จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 382
จางเต๋ออู่จ้องหน้าจอ เห็นว่าหลี่โม่ดื่มชาและกินอาหารไปไม่น้อย เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
“อีกนานแค่ไหนว่าเขาจะเกิดอาการพิษสุรา”
“วัดจากดีกรีและปริมาณเหล้าที่มันดื่มเข้าไป อย่างมากน่าจะมีอาการประมาณครึ่งชั่วโมงครับ ถ้าไม่ช่วยชีวิตภายในหนึ่งชั่วโมงจะถึงแก่ความตายครับ โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของที่นี่ ต้องขับรถไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอาการพิษสุรา มันจะต้องตายอย่างแน่นอนครับ”
จางเต๋ออู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงแสยะยิ้มออกมา “ฉันไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาด ถ้าเกิดมันถูกส่งตัวขึ้นรถ แกต้องทำให้เกิดอุบัติเหตุ”
“เรื่องนี้เราเตรียมรถบรรทุกดินไว้สามคันครับ รอฟังคำสั่งเท่านั้น”
“ดีมาก”
จางเต๋ออู่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม “แค่หลี่โม่ตาย สำนักหลงเหมินก็จะเปลี่ยนเป็นแซ่จาง!”
บนหน้าจอ พี่ชายหวังกับพี่ฮัวหน้าแดงก่ำ เขาไม่อาจเอาชนะฤทธิ์ของเหล้าได้อีก แต่หลี่โม่หน้าแดงเพียงเล็กน้อยและมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากเท่านั้น
“นี่มันอะไรกัน ทำไมคนที่แกพามาเหมือนจะไม่ไหวแล้ว”
จางเต๋ออู่ขมวดคิ้ว อารมณ์เบิกบานเมื่อครู่หายไปทันที
ชายชุดดำมองหลี่โม่ผ่านหน้าจออย่างละเอียด
เขาเห็นเหงื่อบนหน้าผากของหลี่โม่เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ หลี่โม่ยกมือเช็ดไม่หยุด ชายชุดดำจึงแสยะยิ้มออกมา
“เขาไม่ไหวแล้วครับ เขาเหงื่อออกเยอะมาก เป็นอาการก่อนที่จะเกิดอาการพิษสุราครับ”
“งั้นเหรอ”
จางเต๋ออู่ดูหน้าจออย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
หลี่โม่ พี่ชายหวังและพี่ฮัวดื่มเหล้าขาวไปสองลัง หัวของพี่ชายหวังจุ่มลงไปในจานอาหารบนโต๊ะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำซอสและอาหาร
พี่ฮัวนั่งพิงเก้าอี้อย่างหมดสภาพ เขาโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ฉันไม่ไหวแล้ว มันคอแข็งอะไรขนาดนั้น”
“นายยอมแพ้แล้วเหรอ”
หลี่โม่เช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วเอ่ยขึ้น
“ยอมแพ้แล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว ไม่ดื่มแล้ว ถ้าดื่มอีกมีหวังตายแน่ๆ”
คนที่มุงดูรอบๆ ต่างพากันมองอย่างตกตะลึง สามคนดื่มเหล้าขาวดีกรีสูงหมดไปสิบสองขวด นี่สามารถพูดโม้ได้เป็นปีเลยนะ
“ทำไมหลี่โม่ถึงชนะได้ล่ะ มันสมเหตุสมผลเอาซะเลย หลี่โม่ดูไม่เหมือนคนที่ดื่มเหล้าเก่งเลยนะ”
“หลี่โม่ดื่มคนเดียวหกขวด นี่ไม่ใช่คนแล้ว เขาสามารถไปร่วมการประลองดื่มเหล้าได้เลยนะ เขาเป็นสวะตรงไหนกัน”
“ให้เขาเปิดไลฟ์สดก็ยังได้เลยนะ คนที่กินจุเขาก็รวยจากการไลฟ์สด หลี่โม่เป็นนักดื่มและไลฟ์สด เขาจะต้องได้เงินเยอะแน่ๆ น่าเสียดายที่ฉันดื่มไม่เก่งขนาดนั้น”
พวกไทยมุงต่างพากันถกเถียงไปมา และมีคนจำนวนไม่น้อยที่อิจฉาความสามารถในการดื่มของหลี่โม่
เหงื่อบนหน้าผากของหลี่โม่เยอะขึ้นเรื่อยๆ เช็ดไม่หมดสักที กู้หยุนหลันเห็นหลี่โม่เหงื่อออกเยอะมาก เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ
“นายรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า ดื่มเหล้าไปเยอะขนาดนั้น ฉันพานายไปโรงพยาบาลดีกว่า”
กู้หยุนหลันใช้มือทั้งสองข้างดึงหลี่โม่ เธอกังวลว่าหลี่โม่จะล้มลงมาจากเก้าอี้
หลี่โม่ส่ายหน้าแล้วตบบ่าพี่ฮัว “ที่เราพนันกันไว้คือถ้าฉันชนะ ถ้าฉันยังไม่ชนะก็ดื่มกันต่อ”
“นายชนะแล้ว นายเป็นลูกพี่ส่วนฉันเป็นเบ๊ ต่อไปถ้าฉันดื่มกับนายอีก ฉันก็เป็นเบ๊ของนาย”
พี่ฮัวกลัวหลี่โม่ เขารู้สึกว่าฤทธิ์ของเหล้าเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาโยกสองครั้งแล้วก็ไหลลงจากเก้าอี้ เขานอนแผ่หลาอยู่บนพื้นและสลบไป
“เขาเมาจนสลบไปแล้ว พวกเขาดื่มไปเยอะขนาดนั้นจะไม่เป็นไรใช่ไหมได้ยินมาว่าถ้าดื่มเยอะจะเกิดอาการพิษสุรา”
“โอ้ ฉันเคยเห็นอาการพิษสุรา มันอาจถึงตายได้เลยนะ ฉันเคยเห็นคนที่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลและช่วยเอาไว้ไม่ทันจนถึงแก่ชีวิต”
เหล่าแขกต่างพากันถกเถียงกันและมองไปที่หลี่โม่ เขาดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้น ถ้าเกิดอาการพิษสุราขึ้นมา หลี่โม่ต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
จ้าวเจียหมิงกับเฉาเสว่เฟยผลักคนออกแล้วเบียดเข้ามา จ้าวเจียหมิงเห็นหัวของพี่ชายหวังจุ่มลงไปในจานอาหาร ส่วนพี่ฮัวก็เมาจนอยู่ใต้โต๊ะ เขาเอาแต่ต้องอยู่อย่างนั้น
เฉาเสว่เฟยเดินมาข้างกู้หยุนหลัน เธอมองหลี่โม่แล้วพูดว่า “ขอโทษนะหยุนหลัน คิดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ หลี่โม่ไหวไหม ให้ฉันหาที่ให้เขานอนพักสักหน่อยไหม”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันพาเข้าไปโรงพยาบาลเอง ได้ยินพวกเขาพูดว่าพิษสุราอะไรไม่รู้ ฉันกังวลใจมาก”
“งั้นเดี๋ยวฉันเรียกคนมาช่วยประคองหลี่โม่ไปนะ ไม่งั้นเธอประคองไม่ไหวแน่ๆ”
กู้หยุนหลันพยักหน้า เธอไม่ได้ปฏิเสธเจตนาดีของเฉาเสว่เฟย
หลี่โม่โบกมือปฏิเสธ เขาพูดเสียงอ่อนว่า “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องประคอง”
“อย่าฝืนสิ ช่วยฟังฉันหน่อย ไม่งั้นคืนนี้ฉันไม่ให้นายนอนบนเตียงนะ”
กู้หยุนหลันพูดหน้าตาย
หลี่โม่ยิ้มแหยๆ แล้วยกมือขึ้นปาดเหงื่อ
กู้หยุนหลันหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อให้หลี่โม่ “ดูนายสิทำเป็นอวดดี ตอนนี้ไม่ไหวแล้วใช่ไหมล่ะ”
“ยังไหวอยู่ แต่คอแห้งนิดหน่อย”
กู้หยุนหลันยกชามาจ่อที่ปากของหลี่โม่ เพื่อให้เขาดื่มชา
เมื่อดื่มชาเสร็จ เหงื่อบนหน้าผากของหลี่โม่เยอะขึ้นกว่าเดิม ริมฝีปากของเขาเริ่มเป็นสีม่วง
เฉาเสว่เฟยเรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วยประคองหลี่โม่สองคน เมื่อหลี่โม่ลุกขึ้นยืน เขาขาอ่อนจนจะล้มลงไป
กู้หยุนหลันประคองหลี่โม่ด้วยความตกใจ “นายเป็นอะไร รู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร ขึ้นไปนอนบนรถสักพักก็ดีขึ้น”
“รีบประคองเขาออกไป ฉันจะไปขับรถมารอที่หน้าประตู”
กู้หยุนหลันเอ่ยปากสั่ง จากนั้นก็วิ่งออกไปข้างนอก
เฉาเสว่เฟยบอกให้เพื่อนร่วมงานประคองหลี่โม่ไปที่หน้าประตู กู้หยุนหลันขับรถมารอที่หน้าประตูแล้ว
กู้หยุนหลันพาหลี่โม่ไปที่เบาะหลังรถ จากนั้นเธอก็ปิดประตูรถและบอกลาเฉาเสว่เฟยและขับรถออกจากร้านอาหารทันที
โดรนขนาดเล็กบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและตามรถของกู้หยุนหลันไป และส่งสัญญาณกลับไป
ชายชุดดำโค้งตัวและพูดกับจางเต๋ออู่“อาการเมื่อครู่ของหลี่โม่คืออาการพิษสุราครับ ผมเดาว่าระหว่างทางเขาน่าจะอยู่ในสภาวะใกล้ตาย”
“ดี แต่ฉันอยากให้มันตายเร็วๆ บอกให้รถบรรทุกดินเตรียมตัวให้พร้อม ฉันอยากเห็นอุบัติเหตุทางรถยนต์อันน่าสยดสยอง”
“ครับ”
ชายชุดดำหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความ ให้คนเริ่มเตรียมตัว
จางเต๋ออู่มองสัญญาณที่โดรนส่งกลับมา เขายกมือขวาขึ้นมาทำท่าเหมือนยิงปืนใส่รถของกู้หยุนหลันที่อยู่บนหน้าจอ
“ปัง! ฮ่าๆๆๆ ตายซะเถอะหลี่โม่ แกไม่ควรอยู่บนโลกใบนี้”
กู้หยุนหลันขับรถมองหลี่โม่ที่อยู่ข้างหลังอย่างเป็นกังวล
“นายเป็นยังไงบ้างหลี่โม่ ไม่สบายตรงไหนบอกฉันได้”
หลี่โม่ขดตัวอยู่ตรงเบาะหลัง ท่าทางของเขาดูทรมาน เขาพูดออกมาอย่างอ่อนแรง “ไม่เป็นไร ผมกำลังขับแอลกอฮอล์ออกมา”
“พูดอะไรไร้สาระ คิดว่าตัวเองเป็นต้วนอี้ในละครหรือไง ที่จะสามารถทำอะไรแปลกประหลาดได้ ฉันบอกนายแล้วว่าอย่าฝืน”