จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 309
“ที่ดินอุตสาหกรรม เหมาะสมดีนะ พวกนายโอนที่ดินในนามภรรยาฉันเลย แล้วพาลูกชายของพวกนายกลับเมืองจินไห่ไป อย่าให้ฉันได้เห็นหน้าพวกเขาอีก”
เมื่อเห็นหลี่โม่ยอมรับคำขอโทษ เหอลี่หัวและคนอื่นๆก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วให้พนักงานรีบหยิบเอกสารการโอนที่ดินให้กับกู้หยุนหลัน
กู้ชิงหลินเมื่อเห็นก็อิจฉาตาร้อน พูดขึ้นเสียงแหลมว่า:“ไม่ควรให้กู้หยุนหลัน นี่ก็ถือว่าเป็นธุรกิจครอบครัว! ทำไมต้องใช้ชื่อหยุนหลันด้วย!”
กู้ซิงเว๋ยพูดต่อว่า:“ใช่แล้ว นี่ควรถือเป็นธุรกิจครอบครัว กู้หยุนหลันเธอควรคิดเผื่อส่วนรวม ที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้เธอถือไว้ในมือก็เปล่าประโยชน์”
หลี่โม่ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า:“พวกคุณแน่จะนะว่าตระกูลกู้จะรับไว้”
เหอลี่หัวมองคนในตระกูลกู้ด้วยสีหน้าเย็นชา:“พวกคุณทำไมถึงพูดแบบนี้ เห็นพวกเราไม่มีตัวตนหรือไง นี่เป็นคำขอโทษของพวกเราที่ให้กับคุณหลี่ หากตระกูลกู้ของพวกคุณจะหน้าด้านแบบนี้ พวกเราจะไม่เกรงใจละนะ”
“ขอเพียงคุณหลี่พูดมาคำเดียว พวกเรานักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เมืองจินไห่ทุกคนต่างฟังคำสั่งของคุณหลี่ทั้งนั้น คุณหลี่พูดว่าหนึ่งพวกเราก็จะไม่มีสอง”
“พวกนายตระกูลกู้อย่าได้ทำเกินไป กล้าดูหมิ่นกับคุณหลี่และคุณหนูหยุนหลัน แบบนี้เท่ากับพวกนายเป็นศัตรูกับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์แห่งเมืองจินไห่”
นังลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของเมืองจินไห่ต่างพากันพูด กู้ชิงหลินและกู้ซิงเว๋ยไม่กล้าพูดอะไรอีก
กู้เจี้ยนกั๋วระงับความโกรธในใจ ยิ้มแห้งแล้วพูดว่า:“เด็กๆไม่รู้กาลเทศะ พวกคุณอย่าถือสาเลย พวกคุณอยากมอบที่ให้ใคร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”
กู้หยุนหลันเซ็นรับเอกสารการโอนที่ดินกับเหอลี่หัวเสร็จแล้ว ในมือถือเต็มไปด้วยเอกสารของที่ดิน แล้วก็เดินกลับไปหาหลี่โม่ด้วยความกระวนกระวาย
หลี่โม่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า:“หยุนหลัน กลับ”
หลี่โม่พากู้หยุนหลันออกไป ลู่เจี้ยนปินและคนอื่นๆก็เดินตามออกไป ในห้องประชุมเหลือแค่คนในตระกูลกู้
กู้เจี้ยนกั๋วเอาบุหรี่ออกมาด้วยสีหน้ามืดมน จุดบุหรี่สูบอย่างหดหู่ใจ
“พ่อ เราก็ดูกู้หยุนหลันเซ็นสัญญากับเหิงฮุย แล้วก็เซ็นรับที่ดินผืนใหญ่นั้นอีก นี่มันยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่อีก!”
กู้ซิงเว๋ยโวยวาย
“โวยวายอะไรกัน เรื่องพวกนี้จะรีบไม่ได้ ควรที่จะต้องลงลายเส้นก่อน สุดท้ายทุกอย่างก็จะตกเป็นของตระกูลเรา”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดอย่างแผ่วเบา
“ต้องคิดหาวิธี กับเหิงฮุยก็แค่ให้หยุนหลันเซ็นสัญญาเท่านั้น ต่อไปให้ซิงเว๋ยกับชิงหลินเป็นผู้รับผิดชอบ ทางเหิงฮุยก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ที่ดินผืนนั้น ต้องหาวิธีเอามาให้ได้”
กู้เจี้ยนเจียงเองก็อิจฉาตาร้อน
กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้าเล็กน้อย ในใจเริ่มคิดหาแผนการ หลังจากสูบบุหรี่ติดกันไปหลายม้วนแล้วจึงพูดว่า:“อย่าเพิ่งรีบ ช่วงนี้ก็วางแผนกันไปก่อน จะต้องให้พวกเขามอบให้อย่างว่าดี”……
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันหลังออกจากบริษัท ขับรถบนถนนอย่างไร้จุดมุ่งหมาย
“หลี่โม่ ฉันรู้สึกว่าเหมือนกำลังฝันอยู่? นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เมืองจินไห่พวกนั้น ให้ที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้”
กู้หยุนหลันพูดอย่างงุนงง
“ไม่ได้ใหญ่มากมาย ก็แค่500หมู่ หากคนทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ยังไม่พอสร้างตึกเลย”
หลี่โม่พูดลอยๆ “พูดอย่างกับคุณเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์งั้นแหละ ยังแค่500หมู่ ที่ดินก้อนโตขนาดนี้เราถือไว้ในมือก็ไม่มีประโยชน์ พวกคุณลุงใหญ่ต้องคอยจะงาบแน่ ในภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้”
ใจของกู้หยุนหลันยังคงกังวล กังวลว่าคนในครอบครัวจะทำเรื่องอะไรอีก ที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้ กู้หยุนหลันก็ไม่มีเงินมากมายที่จะมาลงทุนการก่อสร้างได้
“ไม่ต้องรีบร้อน วันนี้มีคนให้ที่ดินไม่แน่วันหน้าอาจจะมีคนส่งอุปกรณ์การสร้างมาก็ได้ เดียวทุกอย่างก็มาเอง”
หลี่โม่พูดจบก็มองถนน ยิ้มแล้วพูดว่า:“เราไปดูซีซีกันเถอะ แล้วถามหมอเกี่ยวกับอาการ หากเป็นไปได้ วันนี้เราพาซีซีไปเที่ยวสวนสนุก”
กู้หยุนหลันพยักหน้าหนักๆ:“ดีค่ะ ฉันก็คิดถึงซีซี”
รถเริ่มวิ่งเร็วขึ้นสักพัก รถของกู้หยุนหลันก็มาถึงโรงพยาบาล เมื่อจอดรถเสร็จทั้งสองก็เดินเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อพบกับหมอที่ดูแลรักษาซีซีก่อน
เมื่อหมอเห็นหลี่โม่กับกู้หยุนหลันมาหา มีความยำเกรงอยู่มาก เพราะรู้ว่าทั้งสองเป็นคนในครอบครัวของผู้อำนวยการ
“สวัสดีครับ คุณทั้งสองมาเยี่ยมซีซีใช่ไหม เชิญนั่งดื่มนํ้าชาก่อนครับ”
“พวกเรามาเยี่ยมซีซี อยากทราบเกี่ยวกับอาการช่วงนี้ของซีซีว่าเป็นยังไงบ้าง จะสะดวกไหมวันนี้ถ้าเราจะพาซีซีไปเที่ยวที่สวนสนุก เพราะเด็กก็อยู่ในโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน ในใจคงอดกลั้นไม่ไหวแล้วเป็นแน่ “กู้หยุนหลันพูดอย่างกังวล
“อาการของซีซีคือแบบนี้ครับ การปลูกถ่ายเซลล์ไขกระดูกได้เสร็จสมบูรณ์มาแล้วสักระยะหนึ่ง หลังการผ่าตัดก็ฟื้นตัวได้ดี และอยู่ในระยะสังเกตการณ์ หากจะพาเด็กไปเที่ยวสวนสนุกก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรเล่นเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นเช่น รถไฟเหาะ เรือโจรสลัด ฯลฯ”
หมออธิบายได้อย่างละเอียด และยังกำชับข้อควรระวังให้รับรู้ จากนั้นจึงส่งหลี่โม่กับกู้หยุนหลันไปห้องพักฟื้นคนไข้
ซีซีที่กำลังอุ้มตุ๊กตาเดินเตร่อยู่ทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเห็นร่างของหลี่โม่กับกู้หยุนหลัน ก็ยิ้มอย่างร่าเริงแล้วรีบวิ่งเข้าหา
“คุณพ่อคุณแม่ค่ะ ในที่สุดพวกท่านก็มา หนูคิดว่าพวกท่านไม่ต้องการซีซีแล้วซะอีก”
ซีซีพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ
กู้หยุนหลันย่อตัวลง แล้วกอดซีซีไว้ :“ซีซีเป็นเด็กดี ช่วงนี้พ่อกับแม่ยุ่งเกินไป ไม่ได้มาหาหนูบ่อยๆ ต้องขอโทษซีซีด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูก็แค่คิดถึงท่านทั้งสอง หนูอยากให้คุณพ่ออุ้มหนู”
หลี่โม่อุ้มซีซีขึ้น ยิ้มตาหยี่มองลูกสาวแล้วพูดว่า:“ซีซี พ่อกับแม่จะพาหนูไปเที่ยวสวนสนุกดีไหม”
แววตาของซีซีเป็นประกาย เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า:“ดีค่ะ หนูอยากจะไปสวนสนุกมากค่ะ ว่าแต่ไปตอนนี้เหรอค่ะ?”.
“ใช่แล้ว ตอนนี้นี้เลย ไปกันเถอะ”
หลี่โม่อุ้มซีซีแล้วเดินออกไป
ซีซีดีใจกอดคอหลี่โม่ไว้อย่างมีความสุข แล้วหอมแก้มหลี่โม่หนึ่งที:“ คุณพ่อดีที่สุดเลย ซีซีจะไปเที่ยวเล่นที่สวนสนุกแล้ว”
เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขซีซี นํ้าตาก็ไหลออกมาจากหางตาของกู้หยุนหลัน หลังจากเช็ดออกเบาๆ ก็รีบเดินก้าวตามไป
เมื่อออกจากโรงพยาบาลก็พาซีซีขึ้นรถ ทั้งสามพ่อแม่ลูกก็ออกเดินทางไปยังสวนสนุก
สวนสนุกตั้งอยู่ที่เขตชานเมือง ทุกๆสุดสัปดาห์มักจะแออัดไปด้วยผู้คน วันนี้เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ดังนั้นที่ขายตั๋วจึงมีคิวไม่มาก
ซีซีติดหลี่โม่และไม่ยอมปล่อยมือ กู้หยุนหลันยิ้มแล้วพูดว่า:“คุณพาซีซีไปซื้อตั๋ว เดียวฉันจะไปซื้อนํ้ากับของว่าง”
หลี่โม่พยักหน้า จูงมือซีซีเดินไปยังที่ขายตั๋ว แล้วเข้าแถวท้ายขบวนเพื่อรอคิว
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของหลี่โม่คือหญิงชราวัยหกสิบกว่ากว่า จูงมือเด็กชายอ้วนตุ้ยนุ้ย
เมื่อเด็กชายอ้วนตุ้ยนุ้ยเห็นซีซียืนอยู่ข้างหลังเขา ก็เอื้อมมือไปคว้าตัวซีซี
ซีซีหลบไปข้างหลังหลี่โม่:“คุณพ่อค่ะ เขาจับหนู”
เด็กชายเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม แล้วพูดอย่างเสียงดังว่า:“เสื้อผ้าที่พ่อเธอสวมใส่ช่างราคาถูกนัก มองก็รู้แล้วว่าไม่มีเงิน หากเธอเป็นเพื่อนเล่นกับฉันดีๆ ฉันจะให้พ่อของฉันจัดหางานให้พ่อของเธอ”
หลี่โม่ฟังแล้วยิ้มโกรธ พูดกับหญิงชราว่า:“ป้า ช่วยดูหลานชายคุณด้วย”
“หลานชายของฉันอยู่ดีๆ เขาก็ไม่ได้พูดผิด นายก็แค่คนจน หลายชายฉันจะเล่นกับลูกสาวนาย ถือว่าเป็นบุญของครอบครัวนาย”