จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 314
“แม่ครับ แม่แก่แล้วหยุดสร้างปัญหาให้ผมเถอะ แม่อยากให้เราต้องตายกันทั้งบ้านเหรอ”
หลี่กางพูดอย่างกระวนกระวาย
หญิงชราถึงกับผงะไป เมื่อเห็นความกลัวในสายตาของหลี่กางเธอก็รู้สึกเอะใจแล้วกระซิบถามหลี่กางว่า “แก แกสู้พวกมันไม่ได้เหรอ?”
“สู้บ้าบออะไรกัน! นั่นท่านหลงนะ แค่เขาขยับปากเราก็ต้องตายกันทั้งบ้านแล้ว แม่รู้ไหมว่าสร้างปัญหาให้ผมใหญ่แค่ไหน”
หลี่กางพูดด้วยความหงุดหงิด
“ปกติแกบอกว่าแกเก่งนักไม่ใช่เหรอ แกบอกว่าในเมืองฮ่านนี้แกไม่กลัวใครเลยไม่ใช่เหรอ”
หญิงชราพูดอย่างไม่พอใจ
ปกติแล้วหลี่กางชอบพูดจาโอ้อวดในบ้าน รวมถึงเขามีลูกน้องในมือมากมาย ดังนั้นคนที่บ้านรวมไปถึงแม่กับลูกชายของเขาก็คิดว่าหลี่กางนั้นมีความสามารถจริงๆ
หลี่กางรู้สึกผิดทันที ถือได้ว่าเขาเพิ่งสัมผัสถึงความสำคัญของการเจียมตัวแล้ว
ดูคุณหลี่เขาสิ คนที่สามารถทำให้คนใหญ่คนโตอย่างท่านหลงให้การเคารพได้ เขาถ่อมตัวมากแค่ไหน
หลี่กางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมหลี่โม่ถึงยอมถ่อมตัวได้ขนาดนี้ ต่อให้เขาทำตัวยโสโอหังมากแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาอยู่แล้ว
เฉียวเจิ้งหลงพูดกับหลี่โม่เบาๆ “คุณหลี่ครับ คุณอยากให้ผมจัดการกับไอ้หมอนี่ยังไงครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวเจิ้งหลง หลี่กางถึงกับเข่าอ่อนและพูดกับหลี่โม่ด้วยเสียงที่สั่นเทา “คุณหลี่ครับ ปล่อยผมไปเถอะครับ คุณก็แซ่หลี่เหมือนผม เราเป็นครอบครัวเดียวกันตั้งแต่เมื่อห้าร้อยปีก่อนแล้วนะครับ คุณให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้วครับ”
“เป็นครอบครัวเดียวกันตั้งแต่เมื่อห้าร้อยปีก่อน? คุณช่างกล้าพูดจริงๆ นะ”
หลี่โม่พูดอย่างเหลือทน
หลี่โม่เป็นคนเกลียดวิธีนี้ที่สุด อยู่ในความเป็นจริงก็พอ ทำไมต้องตีสนิทด้วยวิธีนี้ด้วย
“หลี่กาง นายยังมีหน้าไปนับญาติกับคุณหลี่อีกเหรอ ต่อให้นายเป็นญาติกันมาพันปีคุณหลี่ก็ไม่มีวันนับญาติกับนายหรอก พวกนาย เข้าไปสั่งสอนมันที”
เฉียวเจิ้งหลงพูดอย่างเย็นชา
จากนั้นบอดี้การ์ดก็เดินเข้าไปจับตัวหลี่กางแล้วอัดเขาอย่างไม่ยั้งมือจนเขาตะโกนกรีดร้องออกมาอย่างไม่หยุด
หญิงชรามองดูสถานการณ์อันน่าสลดใจของหลี่กางลูกชายของเธอ ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งและจากนั้นเธอก็กัดฟันแล้ววิ่งเข้าไปเพื่อจะตบหลี่โม่ด้วยความเคียดแค้น
“รังแกหลานชายฉันแล้วจะรังแกลูกชายฉันอีก วันนี้ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง!”
ก่อนที่หญิงชราจะเข้าไปถึงตัวของหลี่โม่ บอดี้การ์ดก็ถีบเธอกระเด็นออกไปด้วยความแรง เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นในตัวของหญิงชราและเธอก็ล้มลงกับพื้นแล้วตะโกนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เด็กอ้วนตกใจจนพูดไม่ออก เขาทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความตื่นตระหนกและสั่นไปทั้งตัว
ซีซีที่กอดอยู่ในอ้อมแขนของหลี่โม่ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องนี้เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“คุณพ่อคะ เราไปกันเถอะ หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
“ได้สิ งั้นเราไปเล่นต่อหรือจะกลับโรงพยาบาลเลย?”
หลี่โม่อุ้มซีซีแล้วเดินไปด้วยและถามเธอไปด้วย
“หนูไม่อยากเล่นแล้วค่ะ หนูอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว”
หลี่โม่พยักหน้าแล้วพาลูกสาวเดินออกจากสวนสนุก ส่วนกู้หยุนหลันก็เดินอยู่ข้างๆ แล้วคอยปลอบซีซีอย่างนุ่มนวล
หลี่กางที่เห็นครอบครัวของหลี่โม่กำลังจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ว่าเขาสั่งคนทุบรถของหลี่โม่จนพังยับเยินไปแล้ว ถ้าหลี่โม่ไปเห็นเข้าเขาต้องโกรธอย่างแน่นอน
“ท่าน ท่านหลงครับ ผมให้ลูกน้องทุบรถของคุณหลี่ไปแล้วครับ ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมขอเอารถเบนซ์ของผมชดใช้ให้กับคุณหลี่นะครับ ผมรบกวนท่านหลงช่วยพูดกับคุณหลี่หน่อยครับ วันนี้ผมขอยอมรับโทษทุกอย่างครับ”
“เหอะ นายคิดว่าคุณหลี่อยากได้รถกระจอกๆ ของนายเหรอ นับจากวันนี้ไปทรัพย์สินทั้งหมดของนายจะถูกยึด ถือว่าเป็นบทเรียนเล็กๆ ให้นาย คุณหลี่เป็นคนในบุญแล้วนะ ไม่เอาชีวิตนายก็ถือว่าบุญแค่ไหนแล้ว แล้วก็นายต้องพาครอบครัวของนายออกไปให้พ้นจากเมืองฮ่าน”
เฉียวเจิ้งหลงพูดอย่างเย็นชา
หลี่กางแทบจะสติแตกทันที เขารู้สึกว่าชีวิตที่เหลือของเขาต้องสิ้นหวังแล้ว
“ผม ผมหมดกันครับ สิ่งที่ผมสร้างมาทั้งชีวิตต้องหมดกันแน่เลยครับ ท่านหลง ท่านหลงต้องช่วยผมนะครับ ผมจะคุกเข่าขอความเมตตาจากคุณหลี่ครับ”
หลี่กางยังคงพยายามอ้อนวอนอย่างสุดชีวิต จากนั้นเฉียวเจิ้งหลงส่งเสียงเย็นชาแล้วพาลูกน้องเดินตามหลี่โม่ไป
เมื่อเห็นว่าเฉียวเจิ้งหลงจากไปแล้ว กลุ่มลูกน้องของหลี่กางก็ลุกขึ้นแล้วมายืนล้อมเขาไว้
“พวก พวกนายคิดจะทำอะไรกัน”
เมื่อเห็นแววตาของลูกน้องแล้ว หลี่กางก็รู้ทันทีว่าเขาแต่แย่แน่นอน
“ให้ตายเหอะ คุณยังมีหน้ามาถามพวกเราอยู่เหรอ เราต้องผิดใจกับท่านหลงแถมยังต้องผิดใจกับคนที่ท่านหลงยังกลัวก็เพราะคุณคนเดียว แล้วคุณมีอะไรจะอธิบายให้พวกเราฟังไหม”
“เราทุกคนก็ต้องตกงาน แล้วต่อจากนี้พวกเราจะกินอะไร ถึงแม้คุณเคยเป็นพี่ใหญ่ของเรา การงานของคุณก็เจริญรุ่งเรือง แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดนี้มันล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเราทุกคนนะ ตอนนี้ทุกอย่างก็หมดกัน”
“ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ในบ้านคุณต้องชดใช้ให้กับพวกเรา มิฉะนั้นอย่างหวังจะได้ออกจากเมืองฮ่าน”
หลี่กางรู้สึกน่าสังเวชที่เห็นลูกน้องต่างก็เห็นแก่เงิน ในยามที่มีทุกคนย่อมจะให้เกียรติเขาและยกเขาเป็นพี่ใหญ่ แต่ในยามที่หมดตัวทุกคนก็หันหลังให้กับเขา
“อย่าแตะต้องแม่กับลูกชายข้า ถ้าพวกเองยอมส่งครอบครัวข้าออกจากเมืองฮ่าน เงินเก็บกับบ้านของข้าก็ยกให้พวกเองหมด”
หญิงชราถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดเลยว่าปัญหาที่ตัวเองสร้างขึ้นมามันจะรุนแรงขนาดนี้ ตอนนี้พวกเธอไม่เหลืออะไรแล้ว
ตอนนี้เงินในกระเป๋าก็หมดตัวแล้ว แถมบ้านยังถูกเขายึดไปด้วย หญิงชราจึงรู้สึกว่าให้ตายเสียดีกว่าอยู่
ถ้าเธอห้ามหลานชายไว้ตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดปัญหาใหญ่โตเช่นนี้ ตอนนี้เธอได้แน่เสียใจและทำอะไรไม่ได้จริงๆ
หลี่กางจำเป็นต้องมอบกุญแจบ้านและบอกรหัสผ่านของบัญชีธนาคารออกไป พวกลูกน้องของเขาถึงจะยอมปล่อยเขาไป
หลังจากที่กลุ่มลูกน้องจากไป หลี่กางก็ฝืนลุกขึ้นแล้วเดินไปพยุงแม่ให้ลุกขึ้นยืน
“แม่ แม่เห็นมั้ยว่าเรื่องมันใหญ่แค่ไหน ตอนนี้พวกเราต้องกลับไปอยู่ที่ชนบทอีกครั้ง และครั้งนี้เราคงไม่มีโอกาสได้พลิกผันชีวิตอีกแล้ว”
หญิงชราได้แต่อยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าขมขื่น หลี่กางถอนหายใจแล้วมองไปที่ลูกชายของเขาอย่างสิ้นหวัง เขาได้เห็นลูกชายตกใจจนคายฟองออกมาจากปากและไม่มีการตอบสนองใดๆ
“ลูก ลูกเป็นอะไรไป? ทำไมกูถึงซวยขนาดนี้”
เมื่อเห็นลูกชายได้แน่นั่งนิ่งๆ ไม่มีการตอบสนอง หลี่กางถึงกับน้ำตาไหลออกมาและรู้สึกว่าชีวิตของตนนั้นขมขื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีก
……
ก่อนที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลันจะเดินออกไปจากสวนสนุก เฉียวเจิ้งหลงก็ได้บอกเรื่องที่หลี่กางทุบรถของพวกเขาไปแล้วให้เขาฟัง
กู้หยุนหลันพูดอย่างกังวลว่า “นั่นเป็นรถของบริษัทนะ เราต้องหาซื่อคันที่เหมือนกันด้วย”
“คุณกู้ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมมอบหมายคนไปจัดการเรื่องนี้แล้วครับ ยังไงพวกคุณใช้รถของผมไปก่อนนะครับ” เฉียวเจิ้งหลงพูด
“ไปทุบรถของหลี่กาง ทุบให้มันเป็นซากไปเลย” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา
“รับทราบครับ”
เฉียวเจิ้งหลงโบกมือสั่ง จากนั้นเหล่าบอดี้การ์ดของเขาก็ถืออุปกรณ์แล้วตรงไปที่รถของหลี่กางแล้วทุบอย่างไม่ยั้งมือ และในไม่ช้ารถของหลี่กางก็กลายเป็นซากไปทันที