จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 369
“คุณรู้หรือไม่ว่าต้องจัดการยังไงกับมีทหารเวรที่อยู่ในที่แจ้งและที่อยู่ในที่ลับในป่าทึบอย่างไร? คุณรู้วิธีจัดการกับอาวุธหนักหรือไม่? จะรับมืออย่างไรถ้ามีมือปืน? ควรกำหนดรายละเอียดของแผนการรบมากน้อยเพียงใด และควรจะเตรียมความพร้อมอย่างไร?”
เย่จงเทียนยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็จ้องมองหลี่โม่อย่างดุร้ายราวกับสัตว์ร้าย “แม่งฉิบหายคุณไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง คุณยังต้องการอำนาจในการบัญชาการ คุณจะเอาไปทำเหี้ยอะไร!”
หลี่โม่มองไปที่เย่จงเทียนอย่างสงบ ยกมือขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม และตบไปที่หน้าของเย่จงเทียน
เพียะ!
เสียงตบหน้าดังกึกก้องในโรงงานร้าง ทุกคนต่างมองหลี่โม่อย่างเงียบๆ ราวกับว่าได้เห็นราชาปีศาจ
กลุ่มนักฆ่าและทหารรับจ้างที่คุ้นเคยกับการเห็นเลือด และไม่รู้ว่ามีกี่ชีวิตที่ต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเขา แต่ขณะนี้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
มีรอยตบอยู่บนหน้าของเย่จงเทียน เขาเอียงศีรษะและถุยน้ำลายที่ปนเลือดออกมา
“แม่ง คุณนี่โหดเหี้ยมมาก วันนี้ถึงแม้ว่าคุณจะฆ่าผม ผมก็ยังบอกว่าคุณบัญชาการไม่เป็น ถึงแม้ว่าคุณจะฆ่าผม ผมก็จะไม่ยอมให้คุณพาพี่น้องของผมไปตาย!”
“คุณคิดมากไปแล้ว ไม่ซับซ้อนขนาดนั้น”
หลี่โม่กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
เย่จงเทียนผงะไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วและมองหลี่โม่ ไม่เข้าใจว่าคำพูดของหลี่โม่นั้นหมายความว่ายังไง
คิดมากอย่างไร ซับซ้อนอย่างไร เดิมนี่ก็คือเรื่องที่ซับซ้อนอยู่แล้ว?
โทรศัพท์มือถือของฉิงจี้เย่สั่น เขาเหลือบมองเนื้อหาของข้อความ ฉิงจี้เย่พิมพ์อย่างรวดเร็ว ให้ลูกน้องจัดเตรียมอาหารให้เธอดื่มกินอย่างดี และห้ามทำร้ายเธอเด็ดขาด
เวลานี้ฉิงจี้เย่จิตใจกระสับกระส่าย เขากำลังลังเลว่าเรื่องที่ให้ลูกน้องลักพาตัวซีซี เป็นเรื่องที่ทำถูกหรือไม่ แต่รู้สึกว่าควรปฏิบัติอย่างดีต่อซีซี หากท้ายที่สุดหลี่โม่คิดจะลงมือจัดการตนเอง ค่อยใช้ไพ่ตายใบนี้
หลี่โม่เหลือบมองที่โปรเจ็กเตอร์ ส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ทำไมจะต้องไปที่รังของเขาโดยตรง เรียกท่านแปดออกมาก็สิ้นเรื่อง”
เย่จงเทียนมองหลี่โม่เป็นคนโง่เขลา ถ้าหากสามารถล่อท่านแปดออกมาได้ ก็เตรียมแผนล่อนานแล้ว หลังจากที่ท่านแปดมาถึงเมืองฮ่าน เคยออกจากประตูแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็เหมือนเต่าหดหัว แม้แต่ประตูคฤหาสน์ก็ไม่เคยก้าวออกมา
“ฉิงจี้เย่! คนประสาทคนนี้คุณหามาจากไหน แม่งมันประสาทกว่าผมอีก!”
เย่จงเทียนตะโกนอย่างเหลืออด
ฉิงจี้เย่ตัวสั่นสักครู่ ออกมาจากด้านหลังเครื่องโม่ด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น มองหลี่โม่กับเย่จงเทียนอย่างประหม่า
“ผมคิดว่าเขาเป็นยอดฝีมือ ไม่คิดว่าเขาจะเก่งขนาดนี้ และยิ่งไม่คิดว่าสมองของเขา….. อะไรนะ”
ฉิงจี้เย่รู้สึกว่าแววตาที่หลี่โม่จ้องมาเหมือนใบมีดคม เขาจึงกลืนสิ่งที่กำลังจะพูดทันที
แม่ง เป็นการจ้องมองที่น่าหวาดกลัวมาก ทำไมแววตาของเขาถึงได้น่ากลัวเช่นนี้
เย่จงเทียนกลอกตาและมองหลี่โม่ ราวกับม้าพยศ “คุณอย่ามาฝันกลางวันที่นี่ คุณคิดว่าเราไม่อยากล่อท่านแปดออกมาหรือ เขาไม่เคยออกจากคฤหาสน์เลยแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าคุณมีความสามารถก็ล่อเขาออกมา ขอแค่เขาออกมา พวกเราทุกคนจะทำตามคำสั่งการของคุณ”
“โอเค งั้นคุณก็คอยดู”
หลี่โม่ปล่อยตัวเย่จงเทียน จากนั้นเตะเอวเย่จงเทียน ทำให้เย่จงเทียนกลิ้งออกไปไกล
กลุ่มทหารรับจ้างรีบช่วยกันพยุงเย่จงเทียน
“พี่ใหญ่ไม่เป็นไรใช่ไหม? รีบคายระเบิดที่กินเข้าไปออกมา”
“คายเหี้ยอะไร!”
เย่จงเทียนจ้องหลี่โม่ด้วยสายตาที่เคียดแค้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าคุณมีความสามารถก็รีบล่อให้ไอ้สารเลวท่านแปดออกมา”
“โอเค”
หลี่โม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลขของเฉียนฝู
ไม่นานเสียงที่นอบน้อมของเฉียนฝูดังออกมาจากโทรศัพท์ “นายน้อย คุณมีอะไรจะสั่งครับ”
“ผมอยากพบไอ้แปด”
หลี่โม่กล่าวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
เฉียนฝูตกใจ และกล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “นายน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ไอ้แปดเป็นคนของราชินีของสำนักหลงเหมิน และจุดประสงค์ของการมาเยือนครั้งนี้ก็ไม่ชัดเจน เขาพาคนมาด้วยไม่ใช่น้อย”
“วางใจ ทางผมมีการเตรียมการ คุณแค่ทำให้เขามาพบผมก็พอ ผมจะส่งตำแหน่งที่อยู่ของผมไปให้คุณ”
เมื่อเห็นท่าทีที่เด็ดเดี่ยวของหลี่โม่ เฉียนฝูก็ไม่สามารถห้ามปรามได้ “เอาล่ะ นายน้อยต้องระวังความปลอดภัย ผมจะส่งลูกน้องไปที่นั่นก่อน”
“ไม่ต้องรีบ คุณให้ไอ้แปดมาก่อน”
หลี่โม่วางสายโทรศัพท์ แล้วส่งตำแหน่งที่อยู่ของตนเองที่ให้เฉียนฝู
เย่จงเทียนและคนอื่นๆ สับสนเล็กน้อย ท่านแปดผู้สง่าเมื่อพูดออกจากปากหลี่โม่ทำไมถึงได้กลายเป็นไอ้แปด?
หลี่โม่มีฐานะตัวตนอะไรกันแน่ ตามที่หลี่โม่เรียกท่านแปดว่าไอ้แปด หรือว่าเขาคือบุคคลที่อยู่รุ่นเดียวกันกับท่านแปด!
“แม่งยังเสแสร้งอีก ท่านแปดเป็นถึงหนึ่งในแปดราชามังกรแห่งสำนักหลงเหมิน คุณเรียกเขาว่าไอ้แปด คุณคิดว่าตนเองเป็นบุคคลสำคัญของหลงเหมินหรือ!”
“ผู้ชายคนนี้เสแสร้งไม่เก่ง ผมให้คะแนนเขาได้ศูนย์เท่านั้น คนโง่คนนี้มีปัญหาทางจิตอย่างแน่นอน ควรถูกส่งไปที่โรงพยาบาลคนบ้าโดยตรง”
“ไม่เคยเห็นคนที่เสแสร้งเช่นนี้มาก่อน ก่อนจะเสแสร้งก็ไม่ใช้สมองก่อน กล้าเรียกท่านแปดว่าไอ้แปด ในโลกนี้มีเพียงยี่สิบถึงสามสิบคนเท่านั้นที่กล้าเรียกท่านแปดเช่นนี้”
พวกทหารรับจ้างต่างคิดว่าหลี่โม่กำลังเสแสร้ง เพราะคำที่หลี่โม่ใช้เรียกท่านแปดมันไม่สมเหตุสมผล
เว่ยหย่งและพวกนักฆ่าต่างกระซิบคุยกัน พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าหลี่โม่เสแสร้งมากเกินไปแล้ว
“คราวนี้โชคร้ายจริง ๆ ที่มาเจอคนที่เป็นโรคประสาท ไอ้หลี่โม่คนนี้ประสาทกว่าเย่จงเทียนเสียอีก ที่เรียกท่านแปดว่าไอ้แปด แม่งมันคิดว่าตนเองเป็นเจ้านายของสำนักหลงเหมินมั้ง!”
“หวังว่าอีกสักครู่ไอ้ประสาทคนนี้มันจะหายจากประสาท เห็นเขาถือเครื่องควบคุมระเบิดก็รู้สึกกลัว หากมันเกิดประสาทขึ้นมาจนควบคุมไม่ได้ มันจะลากพวกเราตายพร้อมกับมันอย่างแน่นอน”
“เป็นไปไม่ได้ที่ท่านแปดจะมา ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือคิดวิธีหนีจากน้ำมือคนประสาทอย่างหลี่โม่”
ฉิงจี้เย่เกาหัว แล้วมองไปที่แผ่นหลังของหลี่โม่โดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นว่า “คุณหลี่ ผมคิดว่าการเตรียมตัวสำหรับภารกิจคราวนี้ยังไม่ครอบคลุม ฉะนั้นพวกเราควรยกเลิกชั่วคราวก่อนดีไหม”
“คุณคิดว่าไอ้แปด จะไม่มาใช่ไหม งั้นมาเดิมพันกับผม”
หลี่โม่มองไปที่ฉิงจี้เย่ด้วยท่าทางขี้เล่น
ฉิงจี้เย่ตื่นตระหนก ส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ผม ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ท่านแปด เขาอาจจะยุ่งอยู่กับการออกเดตกับผู้หญิงสวย ๆ ภารกิจนี้พวกเราเปลี่ยนเป็นวันอื่นเถอะ”
“คุณก็ยังไม่เชื่อ ถ้าหากวันนี้ไอ้แปด มา คุณก็กินระเบิดที่เหลือทั้งหมด ถ้าไอ้แปดไม่มา ผมจะเอาเครื่องควบคุมระเบิดให้คุณ?”
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปที่ฉิงจี้เย่ ไม่ว่าจะเป็นเว่ยหย่ง หรือเย่จงเทียนและคนอื่น ๆ พวกเขาต่างก็หวังว่าฉิงจี้เย่จะเดิมพันกับหลี่โม่
“ฉิงจี้เย่ คุณหลี่จะเดิมพันกับคุณ แม่งคุณรีบรับปากเดิมพันสิ จะซื่ออยู่ทำไม!” เย่จงเทียนเร่ง
ฉิงจี้เย่ รู้สึกขมขื่น และกล่าวอย่างจำใจว่า “ผมจะเดิมพันกับคุณ วันนี้ท่านแปดไม่มาแน่นอน เรื่องนี้คุณตายใจเสียเถอะ! ”
“งั้นก็รอดู คุณพ่ายแพ้แน่นอน” หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม