จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 339
“OMG! ผมเห็นพระเจ้าใช่ไหม? ทำไมถึงมีคนที่เก่งเช่นนี้ เก่งกว่าไอรอนแมน ซูเปอร์แมน และแบทแมนเสียอีก ผมคิดว่าตนเองได้พบไอดอลในชีวิตแล้ว”
หัวหน้าบอดี้การ์ดพูดอย่างโอเวอร์
“เกิดอะไรขึ้น สถานการณ์เป็นอย่างไร”
ครัฟฟ์ที่หมอบลงกับพื้น ถามถึงสถานการณ์ขณะที่ตัวสั่น
“คุณหลี่เก่งมาก ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าคุณหลี่เก่งขนาดนี้ ผมก็ไม่กังวลขนาดนี้ คุณครัฟฟ์ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ อันตรายได้คลี่คลายแล้ว”
หัวหน้าบอดี้การ์ดกล่าวอย่างตื่นเต้น
กู้หยุนหลันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อสักครู่ที่เสียงปืนดังขึ้น กู้หยุนหลันก็ปิดหน้าแล้วร้องไห้อย่างหนัก
ตอนนี้ได้ยินว่าหลี่โม่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ กู้หยุนหลันรีบเช็ดน้ำตาด้วยความตื่นตระหนก แล้วเดินไปที่ประตูเพื่อดูหลี่โม่
เมื่อเห็นหลี่โม่ยืนตัวตรง แล้วใช้ปากเป่าปลายกระบอกปืน หัวใจของกู้หยุนหลันก็สงบลงทันที มือของเธอปิดปากแน่น และน้ำตาก็ไหลออกมามากมาย
ครัฟฟ์ลุกขึ้นจากพื้นอย่างสั่นสะท้าน และพึมพำว่า “โอ้พระเจ้า ท่านคงได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผม ในที่สุดก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว”
บอดี้การ์ดรายล้อมครัฟฟ์กับกู้หยุนหลันขณะเดินออกไป เหล่าเซเลบริตี้และคุณชายร่ำรวยทั้งหลายที่นั่งอยู่บนพื้น มองหลี่โม่ด้วยสายตาที่เฉื่อย ราวกับตกใจกลัวเสียงปืนเมื่อสักครู่จนโง่ไปแล้ว
กลุ่มคุณชายร่ำรวยที่กลับมาพร้อมกับหม่าเจียเฉิง มองหลี่โม่ราวกับว่าเขาเป็นปีศาจ ไม่รู้ว่าใครตะโกนให้วิ่งหนี คุณชายร่ำรวยหลายสิบคนวิ่งหนีไปพร้อมกัน
หลี่โม่มองพวกเขาที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ไม่คิดจะไล่ตามพวกเขา เพราะหลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันกำลังร้องไห้
หลี่โม่โยนปืนสั้นลงบนพื้น เดินไปหากู้หยุนหลันอย่างรวดเร็ว แล้วอ้าแขนทั้งสองข้างให้กู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันวิ่งไปหาหลี่โม่ และพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของหลี่โม่
กอดหลี่โม่ไว้แน่น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมแขนของหลี่โม่ กู้หยุนหลันรู้สึกมีความสุขมาก
ความสุขที่สัมผัสได้หลังรอดชีวิตจากภัยพิบัติ ทำให้กู้หยุนหลันทะนุถนอมความสัมพันธ์ที่มีต่อหลี่โม่มากยิ่งขึ้น
“เมื่อสักครู่ฉันตกใจแทบแย่ ต่อไปไม่ให้คุณเสี่ยงแบบนี้อีกน่ะ ได้ยินไหม ตอบฉันสิ”
กู้หยุนหลันสะอื้นขณะพูด น้ำตาของเธอทำให้เสื้อผ้าของหลี่โม่เปียก
หลี่โม่ใช้มือตบหลังของกู้หยุนหลันเบา ๆ กระซิบว่า “ต่อไปผมจะไม่เสี่ยงอีกแล้ว นี่เป็นเพราะถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลี่ยง”
“ถึงถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลี่ยงก็ไม่ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณจริง ๆ ฉันกับซีซีจะทำยังไงล่ะ คุณจะต้องไม่เกิดเรื่อง ได้ยินไหม”
กู้หยุนหลันกล่าวอย่างจริงจัง
“ได้ยินแล้วครับ จะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณภรรยาอย่างแน่นอนครับ”
ขณะที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลันกำลังแสดงความรักต่อกัน บอดี้การ์ดได้เริ่มอพยพเหล่าเซเลบริตี้แล้ว
เวลานี้ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป ทุกคนจึงแยกย้ายด้วยความตื่นตระหนก
“โอ้ พระเจ้า ผมจะจำเรื่องราวของวันนี้ได้ตลอดชีวิต ถ้าไม่ใช่หลี่โม่ที่พลิกสถานการณ์ พวกเราทุกคนจะต้องตายแน่นอน”
“จู่ ๆหลี่โม่ที่ปรากฏตัวในเมืองฮ่าน เขามีฐานะตัวตนอะไรกันแน่? ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้ เก่งกว่าฮีโร่ในภาพยนตร์เสียอีก”
“เร็วรีบไปเถอะ ทางที่ดีเรื่องในวันนี้ต้องปิดปากให้สนิท ต่อไปใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก คุณชายหม่าตายที่นี่น่ะ”
เมื่อพูดถึงการเสียชีวิตของหม่าเจียเฉิง เหล่าเซเลบริตี้รู้สึกเหน็บหนาวอยู่ในใจ พวกเขารีบหุบปาก และรีบออกไปจากที่นี่ เซเลบริตี้หลายคนที่ต้องการผูกมิตรกับหลี่โม่ ก็ล้มเลิกความคิดนั้นทันที
คุณชายใหญ่ของตระกูลหม่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เรื่องนี้มันไม่ผ่านไปง่าย ๆแน่ ต่อไปจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน
เหล่าเซเลบริตี้ต่างรีบออกไป หลี่โม่และกู้หยุนหลันต้องการไปลาครัฟฟ์
ครัฟฟ์ยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ผมเสียใจจริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผมจะให้คนไปส่งพวกคุณ”
“งั้นก็รบกวนคุณแล้วล่ะ” หลี่โม่กล่าวอย่างราบเรียบ
ครัฟฟ์ให้บอดี้การ์ดสองคนไปส่งหลี่โม่และกู้หยุนหลัน จากนั้นมองศพที่นอนเกลื่อนกลาดไปทั่ว รู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี
มีคนตายมากมาย เอาไปไว้ที่ไหนก็เป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีคนที่มีความสามารถช่วยจัดการเรื่องนี้
ลังเลสักครู่ ครัฟฟ์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ตอนนี้มีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์แล้ว และหน้าจอก็ถูกปลดล็อกแล้ว
หาเบอร์โทรท่านแปดแล้วโทรออก ครัฟฟ์พูดอย่างประหม่า “ท่านแปด แผนในคืนนี้เกิดเรื่องผิดคาด ผมอาจจะทำงานไม่สำเร็จดีนัก”
“เกิดเรื่องผิดคาดอะไร”
ครัฟฟ์เล่าเรื่องให้ท่านแปดฟังคร่าว ๆ หลังจากท่านแปดฟังแล้วก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“ฟังดูน่าสนใจมาก เอาภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดส่งมาให้ฉัน ฉันอยากดูคนที่ไม่ตกใจกลัวเมื่อเผชิญการเปลี่ยนแปลง ส่วนงานที่เหลือฉันจะให้คนอื่นไปจัดการต่อ”
“ตกลง ผมจะเอาวิดีโอไปให้คุณเดี๋ยวนี้”
ครัฟฟ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ให้ลูกน้องไปเอาภาพวิดีโอในห้องควบคุม และรีบขับรถไปที่บ้านของท่านแปด
ไม่นานเขาก็ไปถึงคฤหาสน์ในเขตชานเมือง หลังจากครัฟฟ์ถูกค้นตัวตรวจสอบเรียบแล้ว เขาถูกพาตัวไปที่ไปพบท่านแปดพร้อมกับแฟลชไดรฟ์
“ท่านแปด นี่คือภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่เกิดเหตุ การปรากฏตัวของหลี่โม่น่าทึ่งมาก เหมือนกับฮีโร่ผู้โดดเดี่ยวในภาพยนตร์”
“ฮีโร่ผู้โดดเดี่ยว? ฮ่า ๆ ”
ท่านแปดหัวเราะอย่างเหยียดหยาม โบกมือให้ลูกน้องเปิดวิดีโอในแฟลชไดรฟ์
ไม่ช้าบนหน้าจอทีวีขนาดหนึ่งร้อยนิ้ว ก็ได้ปรากฏภาพวิดีโอ
มองดูหลี่โม่จัดการกับกลุ่มโจรทั้งหมดเพียงลำพัง รอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าของท่านแปดก็หายไป เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เหลียงยู่ คุณสามารถทำแบบนี้ได้ไหม?” ท่านแปดถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เสียงมาจากเงาที่มุมห้อง “ได้ และทำได้ดีกว่าด้วย”
“งั้นฉันก็วางใจ ฉันเดาว่าคราวนี้คนคนนั้นยังไม่คิดกำจัดหลี่โม่ อย่างมากที่สุดก็แค่สั่งสอนหลี่โม่เล็กน้อย พวกเราจะต้องทำงานให้คนคนนั้นให้มากขึ้น ต้องกำจัดหอกข้างแคร่อย่างหลี่โม่ให้ได้”
ท่านแปดครุ่นคิดว่าจะกำจัดกับหลี่โม่อย่างไร ถ้าเขาสามารถกำจัดหลี่โม่เพื่อราชินีของสำนักหลงเหมินได้ มันคงเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
“ท่านแปดวางใจเถอะ ขอแค่คุณออกคำสั่ง ผมสัญญาว่าเขาจะไม่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้”
คนที่อยู่ในเงามืดกล่าว
“ฮ่า ๆ ดีมาก แต่อย่ารีบร้อนนัก คุณต้องหาเวลาที่ดีที่สุด คุณต้องมั่นใจว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ถึงจะฆ่าเขาได้”
ท่านแปดพูดจบก็หันไปมองครัฟฟ์ ครัฟฟ์ตื่นตระหนกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง รู้สึกว่าตนเองไม่ควรจะรู้เรื่องเยอะขนาดนี้
“ท่านแปด ผมไม่ได้ยินอะไรเลย วันนี้ผมไม่ได้มาที่นี่ และก็ไม่ได้พบคุณ”
ครัฟฟ์กล่าวอย่างตกใจ
“อย่ากังวล ที่ให้คุณฟัง เพราะคุณสามารถฟังได้ กลับไปผูกมิตรกับหลี่โม่และกู้หยุนหลันให้ดี คุณต้องให้พวกเขาไว้ใจคุณ เข้าใจไหม?” ท่านแปดกล่าว
“เข้าใจครับ ผมจะพยายามต่อไป” ครัฟฟ์พยักหน้าอย่างหนักแน่น
“อึ่ม กลับไปเถอะ” ท่านแปดโบกมือ
ครัฟฟ์ออกจากคฤหาสน์ไปอย่างตื่นตระหนก เมื่อเข้าไปนั่งในรถของตนเองแล้ว ถึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย
“หลี่โม่คือใครกันแน่ ท่านแปดถึงได้ระมัดระวังเขาขนาดนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว