จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 38
บทที่ 38 จะเป็นเขาได้อย่างไร
เป็นเสียงไม่พึงประสงค์ที่จะได้ยิน
หลี่โม่เลิกคิ้วมองไป ก็เห็นซู๋เทียนไห่แต่งตัวหล่อเหลา เวลานี้สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง เดินเข้าหาตนด้วยทั้งใบหน้าเย้ยหยัน
เดินตรงมา ซู๋เทียนไห่ยังคงมองหลี่โม่หัวจดเท้าอย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็ดึงคอเสื้อสูทของตัวเองและเยาะเย้ยว่า “โอเคหลี่โม่ ธุรกิจร้านสปาของนายมาเปิดที่ฮ่านกงแล้วเหรอ ก็ดีพอตัวนะ”
พูดอย่างนั้นแล้วเขายังยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นด้วย แต่การถางถางในคำพูดนั้นกลับแรงมาก
หลี่โม่ขมวดคิ้ว สีหน้าค่อนข้างรังเกียจ
ตนทำอะไรที่ไหนมันธุระกงการอะไรของคุณ
อีกอย่าง ฉันกับนายซู๋เทียนไห่สนิทกันเหรอ
หลี่โม่ส่ายหน้า ไม่ได้อยากเสวนากับใคร จึงหันหลังต้องการจะเดินไป
ทว่า ภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของซู๋เทียนไห่ มันทำให้เขาไม่พอใจมาก!
แม่ง!
ลูกเขยขยะของตระกูลกู้ ทุกคนตะโกนด่าว่าไอ้ขี้แพ้ กล้าดียังไงมาเมินตน
ซู๋เทียนไห่ไม่ได้คิดจะปล่อยหลี่โม่ไป ไปขวางหน้าปิดทางของหลี่โม่ไว้แล้วอ้อมค้อมถากถาง “นี่ เดี๋ยวนี้ดื้อด้านเหรอ กล้าดียังไงมาเมินฉัน ทำไม คิดว่าตัวเองมาถึงฮ่านกงได้ก็เท่ากับเป็นแขกผู้มีเกียรติของที่นี่งั้นเหรอ หยุดฝันได้แล้ว ที่นี่น่ะนายไม่มีทางจ่ายได้หรอก”
หลี่โม่ขมวดคิ้วฉับพลัน สีหน้าเริ่มไม่พอใจ
เขายังมีเรื่องต้องจัดการ ไม่อยากจะเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้
และในขณะเดียวกัน หนุ่มสาวคนร่ำรวยรุ่นสองที่อยู่ข้างหลังซู๋เทียนไห่ ก็มองหลี่โม่ด้วยสายตาแปลกๆ
แม้พวกเขาจะไม่คุ้นเคยกับหลี่โม่ แต่ก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเขามาบ้าง
ลูกเขยชองตระกูลกู้แห่งเมืองฮ่าน ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ปกติคอยพึ่งพาภรรยาให้หนุนหลัง ในบ้านตระกูลกู้ ไม่มีสถานะ เทียบไม่ได้แม้แต่สุนัขที่บ้านกู้เลี้ยงไว้
“คุณชายซู๋ นี่ก็คือคนที่รู้จักกันดีว่าเป็นไอเศษสวะหลี่โม่ แน่นอนว่าเป็นจริงดังข่าวลือ เป็นคนขี้แพ้จริงๆ”
“ครั้งแรกที่เจอน่ะโง่มากจริงๆ ได้ยินว่าแม้แต่ลูกสาวตัวเองก็จำไม่ได้ โคตรน่าสมเพช”
“นี่ กู้หยุนหลันของตระกูลกู้แต่งงานกับเขาได้ยังไงกันนะ คิดแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเลย”
หลายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังซู๋เทียนไห่ วิพากษ์วิจารณ์และหัวเราะเฮฮากันอย่างเหยียดหยามดูถูก
สำหรับพวกเขา ความรู้สึกของหลี่โม่ไม่ได้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เป็นขยะ แค่คนที่ทำให้ขบขันสนุกสนานเท่านั้น
ทำไมต้องแคร์ความรู้สึกของเขา
โดยเฉพาะเป็นหลี่โม่ แม้แต่ภรรยาของตัวเองก็ยังรังเกียจเขา มีข่าวลือด้วยว่ากำลังมีเรื่องปัญหาการหย่าร่าง น่าขำจริงๆ
หลี่โม่ขมวดคิ้วแน่น ไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว จึงหันตัวไปด้านข้างเตรียมจะไป
แต่ซู๋เทียนไห่กลับไม่ยอม “หลี่โม่ อย่าเพิ่งไปสิ อุตส่าห์บังเอิญได้เจอ หรือไม่ ฉันขอเชิญนายทานอาหารนะ แน่นอนว่าไม่ได้ให้ฟรี ตราบใดที่นายเห่าสองครั้ง ฉันก็จะเชิญนาย เป็นไง คุ้มมากเลยนะ สามารถทานอาหารที่ฮ่านกงได้ หลังจากนี้นายก็ออกไปคุยโม้ได้แล้วหลี่โม่ว่ามีทุน”
ซู๋เทียนไห่เห็นหลี่โม่แล้วไม่พอใจมานานแล้ว ไอ้ขี้แพ้คนนี้ ทำไมถึงสามารถครอบครองนางฟ้าอย่างกู้หยุนหลันได้
กู้หยุนหลัน เดิมทีต้องเป็นของเขาซู๋ทียนไห่!
หลี่โม่นี่ สมควรตาย!
“กินเองเถอะ” หลี่โม่พูดเสียงเย็น
ซู๋เทียนไห่หัวเราะฮ่าฮ่า เอื้อมมือออกไปตบไล่หลี่โม่สองที แล้วพูดข้างหูอย่างท้าทายว่า “หลี่โม่ ฉันจะแนะนำนายให้ รีบหย่ากับกู้หยุนหลันให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น ฉันรับรองเลยว่าจะทำให้นายกินไม่ได้เดินไปเดินมาก็ไม่ได้แน่นอน”
เมื่อพูดจบ ซู๋เทียนไห่ก็นำคนอื่นเดินผ่านหลี่โม่ไปยังล็อบบี้ฮ่านกง
หลี่โม่ที่อยู่ข้างหลัง สายตาเย็นชาเล็กน้อย ร่างกายเต็มไปด้วยไอแห่งการฆ่า กระชับกำปั้นแน่น หายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวเท้าออกจากประตูไป
แต่ซู๋เทียนไห่ยังไม่ได้ไปไกล ผู้ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้ากลมวิ่งอย่างรวดเร็วเข้ามา สวมสูทสีเทา กิริยาดีมาก และที่ด้านหลังของเขามีผู้ช่วยตามมาสองคน กำลังรีบวิ่งเข้ามา
เจ้าของฮ่านกง เฝิงเหวินเตี่ยน
นี่คือบุคคลสำคัญของเมืองฮ่าน มีชื่อเสียงในเมืองฮ่านทั้งสายดำสายขาว
สถานะตัวตน เป็นรองแค่ฉู่จงเทียนท่านเทียนเมืองฮ่านเท่านั้น
ฮ่านกง เบ็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่าน ความสัมพันธ์สลับซับซ้อน เจ้าของที่อยู่เบื้องหลัง ความแข็งแกร่งนั้นแน่นอนว่าดูถูกไม่ได้
ขณะนี้เห็นเฝิงเหวินเตี่ยนวิ่งออกมา ซู๋เทียนไห่ก็ตื่นเต้นมาก รีบวิ่งไปกอดแข้งกอดขา ยื่นมือออกไปทำความเคารพ “เถ้าแก่เฝิง ทำไมท่านมาด้วยตัวเอง ท่านสุภาพมาก นี่ทำให้ผมละอายใจนัก”
แต่เฝิงเหวินเตี่ยนที่แค่ผ่านมา ชำเลืองมองซู๋ไห่เทียน ในใจเกิดความสงสัย คนคนนี้เป็นใคร
จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าแล้วถามว่า “เห็นคุณชายหลี่ที่เพิ่งออกไปไหม”
เฝิงเหวินเตี่ยนกับเฉาหงหรุ้ยเป็นเพื่อนเก่ากันมาหลายปี วันนี้เฉาหงหรุ้ยมาที่นี่เพื่อรับแขกผู้มีเกียรติ และยังเอาเงินมาลงทุนห้าพันล้าน เรื่องนั้นเขารู้แล้ว
บุคคลเช่นนี้ เขาต้องมาต้อนรับด้วยตัวเอง
แต่น่าเสียดาย ตนช้าไปก้าวหนึ่ง อีกฝ่ายไปแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลให้เขารีบร้อนไล่ตามมา
ซู๋เทียนไห่ตกตะลึง พูดติดอ่างว่า “คุณชาย…คุณชายหลี่เหรอครับ คุณชายหลี่ไหน ผมไม่เห็นเลย”
ตอนนี้ซู๋เทียนไห่ค่อนข้างงุนงง
คุณชายหลี่ที่เฝิงเหวินเตี่ยนตามหาโดยไม่สนใจกิริยาเช่นนี้คือใคร
ในเมืองฮ่านยังมีคุณชายที่แซ่หลี่ด้วยเหรอ สามารถให้เฝิงเหวินเตี่ยนออกมาด้วยตัวเองได้
“นี่ คุณชายหลี่ รอผมด้วย!”
ทันใดนั้น เฝิงเหวินเตี่ยนเหมือนจะพบอะไรบางอย่างที่ข้างหน้า รอยยิ้มตื่นเต้นเต็มใบหน้า ซู๋เทียนไห่ที่งุนงงอยู่ตลอดไล่ตามไป
ซู๋เทียนไห่โง่เขลาไปแล้ว รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามาก เหมือนถูกใช้เป็นเครื่องมือ
ความรู้สึกคือเฝิงเหวินเตี่ยนไม่ได้มาหาตน ทั้งหมดก็แค่ผ่านมา
ซู๋เทียนไห่ยุ่งเหยิงในสายลม รู้สึกเหมือนมีเลือดเก่าอุดตันที่หน้าอก
เพื่อนคนรวยรุ่นสองที่แต่งตัวตามแฟชั่นสองสามคนด้านหลังเขา พวกเขาทั้งหมดหุบปาก แต่ดวงตามีแววยิ้มเยาะ
“แม่งเอ๊ย คุณชายไหนวะ สามารถทำให้เฝิงเหวินเตี่ยนวิ่งออกไปอย่างรีบร้อนได้ขนาดนั้น” ซู๋ไห่เทียนพึมพำ หันไปมองเพื่อนๆ
พวกเขาส่ายหน้าและยักไหล่ “ไม่รู้สิ ไม่เคยได้ยิน”
“นี่ๆ ฉันนึกได้แล้ว ช่วงหลายวันมานี้มีคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับลงทุนหนักในบริษัทวิจัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่าน จะเป็นเขาหรือเปล่า” จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้น
ทันใดนั้นทุกคนก็พากันพยักหน้าตอบ “นั่นสิๆๆ มีความเป็นไปได้ มีโอกาสเก้าในสิบว่าใช่!”
“แล้วยังไง ตามไปดูไหม สามารถทำให้เฝิงเหวินเตี่ยนมาต้อนรับด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา” มีคนเสนอขึ้น
ซู๋เทียนไห่ขมวดคิ้ว สะบัดมือและพูดอย่างเกลียดๆ ว่า “ไป ฉันก็อยากไปดูเหมือนกัน ว่าคุณชายหลี่คนนั้นเป็นใคร ถึงสามารถให้เถ้าแก่ของฮ่านกงออกหน้าด้วยตัวเอง!”
เมื่อพูดจบ คนกลุ่มใหญ่ก็เดินจากล็อบบี้ไปที่ประตูใหญ่
ในขณะเดียวกัน ข้างนอกประตู
เฝิงเหวินเตี่ยนไล่ตามมาถึงตัวหลี่โม่แล้ว และตะโกนออกไป “คุณชายหลี่ กรุณาช้าก่อน ผมเป็นเถ้าแก่ของฮ่านกง เฝิงเหวินเตี่ยน”
หลี่โม่หยุดเท้า ยืนอยู่ข้างโรลส์รอยซ์ ที่ด้านข้างของเขาคือเฉียนฝูที่รอคอยอยู่ก่อนนานแล้ว
เขาจ้องมองชายวัยกลางคนที่กำลังวิ่งมาอย่างสงสัยและเอ่ยถามว่า “ลุงเฉียน เพื่อนของคุณอีกแล้วเหรอ”
เฉียนฝูส่ายหน้า “ไม่นับว่าเป็นครับ”
เฝิงเหวินเตี่ยนวิ่งมาไม่กี่ก้าว สายตาแวบแรกตกไปที่ตัวเฉียนฝูที่อยู่ข้างหลี่โม่ แล้วในใจก็สั่นสะเทือนหนัก
ไม่ผิด!
มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในภูมิภาคฉู่โจว เฉียนฝู!
ชายหนุ่มข้างๆ เขานั่น โดยธรรมชาติแล้วก็ต้องเป็นนายน้อย!
“คุณชายหลี่ ประธานเฉียน ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองมา จึงพลาดการต้อนรับ นี่คือบัตรสมาชิกวีไปพีสูงสุดของฮ่านกง ถ้าคุณชายหลี่ไม่รังเกียจ ได้โปรดรับไว้” เฝิงเหวินเตี่ยนยื่นสองมือส่งบัตรสมาชิกด้วยความเคารพ
เขาตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้ต้องได้ผูกมิตรกับหลี่โม่
หลี่โม่มองเฝิงเหวินเตี่ยนอย่างสงบ รับบัตรสมาชิกวีไอพีสูงสุดมา และพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า “ขอบคุณ”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันตัวก้าวเข้ารถไป
ส่วนเรื่องที่เหลือ เฉียนฝูเป็นคนจัดการ
เฉียนฝูพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “เถ้าแก่เฝิง นายน้อยของเราไม่ค่อยชอบความเอิกเกริก ดังนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่เขามาที่นี่ ขอให้เก็บเป็นความลับ”
“เข้าใจครับ เข้าใจแล้ว! ประธานเฉียนท่านวางใจได้ จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” เฝิงเหวินเตี่ยนรีบรับประกัน
และไม่ไกล ซู๋เทียนไห่นำเพื่อนมายืนอยู่ที่ปากประตู เห็นภาพที่เฝิงเหวินเตี่ยนกำลังยื่นบัตรสมาชิกด้วยความเคารพเข้าพอดี และก็เห็นอีกคนหันตัวก้าวเข้าไปในรถโรลส์รอยซ์
ทว่า เพราะมันไกลไปหน่อย บวกกับมีสิ่งกีดขวางการมองเห็น พวกเขาจึงเห็นหน้าตาไม่ชัด เห็นเพียงด้านหลังร่างหนึ่งเข้าไปในรถเท่านั้น
นั่นคือโรลส์รอยซ์!
แถมยังเป็นรุ่นที่ระลึกพิเศษ!
“นี่ นั่น..นั่นมัน หลี่โม่คนเมื่อครู่ใช่ไหม ชุดเดียวกันเลยนะ!”
ในกลุ่มคน ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงสั่นออกม