มาก
นั้นคือซีอีโอบริษัทผลิตยาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเลยนะ!
ทุกครั้งที่กลับมาประเทศจีนก็มีคนใหญ่คนโตมารอคอยต้อนรับ แต่บัดนี้เขากลับโค้งคำนับทำความเคารพให้หลี่โม่ไอ้คนไร้ประโยชน์!
สีหน้าของซีเหมินจื้อเผิงขรึมเข้มขึ้นมา รู้สึกว่าเรื่องราวได้หลุดลอยจากรางเส้นทางเดิมไปมากแล้ว มันต่างจากบทที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง
ลู่เจี้ยนปินเหอลี่หัวและคนอื่นๆต่างตกตะลึง แม้พวกเขาจะเคยเจรจาทำความเข้าใจกับครัฟฟ์มาบ้างแล้ว ว่าจะออกเงินให้ครัฟฟ์ช่วยผลักดันการร่วมลงทุนระหว่างเหิงฮุยกับตระกูลกู้ แต่ครัฟฟ์ก็ไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจน
เดิมทีเหอลี่หัวและคนอื่นๆคิดจะขอโทษโดยการให้เป็นเงินสด แต่คิดไม่ถึงว่าทันทีที่เจอหลี่โม่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ครัฟฟ์ก็โค้งคำนับให้กับหลี่โม่ก่อนแล้ว
แบบนี้ไม่ธรรมดาแน่ เบื้องหลังของหลี่โม่ต้องใหญ่โตแน่นอน ไม่ได้ยินที่ครัฟฟ์บอกว่ามีผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่นำพาเขามาเหรอ!
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่อย่างงุนงง จิตใจมึนงงเล็กน้อย คิดไม่ตกว่าหลี่โม่กับผู้รู้ที่ครัฟฟ์พูดถึงมีความเกี่ยวข้องกันยังไง
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย ถือเป็นการตอบรับครัฟฟ์
ลู่เจี้ยนปินได้สติกลับมาก่อน เดินมายิ้มแล้วพูดว่า:“สวัสดีครับคุณหลี่ ผมทนคำอ้อนวอนพวกเหล่าเหอไม่ไหว จนปัญญาเลยต้องนำพาพวกเขามาขอโทษคุณหลี่ ขอคุณหลี่ได้โปรดให้อภัยพวกเขาด้วยเถิด “
“พวกเราสั่งสอนลูกได้ไม่ดี ตามใจมากเกินไป แล้วยังฝันเฟื่องคิดที่จะแก้แค้นให้พวกเขา ทั้งหมดคือความผิดของพวกเรา คุณหลี่ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย”
เหอลี่หัวพูดจบก็พานักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกคนโค้งคำนับขอโทษหลี่โม่
ซีเหมินจื้อเผิงยิ่งมองยิ่งโกรธ คิดว่านี่คือแผนของหลี่โม่ที่ใช้มาฉีกหน้าเขา
“ตระกูลกู้พวกคุณนี่เจรจาการเซ็นสัญญายังไง? ความแคร่งขรึมในการทำธุกิจมีบ้างไหม!”
กู้เจี้ยนกั๋วไม่กล้าลังเล หน้าเข้มแล้วพูดกับพวกเหอลี่หัวว่า:“ทุกคน ได้โปรดออกไปก่อน อย่ารบกวนการเจรจาระหว่างทางเรากับท่านประธานซีเหมิน พวกคุณจะขอโทษหลี่โม่ไร้ประโยชน์นั้น ก็รอให้ทางเราเจรจาเซ็นสัญญาเสร็จค่อยว่ากัน”
ครัฟฟ์ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย อมยิ้มแล้วยื่นมือไปหาผู้ช่วยเขา
ผู้ช่วยรีบไปหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋า แล้ววางไว้ในมือของครัฟฟ์
“คุณหลี่ผู้น่าอัศจรรย์ ซีเหมินดูหมิ่นท่านมาก ได้โปรดให้ผมได้มีโอกาสสั่งสอนเขาที ท่านผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่ได้กล่าวไว้แล้วว่า ขอแค่ผมช่วยท่านสั่งสอนซีเหมิน ก็จะมีเรื่องโชคดีเกิดขึ้นกับบริษัทเหิงฮุยแน่นอน”
ครัฟฟ์พูดพร้อมก้มตัวเล็กน้อย
ดวงตาของซีเหมินจื้อเผิงแดงกํ่าขึ้นมาทันที จะให้หลี่โม่คุกเข่าลงยังไม่ทันสำเร็จ คู่แข่งขันของตัวเองก็โผล่ออกมาช่วยหลี่โม่ ทำให้ซีเหมินจื้อเผิงทนไม่ไหวแล้ว “ครัฟฟ์! นายไอ้คนสารเลวกับหลี่โม่คนไร้ประโยชน์นี่สมคบคิดกัน มันช่างน่าอับอายขายหน้าจริงเชียว คนโง่อย่างนายยังคิดที่จะมายั่วยุฉัน ในงานประมูลเดือนหน้านี้ บริษัทเหิงฮุยของพวกนายแม้แต่เม็ดข้าวสารก็จะไม่ได้ติดมือไป!”
ครัฟฟ์มองซีเหมินจื้อเผิงที่โกรธจนบ้าคลั่ง ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ไม่ได้เก็บกลับสักเม็ดนั้นคือพวกคุณ ผมเข้าใจความหมายของท่านผู้รู้ที่นำพาผมมาแล้วว่า คุณหลี่ก็คือผู้มีพระคุณของบริษัทพวกเรา”
หลังพูดจบครัฟฟ์ก็โยนเอกสารในมือให้กับซีเหมินจื้อเผิง:“คุณลืมตาโตๆดูให้ดี นี่คือผลการตรวจสอบว่าอาหารเสริมของพวกคุณมีสารก่อมะเร็งที่เกินมาตรฐาน”
“เป็นไปไม่ได้”
ซีเหมินจื้อเผิงคำรามแล้วหยิบเอกสารขึ้นมา ดูไปได้สองบรรทัด สีหน้าซีเหมินจื้อเผิงซีดเซียวทันที
“พวกนาย นี่คือการใส่ร้าย บริษัทเหิงฮุยของพวกนายต้องทำอะไรแน่! ไว้ฉันตรวจพบความจริงเมื่อไหร่ จะทำให้ชื่อเสียงพวกนายป่นปี้ไป!”
ซีเหมินจื้อเผิงหยิบเอกสารในมือแล้วลุกขึ้นยื่น ไม่ได้สนใจบาดแผลที่โดนยิงบนต้นขา รีบเดินออกไป
รีบกลับไปแก้ไขปัญหาฉุกเฉินที่เกิดขึ้นสำคัญกว่า หากไม่แก้ไขปัญหานี่ให้ดี บริษัทของซีเหมินจื้อเผิงเป็นต้องจบสิ้นแน่
ลูกน้องของซีเหมินจื้อเผิงรีบตามไปกันอย่างเร่งรีบ
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆตกตะลึง เจรจาการเซ็นสัญญาอยู่ดีๆทำไมมันกลับตาลปัตรแบบนี้ไปได้
“ท่านประธานซีเหมิน ท่านรอก่อน การเจรจาการเซ็นสัญญาของเรายังไม่เสร็จเลย!”
กู้ซิงเว๋ยรีบวิ่งตามออกไป
ซีเหมินจื้อเผิงถลึงตามองกู้ซิงเว๋ยที่วิ่งไล่ตามมาอย่างโกรธเกรี้ยว:“ยังจะเจรจาอะไรอีก บริษัทผมเกิดปัญหา รอจัดการเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาเคลียร์เรื่องหลี่โม่ไร้ประโยชน์นั้น”
“ครั้งหน้าถ้าพวกนายไม่สามารถทำให้หลี่โม่ไร้ประโยชน์นั้นคุกเข่าให้กับผม ก็ไม่ต้องคิดที่จะมาเจรจาการเซ็นสัญญาอีกต่อไป!”