จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 335
หม่าเจียเฉิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่ถูกขับไล่ออกจากปราสาทพร้อมกับกลุ่มลูกเศรษฐี ทำให้พวกเขารู้สึกอับอายจนแทบระเบิด
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ พวกลูกเศรษฐีไม่เคยอับอายขายหน้าเหมือนวันนี้ หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากประตูปราสาท พวกเขาก็เริ่มดุด่าขึ้นมา
“ไอ้ขยะพวกนี้สารเลวเหมือนไอ้เศษสวะคนนั้น พวกมันควรจะถูกจัดการจริง ๆ เสียที”
“ถ้าจับพวกมันได้ก็จะทำลายพวกมัน ไม่สิ! ฆ่าพวกมันโดยตรงดีกว่า เฮียหม่า ฉันจะติดต่อพวกกลุ่มโจร ดูสิว่าตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหนแล้ว”
ลูกเศรษฐีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออก หลังจากพูดไม่กี่ประโยค ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เฮียหม่า พวกเขามาถึงแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากที่นี่ 20 กิโลเมตร พวกเราจะไปหาพวกเขากันไหม?”
“ไป ต้องไปแน่นอน ทุกคนขึ้นรถ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”
หม่าเจียเฉิงแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหน้าจางเฉียง เขาต้องการพาจางเฉียงกับกลุ่มโจรที่โหดเหี้ยมกลับมา เพื่อให้ทุกคนเห็นความน่าเกรงขามของตนเอง
แม่ง ฉันเป็นถึงหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองเอก!
ไม่ใช่หมาแมวที่สามารถทำให้อับอายขายหน้าได้ง่าย ๆ!
หม่าเจียเฉิงคิดเคียดแค้นอยู่ในใจ
สตาร์ท เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง รถสปอร์ตปอร์เช่ของหม่าเจียเฉิงก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับลูกศร
ลูกเศรษฐีที่เหลือก็ขับรถหรูของพวกเขา ตามรถปอร์เช่ของหม่าเจียเฉิงไปยังโกดังร้างที่อยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร
ระยะทาง 20 กิโลเมตร กับความเร็วบ้าระห่ำของลูกเศรษฐี ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงจุดหมาย
รถปอร์เช่หยุดที่ประตูโกดังอย่างราบรื่นและมั่นคง
หม่าเจียเฉิงลงจากรถ มองชายร่างกำยำสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูโกดัง
สีหน้าของชายร่างกำยำสองคนเคร่งขรึม ถือปืนสั้นในมือ และสะพายปืนไรเฟิลไว้ด้านหลัง มองแล้วเป็นโจรที่โหดเหี้ยมจริงๆ
“เฮียจางเฉียงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ฉันคือหม่าเจียเฉิง และฉันเป็นนายจ้างของคุณด้วย”
หม่าเจียเฉิงพูดเสียงดัง ในใจเขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เป็นครั้งแรกที่หม่าเจียเฉิงคบค้าสมาคมกับพวกกลุ่มโจร แต่เมื่อคิดว่ามีเฮียฉินเป็นคนกลาง หม่าเจียเฉิงก็รู้สึกโล่งใจทันที
ลูกเศรษฐีมาถึงทีละคน หลังจากลงจากรถ พวกเขาทั้งหมดเหมือนถูกสะกดโดยโจรสองคนที่ยืนอยู่ตรงประตู
โจรสองคนที่ดุร้ายเป่านกหวีด แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกนายจ้างมาถึงกันแล้ว งั้นเชิญเข้าไปข้างใน เฮียเฉียงของพวกเรากำลังรอพวกคุณอยู่”
หม่าเจียเฉิงสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิดว่าตัวเองเป็นนายจ้าง จะกังวลไปทำไม ยิ่งคนพวกนี้โหดร้ายเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เพราะมันเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะให้พวกเขาใช้เลือดล้างปราสาท
เขาพาลูกเศรษฐีเข้ามาในโกดัง หม่าเจียเฉิงมองดูกลุ่มโจรที่แข็งแกร่งนั่งและยืนอยู่ในโกดัง เขารู้สึกราวกับว่าได้เห็นเทพเจ้าแห่งความตาย
ร่างกายของคนเหล่านี้แผ่รังสีฆ่า แค่เข้าใกล้พวกเขา ทำให้หม่าเจียเฉิงรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขาลดลงหลายองศา เป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเลย
โจรพาหม่าเจียเฉิงเข้าไปในส่วนลึกสุดของโกดัง จางเฉียงมีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดบนใบหน้า กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และกำลังลองมีดยุทธวิธีอยู่
มีดยุทธวิธีอยู่ในมือของจางเฉียงเหมือนมันมีชีวิต มันบินขึ้นและลงที่ปลายนิ้วของจางเฉียง
“คุณคือหม่าเจียเฉิง?”
จางเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อจางเฉียงยิ้ม รอยแผลเป็นที่น่าเกลียดบนใบหน้าของเขาดูเหมือนมีชีวิต ราวกับว่ากลายเป็นตะขาบที่ชั่วร้าย ทำให้หม่าเจียเฉิงรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
มาดคุณชายใหญ่ที่หยิ่งผยองได้หายไป ตอนนี้หม่าเจียเฉิงดูเหมือนเด็กดีที่ถูกเด็กเลวรังแก เขามองจางเฉียงด้วยความประหม่า
“ใช่ฉันเอง ฉันต้องการให้……”
“คุณต้องการให้พวกเราบุกเข้าไปในปราสาท และจัดการคนที่ทำให้คุณต้องอับอายใช่ไหม?”
จางเฉียงดูเหมือนจะมองทะลุความคิดของหม่าเจียเฉิง
หม่าเจียเฉิงตะลึงเล็กน้อย แล้วพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ ๆ คืออย่างนี้ ครัฟฟ์ หลี่โม่ และกู้หยุนหลัน ฉันจะจัดการพวกเขาให้สาสม”
“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันต้องพูดไว้ก่อน คนของฉันไม่รู้จักผ่อนหนักเบา ถ้าหากฆ่าสามคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะไม่รับผิดชอบใด ๆทั้งนั้น”
จางเฉียงต้องการให้พวกเขาตาย เป็นการลำบากถ้าใครยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นตั้งแต่จางเฉียงได้รับภารกิจนี้ เขาได้วางแผนฆ่าทุกคนไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว
หม่าเจียเฉิงลังเลสักครู่ หลังจากนั้นก็พยักหน้า หม่าเจียเฉิงเข้าใจเหตุผลที่ว่ากระสุนมันไม่มีตา
“โอเค คุณพยายามอย่าให้ถึงตาย ถ้าแต่ตายจริงๆ ก็ช่างมันเถอะ”
“เอาละ มาพูดถึงค่าใช้จ่ายกันดีกว่า อีกฝ่ายไม่มีบอดี้การ์ดมืออาชีพคอยคุ้มครอง ดังนั้นจึงเป็นงานที่ไม่ยาก ฉันจะไม่ขอเงินค่าจ้างจากคุณมาก ห้าล้านก็พอ แต่ว่าของทุกอย่างที่อยู่ในปราสาทเป็นของพวกเรา ถือเป็นเงินอุดหนุนการทำงานของพวกเรา”
จางเฉียงไม่ได้ขอเงินค่าจ้างมาก ถ้าขอมากหม่าเจียเฉิงก็ไม่มีความสามารถที่จะจ่ายได้ เพราะยังไงก็เป็นแค่ลูกของเศรษฐี เงินทั้งหมดที่มีก็ได้มาจากครอบครัว ดังนั้นพวกเขาจึงมีเงินไม่มากมายเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม จางเฉียงมีแผนอื่น ๆ หลังจากที่เขาเข้าไปในปราสาทและฆ่าคนเสร็จแล้ว เขาก็จะลักพาตัวลูกเศรษฐีเหล่านั้น
หม่าเจียเฉิงไม่สามารถรู้ได้ว่าจางเฉียงกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อได้ยินว่าเขาต้องการเงินค่าจ้างเพียง 5 ล้านเท่านั้น ก็รีบพยักหน้าและตกลงทันที “โอเค งั้นก็ตกลงตามนี้ จะให้ฉันจ่ายเงินมัดจำเท่าไหร่ก่อนดี? ”
“สำหรับงานเล็กๆ แบบนี้ จ่ายเต็มจำนวนเลย พวกเราเข้าไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็จัดการเรียบร้อยแล้ว มันไม่ใช่งานใหญ่สักหน่อย”
หม่าเจียเฉิงพยักหน้า แล้วก็ไปรวบรวมเงินกับกลุ่มลูกคนเศรษฐี หนึ่งคนได้หลายแสน ใช้เวลาไม่นานก็รวบรวมเงินได้ครบห้าล้านแล้ว
ทุกคนโอนเงินเข้าไปในบัญชีที่จางเฉียงกำหนด หลังจากจางเฉียงตรวจสอบแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณเป็นคนตรงดี งั้นพวกเราไปกันเถอะ ลิ่วจื่อไปรวมคน พวกเราจะไปสนุกที่งานเลี้ยงอาหารค่ำที่ปราสาทกัน”
“ครับพี่ใหญ่ แม่งรีบลุกขึ้น เตรียมตัวไปทำงาน”
ลิ่วจื่อซึ่งมีรูปร่างเหมือนหมีสีน้ำตาล รวบรวมกลุ่มโจรได้ยี่สิบคนกว่าคน และกำลังตรวจสอบอาวุธต่างๆ
เมื่อเห็นเครื่องยิงจรวดที่พวกกลุ่มโจรนำมาด้วย สายตาของหม่าเจียเฉิงและคนอื่นๆ ก็เบิกกว้างทันที
“ฉิบหาย นี่คือปืนกล เครื่องยิงจรวด แล้วยังมีระเบิดมือปืนไรเฟิล ขาดแค่ปืนใหญ่กับรถถังเท่านั้น”
“กลุ่มโจรก็คือกลุ่มโจร อาวุธที่ใช้สุดยอดมาก คราวนี้จะให้ไอ้ยาจกได้เห็นว่าอะไรที่เรียกว่ามืออาชีพ คอยดูว่าบอดี้การ์ดของไอ้ต่างชาติจะกลัวจนฉี่ลาดหรือไม่”
“เฮียเฉียงเป็นคนเก่งมาก พวกเรามีความหวังที่จะได้แก้แค้นแล้ว อีกสักครู่ถ้าไอ้ยาจกเศษสวะตายแล้ว พวกเราก็ใช้แส้เฆี่ยนตีศพของมัน”
หม่าเจียเฉิงและคนอื่นๆ รู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง หากพากลุ่มโจรของจางเฉียงกลับไปฆ่าพวกเขา ก็ถือว่าชีวิตได้ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
หลังจากที่พวกกลุ่มโจรตรวจสอบอุปกรณ์อาวุธของพวกเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จางเฉียงก็ทำสัญญาลักษณ์มือให้ลิ่วจื่อ “พาคนขึ้นรถ ฉันจะไปนั่งรถของเฮียหม่า”
พวกกลุ่มโจรขึ้นรถบัสที่จอดอยู่ในโกดัง จางเฉียงและลูกเศรษฐีเดินออกจากโกดัง และขึ้นรถปอร์เช่ของหม่าเจียเฉิง
ขณะสตาร์ทรถ หม่าเจียเฉิงกล่าวอย่างจริงใจว่า “คราวนี้ต้องพึ่งพาเฮียเฉียงแล้ว เมื่อสักครู่ผมถูกรังแกจนน่าอนาถมาก”
จางเฉียงเหลือบมองหม่าเจียเฉิงแวบหนึ่ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจได้ ความแค้นใหญ่หลวงของคุณจะต้องถูกชำระแน่นอน”