จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 359
รักษาความลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลี่โม่ ยิ่งไปกว่านั้นฉิงจี้เย่ทำเหมือนเป็นความลับซะขนาดนั้น ยิ่งทำให้หลี่โม่อยากรู้ว่าธุรกิจใหญ่นั่นคืออะไร
“นายสามารถรักษาความลับได้เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถึงแม้นายจะรักษาความลับไม่ได้ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าไม่มีใครเชื่อสิ่งที่นายพูดอยู่แล้ว”
ฉิงจี้เย่นั่งหลังตรง สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “นายรู้จักสำนักหลงเหมินใช่ไหม”
หลี่โม่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหรี่ตาลง “เคยได้ยินมาบ้าง เหมือนว่าสำนักหลงเหมินมีบารมีที่ไม่มีใครเทียบได้”
“สำนักหลงเหมินมีบารมีมากจริงๆ แต่มันก็เท่านั้น ตระกูลฉิงของเราก็พึ่งพาบารมีที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน แต่ผมจะไม่เล่าอะไรให้คุณฟังมากนัก”
ฉิงจี้เย่ไม่ได้เล่าภูมิหลังของตระกูลตัวเองออกมา เขาทิ้งไว้ให้หลี่โม่จินตนาการเอาเอง นี่คือเทคนิคการพูดที่ฉิงจี้เย่ใช้บ่อย
เว้นที่ว่างเอาไว้ให้จินตนาการ ให้คนคิดไปตามคำพูดกันเอาเอง เพราะผลที่ได้รับมันดียิ่งกว่าบอกให้อีกฝ่ายรู้ด้วยตัวเองเสียอีก
หลี่โม่แสยะยิ้มออกมา เขาคิดว่าจะได้ต่อกรกับสำนักหลงเหมิน
เหมือนว่าจะไม่มีอำนาจใดในประเทศที่สามารถต่อกรกับสำนักหลงเหมินได้ มีเพียงกลุ่มเก่าแก่ในต่างแดนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เหมือนว่าตระกูลฉิงจะพึ่งพาบารมีของกลุ่มในต่างแดน ไม่แน่อาจจะโดนพวกเขาควบคุมแล้วก็ไม่แน่เหมือนกัน
“ฉันไม่ได้สนใจภูมิหลังของตระกูลนาย คุยเรื่องธุรกิจใหญ่กันดีกว่า ฉันสนใจเรื่องเงินมากกว่า”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉิงจี้เย่เหนื่อยใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะไม่สามารถเรียกความสนใจจากหลี่โม่ได้
“ก็ได้ งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลย เร็วๆ นี้ฉันเพิ่งได้รับภารกิจมา ภารกิจคือลอบท่านแปดที่เป็นบุคคลสำคัญของสำนักหลงเหมิน ท่านแปดเป็นหนึ่งในแปดราชาของสำนักหลงเหมิน แต่ว่าคนที่คอยคุ้มกันเขามีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องรวบรวมลูกน้องฝีมือดีจำนวนมาก”
“ถ้านายสามารถเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ได้ ฉันคิดว่าโอกาสชนะมีสูง เลยอยากมาปรึกษากับนาย พวกเรามาช่วยกันทำธุรกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ”
เมื่อได้ยินว่าฉิงจี้เย่จะลอบฆ่าท่านแปด หลี่โม่รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
ท่านแปดเป็นผู้สนับสนุนหลักของราชินีของสำนักหลงเหมิน ตอนนี้ท่านแปดอยู่ในเมืองฮ่าน น่าจะมาเตรียมการให้ราชินีของสำนักหลงเหมิน
อีกทั้งการปรากฏตัวของครัฟฟ์ก็สามารถที่จะอธิบายได้แล้ว
หลี่โม่คิดอยู่ในใจ ถ้าฆ่าท่านแปด ไม่รู้ว่าราชินีของสำนักหลงเหมินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ครุ่นคิดอยู่นาน ฉิงจี้เย่ไม่ได้พูดอะไร จึงรออย่างเงียบๆ
หลี่โม่คิดอยู่ครู่ใหญ่ เขาคิดว่าตัวเองควรจะเข้าร่วมงานการลอบฆ่าครั้งนี้ ถ้าสามารถจับท่านแปดมาพูดกันตัวต่อตัวได้ บางทีอาจจะรู้เรื่องอะไรมากขึ้นก็ได้
“ฉันสนใจนะ แต่นายควรจะแสดงความจริงใจออกมาสักหน่อย”
ฉิงจี้เย่เลิกคิ้วขึ้นมา เขายิ้มแล้วพูดว่า “ผมมีความจริงใจอยู่แล้ว ขอแค่นายตกลงเข้าร่วมงานครั้งนี้ ฉันสามารถทำให้หม่าเต๋อฝูไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายได้ ต่อไป ตระกูลหม่าจะไม่สามารถขู่นายได้อีก และเงินยี่สิบล้านที่หม่าเต๋อฝูจ้างฆ่า ฉันจะยกให้นาย”
ฉิงจี้เย่ใช้เงินของคนอื่นมาสร้างสัมพันธ์ เขาเอาชีวิตกับทรัพย์สินของหม่าเต๋อฝูมาเป็นข้อต่อรอง ฉิงจี้เย่ยังสามารถทำเงินมหาศาลจากเรื่องนี้ได้อีกด้วย ขณะเดียวกันเขาสามารถแทรกแซงการเลือกผู้สืบทอดตระกูลของตระกูลหม่า อีกไม่นานฉิงจี้เย่ก็จะทำให้ตระกูลหม่ามาเป็นทาสบริวารของเขา
ถ้าความคิดถูกฉิงจี้เย่ทำให้แตกกระเจิง ฉิงจี้เย่คิดถึงผลประโยชน์ต่างๆ ที่เขาจะได้รับเอาไว้แล้ว
หลี่โม่ยิ้มแล้วพยักหน้า “ได้ ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวการตายของหม่าเต๋อฝูก่อนที่จะร่วมมือกับนาย”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องของหม่าเต๋อฝู พรุ่งนี้ตอนบ่ายเรามาเจอกันที่นี่ เพื่อจัดแจงเรื่องแผนการ”
ฉิงจี้เย่ดีดนิ้วด้วยความตื่นเต้น
“ฉันหวังว่าจะได้เห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านแปดก่อน จะได้เตรียมตัวไว้”
หลี่โม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ฉันก็ยังไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านแปดเหมือนกัน พรุ่งนี้ตอนที่มาเตรียมแผน ถึงจะได้ข้อมูลของท่านแปด”
ฉิงจี้เย่กลัวว่าหลี่โม่จะเปลี่ยนใจ จึงพูดอธิบายขึ้นมาอีกว่า “ฉันมีหน้าที่แค่ติดต่อคน ภาพรวมเรื่องการสั่งการความเคลื่อนไหวไม่ใช่หน้าที่ของฉัน มีบุคคลลึกลับคนหนึ่งคอยสั่งการให้ ว่ากันว่าเคยเป็นราชาของทหาร หลังจากที่เขาเกษียณก็ได้สร้างทีมทหารรับจ้างขึ้นมา คนที่สั่งการหลักเรื่องการโจมตีในวันพรุ่งนี้จะจัดการโดยทีมทหารรับจ้าง นายกับนักฆ่าพวกนั้นมีหน้าที่แค่คอยสนับสนุนเท่านั้น”
“ราชาทหารอย่างนั้นเหรอ สมัยนี้มีราชาทหารไม่น้อยเลยนะ มันกลายเป็นชื่อเรียกปลอมๆ ไปแล้ว”
หลี่โม่ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
ราชาทหาร พวกเทพอะไรทำนองนั้น ตำนานที่เล่าต่อกันมาเต็มไปหมด ตอนนี้ไม่ว่าจะกองทัพไหน ถ้าไม่มีราชาทหารสักหนึ่งถึงสองคน คงจะไม่มีหน้าออกมาพบปะคนอื่น
หลี่โม่คิดว่าราชาทหารในตอนนี้ก็แค่คนที่แข็งแกร่งในกองทัพทหารเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าจะเก่งสักแค่ไหนเชียว
“ว่ากันว่าไม่ใช่ชื่อเรียกปลอมๆ นะ เขาเคยเข้าร่วมสงคราม เขาโจมตีมากกว่าร้อยครั้งในการไล่ล่าตามชายแดน ได้ยินมาว่าแต่ละครั้งเขาสู้แบบหนึ่งต่อสิบ ว่ากันว่าคนที่ตายคามือเขามีตัวเลขถึงสี่หลัก”
ฉิงจี้เย่ยกนิ้วขึ้นมาสี่นิ้ว เพื่อแสดงอารมณ์ในใจของตัวเอง
“อ๋อ ฟังดูมีความสามารถนะ งั้นรอดูข้อมูลพรุ่งนี้ตอนเจอกันก็แล้วกัน”
หลี่โม่ไม่ได้บีบบังคับอะไร ก็แค่รออีกวันเดียวเท่านั้น รอแค่นี้หลี่โม่ทำได้อยู่แล้ว
ครืด ครืด ครืด
มือถือของฉิงจี้เย่สั่นขึ้นมา ชายชราผู้ดูแลบ้านของหม่าเต๋อฝูโทรวิดีโอคอลมาหา
“ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าจะจัดการได้แล้วนะ นายรอดูประกาศเรื่องการตายของหม่าเต๋อฝูได้เลย”
ฉิงจี้เย่รับสาย บนหน้าจอมีภาพของชายชราผู้ดูแลบ้านที่กำลังยิ้มอยู่
“คุณชายฉิง ผมเตรียมการตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สามารถฆ่าคุณท่านได้หรือยังครับ”
“ได้”
หลังจากที่ฉิงจี้เย่พูดจบ เขาหันหน้าจอมือถือไปที่หลี่โม่ ให้หลี่โม่เห็นภาพที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ
หม่าเต๋อฝูโดนมัดไว้บนโซฟา ชายชราผู้ดูแลบ้านถือมีดปลายแหลมอยู่ในมือแล้วเดินเข้าไปหาหม่าเต๋อฝู
“แกจะทำอะไรน่ะหยวนฝู นายร่วมมือกับคนนอกเพื่อที่จะฆ่าฉันอย่างนั้นเหรอ!”
หม่าเต๋อฝูตะโกนออกมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ผมอยากฆ่าคุณท่านมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ผมจะได้สมปรารถนาแล้ว เมื่อสี่สิบปีก่อนคุณฆ่าผู้หญิงที่ผมรักที่สุด คุณยังจำได้ไหม! อาหลานมาเข้าฝันฉัน บอกให้ฉันช่วยเธอแก้แค้น!”
หม่าเต๋อฝูตกใจจนขนหัวลุก “แก ฉันไม่ได้ฆ่าอาหลาน เธอรนหาที่ตายเอง ฉันก็รั้งเธอเอาไว้ไม่ได้ แถมเธอยังยั่วฉันเองด้วย ฉันไม่ได้บีบบังคับเธอเลย แกอย่า หยวนฝู หน้ามืดตามัวสิ แกอย่าฆ่าฉัน แกรีบปล่อยฉันไป ฉันจะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นกับแก!”
“พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ผมรู้เพียงว่าอาหลานต้องการให้ผมแก้แค้นเพื่อเธอ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ตายซะเถอะ!”
ชายชราผู้ดูแลบ้านสะบัดมีดอย่างบ้าคลั่งและกระหน่ำแทงไปที่หม่าเต๋อฝูอย่างโหดเหี้ยม
เขาแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อเห็นว่าหม่าเต๋อฝูสิ้นใจ หลี่โม่จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “นายซื้อคนดูแลบ้านของหม่าเต๋อฝูอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันแค่มีความสุขกับการช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้นเอง ทำให้ความฝันหลายปีของ หยวนฝู เป็นจริง ต่อไปก็จะทำให้ความฝันของนายเป็นจริง”