จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 40
บทที่ 40 ทั้งโลกร้องไห้กับเธอ
ไม้เท้านี่ตีหนักไปที่น่องของกู้หยุนหลัน กู้หยุนหลันเจ็บปวดมาก ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ แล้วทรุดลงคุกเข่ากับพื้น
แต่ว่าในใจของเธอขัดขืน ยกคางคริสตัลอย่างดื้อรั้น ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา หันหน้าไปด้านข้าง จ้องกู้ซิงเว๋ยที่เริงร่าเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ จากนั้นก็มองไปที่ปู่กู้แล้วถามว่า “คุณปู่ให้ฉันคุกเข่า ฉันทำผิดอะไร!”
ด้วยร่องรอยของการร้องเรียนและความคับข้องใจ กู้หยุนหลันเช็ดน้ำตาที่หลั่งจากหางตาออกไปอย่างดื้อรั้น
โดยไม่รอให้ปู่กู้พูด กู้ซิงเว๋ยก็กระโดดออกมา มือไพล่หลังเดินวนรอบตัวกู้หยุนหลันสองรอบแล้วยิ้มเยาะ “กู้หยุนหลันนะกู้หยุนหลัน ถึงเวลานี้แล้ว ยังจะทำเป็นปากเป็ดตายไม่ยอมพูดความจริง ต้องทำตามกฎของตระกูลไหมเธอถึงจะยอมรับผิดน่ะ!”
ตอนนี้กู้ซิงเว๋ยรู้สึกสดชื่นจนจะตายอยู่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นกู้หยุนหลันคุกเข่าต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็ตื่นเต้นจนบรรยายไม่ถูก
กู้หยุนหลันผู้ซึ่งภูมิอกภูมิใจในความสูงส่งในตัวเองมาโดยตลอด ยังมาคุกเข่าต่อหน้าฉัน
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!” กู้หยุนหลันจ้องกู้ซิงเว๋ยเขม็งอย่างโกรธจัด
ปู่กู้เป่าเคราจ้องอย่างโกรธจัด ยกมือชี้กู้หยุนหลันอย่างสั่นเทาพร้อมกับตะโกนว่า “ดีๆๆ ยังไม่ยอมรับว่าผิดใช่ไหม ฉันจะตีแกให้ตาย!”
พูดจบ ปู่กู้ก็ใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินไปหากู้หยุนหลัน ยกมือขึ้น โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ตบกู้หยุนหลันไปเสียงดังลั่น!
“ไม่รู้ความผิดใช่ไหม ฉันจะตีจนกว่าแกจะรู้ความผิด” ปู่กู้ด่าอย่างเกลียดชัง
กู้หยุนหลันกุมแก้มแดง น้ำตาในดวงตาพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเธอผิดตรงไหน ทันทีที่เข้ามา คนจำนวนมากก็จ้องตนอย่างโหดร้าย แถมยังเริงร่าเยาะเย้ย
โดยเฉพาะกู้ซิงเว๋ย ที่กระโดดโลดเต้นอยู่ข้างๆ คอยโหมเปลวไฟ
ส่วนทางนี้ ปู่กู้ก็ตวาดถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันขอถามแก แกให้ไอ้ขยะหลี่โม่ไปที่บริษัทรุงคางเพื่อช่วยให้แกได้รับตำแหน่งผู้รับผิดชอบใช่ไหม”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น กู้หยุนหลันก็ชะงักไป สีหน้าสงสัยมาก ถามออกไปว่า “คุณปู่ ฉันเปล่า ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
นี่มันเรื่องอะไร
หลี่โม่ไปบริษัทรุงคางมาเหรอ
“เธอยังเสแสร้งว่าไม่รู้อีกเหรอ ฉันเห็นด้วยตาตัวเอง ว่าหลี่โม่อยู่ในสำนักงานของประธานหรุงบริษัทรุงคาง”
กู้ซิงเว๋ยกระโดดออกมาทันที มาพูดกล่าวหาว่า “กู้หยันหลัน เธอรู้ไหม เพราะหลี่โม่ หรุงปินถึงยึดสัญญาของตระกูลกู้เรา เธอยังกล้าพูดว่าเรื่องนี้เธอไม่เกี่ยวข้องอีกเหรอ ฉันว่าเธอนั่นแหละที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง!”
กู้หยุนหลันกำลังจะตาย กู้ซิงเว๋ยคนนี้ น้ำสกปรกอะไรก็สาดใส่ตนหมด!
เธอยังคงไม่ยอมรับ และพูดว่า “ฉันเปล่า นายมันเอาเลือดในปากมาสาดคนอื่น! หลี่โม่จะไปบริษัทรุงคางได้ยังไง เขาไม่รู้จักประธานหรุงเลยสักนิด!”
“กู้ซิงเว๋ย ทั้งทั้งที่นายสูญเสียสัญญาไปเอง ทำไมถึงผลักความผิดมาให้ฉันกับหลี่โม่”
กู้หยุนหลันตั้งคำถาม แต่ทว่า กู้ซิงเว๋ยกลับปฏิเสธทันที “ผายลม! ฉันเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในบริษัท ประธานหรุงจะไม่เซ็นสัญญากับฉันได้ยังไง เรื่องนี้มันเป็นความผิดของเธอกับหลี่โม่! พวกเธอหักหลังบริษัท ทรยศตระกูลกู้! เธอไม่ได้ จึงต้องการทำลาย!”
เมื่อพูดจบ กู้ซิงเว๋ยก็หันไปมองปู่กู้ทันทีและพูดว่า “คุณปู่ อย่าไปฟังกู้หยุนหลันพูดไร้สาระ เธอมันเป็นคนเจ้าเล่ห์”
ปู่กู้ในเวลานี้โกรธจัดจนเกินขีดจำกัดไปแล้ว ในสายตาไม่แยกแยะถูกผิดนานแล้ว หูเบาเชื่อหลานชายคนโตของตัวเองอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
เขาโกรธจนกระแทกไม้เท้าในมืออย่างหนักเสียงดังตึง ตวาดออกมาด้วยความโกรธว่า “ดูเหมือนว่าถ้าไม่ให้แกได้รับบทเรียนแกจะไม่พูดความจริง”
พูดจบ ปู่กู้ก็หันหน้าไปทางรปภ.สองคนหน้าประตู “พวกแกสองคนมาตบปากเธอ ฉันจะดูซิว่าปากเธอจะหนักแค่ไหน”
รปภ.สองคนไม่พูดอะไร เดินตรงมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา หนึ่งในนั้น มือข้างหนึ่งจับแขนบอบบางของกู้หยุนหลัน และอีกหนึ่ง ดึงผมยาวของเธออย่างรุนแรง
เพี๊ยะ!
การตบที่เฉียบขาด ดังลั่นทั่วห้องประชุม!
เพี๊ยะ!
ตบอีกครั้ง!
ทว่ากู้หยุนหลันกระดูกแข็งมาก กัดฟันอดทน ไม่มีเสียงร้องออกมาสักแอะ!
กู้ซิงเว๋ยและบรรดาญาติพี่น้องตระกูลกู้ ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเฉยเมย ไม่มีใครเข้ามาห้ามขัดขวางหรือพูดอะไรสักคำ
จิตใจพวกเขาล้วนเป็นปีศาจ
ตบเธอให้ตายเลย ตบเธอให้ตายถึงจะดี!
นี่คือเสียงในใจของพวกเขาทุกคน เพราะความสามารถของกู้หยุนหลันนั้นโดดเด่นมาก พวกเขาไม่อยากเห็นคนแบบนี้อยู่บ้านตระกูลกู้
ปัง!
ทันใดนั้นประตูห้องประชุมถูกเปิดออก หวังฟางวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามากเข่าต่อหน้าปู่กู้ทันที แล้วส่งเสียงร้องขอความเมตตา “คุณพ่อ ได้โปรดเถอะ หยุดตีได้แล้ว เธอเป็นหลานสาวของคุณนะคะคุณพ่อ”
หึ!
ปู่กู้ส่งเสียงเยาะ เตะหวังฟางออกไปแล้วตวาดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “วันนี้ใครกล้าขอร้องให้เธอ ก็จะต้องโดนกฎตระกูลด้วย!”
เห็นกู้หยุนหลันถูกทุบตี ในใจหวังฟางก็ร้อนรนกระวนกระวายมาก แต่คำพูดของปู่กู้เป็นเหมือนประกาสิทธิ์
ปกติเธอชอบอารมณ์เสียใส่หลี่โม่ เมื่อประสบกับเรื่องขึ้นมาจริงๆ กลับวิ่งหนีเร็วที่สุด กลัวคนเอาจริงแต่เก่งกับคนอ่อนแอ
“หยุนหลัน แกทำอะไรไปแกก็ยอมรับไปเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้อีก แกจะถูกทุบตีจนตายนะ” หวังฟางกระซิบบอกกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันเม้มปากอย่างดื้อรั้น เลือดที่มุมปาก ไม่สามารถหยุดมันได้แล้ว
เธอไม่ได้ผิด ทำไมต้องยอมรับความผิดมาเป็นของตัวเองด้วย!
เมื่อปู่กู้เห็นภาพนี้ก็สะบัดมือด้วยอารมณ์และตะโกนว่า “ดี! ฉันจะดูว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน ฉันจะตีต่อ!”
กู้ชิงหลินที่อยู่ในกลุ่มคน เวลานี้ยืนกอดอก มองเหยียดยิ้มเยาะ รีบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา ภาพที่ปู่กู้สอนบทเรียนให้กู้หยุนหลัน ถูกบันทึกไว้แล้ว
จากนั้นเธอก็โพสต์ลงไปบนแวดวงโซเชียลของเธอ พร้อมกับแคปชั่นว่า หมาหัวเน่าตระกูลกู้! เพื่อสัญญา ถึงกับขายร่างกาย จากนั้นก็หักหลังตระกูลกู้! ตีเธอให้ตายเลย! สารเลว!
เมื่อทำทั้งหมดนี่เสร็จแล้ว กู้ชิงหลินก็ดูการแสดงอย่างพอใจ
ในขณะเดียวกัน หลี่โม่กำลังกลับบ้าน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น จึงเอาออกมาดู เห็นจินซ่านน่าจู่ๆ ก็ส่งวิดีโอสั้นๆ มาให้ตน ยังมีข้อความด้วยว่า หลี่โม่! รีบไปช่วยหยุนหลันเร็วเข้า! เธอจะถูกตีตายแล้ว!
เห็นประโยคนี้ หลี่โม่จ้องนิ่ง เปิดวีดีโอได้อย่างรวดเร็ว เห็นภาพที่ชุลมุน กู้หยุนหลันถูกรปภ.สองคนตบหน้า ในภาพยังมีเสียงเอ็ดตะโรยุ่งเหยิงอีกด้วย!
โดยไม่ลังเล หลี่โม่ก็ขับรถอย่างเร่งด่วน แล่นฉิวไปยังบริษัทวินเซิงตระกูลกู้!
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องประชุม เขาก็เห็นกู้หยุนหลันนอนอยู่บนพื้น หายใจรวยริน หน้าตาแดงก่ำและบวมเป่ง มุมปากเต็มไปด้วยเลือด!
ตอนนั้นเอง ใจหลี่โม่ก็ปะทุไอแห่งการฆ่าท่วมท้นทั่วห้องประชุม
ระเบิดออก!
ความโกรธไร้ขีดจำกัด ตอนนี้มันระเบิดออกมาแล้ว
เขากระชับหมัดแน่น จิกจนซีดเผือด สีหน้าไม่พอใจหนัก เดินก้าวทีละก้าวไปหากู้หยุนหลัน หายใจเข้าลึกหลายครั้งเพื่อระงับความโกรธของตัวเอง
กล้ามาทำร้ายกู้หยุนหลัน!
ไม่อยากเชื่อว่าพวกมันกล้าทำร้ายกู้หยุนหลัน!
ในโลกนี้ ไม่มีใคร สามารถปฏิบัติต่อกู้หยุนหลันแบบนี้ได้
มังกรมีเกล็ดผกผัน ถ้าสัมผัสต้องตาย!
เมื่อกู้หยุนหลันยิ้ม ดอกไม้ทั้งโลกจะผลิบาน
เมื่อกู้หยุนหลันร้องไห้ เขาจะทำให้ทั้งโลกร้องไห้กับเธอ
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากรังแกกู้หยุนหลัน ต้องจ่ายราคาที่แสนสาหัส!
“หลี่โม่ ในที่สุดแกก็มา ฮ่าฮ่า แกคิดจะเป็นเหมือนกู้หยุนหลัน หรือว่าจะสารภาพผิดลดโทษล่ะ” เวลานี้กู้ซิงเว๋ยเดินออกมาอย่างยโสโอหัง สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง ยื่นมือออกไปต้องการจะต่อยหลี่โม่