จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 37
บทที่ 37 ตั้งเป้าหมายเล็กๆ
กู้ซิงเว๋ยกะพริบตาปริบๆ พยายามมองอีกครั้ง ด้านหน้ามีรถคันใหญ่ขับผ่านไป จนเมื่อเขาเห็นอีกครั้ง โรลส์รอยซ์ก็หายไปแล้ว
ภาพหลอนเหรอ
กู้ซิงเว๋ยกะพริบตาและขมวดคิ้ว
คงจะไม่ใช่
แต่นั่นคือโรลส์รอยซ์ และมันคือPhantom ราคาอย่างน้อยหกถึงเจ็ดล้าน!
หลี่โม่นั่นมันขยะ สามารถนั่งรถหรูแบบนั้นได้เหรอ
แค่นั้น กู้ซิงเว๋ยไม่ได้สนใจอีก และเริ่มขับกลับไป
บนรถโรลส์รอยซ์ที่แล่นไป หลี่โม่ถามอย่างเฉื่อยชา “วันนี้ต้องเจอใคร ต้องใช้เวลานานไหม”
เฉียนฝูตอบด้วยความเคารพ “นายน้อย ไม่เสียเวลาคุณแน่นอนครับ คนผู้นี้มีชื่อเสียงในประเทศจีน เป็นผู้เชี่ยวชาญการสะสมโบราณวัตถุ ถือเป็นเพื่อนของผมคนหนึ่ง เป็นเจ้าของบริษัทการค้าต่างประเทศภายใต้ชื่อของเขา ราชินีสำนักหลงเหมินมองเขาในแง่ดี จึงคิดว่าต้องให้นายน้อยลองดู”
หลี่โม่หัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูดว่า “ให้ผมลองดูเหรอ คิดจะทดสอบความสามารถของผมก็พูดมา ทำไมต้องอ้อมค้อม”
เฉียนฝูยิ้มแล้วบอกว่า “นายน้อย นั่นคือความหมายของราชินีสำนักหลงเหมิน และมันเป็นโครงการเล็กๆ มูลค่าสามพันล้าน คุณต้องดูด้วยตัวเอง ซึ่งมันดีต่อคุณกับการเตรียมตัวสืบทอดสำนักหลงเหมินครับ”
ประโยคนี้ทำให้หลี่โม่ต้องเลิกคิ้วมองเฉียนฝูอย่างช่วยไม่ได้
ธุรกิจสามพันล้าน โครงการเล็กๆ งั้นเหรอ
หลี่โม่มองออกไปนอกหน้าต่าง ทนไม่ไหวจึงพูดว่า “เฉียนฝู คุณนี่โอ้อวดเก่งกว่าพี่ชายหวังอีกนะ”
ตั้งเป้าหมายเล็กๆ มันต้องหนึ่งร้อยล้าน
นี่คุณอ้าปากบอกสามพันล้าน
ในไม่ช้า โรลส์รอยซ์ก็ไปถึงโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฮ่าน ฮ่านกง
ในเมืองฮ่านแห่งนี้ นี่คือโรงแรมชั้นนำอันดับหนึ่ง คนที่สามารถมารับประทานอาหารที่นี่ได้ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนระดับสูง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญของเมืองฮ่าน!
และที่จริงฮ่านกงเป็นระบบสมาชิก
ผู้ที่บริโภคน้อยกว่าหนึ่งล้านต่อปี จะไม่มีสิทธิ์เป็นสมาชิกของฮ่านกง
ในขณะเดียวกัน ทางเข้าฮ่านกง มีนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในเมืองฮ่านยืนอยู่
ประธานการค้าไห่ทง เฉาหงหรุ้ย
เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกยาเวชภัณฑ์ในต่างประเทศ
ในฐานะประธานการค้าไห่ทง ทรัพย์สินส่วนตัวของเฉาหงหรุ้ยจึงมีถึงหนึ่งพันล้าน ติดยี่สิบอันดับแรกของบุคคลร่ำรวยในเมืองฮ่าน!
แน่นอนว่าเขาเป็นนักสะสมในประเทศที่มีชื่อเสียงมาก
ตอนนี้เฉาหงหรุ้ยพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมากกว่าสิบคน ยืนอยู่ที่หน้าประตูฮ่านกงด้วยความเคารพ
ภาพนี้สร้างความตกใจให้กับคนที่มารับประทานอาหารที่นี่ไม่น้อย
และก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และเสียงอุทานมากมาย
“นั่นคือเฉาหงหรุ้ยประธานการค้าไห่ทงไม่ใช่เหรอ เขากำลังรอใครอยู่ เอิกเกริกแบบนี้ต้องใหญ่มากแน่”
“เหลือเชื่อมากเลย เฉาหงหรุ้ยที่เป็นมหาเศรษฐีพันล้านมายืนรอใครที่หน้าประตู”
“มีคนสำคัญมาเหรอ ไม่เห็นเคยได้ยินเลย หรือว่าจะเป็นคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับที่เป็นที่โจษขานหลายวันมานี้”
หลี่โม่นั่งอยู่ในรถโรลส์รอยซ์ มองไปยังประตูสีทองระยับของฮ่านกง เห็นคนระดับสูงแต่งตัวดียืนเรียงกันสองแถว จึงขมวดคิ้วและพูดว่า “เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่เป็นจุดสนใจ ทำไมถึงยังเป็นแบบนี้อีก”
เฉียนฝูรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “นายน้อย ขอโทษครับ เป็นผมที่สื่อสารไม่ชัดเจน บางทีประธานเฉาอาจคิดว่าแบบนี้ถึงจะเป็นการเหมาะสมกับฐานะของคุณ”
“ฐานะผมคืออะไร ลูกเขยขยะของตระกูลกู้ ให้พวกเขาถอนตัวไป” หลี่โม่เสียงเย็น “ไปที่ลานจอดรถ แจ้งเฉาหงหรุ้ยว่าเจอกันตามลำพัง”
“เข้าใจแล้วครับ” เฉียนฝูพยักหน้า
รถวนออกมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ
ส่วนที่หน้าประตูฮ่านกง เฉาหงหรุ้ยยืนตัวตรงด้วยความนอบน้อม รอคอยคนใหญ่คนโตในวันนี้อยู่เงียบๆ
ได้ถูกสำนักหลงเหมินให้ความสำคัญ เท่ากับว่าการเจริญก้าวหน้าในอนาคตของเฉาหงหรุ้ยนั้นไร้ขีดจำกัด!
ในขณะเดียวกัน ข้างๆ เขามีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่ เฉาส่วง ลูกชายของเฉาหงหรุ้ย
คนรวยรุ่นสองที่รู้จักกันดีในเมืองฮ่าน มั่วผู้หญิงสำมะเลเทเมา เข้าผับแข่งรถ เล่นทุกอย่าง
ตอนนี้เขากำลังมีอาการเมาค้างบนใบหน้า นอกจากนี้ยังมีความไม่ค่อยพอใจ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางพึมพำว่า “คุณพ่อ เราต้องรอไปจนถึงเมื่อไร อีกฝ่ายคือใคร วางมาดใหญ่โตขนาดนี้ นี่มันเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่มาอีก ผมจะกลับไปนอน”
เฮาหงหรุ้ยเหลือบมองเฉาส่วง ตำหนิอย่างเกลียดๆ ที่ไม่สามารถสอนลูกให้ดีได้ “แกยืนดีๆ ไปตามที่ฉันบอก วันๆ รู้จักแต่การดื่มเหล้าเข้าผับบาร์ อีกเดี๋ยวคนใหญ่คนโตท่านนั้นจะมาแล้ว แกอย่าปากมาก ไม่ว่าเรื่องอะไร ดูให้มากฟังให้เยอะ แต่ไม่พูดมากไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น กลับไปฉันจะจัดการแก!”
เฉาส่วงส่งเสียงเยาะอย่างเกลียดๆ ในใจรู้สึกแย่มาก
เมื่อคืนเขาดื่มมากเกินไป ตอนเช้าก็เล่นอีก จึงปวดหัวมาก
พ่อตนก็จริงๆ เลย ทำไมต้องดึงตนมาพบปะพูดคุยกับคนใหญ่คนโตอะไรนี่ด้วย
จนถึงตอนนี้ แม้แต่เงาคนก็ไม่เห็น วางมาดใหญ่โตเหลือเกินนะ
เป็นอย่างนั้นไปจนกระทั่งจู่ๆ โทรศัพท์ของเฉ่าหงหรุ้ยดังขึ้น จากนั้นเขาก็กระซิบบอกทุกคนว่า “ไม่ต้องรอแล้ว คนมาถึงแล้ว”
ถึงแล้วงั้นเหรอ
หลายคนสงสัย ในใจเกิดความไม่พอใจ
เฉาส่วงไม่ยั้งอารมณ์โกรธ ด่าออกมาทันที “แม่ง ปัญญาอ่อนเหรอวะ ให้เรามารอเป็นครึ่งวัน เงาก็ไม่เห็นแต่คนมาถึงแล้วเนี่ยนะ”
“พูดมากอะไร ตามฉันมา” เฉาหงหรุ้ยรอพลางเหลือบมองเขา
เฉาส่วงไม่กล้าเถียงพ่อตัวเอง ทำได้แค่หดหัวคับแค้นตามเขาเข้าไปในฮ่านกง
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องอาหารวีไอพี
ทันทีที่ผลักประตูเปิด เฉาส่วงก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ด้านใน สายตาไปตกที่หลี่โม่ซึ่งยืนหันหลังให้พวกเขา
ก็คือเขางั้นเหรอ
เฮ่ย!
แม่งใครวะ ดูโคตรหยิ่ง แต่ทำไมใส่เสื้อผ้าแบกะดิน
นี่คือผู้ลงทุนในวันนี้เหรอ
นี่มันคนกวาดขยะข้างถนนชัดๆ!
เฉาส่วงรู้สึกแย่หนักขึ้น มุมปากยิ้มเยาะ
เมื่อเฉาหงหรุ้ยเข้ามาจากนั้นก็เดินตรงไปข้างหน้า
ทำมือเคารพ เดินไปหาเฉียนฝูที่ใช้ไม่เท้าค้ำยันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ลุงเฉียน ให้คุณต้องรอนานแล้ว”
เฉียนฝูยิ้ม ยืนอยู่ที่เดิมและยื่นมือออกไป รออีกฝ่ายยื่นมาจับ
และในเวลาเดียวกัน สายตาของเฉาหงหรุ้ยโดยธรรมชาติแล้วก็ไปตกที่คนหนุ่มข้างเฉียนฝูและถามว่า “ท่านนี้คือ”
“ท่านนี้คือนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมิน หลี่โม่ ผู้ลงทุนในครั้งนี้” เฉียนฝูแนะนำด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
นาย…นายน้อยเหรอ
นายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินมาด้วยตัวเอง!
เฉาหงหรุ้ยยิ่งใจสั่นสะเทือน เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้พบนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมิน
สำนักหลงเหมิน ช่างเป็นการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่สง่างามนัก!
ในโลกนี้ จะมีอะไรที่ทรงอำนาจกว่าสำนักหลงเหมินอีกเหรอ
ไม่มี!
เฉาหงหรุ้ยเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โค้งศีรษะด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงโดยทันที “ผู้น้อยเฉาหงหรุ้ย มีตาหามีแววไม่ที่ไม่รู้จักนายน้อยหลี่ หวังว่านายน้อยหลี่จะไม่ถือสา”
หลี่โม่หันมายิ้มและเอ่ยบางเบา “ประธานเฉา ไม่ต้องเกรงใจ เรามาสรุปเรื่องกัน นี่ก็เป็นภารกิจที่สำนักหลงเหมินมอบให้ผมด้วยเหมือนกัน ได้ยินว่าคุณกำลังมองหาการลงทุน เท่าไรเหรอ บอกตัวเลขมา”
เฉาหงหรุ้ยมองไปที่เฉียนฝู พบว่าอีกฝ่านปิดตาลงเล็กน้อย ท่าทางเหมือนว่าไม่มีเจตนาจะยื่นมือเข้ามายุ่ง ดังนั้นจึงเอ่ยบอกด้วยความเคารพว่า “นายน้อยหลี่ การค้าไห่ทงเรากำลังเปิดช่องทางเภสัชกรรมในสหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบีย งบประมาณที่ลง ต้องการเงินทุนสามพันล้าน ท่านวางใจ เรามีความสามารถทำกำไรห้าพันล้านภายในสองปี!”
“สามพันล้าน…”
หลี่โม่พึมพำ คิ้วขมวดเล็กน้อย เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
สิ่งนี้ทำให้เฉาหงหรุ้ยกระวนกระวายใจมาก สามพันล้านมันมากเกินไปหรือเปล่า
ก็จริง ใครจะลงทุนในสัญญาสามพันล้านในคราวเดียว
มันไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ในกรณีที่การลงทุนล้มเหลว…
แต่จากนั้น คำพูดของหลี่โม่ กลับทำให้เฉาหงหรุ้ยช็อกไปเป็นนานสองนาน
แม้แต่เฉาส่วงที่ตอนเพิ่งเข้ามายังดูหมิ่นหลี่โม่ก็อึ้งจนดูโง่ไป
“เอาแบบนี้ดีกว่า ผมลงทุนห้าพันล้าน ตั้งเป้าหมายเล็กๆ โดยภายในสองปี ให้คุณสามารถทำกำไรได้ถึงหมื่นล้าน ผมจะให้เฉียนฝูตีเช็คให้ทันที” หลี่โม่ยิ้ม ดูเหมือนว่า ห้าพันล้านสำหรับเขา มันก็เพียงตัวเลข
ห้าพันล้านงั้นเหรอ
พระเจ้า!
เฉาหงหรุ้ยตกใจ ขณะนั้นสมองเขาว่างเปล่ามาก
ห้าพันล้านในคราวเดียว
ออกมือแบบนี้ กระเป๋าหนักเกินไปแล้ว!
นี่หรือคืออำนาจทางการเงินของสำนักหลงเหมิน
น่ากลัว! น่าเกลัวเกินไป!
“นายน้อยหลี่ ท่านแน่ใจนะครับว่าจะลงทุนห้าพันล้าน” เฉาหงหรุ้ยยังคงมึนงงอยู่บางส่วน พูดเสียงสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
มันยากที่จะจินตนาการ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นพันล้าน ขณะนี้กลับเสียอาการ
“ทำไม น้อยไปเหรอ งั้นผมจะเพิ่มอีก” หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย
“ยัง…ยังเพิ่มอีกเหรอครับ”
เฉาหงหรุ้ยช็อกไปโดยสมบูรณ์จนพูดอะไรไม่ออกอีก ก่อนจะรีบตอบกลับไปว่า “ไม่แล้วครับไม่แล้ว ห้าพันล้านก็พอแล้ว”
หลังจากปรึกษาหารือกันง่ายๆ เฉาหงหรุ้ยก็เรียกผู้ช่วยเข้ามา ในมือถือกล่องผ้าลวดลายประณีตงดงาม
เขาหยิบชิ้นหยกมังกรออกจากกล่องผ้ามายื่นให้หลี่โม่ด้วยความเคารพ “นายน้อยหลี่ นี่คือชิ้นหยกมังกร เป็นสมบัติแห่งจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ผมสะสมมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ผมปรารถนามอบให้นายน้อยหลี่”
ในฐานะนักสะสมในประเทศ โดยธรรมชาติแล้วเฉาหงหรุ้ยไม่ขาดแคลนโบราณวัตถุ
หยกมังกรชิ้นนี้ แกะสลักอย่างวิจิตร โดยเฉพาะมังกรหยกบนหยกขาวมรกต มีชีวิตชีวาราวกับมีชีวิต ที่ฐานล่างยังเจือด้วยสีเขียวมรกต เห็นแวบแรกก็รู้แล้วว่ามูลค่ามหาศาล!
ชิ้นหยกมังกรชิ้นนี้ ในท้องตลาด มีมูลค่าเริ่มต้นสิบล้าน!
หลี่โม่เพียงเหลือบตามองบางเบา ก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “เช่นนั้นก็ขอบคุณประธานเฉา”
เมื่อพูดจบเขาก็เอาทั้งชิ้นหยกมังกรกับกล่องผ้าเก็บไป จากนั้นก็ออกจากห้องอาหารวีไอพีโดยตามด้วยเฉียนฝู
เพิ่งออกจากห้องอาหารวีไอพี ก็พลันมีน้ำเสียงที่ไม่ถูกกาลเทศะดังมาด้วยความประหลาดใจและดูถูก
“หลี่โม่ นายมาที่นี่ได้ยังไง”
หลี่โม่หันหน้าไป และก็เห็นชุดสูทและรองเท้า ซู๋เทียนไห่แต่งตัวด้วยชุดหรูมากเดินเข้ามา