จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 389
ผีใหญ่เอามือกุมจมูก เขารู้สึกคิดผิดเป็นอย่างมาก
ตอนแรกคิดว่าจะจัดการหลี่โม่ได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ ผีใหญ่ค้นพบความเป็นจริงที่ว่าหลี่โม่สามารถจัดการเขาได้อย่างง่ายดาย
หมัดของหลี่โม่กระแทกเข้ามาอย่างไร้ความลังเล และยังคงโจมตีเข้ามาหาผีใหญ่อย่างต่อเนื่อง
“เรื่องแข่งกินเหล้าเป็นฝีมือของแกสินะ ถ้าระบบเผาผลาญของฉันไม่เร็ว ก็คงจะโดนแกเล่นงานแล้ว!”
“เรื่องรถบรรทุกก็เป็นฝีมือของแกสินะ จะขับรถชนฉันให้ตายใช่ไหม! แกนี่กวนบาทาจริงๆ!”
“เรื่องหน่วยลับล่ะ เจ้านายของแกเป็นคนจัดการใช่ไหม เจ้านายของแกเป็นใครในสำนักหลงเหมิน พูดมา ฉันจะไปฆ่ามัน!”
หลี่โม่ตวาดพลาง ชกใส่ผีใหญ่ โดยที่ผีใหญ่ไม่มีทางสู้เลยแม้แต่น้อย ไม่นานเขาก็โดนหลี่โม่ซัดจนหมดสภาพ
กระดูกส่วนบนของผีใหญ่โดนหลี่โม่ชกจนหักเกือบหมด เขาล้มลงบนพื้นอย่างหมดสภาพและกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
“แก แกจะต้องได้รับผลกรรม พวกเขาจะต้องแก้แค้นแทนฉันแน่!”
ผีใหญ่มองหลี่โม่อย่างเคียดแค้น เหมือนจะฆ่าหลี่โม่ทางสายตา
“แกจะพูดออกมาไหมว่าใครเป็นคนบงการ งั้นอย่ามาว่าฉันไม่ให้โอกาสแกนะ”
หลี่โม่ยกเท้าขึ้นมาเพื่อที่จะกระทืบผีใหญ่
ผีใหญ่หลับตา เขาไม่พูดอะไรและนอนรอความตาย
หลี่โม่แสยะยิ้มและกระทืบลงไปอย่างแรง
“พรวด!”
ผีใหญ่กระอักเลือดออกมา ภาพตรงหน้าค่อยๆ มืดลง ลมหายใจของเขารวยริน
ท่านแปดนั่งสูบบุหรี่อยู่ในห้องพักผู้ป่วย สีหน้าของเขาดูกลุ้มใจ
“สถานการณ์ของนายน้อยเป็นยังไงบ้าง”
“ข่าวล่าสุดบอกว่า แผนของ จางเต๋ออู่ล้มเหลวครับ หน่วยลับโดนนายน้อยฆ่าจนหมด”
ท่านแปดอึ้งไป เขาฝืนยิ้มออกมา
หน่วยลับโดนหลี่โม่ฆ่าจนหมดเป็นเรื่องปกติ คิดถึงเรื่องที่เขาพาบอดี้การ์ดไปแล้วโดนหลี่โม่จัดการอย่างง่ายดาย ขนาดเหลียงยู่ก็เกือบตายคามือหลี่โม่
คิดถึงเหลียงยู่ที่บาดเจ็บสาหัส ท่านแปดก็ทุกข์ใจ นั่นคือหนึ่งในไพ่ใบสำคัญของท่านแปด แต่กลับโดนทำร้ายจนหมดสภาพ
“จางเต๋ออู่น่าจะยอมแพ้แล้วใช่ไหม”
ท่านแปดถามขึ้นเสียงเบา เขากำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ ถ้าเขาอยู่ในจุดเดียวกับ จางเต๋ออู่ เขาควรจะทำยังไง
ถ้าเป็นตัวเขาเอง เขาคงจะโกรธและไม่ยอมแพ้ และจะส่งคนไปทำร้ายหลี่โม่ต่อ จางเต๋ออู่ก็น่าจะคิดแบบนี้เหมือนกัน
“จางเต๋ออู่พาคนที่เขาหามาไปหานายน้อย เขาน่าจะสู้สุดชีวิตครับ”
ผู้ช่วยตอบอย่างนอบน้อม
“คนเราต้องยอมรับในโชคชะตา ถ้าไม่งั้นก็ไม่มีทางรอด”
ท่านแปดส่ายหน้าอย่างหดหู่ จากนั้นจึงขมวดคิ้วขึ้น
จางเต๋ออู่ไปสู้กับหลี่โม่ ถ้าหลี่โม่ฆ่าจางเต๋ออู่เพราะความโกรธ ก็จะเป็นเรื่องใหญ่น่ะสิ
ถ้า จางเต๋ออู่ตาย ราชินีของสำนักหลงเหมินต้องคลั่งแน่ๆ เมื่อถึงตอนนั้นความขัดแย้งระหว่างราชินีของสำนักหลงเหมินกับหลี่โม่คงไม่มีทางไกล่เกลี่ยได้อย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะเลือกอยู่ข้างใครดีล่ะ
ถ้าอยู่ข้างราชินีของสำนักหลงเหมิน จะแก้พิษได้ยังไง
ถ้าอยู่ข้างหลี่โม่ ก็มีแต่ตายอย่างเดียว
ท่านแปดอึ้งไป นี่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย
เขาคิดจนปวดหัว ก็ยังคิดหาวิธีที่ได้ผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายไม่ได้ แต่ จางเต๋ออู่จะตายไม่ได้ ถ้าจางเต๋ออู่ตาย ตัวเขาเองก็คงไม่รอดเหมือนกัน
“เตรียมรถ พาทุกคนไปหานายน้อย!”
ท่านแปดลุกขึ้นมาพูด
“หา? ถ้าคุณไป จะต้องเจอกับ จางเต๋ออู่นะครับ”
ผู้ช่วยพูดเตือน
“ฉันไม่มีเวลามาสนใจแล้ว จะให้นายน้อยฆ่าจางเต๋ออู่ไม่ได้ ถ้าจางเต๋ออู่ตาย ฉันก็ไม่รอดเหมือนกัน!”
ผู้ช่วยไม่กล้าพูดอะไรอีกและรีบไปเตรียมรถ ไม่นานท่านแปดก็เข้ามานั่งในรถ ขบวนรถขนาดใหญ่เคลื่อนที่ไปยังถนนปินเจียง
“ขับเร็วๆ หน่อยสิ ถ้าเกิดไปไม่ทัน พวกแกตายแน่!”
ท่านแปดตวาดออกมาอย่างหงุดหงิด
ผู้ช่วยหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาสั่ง ขบวนรถเร่งความเร็วขึ้นและมุ่งหน้าออกไป
ท่านแปดนวดขมับ เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบมือถือออกมาโทรหาจางเต๋ออู่
เมื่อจางเต๋ออู่ได้ยินเสียงมือถือ เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นเบอร์ของท่านแปด เขาลังเลอยู่นานแต่ก็ยังไม่กดรับสาย
จนโทรศัพท์ตัดสายไปเอง เขาก็ยังไม่กดปุ่มรับสาย
“ไอ้เวรเอ๊ย”
ท่านแปดสบถออกมา จากนั้นก็กดโทรไปอีก
มือถือของจางเต๋ออู่ดังขึ้นอีกครั้ง เขากดรับสายด้วยความหงุดหงิด “แกต้องการอะไร!”
“จางเต๋ออู่ฉันขอเตือนว่าทางที่ดีรีบพาคนกลับไป เมืองฮ่านไม่ใช่ที่ที่แกจะมาเหิมเกริม”
ท่านแปดพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หึ!”
จางเต๋ออู่ส่งเสียงไม่พอใจออกมา “แกเป็นสุนัขรับใช้หลี่โม่เหรอ ทำไม แกจะมาเห่าแทนมันหรือไง”
“ไอ้เวรนี้ ทำไมพูดแบบนี้กับฉัน! อย่าคิดว่าราชินีของสำนักหลงเหมินโปรดปรานแกแล้วจะทำอะไรก็ได้ ราชินีของสำนักหลงเหมินยังไม่ได้บอกให้ฆ่าหลี่โม่สักหน่อย แกอยากรนหาที่ตายใช่ไหม!”
ท่านแปดพูดออกมาด้วยความโกรธ
จางเต๋ออู่เงียบไปครู่หนึ่ง ครั้งนี้เขาแอบจัดการหลี่โม่ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะฆ่ายังไงก็ฆ่าหลี่โม่ไม่ได้ ตอนนี้เรื่องมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องทำต่อไป จะถอยก็ไม่ได้แล้ว
“คนที่คอยเลียแข้งเลียขาราชินีของสำนักหลงเหมินจะไปรู้อะไร แกรู้ไหมว่าทำไมราชินีของสำนักหลงเหมินไม่ฆ่าหลี่โม่ ก็เพราะหลี่โม่มีของอยู่ในมือน่ะสิ อีกอย่างหลงจวูนไม่ตาย ราชินีของสำนักหลงเหมินก็ไม่สามารถฆ่าหลี่โม่ได้ ถ้าตอนนี้แกฆ่าหลี่โม่ คนที่ราชินีของสำนักหลงเหมินจะฆ่าเป็นคนแรกก็คือแก!”
ท่านแปดพูดกึ่งจริงกึ่งเท็จ เพราะคิดว่าจะหลอกจางเต๋ออู่ได้ อีกอย่าง จางเต๋ออู่ก็แค่นายบำเรอเท่านั้น เขาไม่รู้ความลับภายในสำนักหลงเหมินอีกมากมาย เรื่องสืบทอดเขาก็ไม่น่าจะรู้เช่นกัน
จางเต๋ออู่อึ้งไป จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดกับคำพูดของท่านแปด เขาคิดว่าสิ่งที่ท่านแปดพูดเป็นความจริง ไม่อย่างนั้นราชินีของสำนักหลงเหมินคงไม่เก็บหลี่โม่เอาไว้หรอก
“มีอะไรอยู่ในมือเขา”
จางเต๋ออู่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“แกกลับไปถามราชินีของสำนักหลงเหมินเถอะ ถามฉันก็ไร้ประโยชน์ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันเป็นของที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอด เป็นเรื่องที่แกไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ถ้าเข้าใจแล้วก็กลับไปเฝ้าราชินีของสำนักหลงเหมินซะ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ฉันจะทำเป็นเหมือนไม่รู้”
เมื่อเห็นว่าแผนหลอกจางเต๋ออู่ได้ผล เขาก็ใช้น้ำเสียงเย่อหยิ่งทันที เพราะจะใช้ท่าทางกำราบจางเต๋ออู่
จางเต๋ออู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหลับตาแล้วพูดว่า “ฉันขอคิดก่อน อีกเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
“จะคิดอะไรอีกล่ะ! ถ้าคิดอีกแกก็จะซวย นี่ฉันกำลังช่วยแกอยู่นะ คนที่แกส่งไปตายหมดแล้ว แกคิดว่าหลี่โม่เป็นคนที่ไร้ความสามารถเหรอ ไอ้พวกลูกน้องขยะของแกสู้หลี่โม่ไม่ได้สักคน”
จางเต๋ออู่ขมวดคิ้ว แล้วพูดกับผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆ “มีข่าวของ ผีใหญ่ไหม”
“ผมรู้สึกว่า ผีใหญ่ น่าจะตายแล้ว”