จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 393
ฉู่จงเทียนชะงักเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็แสดงสีหน้ายินดีแทบบ้าออกมา
“คุณหลี่ คุณตกลงที่จะเข้าร่วมแข่งขันมวยดำนานาชาติจริงหรือ? นั่น นั่นมันเป็นการแข่งขันที่อันตรายมาก ทุกปีจะมีนักมวยหลายคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก! ความหมายของฉันก็คือคุณอย่าได้ทำการตัดสินใจเพื่อเรื่องของลูกชายฉัน ฉันสามารถคิดวิธีอื่นไปช่วยเขา”
ในขณะนี้หัวใจของฉู่จงเทียนกระวนกระวายอย่างหนัก ถึงแม้ว่าหลี่โม่ตกลงที่จะเข้าร่วมแข่งขันแล้ว แต่ว่าฉู่จงเทียนก็กังวลว่าหลี่โม่จะเกิดเรื่อง
ถ้าเกิดว่าหลี่โม่โชคร้ายเป็นอะไรขึ้นมาในการแข่งขันมวยดำนานาชาติ ฉู่จงเทียนคิดว่าเกรงว่าคนทั้งครอบครัวล้วนต้องประสบกับหายนะแล้ว
ฉู่จงเทียนตบหน้าผากอย่างขัดเคือง มือทั้งสองข้างคว้าจับกางเกงไว้แน่นเอ่ยว่า “คุณหลี่เป็นฉันที่คิดมากเกินไป เรื่องนี้ไม่ควรดึงคุณเข้ามาพบเจอกับความเสี่ยง ฉันติดต่อเพื่อนของหงเหมินให้จัดการดีกว่า”
หลี่โม่ตบไหล่ของฉู่จงเทียน “ฉู่จงเทียน ที่นายพูดตอนนี้ถึงจะเป็นคิดมากเกินไป ไม่พูดถึงเรื่องที่แต่ก่อนนายสละชีวิตมาช่วยฉัน ก็พูดให้ง่ายสักหน่อย ที่พวกเขาทำเช่นนี้พึ่งเป้ามาที่ฉันใช่มั้ย?”
“นี่มัน เหมือนกับพุ่งเป้ามาที่คุณ”
สมองของฉู่จงเทียนยุ่งเหยิงเป็นโจ๊กหม้อหนึ่ง ไม่เข้าใจความหมายของหลี่โม่โดยสิ้นเชิง
“นี่ก็ไม่ใช่จบแล้วหรือ ในเมื่อพวกเขาพุ่งเป้ามาที่ฉัน เช่นนั้นฉันก็ต้องไปเผชิญหน้าเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีเรื่องของนายเกิดขึ้น พวกเขาก็กลับไปหา เหล่าหวัง เหล่าหลี่คนอื่นๆมาวางแผนทำร้ายฉัน ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงเรื่องนี้ของนายฉันก็จะต้องออกหน้า”
ฉู่จงเทียนตอนนี้ถึงได้เข้าใจความหมายในคำพูดของหลี่โม่ แต่ก็รู้ว่านี่คือการที่หลี่โม่กำลังทำให้ตนเองสบายใจ
ถ้าเปลี่ยนเป็นฉู่จงเทียนอยู่ในตำแหน่งสถานะของหลี่โม่ ฉู่จงเทียนคิดว่าตนเองแปดส่วนจะต้องนั่งดูไม่สนใจไยดี อย่างไรเสียความเสี่ยงในการเข้าร่วมการแข่งขันมวยดำก็มากเกินไป
“ขอบคุณคุณหลี่ ต่อไปคุณหลี่มีคำสั่ง ฉันฉู่จงเทียนจะทุ่มเททั้งกายใจ”
“ไม่ต้องพูดให้ร้ายแรงขนาดนั้น นายสามารถตอบกลับพวกเขาได้แล้ว ฉันก็อยากจะรู้ว่าเป็นใครที่สร้างกลอุบายอยู่เบื้องหลัง”
สำหรับคนที่จัดการแข่งขันมวยดำนานาชาติ หลี่โม่ไม่ได้ครุ่นคิดให้แจ่มแจ้งว่าเป็นใครที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง หรือว่าจะเป็นราชามังกรคนอื่นๆ? หรือว่าจะเป็นจางเต๋ออู่ที่จากไปแล้วอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจวางแผนการร้ายขึ้นมาอีก?
หลี่โม่มองไปที่นอกหน้าต่างรถแวบหนึ่ง เห็นกู้หยุนหลันเดินออกมาแล้ว ก็รีบเอาเรื่องจุกจิกโยนทิ้งไป
“เอาล่ะ นายรีบไปตอบกลับเถอะ ฉันจะไปทำงานกับภรรยาแล้ว”
หลี่โม่เปิดประตูรถลงมา ยิ้มเดินไปทางกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันมองรถเบนซ์ของฉู่จงเทียนแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเบา “เป็นฉู่จงเทียน? นายไม่ได้ขอบคุณเขาให้ดีที่ช่วยนายไว้หรือ”
“ขอบคุณไปแล้ว คุณก็อย่าได้กังวลใจเรื่องพวกนี้เลย รีบไปบริษัทเถอะ”
หลี่โม่กังวลว่ากู้หยุนหลันจะถามว่าฉู่จงเทียนมาหาตนเองเรื่องอะไร ดังนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
กู้หยุนหลันถอนหายใจครั้งหนึ่ง ส่ายหัวเอ่ยว่า “คุณลุงใหญ่ไม่รู้ว่าฟังคำพูดของใครเข้า ถึงกับเชิญซินแสจะไปที่สถานที่ก่อสร้างดูฮวงจุ้ย ดูเหมือนว่าจะอยากแก้ไขแปลนออกแบบการก่อสร้างด้วย ไม่รู้จริงๆว่าเขาคิดได้ยังไง”
“อ้อ ฟังดูแล้วน่าสนใจมากนะ พวกเราก็ไปดูความคึกคักกัน?”
หลี่โม่ยิ้มถาม
“คุณลุงให้ฉันต้องไป ความคึกคักนี้ไม่ดูก็ต้องได้ดู หวังแค่ว่าซินแสคนนั้นอย่าได้ทำอะไรที่มันเกินไป”
กู้หยุนหลันในใจมีความกังวล ถ้าเกิดซินแสเอาแบบแปลนออกแบบการก่อสร้างไปเปลี่ยนมั่วซั่วทั้งหมด เกรงว่าท้ายที่สุดตอนที่ติดตั้งสายการผลิตจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมา อย่างไรก็เสียการออกแบบตัวโรงงานล้วนอิงมาจากสายการผลิต ปรับเปลี่ยนมากเกินไปจะต้องเกิดปัญหาขึ้นมา
ทั้งสองคนขึ้นไปบนรถ กู้หยุนหลันขับรถไปทางสถานที่ก่อสร้าง
ไม่นานก็ขับมาถึงสถานที่ก่อสร้าง จอดรถไว้ที่หน้าประตูทางเข้าสถานที่ก่อสร้าง หลี่โม่และกู้หยุนหลันลงรถพร้อมกัน
กู้เจี้ยนเจียงยืนกุมมือกันอยู่ไม่ไกล ข้างกายยังติดตามด้วยกลุ่มคนของฝั่งผู้รับเหมาไม่น้อย คนทั้งกลุ่มติดตามกู้เจี้ยนเจียงหัวเราะพูดคุย
“หยุนหลันมาแล้ว รีบเข้ามารอ คุณลุงใหญ่ของเธอไปรับซินแสจางแล้ว ซินแสท่านนี้นั้นเป็นคนใหญ่คนโตที่มีภูมิหลังมากมาย พวกเธอสองคนอีกสักครู่ก็ต้องระมัดระวังสักหน่อย ที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูด”
กู้หยุนหลันขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “นี่มันสมัยไหนแล้ว ทำไมถึงยังเชื่อเรื่องงมงายล้าสมัยอยู่อีก”
“เหอๆ หยุนหลันเธออย่าได้พูดเลอะเทอะ ซินแสจางนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เทคนิคลับดูฮวงจุ้ยของตระกูลกู้นั้นตกทอดมามากกว่าพันปี นั่นคือซินแสคนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก พูดกันว่าฝีมือของซินแสจางนั้นยอดเยี่ยมมาก ประธานหวางเอ๊ย พวกนายมาเล่าถึงความเก่งกาจของซินแสจางให้หลานสาวของฉันคนนี้ฟังหน่อย”
กู้เจี้ยนเจียงวางมาดเป็นผู้อาวุโสเอ่ยออกมารอบหนึ่ง ประธานหวางผู้รับเหมาก่อสร้างที่ติดตามอยู่ข้างกายกู้เจี้ยนเจียงและคนอื่นๆ ต่างพากันเริ่มต้นบรรยายเรื่องเล่าของซินแสจางอย่างกระตือรือร้น
“ภูมิหลังตระกูลของซินแสจางก็ไม่ต้องพูดมากแล้ว ตระกูลฮวงจุ้ยพันปีเลยนะ นั่นแน่นอนว่าจะต้องเป็นอันดับหนึ่งในโลกของฮวงจุ้ย พวกเราก็มาพูดถึงเรื่องที่ซินแสจางเคยทำไว้เถอะ สงครามฮวงจุ้ยเซียงเจียงคุณหยุนหลันคงจะเคยได้ยินสินะ?”
“การออกแบบใบมีดสี่เหลี่ยมอันนั้นของอาคารจงอิ๋นก็คือผลงานชั้นเยี่ยมของซินแสจาง ทำให้ฮวงจุ้ยฝั่งตรงข้ามของธนาคารพังไป ทำให้ผลการทำงานลดลงอย่างมาก ท้ายที่สุดเชิญซินแสที่มีชื่อเสียงคนอื่นมา ทำปืนใหญ่ทองเหลืองออกมาหลายกระบอกหันด้านนั้นถึงได้นับว่ากำจัดไอชั่วร้ายไปได้”
กู้หยุนหลันหัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อย รู้สึกราวกับกำลังฟังเรื่องเล่านิทานที่ไม่มีความจริง
เห็นท่าทางดูถูกของกู้หยุนหลัน ประธานหวางก็พูดต่อไปว่า “พูดถึงอีกตัวอย่างหนึ่งของเมืองฮ่านของพวกเรา แบบแผนฮองจุ้ยกวยซุยโซ่วของโรงแรมกรีนไพน์คิดว่าคุณหยุนหลันคงเคยได้ยินสินะ นั่นก็เป็นลายมือของซินแสจาง โรงแรมที่แต่ก่อนเกือบจะล้มละลาย ผ่านการแก้ฮวงจุ้ยของซินแสจาง ตอนนี้เงินทองไหลมาเทมา”
ประธานหวางยังพูดตัวอย่างออกมาอีกมากมาย หลี่โม่เอามาฟังเป็นนิทาน รู้สึกว่าสนุกมาก
กู้หยุนหลันถอนหายใจสายหนึ่ง เห็นท่าทางคลั่งไคล้ของประธานหวางและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พูดให้มากขึ้นยังไงก็เปลี่ยนความคิดมุมมองของพวกเขาไม่ได้
รถฮัมเมอร์คันหนึ่งเคลื่อนเข้ามา ที่ด้านหลังของฮัมเมอร์มีขบวนรถสายหนึ่ง
รถฮัมเมอร์ขับตรงเข้ามาทางที่ทุกคนอยู่ ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลดความเร็วลงสักนิด
กู้เจี้ยนเจียงและประธานหวางกับคนอื่นๆกระโดดหลบไปด้านหลัง หลี่โม่ใบหน้าเย็นชาดึงกู้หยุนหลันหลบไปด้านหลังหลายก้าว
สำหรับการกระทำที่อวดดีอย่างรถฮัมเมอร์นี้ ในใจหลี่โม่นั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ฮัมเมอร์ดริฟท์สะบัดหยุดลง ควันและฝุ่นฟุ้งกระจาย
เป็นชายหนุ่มสวมชุดสูทคนหนึ่งลงมาจากบนรถ สายตาดูถูกมองหลี่โม่และคนอื่นๆ
“ซินแสจางมาถึง พวกนายไม่รู้จักจัดแถวต้อนรับหรือ จับกลุ่มคุยไร้สาระอะไรกัน ไม่มีกฎเกณฑ์แล้วใช่ไหม!”
กู้เจี้ยนเจียงและประธานหวางกับคนอื่นๆล้วนค่อยๆโค้งตัวลง ยิ้มเหยเกยืนเป็นแถวเรียบร้อย
“สะเพร่าแล้ว สะเพร่าแล้ว พวกเราตอนนี้จะยืนเป็นแถวให้ดี”
หลี่โม่และกู้หยุนหลันยืนมองอยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้มีความคิดที่จะไปยืนเข้าแถวต้อนรับเลยแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดแบบจีนมองทั้งสองคนแวบหนึ่ง ต่อจากนั้นสายตากวาดไปบนร่างของกู้หยุนหลันสองรอบ””
“พวกนายทำไมไม่ยืนเข้าแถวต้อนรับ? นายรีบเข้าไปในแถว สาวสวยคนนี้ไปกับฉัน ไปเปิดประตูรถให้กับอาจารย์จาง”
ชายหนุ่มชุดจีนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง
กลางสายตาของหลี่โม่ปรากฏแสงแห่งความเย็นชา หัวเราะเย็นชาเอ่ยว่า “ฝันไปเถอะ”
“หลี่โม่! นายพูดอะไรกัน! รีบทำตามเร็วเข้า!”