จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 372
เย่จงเทียนและคนอื่น ๆ มองหลี่โม่โดยไม่พูดอะไร ทุกคนก็รู้ว่าเขาก็คือเขา แต่สิ่งที่ทุกคนอยากจะรู้คือฐานะตัวตนของหลี่โม่!
เย่จงเทียนมองหลี่โม่โดยไม่รู้จะทำยังไง เขากล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด เพราะตอนนี้ชีวิตของตนเองยังอยู่ในมือของหลี่โม่
หลี่โม่เขย่ากล่องโลหะสีเงิน และมองไปที่ฉิงจี้เย่ที่กำลังกระสับกระส่าย
“คุณแพ้แล้ว ควรจะมาทำตามสัญญาการเดิมพันด้วยตนเองใช่ไหม”
“ผม คือผม”
ฉิงจี้เย่เครียดจนเกือบจะร้องไห้ ยังเหลือระเบิดสิบกว่าลูก ถ้ากินเข้าไปหมด มันจะระเบิดจากการชนกันเองหรือไม่?
สมองของฉิงจี้เย่ได้ปรากฏภาพที่ระเบิดจนทำให้ตนเองตาย เขาตื่นตระหนกและหายใจถี่จนทรุดตัวลงกับพื้นทันที
“ผมไม่กินลูกระเบิดได้หรือไม่ ผมจะให้เงินคุณ ผมจะให้เงินคุณเยอะ ๆ”
ฉิงจี้เย่กล่าวไปร้องไห้ไป
“เมื่อยินยอมเล่นการพนัน ก็ต้องยอมรับเมื่อตนเองพ่ายแพ้ ถ้าคุณไม่ยอมกิน คุณอาจจะได้ไปเจอบรรพบุรุษของคุณตอนนี้”
เสียงกล่าวที่เย็นชาของหลี่โม่ ทำให้ฉิงจี้เย่สั่นเทา
หลังจากลังเลสักครู่ ฉิงจี้เย่ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน และเดินไปหาหลี่โม่อย่างช้า ๆ
จะใช้ไผ่ใบสุดท้ายดีหรือไม่?
ฉิงจี้เย่คิดขณะเดิน แต่เดินไปถึงหน้าหลี่โม่ ฉิงจี้เย่ก็ยังคิดไม่ออก
หลี่โม่เปิดกล่องโลหะสีเงิน และส่งสัญญาณให้ฉิงจี้เย่กลืนระเบิดด้วยตัวเอง
ฉิงจี้เย่เหยียดมือที่สั่นเทาของเขาออกมา แล้วหยิบระเบิดขึ้นมาอย่างสั่นๆ เหมือนผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
“ผม ผม ผม……”
ฉิงจี้เย่พูดตะกุกตะกัก ใบหน้าของเขาย่นเหมือนดอกเบญจมาศ
“ไม่ต้องกลัว พวกเขากินกันหมดทุกคน ตอนนี้ก็ยังอยู่ดีมีสุข”
หลี่โม่กล่าวเชิงอบรมฉิงจี้เย่
ฉิงจี้เย่เหลือบมองเย่จงเทียน เย่จงเทียนหันหน้าหนี รู้สึกละอายใจเล็กน้อย ไม่กล้ามองที่ฉิงจี้เย่ตรง ๆ
หลังจากลังเลอยู่สักครู่ ฉิงจี้เย่ก็หลับตาลงและกลืนลูกระเบิดเข้าไป ร้องไห้และกล่าวว่า “ ผมกินแค่ลูกเดียวได้ไหม ถึงจะกินกี่ลูกผลมันก็เหมือนเดิม ถ้ามันชนกันและระเบิดในท้องของผมมันก็แย่”
“โอเค ถือว่าให้ส่วนลดพิเศษคุณ กินลูกเดียวก็ได้”
หลี่โม่ปิดกล่อง ท่าทางของเขาเริ่มจริงจัง “ตอนนี้ทุกคนฟังคำบัญชาการของผมได้แล้วใช่ไหม”
“ฟังคุณ ฟังคุณทั้งหมด”
ฉิงจี้เย่กล่าวซ้ำ
“แล้วพวกคุณล่ะ แสดงปฏิกิริยาตอบสนองหน่อย”
หลี่โม่มองไปที่เย่จงเทียนและเว่ยหย่ง
เว่ยหย่งยิ้มอย่างโศกเศร้า “ชีวิตของพวกเราอยู่ในกำมือคุณ คุณก็คือพี่ใหญ่ คุณพูดยังไงพวกเราก็จะปฏิบัติตามนั้น”
“ผมก็เช่นกัน จะฟังคำบัญชาการของคุณ” เย่จงเทียนกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
นักฆ่าและทหารรับจ้างต่างถูกหลี่โม่สยบ ไม่ว่าจะเป็นบุ๋นและบู๊ ก็พ่ายแพ้ให้กับหลี่โม่อย่างราบคาบ ทำให้พวกเขาไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะต่อต้าน
“ดีมาก ภารกิจหน้าที่ของพวกคุณง่ายมาก ขวางผู้คุ้มกันของเหล่าปาให้อยู่ที่ข้างนอก และให้เหล่าปาพาคนเข้ามาได้เพียงสองคน”
สีหน้าของเย่จงเทียน และคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปทันที รู้สึกว่าหลี่โม่ได้สั่งภารกิจที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้
“พวกเราเพียงไม่กี่คน จะขวางคนจำนวนมากของท่านแปดได้อย่างไร ถ้าหากพวกเขาไม่เชื่อฟัง พวกเขาจะลงมือไหม?”
เว่ยหย่งกล่าวอย่างขี้ขลาด
“งั้นก็ฆ่าอย่างไร้ความปรานี”
หลี่โม่กล่าวอย่างอาฆาต
รู้สึกถึงรังสีสังหารที่ปรากฏขึ้นบนตัวของหลี่โม่อย่างกะทันหัน หัวใจของเย่จงเทียน เว่ยหย่ง และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกตกใจจนหัวใจเต้นแรง
รังสีสังหารที่รุนแรงเช่นนี้ แม้แต่คนโหดเหี้ยมที่ฆ่าคนมามากมายเช่นพวกเขาก็ยังรู้สึกใจสั่น
เย่จงเทียนจ้องเขม็งไปที่หลี่โม่ สัมผัสรังสีสังหารจากตัวหลี่โม่ หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของเย่จงเทียนก็กลายเป็นขาวซีดเผือด และเขากล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “นี่ นี่ไม่ใช่รังสีสังหาร”
“คุณพูดว่าอะไร?”
เว่ยหย่งถามเย่จงเทียนด้วยความสงสัย
สายตาที่เย่จงเทียนมองไปที่หลี่โม่เปลี่ยนเป็นความนอบน้อม และความทรงจำที่เลือนรางก็มลายหายไป ภาพการต่อสู้ที่ภูเขาเหล่าหว่า ได้ปรากฏขึ้นมาในสมองของเย่จงเทียน
ในฐานะบุคคลลึกลับที่มีกลิ่นอายของการสังหารคล้ายกับร่างกายของหลี่โม่ ที่เคยช่วยเย่จงเทียนไว้ที่ภูเขาเหล่าหว่า
หากไม่ใช่เพราะบุคคลลึกลับปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤติ เย่จงเทียนก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว
“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นเขาหรือเปล่า แต่คุณมีกลิ่นอายแบบเดียวกับเขา ผมเย่จงเทียนจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณ และจะไม่ยอมให้ผู้คุ้มกันของท่านแปดเข้ามาในพื้นที่โรงงานร้างอย่างเด็ดขาด เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเหยียบศพผมเข้ามา”
ทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเย่จงเทียนที่มีต่อหลี่โม่ ทำให้ฉิงจี้เย่และคนอื่น ๆ ตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเย่จงเทียนถึงเปลี่ยนกะทันหัน เป็นไปได้ไหมว่าเขาหวาดกลัวรังสีสังหารของหลี่โม่?
“พี่เย่ คุณเป็นอะไรไป พูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”
ฉิงจี้เย่ถามด้วยความประหลาดใจ
“ฮ่า ๆ คุณไม่รู้เรื่องอะไร?”
เย่จงเทียนหันไปมองทหารรับจ้างและตะโกนเสียงดังว่า “รวมตัว และทำความเคารพคุณหลี่”
ทหารรับจ้างรวมตัวกันเป็นทีมที่เรียบร้อย และตามเย่จงเทียนแสดงความเคารพหลี่โม่
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย ราวกับว่าหัวหน้ากำลังทดสอบกำลังพล
“จบพิธี!”
เย่จงเทียนเอามือที่ทำความเคารพของเขาลง มองหลี่โม่อย่างลึกซึ้ง หันหลังกลับและเดินนำทหารรับจ้างออกไป
ทหารรับจ้างที่เดินตามเย่จงเทียน กระซิบถามด้วยความมึนงง “พี่ใหญ่ จู่ ๆทำไมคุณถึงได้เคารพคุณหลี่”
“เพราะเมื่อก่อน ถึงแม้ไม่รู้ว่าเขาคือคนนั้นหรือเปล่า แต่กลิ่นอายของพวกเขาก็ใกล้เคียงกันมาก ถึงจะไม่ใช่คนคนเดียวกันก็ต้องเป็นพวกเดียวกัน ถ้าไม่มีคนคนนั้น ก็ไม่มีเย่จงเทียนในวันนี้ ผมเป็นคนที่รู้จักสำนึกและตอบแทนบุญคุณ”
เมื่อเห็นเย่จงเทียนและคนอื่น ๆ ออกจากโรงงาน เว่ยหย่งก็เกาศีรษะและยิ้ม “คิงทหารเย่ก็เตรียมต่อสู้แล้ว งั้นพวกเรายิ่งต้องต่อสู้ให้หนักขึ้น เพราะว่าในท้องของพวกเรามีระเบิดอยู่ หวังว่าการต่อสู้ของพวกเราจะทำให้พวกเราสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ หวังว่าคุณหลี่จะช่วยเอาระเบิดออกจากมาจากท้องของพวกเรา”
“วางใจ ขอแค่พวกคุณปฏิบัติตามคำสั่ง”
หลี่โม่กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“ตกลง พวกเราเชื่อในตัวคุณ” เว่ยหย่งพาคนเดินออกไปจากโรงงาน ไปปรึกษาหารือกับเย่จงเทียนถึงวิธีขวางผู้คุ้มกันของท่านแปด
ฉิงจี้เย่กล่าวด้วยขาที่สั่นเทาว่า “ผม ผมคงไม่ต้องออกไป ผมจะให้บอดี้การ์ดทั้งหมดของผมออกไป”
“คุณไปเป็นคนต้อนรับ ไปต้อนรับเหล่าปาให้ดี”
“เรื่องนี้ ผมเกรงว่าจะทำได้ไม่ดี! ท่านแปดเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าผมบอกว่าไม่ให้ผู้คุ้มกันของเขาเข้ามา กลัวว่าเขาจะฆ่าผมเป็นคนแรก”
ฉิงจี้เย่มีความคิดที่อยากจะใช้ไผ่ตายแล้ว แต่อดทนต่อความกลัวในใจ และไม่ได้บอกเรื่องที่ตนเองลักพาตัวซีซี
“คุณบอกเขาว่า ข้างในมีผมอยู่คนเดียว ถ้าเขาไม่อยากเป็นเต่าหดหัว ก็พาบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนเข้ามาหาพบผม”
“ผม…ผมไม่สามารถพูดประโยคนี้ออกมาได้”
น้ำตาของฉิงจี้เย่ไหลออกมา ถ้าตนเองพูดกับท่านแปดว่าเต่าหดหัวแล้ว ตนเองก็ไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร
“ถ้าคุณไม่ไป ตอนนี้คุณก็จะได้ยินเสียงบูมทันที คุณคิดให้ดี ๆ”
“ผม ผมไป ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
ฉิงจี้เย่ปาดน้ำตา และรีบวิ่งออกไปพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขาราวกับสุนัขที่บ้าคลั่ง ตอนนี้ฉิงจี้เย่รู้สึกว่าการเผชิญหน้ากับท่านแปดดีกว่าการเผชิญหน้ากับหลี่โม่
ฉิงจี้เย่ยืนอยู่ที่ประตูโรงงาน เขาก้มหน้าลงและครุ่นคิดว่าจะคุยกับท่านแปดอย่างไรดี ในขณะที่เย่จงเทียนและคนอื่น ๆ ได้เริ่มสร้างแนวป้องกันแล้ว
“คุณชาย ขบวนรถของท่านแปดมาแล้ว”
บอดี้การ์ดของฉิงจี้เย่เตือน