จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 349
ขณะนี้ทุกคนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แม้ว่าอู๋ผิงผิงและคนอื่น ๆ จะไม่เข้าใจเส้นเลือดคิงคอง แต่พวกเขาก็เข้าใจได้ว่าจอห์นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“หลี่โม่โตมากับการกินอะไร? กระแสลมตอนที่หมัดปะทะกับฝ่ามือเหมือนกับเสียงของระเบิด ทำให้ฉันกลัวแทบตาย”
“ไอ้หมอนี่ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ในตำนานอย่างแน่นอน ปกติน่าจะเป็นคนที่ถ่อมตน และไม่ทำร้ายคนอื่น ดังนั้นถึงถูกคนลือว่าเป็นคนไร้ประโยชน์”
“ตามทักษะฝีมือของเขา ถ้าเขาลงมือจริง ๆ ก็สามารถฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย ไม่รู้ว่าคนที่บอกว่าหลี่โม่เป็นคนไร้ประโยชน์จะเคยถูกเขาเล่นงานมาก่อนหรือเปล่า”
เพื่อนร่วมรุ่นของกู้หยุนหลันกระซิบถกเถียงกัน ทุกคนรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน และเสียใจที่มางานเลี้ยงรุ่นคราวนี้
นี่เป็นงานเลี้ยงรุ่นที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน บางทีดีไม่ดีอาจจะถูกฆ่าตายที่นี่
อู๋ผิงผิงหดคอ พยายามซ่อนตัวอยู่หลังเพื่อนผู้ชายสองสามคน เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตนเองเยาะเย้ยหลี่โม่ก่อนหน้านั้น ทำให้อู๋ผิงผิงรู้สึกเหน็บหนาว เธอวิตกกังวลว่าอีกสักครู่หลี่โม่จะหาเรื่องตนเอง
กู้หยุนหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงอะไรออกมา ภาพความสงสัยก่อนหน้านั้นเกี่ยวกับฐานะตัวตนของหลี่โม่ปรากฏอยู่ในสมองของเธอ เธอรู้สึกว่าหลี่โม่กำลังปิดปังอะไรตนเองอยู่
แต่อะไรก็ตามที่หลี่โม่ปกปิดไว้ กู้หยุนหลันไม่คิดที่จะถามอีกต่อไป เพราะกู้หยุนหลันไว้วางใจหลี่โม่ รู้สึกว่าที่หลี่โม่ไม่บอกฐานะตัวตนให้เธอรู้ เขาคงมีความจำเป็นอะไรบางอย่าง
เส้นสีแดงเล็ก ๆในรูม่านตาของจางเจียต้องค่อย ๆขยายออก และผลของการดัดแปลงพันธุกรรมก็เริ่มปรากฏขึ้น พลังที่ไร้ขอบเขตและการไหลเวียนเลือดของจางเจียต้องรวมตัวกัน เพื่อสร้างกระแสเลือดที่พลุ่งพล่าน
เส้นขนตั้งตรงขึ้นเหมือนเหล็ก และผมของจางเจียต้องก็ตั้งตรง มองดูแล้วเหมือนซูเปอร์ไซย่าในการ์ตูน
“จอห์น จับตัวมันไว้!”
จางเจียต้องกล่าวอย่างเฉียบขาด
หลี่โม่ขยับและสะบัดข้อมือ ใช้พลังที่อ่อนโยนพาตัวกู้หยุนหลันบินขึ้นด้วยพลังที่ชำนาญ จากนั้นส่งตัวกู้หยุนหลันไปที่มุมกำแพงที่ห่างออกไปสิบเมตร
“จะเข้ามาพร้อมกันทั้งสองคนใช่ไหม? งั้นผมจะคอยดูความสามารถของพวกแก”
หลี่โม่หันหลังและถอยห่างออกไปไม่กี่ก้าว ตอนนี้ตำแหน่งที่พวกเขาสามคนยืนกลายเป็นสามเหลี่ยม
รูม่านตาของจางเจียต้องเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ราวกับว่าถูกปีศาจร้ายเข้าสิง
จอห์นใช้สองมือทุบหน้าอกตนเองอย่างรุนแรงสองครั้ง และส่งเสียงคำรามด้วยความโมโห
เมื่อสักครู่ที่หลี่โม่รับหมัดการจู่โจมของเขาได้ ทำให้จอห์นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เวลานี้เขาอยากจะต่อยหลี่โม่ให้ล้มลงบนพื้นแล้วบดขยี้
หลี่โม่กระดิกนิ้วให้ทั้งสองคนเป็นเชิงเรียก มีรอยยิ้มที่เย้ยหยันอยู่บนใบหน้า
“เหี้ย ฉันชื่อจอห์นแห่งตระกูลคิงคอง! จำชื่อฉันไว้ ฉันจะทำให้แกกลายเป็นเป็นศพ!”
จอห์นส่งเสียงคำราม ตวัดแขนที่แข็งแรง และพุ่งเข้าหาหลี่โม่
เขาตวัดหมัดทั้งคู่ไปมาในอากาศอย่างต่อเนื่อง อากาศที่ปะทุก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง อากาศที่อยู่ด้านหน้าของจอห์น ถูกหมัดของจอห์นอัด ในที่สุดก็อัดเป็นอากาศที่มีความหนาแน่นสูง
อากาศที่มีความหนาแน่นสูงถ้าระเบิดออกจะมีพลังงานรุนแรงมาก จอห์นเตรียมที่จะใช้ท่าไม้ตายสุดท้าย ทำให้หลี่โม่ตายภายใต้หมัด
จางเจียต้องใช้ความคล่องตัวเบี่ยงไปทางด้านข้างของหลี่โม่ เหมือนเสือดาวที่รอเวลาที่ดีที่สุดในการล่าเหยื่อ หรี่ตาเพื่อสังเกตหลี่โม่ เตรียมหาโอกาสที่จะพุ่งไปข้างหน้า และโจมตีหลี่โม่ให้ถึงแก่ชีวิต
หลี่โม่ยืนนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตสถานการณ์โดยรอบเลย
แต่ข้างหลังหลี่โม่เปล่งประกายพลังที่หนักแน่นราวกับเขาไท่ซาน ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าหลี่โม่หนักแน่นมั่นคงเหมือนภูเขา
“ตายเสียเถอะ! ไอ้คนไร้ประโยชน์!”
หมัดของจอห์นที่อัดอากาศที่หนาแน่นพุ่งไปที่หลี่โม่ อากาศที่อัดแน่นนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ แต่จอห์นสามารถรับรู้ได้
รู้สึกได้ถึงการอัดอากาศที่หนาแน่นสูง จอห์นรู้ว่ามวลของอากาศอัดแน่นนี้จะระเบิดเมื่อชนกับร่างของหลี่โม่
หลี่โม่ยิ้มจางๆ ยื่นนิ้วออกแล้วแตะเบาๆ ดูเหมือนว่านิ้วของเขาจะมีพลังวิเศษ ทะลุผ่านมวลอากาศอัดแน่นที่เคลื่อนไหว มวลอากาศอัดแน่นก็เสถียรขึ้นฉับพลัน
“มันเป็นไปได้ยังไง!”
จอห์นคำรามด้วยความประหลาดใจ มองหลี่โม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
มวลอากาศอัดแน่นที่เคลื่อนไหวไม่ได้เสถียร แต่จู่ๆ ก็หายไปจากหมัดของจอห์น ราวกับว่าหลี่โม่ใช้เวทมนตร์เสกเคลื่อนย้ายไป
ขณะที่จอห์นกำลังตกตะลึง หลี่โม่พุ่งไปอย่างรวดเร็วแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าจอห์น ยื่นมือซ้ายออกมาบีบคางของจอห์นอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ! อ่า!”
จอห์นกรีดร้อง หลี่โม่บีบขากรรไกรล่างจนแตก จากนั้นหลี่โม่ใช้มือขวาแตะไปที่เพดานปากของจอห์น
แม้ว่าปลายนิ้วของหลี่โม่จะดูว่างเปล่า แต่จอห์นก็สามารถสัมผัสได้ถึงอากาศที่อัดแน่น
ฟู่!
อากาศที่อัดแน่นถูกยัดเข้าไปในปากของจอห์น จากนั้นหลี่โม่ก็ยิ้ม และผลักจอห์นไปทางจางเจียต้อง
แม้ว่าจางเจียต้องจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อดูการกระทำของหลี่โม่ โดยสัญชาตญาณจางเจียต้องรู้สึกได้ถึงอันตราย
“อึ้อ ๆ ๆ”
จอห์นส่ายศีรษะขณะที่ใบหน้าขาวซีดเผือด เขารู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตของตนเองได้พังทลายลงแล้ว รู้สึกเหมือนว่าตนเองอมระเบิดอยู่ในปาก
หากอากาศอัดแน่นในปากของจอห์น ระเบิดจริงๆ มันจะแข็งแกร่งกว่าระเบิดธรรมดามาก
“ไม่สามารถหนีพ้นกรรมที่ตนเองก่อไว้ได้ ก็ไปสนุกกับสิ่งที่ตนเองก่อไว้เถอะ”
หลี่โม่ดีดนิ้วด้วยรอยยิ้ม แล้วอากาศอัดแน่นในปากของจอห์นก็ระเบิด
บูม!
เสียงที่รุนแรงดังออกมาจากปากของจอห์น ร่างกายของจอห์นกระตุกสองครั้ง เศษเนื้อและเลือดมากมายกระจายไปทั่วใบหน้าของเขา เผยให้เห็นกะโหลกสีขาว
โครม! ร่างของจอห์นคุกเข่าล้มลงกับพื้นอย่างแรง จากนั้นร่างของเขาก็ล้มไปนอนกับพื้น ด้วยดวงตาที่กลมโตของเขาฉายแววไม่เต็มใจ
เส้นเลือดอันทรงพลัง ทำให้จอห์นได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรงแต่เขายังไม่ตาย
แม้ว่าจอห์นยังไม่ตาย แต่ขณะนี้จอห์นไม่มีแรงแม้จะขยับนิ้ว นอนราบกับพื้นเหมือนคนตายไปแล้ว
หัวใจของจางเจียต้องรู้สึกเหน็บหนาว เพราะในระหว่างกระบวนการทั้งหมด จางเจียต้องไม่พบโอกาสที่จะสามารถลงมือได้เลย
เฝ้าดูกระบวนการที่หลี่โม่จัดการจอห์นอย่างง่ายดาย จางเจียต้องรู้สึกว่าแม้ว่าตนเองจะกลายร่างหลังจากความโกรธที่รุนแรง ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่
ทำไมหลี่โม่ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
ในโลกนี้จะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมได้อย่างไร!
จางเจียต้องตะโกนถามอยู่ในใจ เขาเริ่มถอยหลังไปช้าๆ เพื่อให้อยู่ห่างจากหลี่โม่มากที่สุด
“ทำไม กลัวจนไม่กล้าลงมือแล้วหรือ? ”
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จางเจียต้องเหลือบมองหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกล จิตใจตั้งมั่น ขอแค่มีทางหนีทีไล่ก็พอ
”แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ทั้งหมดนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้! ”
จางเจียต้องถามคำถามที่เขาสงสัย
“ไม่มีเหตุผลอะไรมากมาย ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด เป็นสิ่งที่แกไม่สามารถจินตนาการได้ ผมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคนที่แข็งแกร่งเท่านั้น”