จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 370
ท่านแปดกอดหญิงสาวสวยสองคนในห้องใต้ดินของคฤหาสน์ ขณะที่อยู่เมืองฮ่าน เพื่อปลอดภัยของตนเอง ท่านแปดจะไม่ออกจากประตูแม้แต่ก้าวเดียว และอยู่ในห้องใต้ดินที่ปลอดภัยที่สุดตลอดเวลา
เพราะว่าหลี่โม่อยู่ที่เมืองฮ่าน แม้ว่าท่านแปดจะดูถูกหลี่โม่ แต่ก็ต้องระมัดระวังคนของสำนักหลงเหมินที่อยู่รอบตัวหลี่โม่
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีสาวงามสองคนอยู่ในอ้อมแขน นายท่านแปดก็ยังรู้สึกจิตใจว้าวุ่น และรู้สึกไม่สบายใจในใจเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
เมื่อเห็นใบหน้าของท่านแปดเคร่งขรึม สาวสวยคนหนึ่งหยิบแก้วเหล้าแล้วยื่นไปที่ริมฝีปากของท่านแปด “ท่านแปด ดื่มเหล้าแล้วก็จะมีความสุขเอง”
ท่านแปดยิ้ม โอบกอดสาวสวยและกล่าวว่า “ดื่มด้วยแก้วมันน่าเบื่อ คุณใช้ปากเล็ก ๆของคุณป้อนผมสิ”
“ท่านแปดนี่บ้าจริง ๆ ค่ะ”
สาวสวยกล่าวอย่างฉอเลาะ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม แล้วเอาริมฝีปากแดงงามมาประทับบนริมฝีปากของท่านแปด
ขณะที่ท่านแปดกำลังจะดูดเหล้าจากปากของสาวงาม โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ร่างนั้นชะงักครู่หนึ่ง ท่านแปดก็ผลักหญิงสาวสวยออกไปอย่างหยาบคาย “แม่งฉิบหาย ใครเป็นคนโทรศัพท์มา ทำให้กูเสียอารมณ์”
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอ คิ้วของท่านแปดก็ขมวดแน่นจนเป็นปม เมื่อเห็นชื่อเฉียนฝูปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
“ทำไมไอ้แก่นั้นถึงได้โทรศัพท์มาหาฉัน”
ท่านแปดบ่นพึมพำ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่โทรศัพท์กำลังจะวางสายโดยอัตโนมัติ ท่านแปดก็กดปุ่มรับสาย
“ฮาโหล ไอ้แก่ทำไมคุณถึงไม่ไปเป็นสุนัขรับใช้ให้ดี ๆ มาโทรศัพท์หาฉันทำไม”
ท่านแปดกล่าวด้วยความหยาบคาย
เฉียนฝูแสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่เนื่องจากเป็นคำสั่งของหลี่โม่ เขาจึงอดทนไม่หยาบคายกับท่านแปด
“ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ นายน้อยต้องการพบคุณ”
“นายน้อย? อยากพบฉัน? พวกคุณคิดจะดักซุ่มโจมตีหรือ? คิดว่าฉันปัญญาอ่อนหรือยังไง ที่จะหลงกลพวกคุณได้ง่าย ๆ”
ท่านแปดกล่าวเยาะเย้ย
“การซุ่มโจมตีคุณมีประโยชน์อะไร ราชินีของสำนักหลงเหมินกำลังจะมา ถ้าจะซุ่มโจมตีคุณ ไปซุ่มโจมตีราชินีของสำนักหลงเหมินโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ? สำหรับนายน้อย คุณเป็นแค่ตัวเรือดเท่านั้น”
คำพูดของเฉียนฝู ทำให้ท่านแปดโกรธจนหน้าแดง จนแทบอยากจะพุ่งไปอยู่ตรงหน้าเฉียนฝู และฉีกปากของเฉียนฝู
“คุณทำให้ฉันโกรธมากรู้ไหม แค่ผู้คุ้มกันไม่กี่คนที่อยู่รอบ ๆ นายน้อย ไม่คณามือลูกน้องฉันหรอก แค่ฉันเมตตาสงสารเขา ก็เลยไม่ได้ใช้กำลังกับเขา”
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ แค่คุณตอบมาว่าจะไปหานายน้อยหรือไม่ ถ้าไม่ไปฉันจะได้รายงานนายน้อย”
ท่านแปดตกอยู่ในความเงียบ การที่จะพบกับหลี่โม่หรือไม่เป็นคำถามยากที่จะตัดสินใจยาก ถ้าไปจะมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่ไป ท่าแปดก็อยากรู้ว่าหลี่โม่จะพูดอะไรเมื่อพบเขา
ความอยากรู้อยากเห็นก็เหมือนอุ้งเท้าแมว ที่ขีดข่วนอยู่ในหัวใจของท่านแปด ยิ่งขีดข่วนก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากเจอหลี่โม่
“คุณส่งตำแหน่งที่อยู่ของเขาให้ฉันก่อน ฉันขอคิดไตร่ตรองสักครู่ ฉันจะให้คำตอบภายในครึ่งชั่วโมง”
“คุณก็ยังขี้ขลาดเหมือนเดิม ฉันจะให้เวลาคุณคิดไตร่ตรองครึ่งชั่วโมง”
เฉียนฝูวางสาย แล้วส่งตำแหน่งที่อยู่ของหลี่โม่ให้ท่านแปด
หลังจากที่ท่านแปดดูตำแหน่งที่อยู่แล้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ตรวจสอบตำแหน่งนี้ และตรวจสอบการเคลื่อนไหวของหลี่โม่ในวันนี้ รวมทั้งตำแหน่งของผู้คุ้มกันของเขาด้วย”
“ครับ”
ลูกน้องหยิบคอมพิวเตอร์ออกมา และเริ่มค้นหาระบบตรวจสอบเมืองเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของหลี่โม่ และผู้คุ้มกันจากสำนักหลงเหมินของหลี่โม่
ข้อมูลถูกรวบรวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และตำแหน่งที่อยู่ของหลี่โม่ก็ปรากฏขึ้น
“หลี่โม่อยู่ที่โรงงานร้างในเขตชานเมือง โรงงานที่ถูกทิ้งร้างนี้เป็นของตระกูลฉิงในเมืองเอก ตามข้อมูลดังกล่าว โรงงานนั้นถูกใช้เป็นที่ตั้งหลักสำหรับนักฆ่าและทหารรับจ้าง”
“ภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ละแวกใกล้เคียงโรงงานร้าง วันนี้กลุ่มแรกที่เข้ามาคือฉิงจี้เย่กับบอดี้การ์ดของเขา กลุ่มที่สองเป็นนักฆ่าสิบกว่าคน กลุ่มที่สามคือหลี่โม่คนเดียว และกลุ่มสุดท้ายนำโดยเย่จงเทียนคิงทหารแห่งเทียนหนานกับกลุ่มทหารรับจ้าง”
“ตำแหน่งที่อยู่ของผู้คุ้มกันจากสำนักหลงเหมินของหลี่โม่ อยู่ห่างจากหลี่โม่มากกว่ายี่สิบกิโลเมตร ตามข้อมูล พวกเขาน่าจะปกป้องคุ้มครองกู้หยุนหลันภรรยาของหลี่โม่อยู่”
ข้อมูลถูกรายงานออกมาเรื่อย ๆ ท่านแปดกำลังสูบบุหรี่ และใช้ความคิดอย่างเงียบ ๆ
“ผู้คุ้มกันจากสำนักหลงเหมินของหลี่โม่ไม่ได้อยู่ข้างกาย เขาไปอยู่กับกลุ่มนักฆ่าและทหารรับจ้าง หรือว่าเขาต้องการพึ่งนักฆ่าและทหารรับจ้างมาจัดการกับฉัน? แม่งมันไร้เดียงสามาก คิดว่าไอคิวของเขาลดลงหลังจากที่มาเป็นเศษสวะในเมืองฮ่าน”
เมื่อนึกถึงข่าวลือเรื่องเป็นคนไร้ประโยชน์ของหลี่โม่ก่อนหน้านั้น ท่านแปดแสดงรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้า
ผู้คุ้มกันจากสำนักหลงเหมินไม่ได้อยู่ข้างกาย ทหารรับจ้างหรือนักฆ่าก็ไม่ใช่ปัญหา ท่านแปดคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี
ถ้าสามารถจับหลี่โม่ได้จะต้องทรมานให้สาสม จากนั้นก็อบรมสั่งสอนเจ้านายของสำนักหลงเหมินให้ว่านอนสอนง่ายแล้วมอบให้กับราชินีของสำนักหลงเหมิน คิดว่าราชินีของสำนักหลงเหมินคงจะพอใจเป็นอย่างมาก
ท่านแปดถูกดึงดูดโดยผลกำไรอย่างรวดเร็ว และรู้สึกราวกับว่าเขาได้เห็นอนาคตที่สดใส
หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขของเฉียนฝู ท่านแปดยิ้มอย่างร่าเริงและกล่าวว่า “ฮ่า ๆ ไอ้แก่เฉียนฝู คุณคิดการเป็นสุนัขรับใช้มันไม่มีความหวังอะไรใช่ไหม ดังนั้นคุณเลยอยากทรยศเจ้านายของสำนักหลงเหมินใช่ไหม ฮ่า ๆ ๆ”
“อย่าพูดจาพล่อย ๆ แค่นายน้อยไม่ฟังคำแนะนำของผมเท่านั้น ฉันขอเตือนคุณ ถ้าเจอนายน้อยทางที่ดีควรซื่อสัตย์หน่อย ถ้าคุณกล้าที่จะทำอะไรที่เป็นผลร้ายต่อนายน้อย ถึงสุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะตามไปฆ่าคุณ! ”
“สิ่งที่คุณพูดทำให้ฉันกลัวมาก รอฉันเจอไอ้เศษสวะแล้วค่อยว่ากัน นายน้อยของสำนักหลงเหมินไปเป็นเขยแต่งเข้าก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว แม่งฉิบหายยังเป็นคนไร้ประโยชน์หลายปีอีก ภาพลักษณ์ของสำนักหลงเหมินถูกทำลายด้วยน้ำมือของมันแล้ว”
เฉียนฝูพูดไม่ออกชั่วขณะ ภาพลักษณ์ของหลี่โม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นรอยด่างของสำนักหลงเหมินจริง ๆ ต่อไปถ้าประวัติของหลี่โม่แพร่กระจายออกไป เกรงว่าสำนักหลงเหมินอาจจะกลายเป็นตัวตลกผู้มีอำนาจเก่าแก่เหล่านั้น
หลังจากท่านแปดวางสาย แล้วใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะสองครั้ง “จัดรถ ไปที่โรงงานร้าง ระหว่างทางต้องเตรียมพร้อมและระมัดระวัง เมื่อไปถึงโรงงานแล้วพวกคุณยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น และวางแผนจัดการกับพวกนักฆ่าและทหารรับจ้างด้วย”
“ครับ”
บอดี้การ์ดภายใต้ทีมของเขาเริ่มดำเนินการ และเริ่มเตรียมการสำหรับที่ท่านแปดจะออกไปคราวนี้
ท่านแปดมองเงามืดที่อยู่ในห้อง กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เหลียงยู่ คราวนี้ความปลอดภัยของฉันก็ขึ้นอยู่กับคุณ ฉันไม่สามารถวางใจพวกเขาได้”
“วางใจเถอะ ถ้ามีผมอยู่ไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณได้”
ท่านแปดพยักหน้า หลังจากนั้นก็หลับตาเพื่อพักผ่อน
ไม่นานลูกน้องก็เข้ามารายงานแผน หลังจากท่านแปดฟังแล้วก็ลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก เงามืดที่อยู่ในห้องกลายเป็นเงาสีเทา
เงาสีเทาไม่ได้ทำตัวเป็นจุดสังเกตของใคร และรวมตัวกับเงาของท่านแปดอย่างเงียบ ๆ
เสียงฝีเท้าของท่านแปดหยุดชะงัก จากนั้นรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“เหลียงยู่เป็นคนที่พึ่งพาได้ที่สุด เสียค่าจ้างที่สูงก็ไม่ไร้ประโยชน์ ว่ากันว่าถ้าต้องการความมั่งคั่งก็ต้องกล้าที่จะเสี่ยง คราวนี้ฉันจะเทหมดหน้าตัก”
ท่านแปดเตรียมตัวเสร็จก็ขึ้นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์กันกระสุนที่สั่งทำเป็นพิเศษ ขบวนรถค่อย ๆขับออกจากคฤหาสน์ และมุ่งหน้าไปยังโรงงานร้าง
หลังจากที่ขบวนรถขับออกไปแล้ว เหลียงยู่ก็เดินออกจากคฤหาสน์ ภายใต้แสงดวงอาทิตย์ เงาของเหลียงยู่จางจนแทบมองไม่เห็น