จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 381
“วันนี้เป็นงานเลี้ยงการหมั้นของเพื่อนหยุนหลัน ฉันไม่อยากลงไม้ลงมือ พวกนายอย่าหาเรื่องใส่ตัว”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พี่ชายหวังแสยะยิ้มอย่างไม่พอใจ เขามองหลี่โม่อย่างดูถูก “พูดเหมือนตัวเองต่อยตีเป็นอย่างนั้นแหละ ถ้านายเก่งก็มาแข่งดื่มเหล้ากับพวกเรา มาดูสิว่าบนโต๊ะใครจะดื่มได้เยอะกว่ากัน”
“ได้สิ”
หลี่โม่รับปาก เขาดูแกร่งกล้าเป็นอย่างมาก
“งั้นก็เข้าไปหาที่นั่งกัน ฉันอยากรู้ว่านายจะดื่มได้เยอะแค่ไหน ถ้านายดื่มได้ไม่เยอะเท่าพวกฉัน นายโดนพวกฉันจับแก้ผ้าแล้วโยนลงไปบนถนนแน่ ให้คนได้เห็นสารรูปของนาย”
พี่ฮัวพูดออกมาอย่างได้ใจ เขาไม่เห็นหลี่โม่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ทั้งสี่คนเดินเข้าไปข้างในและหาโต๊ะว่างนั่ง พี่ชายหวังกับพี่ฮัวนั่งอยู่ขวามือของ ส่วนกู้หยุนหลันนั่งอยู่ซ้ายมือของหลี่โม่
พี่ฮัวเปิดเหล้าขาวที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ตะโกนเรียกพนักงาน “เอาเหล้าขาวมาอีก 6 ขวด แล้วก็เอาแก้วมาสองแก้ว”
“เราดื่มเหล้ากับแก้ว ดื่มครั้งละแก้ว ไม่รู้นายจะทำได้ไหม”
พี่ชายหวังหยิบแก้วไปวางไว้ตรงหน้าหลี่โม่
แก้วหนึ่งแก้วสามารถเทเหล้าได้ 150-200 ml. คนทั่วไปดื่มแค่แก้วเดียวก็มึนแล้ว ถ้าดื่มได้ 2-3 แก้ว นับว่าคอแข็งมาก
หลี่โม่ดูเหมือนไม่กลัวอะไร เขายิ้มแล้วพูดว่า “กินสองขวดก็ยังได้”
“โม้เถอะ คิดว่าตัวเองเป็นเซียนเหล้ากลับชาติมาเกิดหรือไง ดื่มได้ยังไงตั้งสองขวด ทำได้แบบนั้นแสดงว่านายติดเหล้าแล้ว”
พี่ชายหวังพูดอย่างดูถูก
เหล้าขาวนะไม่เบียร์ กินเบียร์สองขวดหรือเป็นสิบขวดก็ไม่เป็นอะไร แต่ว่าเหล้าขาวมีฤทธิ์แรง คนที่กล้าดื่มเหล้าขาวสองขวดแสดงว่าเป็นโรคติดเหล้า
กู้หยุนหลันกุมหัว เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ถ้าอีกเดี๋ยวหลี่โม่ดื่มจนเมา จะต้องหาคนมาแบกเขากลับไปอีก
พนักงานขนเหล้าขาวมาวางไว้ข้างหลังพี่ชายหวังหนึ่งลัง พี่ชายหวังเปิดเหล้าขาวทั้งลังและนำมาวางไว้บนโต๊ะ
แขกในงานต่างพากันมองมาที่โต๊ะของหลี่โม่ เมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะแข่งดื่มเหล้า พวกผู้ชายต่างพากันตื่นเต้น
งานเลี้ยงงานหมั้นเริ่มขึ้น พิธีกรขึ้นไปกล่าวพอเป็นพิธี จ้าวเจียหมิงกับเฉาเสว่เฟยเริ่มเดินชนแก้วคารวะเหล้ากับโต๊ะอื่นๆ จากนั้นจึงมาถึงโต๊ะของหลี่โม่
เฉาเสว่เฟยมองหลี่โม่กับกู้หยุนหลันด้วยสายตาขอโทษ เธอกำลังจะพูดขอโทษ แต่ จ้าวเจียหมิงก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“ขอบคุณนะครับพี่ชายหวัง พี่ฮัว ที่มาร่วมงาน ขอบคุณกู้หยุนหลันด้วยนะครับ ทุกคนกินดื่มได้ตามสบายเลยนะครับ”
จ้าวเจียหมิงทำเหมือนหลี่โม่เป็นอากาศ เขาไม่เรียกชื่อหลี่โม่แม้แต่คำเดียว
พี่ชายหวังหัวเราะแล้วพูดว่า “โอเคๆ นายไม่ต้องมาเกรงอกเกรงใจพวกเรา เราจะแข่งดื่มเหล้ากับไอ้สวะแห่งเมืองฮ่าน ทุกคนช่วยเป็นพยานให้ด้วย ถ้าเขาชนะ เราจะเรียกเขาว่าลูกพี่ แต่ถ้าเขาโดนพวกเรามอมจนเมา พวกเราจะแก้ผ้าเขาแล้วโยนเขาทิ้งไปบนถนน ให้คนอื่นได้เชยชม”
เหล่าแขกในงานเริ่มกลายเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น ทุกสายตาต่างมองไปที่พี่ชายหวังกับหลี่โม่
“เหล้านี่ดื่มได้สองคน แต่ต้องดื่มเพียงคนเดียว ไอ้สวะหลี่โม่ทำไม่ได้แน่นอน เขาต้องโดนมอมจนหมดสภาพอย่างแน่นอน”
“สวะยังไงก็เป็นสวะอยู่วันยังค่ำ ไม่มีสายตากว้างไกลหรอก สองท่านนั้นดูเหมือนนักดื่ม เขาต้องดื่มได้เยอะแน่ๆ การที่หลี่โม่แข่งกับพวกเขาไม่มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน”
“เดี๋ยวไอ้สวะหลี่โม่ก็ถูกแก้ผ้าแล้วโยนทิ้งไปข้างนอกแน่นอน แต่น่าเสียดายคนสวยอย่างกู้หยุนหลัน เธอต้องอับอายเพราะไอ้สวะนั่นแน่ๆ”
พวกที่อยากรู้อยากเห็นไม่มีใครเห็นหลี่โม่อยู่ในสายตา สองต่อหนึ่งก็เสียเปรียบอยู่แล้ว อีกอย่างหลี่โม่ก็ดูไม่เหมือนคนที่ดื่มเก่งด้วย
กู้หยุนหลันดึงแขนหลี่โม่แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “นายไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน ขืนเมาขึ้นมา ฉันไม่มีปัญญาแบกนายหรอกนะ”
“เป็นผู้ชายจะไม่ไหวได้ยังไง ดื่มให้พวกเขาเมาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร”
หลี่โม่พูดอย่างมั่นใจ
พี่ชายหวังหัวเราะออกมา เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา “ในเมื่อนายมั่นใจขนาดนี้ งั้นเราก็เริ่มเลยแล้วกัน”
หลี่โม่ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาเช่นกัน เขาดื่มกับพี่ชายหวังจนหมดแก้ว
จากนั้น พี่ฮัวก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมา พี่ชายหวังเทเหล้าในขวดใส่ลงไปในแก้วของหลี่โม่
ภายในห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ร้านอาหาร จางเต๋ออู่กำลังนั่งไขว่ห้างดูภาพในกล้องวงจรปิดบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
“พวกแกให้ฉันดูนี่เหรอ ฉันอยากดูตอนที่มันตายต่างหาก”
ชายชุดดำคนหนึ่งก้มหัวแล้วพูดว่า “การดื่มเหล้าแค่เริ่มเท่านั้นครับ อีกเดี๋ยวจะมีอาหารที่ช่วยลดการทำงานของตับและไต มันจะช่วยทำให้ดื่มเหล้าได้น้อยลง พนักงานจะเสิร์ฟชาให้ด้วย เมื่อดื่มชาไปแล้วจะเร่งให้แอลกอฮอล์ทำงานกับไตหนักขึ้น จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้”
จางเต๋ออู่พยักหน้าเบาๆ “ไม่เลว มีแผนอื่นอีกไหม ถ้ามันไม่ตายเพราะพิษเหล้า ก็ต้องใช้แผนสำรอง”
“มีแผนสำรองอยู่สองวิธีครับ เหล้าที่จะเอาไปเสิร์ฟให้มีปริมาณเจ็ดสิบดีกรี โดยพื้นฐานแล้วจะทำให้ตายเพราะพิษสุราเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”
“ดี งั้นก็รอดูมันดื่มจนตาย ให้ไอ้สวะได้ตายด้วยการกินอิ่มๆ นับว่าฉันมีบุญคุณกับมันแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ”
จางเต๋ออู่หัวเราะอย่างชอบใจ เขาคิดว่าการที่ตัวเองสามารถควบคุมความเป็นความตายของเจ้านายของสำนักหลงเหมินได้นั้น เป็นเรื่องที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
อาหารโอชารสเริ่มถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ส่วนการแข่งดื่มเหล้าของหลี่โม่ พี่ชายหวังและพี่ฮัวดำเนินไปหลายรอบแล้ว หลี่โม่ซัดเหล้าขาวไปคนเดียวสองขวด
สีหน้าของเขายังปกติเหมือนดื่มน้ำเปล่า กู้หยุนหลันรู้สึกกังวลขึ้นมาในใจ
“หลี่โม่ อย่าเพิ่งดื่มต่อเลย กินอาหารสักหน่อย ถ้าดื่มต่อไปจะไม่ดีต่อร่างกายนะ”
พี่ชายหวังกับพี่ฮัวดื่มเหล้าขาวไปคนละขวด เมื่อเห็นอาหารมาเสิร์ฟก็รีบคว้าตะเกียบคีบอาหารขึ้นมาทานทันที
“ไม่ได้ทานอาหารแล้วดื่มเหล้า ฉันว่าแล้วว่ามันขาดอะไรไป รีบกินเร็ว”
พี่ชายหวังพูดพลางคีบหมูสามชั้นน้ำแดงที่มันเยิ้มขึ้นมา
พี่ฮัวก็คีบหมูสามชั้นน้ำแดงขึ้นมาหนึ่งชิ้น “กินอะไรมันๆ แก้เมาสักหน่อยก็ดี อีกเดี๋ยวค่อยดื่มชาเข้าไปเพื่อแก้เมาอีก”
กู้หยุนหลันได้ยินที่ทั้งสองคนพูดก็ยื่นตะเกียบออกมาคีบหมูสามชั้นน้ำแดงให้หลี่โม่ “นายรีบกินสิ เดี๋ยวฉันจะให้พนักงานเทชามาให้”
หลี่โม่ยิ้ม “คุณกินเถอะ ไม่ต้องสนใจผม ผมกินนิดหน่อยก็พอแล้ว”
“ได้ยังไงกัน นายดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้น แค่พูดก็ได้กลิ่นเหล้าออกมาแล้ว นายนี่จริงๆ เลย ทำเป็นอวดเก่งไปได้”
ตุ้บ
พี่ชายหวังวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ “ไอ้สวะ นายนี่คอแข็งเหมือนกันนะ แต่อย่าฝืนเลย ถ้าดื่มไม่ไหวก็คุกเข่าแล้วเรียกพวกเราว่าพ่อ พ่อจะไว้ชีวิตนายแล้วก็ไม่แก้ผ้านายด้วย”
“โอ้ๆ พี่ชายหวังอย่าเพิ่งใจร้อน ค่อยๆ เล่นกับไอ้สวะนี่ก่อน ให้มันดื่มกินของแก้เมาก่อน เราจะได้ไม่โดนกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งมัน”
พี่ฮัวหัวเราะคิกคัก
กู้หยุนหลันถอนหายใจ และเรียกให้พนักงานเอาชามาให้หลี่โม่ “รีบดื่มชาสิแล้วกินเนื้อด้วย”