จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 405
จักรพรรดิมังกร
บทที่ 405 ทางเดินไม่มีวันสิ้นสุด
ท่านแปดไม่สนใจหน้าตาของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขาสารภาพความผิดต่อราชินีของสำนักหลงเหมินด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ราชินีของสำนักหลงเหมินค่อนข้างพอใจกับท่าทางการแสดงออกของท่านแปด โดยยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “พอได้แล้ว แกไม่ต้องมาแสดงละครกับฉันที่นี่ ในใจของเจ้าต้องการอะไรฉันเข้าใจดี ขอเพียงแกทำงานให้ดี ต่อจากนี้จะเป็นวันที่เจ้าจะได้เชิดหน้าขึ้น”
จางเต๋ออู่ที่นวดมือของราชินีของสำนักหลงเหมินชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงได้นวดต่อ
จางเต๋ออู่มีความสงสัยเกี่ยวกับความคิดของราชินีของสำนักหลงเหมินเล็กน้อย เขาคิดว่ามันควรจะเป็นเวลาเชือดไก่ให้ลิงดู ใช้ชีวิตของท่านแปดมาสร้างอำนาจถึงจะถูก
แต่ทว่าจางเต๋ออู่กดทับคำถามนี้เอาไว้ในกดบึ้งของหัวใจ ตอนนี้บทบาทของเขาเป็นเพียงแค่ทาสคนหนึ่งเท่านั้น
ท่านแปดรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขขึ้นมาก เมื่อรู้ว่าเขาผ่านบททดสอบครั้งนี้แล้ว
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน จากนี้ผมจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก และจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกโดยเด็ดขาด ถ้าหากมีเรื่องอะไรจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าอย่างแน่นอน”
“แกเป็นคนฉลาด ฉันจะไม่พูดให้มากความแล้ว ในเมื่อแกบอกว่าต้องการแอบซ่อนตัวอยู่ข้างกายหลี่โม่เพื่อตามหากุญแจลับ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเชื่อแก ฉันจะมอบธุรกิจของฉันให้กับเจ้าหกและเจ้าเจ็ดเป็นการชั่วคราวแล้วกันนะ เจ้าหากุญแจลับเจอเมื่อไหร่ค่อยกลับไปดูแลธุรกิจ เมื่อถึงตอนนั้นฉันยังจะให้รางวัลใหญ่กับแกด้วย”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดอย่างเรียบเฉย ทำให้ท่านแปดสั่นสะท้านอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที นี่คือการทำให้ตัวเองสูญเสียอำนาจทั้งหมด แล้วส่งมอบธุรกิจในมือในมือออกไป มันคือการเตะหมูเข้าปากหมา หากอยากจะได้คืนมาจากท่านหกและท่านเจ็ดนั่นไม่จำเป็นต้องคิดเลย
นับได้ว่าท่านแปดได้เจอกับประสบการณ์ที่เรียกว่าการทำร้ายตัวเองเข้าเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นราชินีของสำนักหลงเหมินได้ทำลายเอวของท่านแปดด้วยหมัดนี้ ถ้าหากว่าหากุญแจลับไม่เจอแล้วล่ะก็ ต่อจากนี้ท่านแปดอย่าได้คิดที่จะเดินตัวตั้งตรงได้อีกเลย
ท่านแปดร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง “ผมกลัวว่าจะไม่ดีนะพี่หกและพี่เจ็ดมีงานมากมายอยู่ในมือ ทุกอย่างที่ผมรับผิดชอบล้วนแต่เป็นงานเล็กๆน้อยๆไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ให้พวกเขามาจัดการมันไม่ค่อยจะเหมาะสม”
“ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม การหากุญแจลับให้เจอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่องธุรกิจมันเป็นเพียงแค่การเอาหมูมาวางไว้ในตำแหน่งของแกเท่านั้นทุกอย่างสามารถจัดการได้ อย่าคิดว่าไม่มีแกแล้ว โลกจะไม่หมุน”
เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของราชินีของสำนักหลงเหมินแล้ว ท่านแปดก็ไม่กล้าพูดมากอีกแล้วพูดอย่างโศกเศร้าว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะตามหากุญแจลับอย่างสุดความสามารถ ถ้าหาก ถ้าหากว่า ผมหากุญแจลับไม่เจอล่ะครับ? ไม่ทราบว่าท่านมีเบาะแสเพิ่มเติมหรือไม่”
“ไม่มี ฉันเองก็ไม่เคยเห็นกุญแจลับของสำนักหลงเหมิน แกพยายามหาวิธีให้ดีที่สุดแล้วกัน ถ้าหาไม่เจอ แกไม่ต้องกลับมาที่สำนักหลงเหมินอีก เอาล่ะ ฉันเพลียนิดหน่อย แกกลับไปได้แล้ว”
ท่านแปดลังเลอยู่ครู่ “เจ้าแปดหวังว่าท่านจะสามารถช่วยได้”
“พูดมาสิ”
“หลี่โม่มักจะคอยระวังตัวกับผมเสมอ ผมสงสัยว่าจะต้องได้รับความไว้วางใจเขาหรือเปล่าถึงจะได้ผล เพราะฉะนั้น ตอนที่ท่านได้เจอกับหลี่โม่ บางทีเจ้าแปดอาจจะต้องทำเรื่องให้ท่านต้องขุ่นเคือง”
“ฮิๆ”
ราชินีของสำนักหลงเหมินหัวเราะเบาๆสองครั้ง แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “ไม่เป็นไรนี่ แม้ว่าแกจะทำให้ขุ่นเคือง ขอเพียงหากุญแจลับเจอ แกจะทำให้ขุ่นเคืองกี่ครั้งก็ย่อมได้ แต่ถ้าหากแกหาไม่เจอล่ะก็ มันก็จะ เหอๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะที่คมชัดและกังวานราวกับระฆังทำให้ท่านแปดได้ยินแล้วขนพองสยองเกล้า
ถึงแม้ว่าราชินีไม่ได้พูดออกมา แต่ท่านแปดเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ตระกูลถูกริบทรัพย์นั้นน่ากลัวว่าจะเป็นเรื่องที่เบาไป ความจริงคือจะต้องตายทั้งตระกูล
“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่แน่นอน ไม่รบกวนองค์ราชินีแล้ว ขอทูลลา”
ท่านแปดโค้งคำนับแล้วถอยออกมาจากห้องโถง สาวใช้สองคนค่อยๆปิดประตูห้องนั่งเล่นลง
จางเต๋ออู่เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ราชินีของสำนักหลงเหมิน เขายิ้มแล้วพูดว่า “ท่านฉลาดจริงๆ แก้ปัญหาจากต้นตอเพียงครั้งเดียวก็สามารถตัดตอนท่านแปดได้แล้ว ต่อจากนี้ท่านแปดก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว แต่ธุรกิจของเขาได้มอบให้กับท่านหกและท่านเจ็ด ”
“สายตาของคุณยังตื้นเขินเกินไป ธุรกิจของเจ้าแปดมันเป็นเรื่องจุกจิกแบ่งให้กับเจ้าหกและเจ้าเจ็ด จะทำให้พวกเขาจองหองพองขนขึ้นมา คนเราน่ะ หลังจากพองตัวขึ้นแล้วก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน”
หลังจากองค์ราชินีพูดจบสายตามองลึกลงไปที่จางเต๋ออู่อย่างล้ำลึก
จางเต๋ออู่รู้สึกผิดทันที รีบก้มหน้าลงแล้วนวดขาราชินีต่อไป
ราชินีของสำนักหลงเหมินยิ้มที่มุมปากเบาๆ สามารถเล่นสนุกได้ท่ามกลางเสียงปรบมือสนับสนุนของพวกผู้ชาย ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
ถ้าหากว่าได้กุญแจลับมาก็จะยิ่งดีมากกว่าเดิม ถ้าอย่างนั้นแล้วสำนักหลงเหมินจะเป็นของฉัน!
ในสมัยมีโบราณมีบูเช็คเทียนเป็นจักรพรรดินี ปัจจุบันฉันนี่แหละที่จะเป็นคนควบคุมสำนักหลงเหมิน!
……
ท่านแปดขับรถออกจากแมเนอร์จิงเฉิงแล้ว ผู้ช่วยมองไปที่ใบหน้าซีดเผือดของท่านแปดแล้วแม้แต่หายใจแรงก็ยังไม่กล้า
คิดถึงทุกรายละเอียดที่ได้พบกับราชินีของสำนักหลงเหมินเมื่อกี้นี้แล้ว ยิ่งในใจของท่านแปดคิดมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น และรู้สึกได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประเมินราชินีต่ำไป
ราชินีของสำนักหลงเหมินไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างแน่นอน!
ตอนนี้ถูกบีบอยู่ระหว่างหลี่โม่และราชินีของสำนักหลงเหมิน ท่านแปดรู้สึกอึดอัดที่ถูกหนีบไปทั้งตัว
เขาถูหน้าผากแล้วควักโทรสัพท์ออกมาต่อสายถึงหลี่โม่
“นายน้อย ผมคือเจ้าแปดนะ เมื่อกี้นี้ผมได้เจอกับราชินีของสำนักหลงเหมิน มีสถานการณ์บางอย่างที่ผมต้องแจ้งให้ท่านทราบ”
ถึงแม้จะเป็นการโทรศัพท์ แต่บนหน้าของท่านแปดยังคงปรากฏรอยยิ้มประจบประแจงออกมาราวกับหลี่โม่อยู่ตรงหน้าเขายังไงยังงั้น
“เจอราชินีของสำนักหลงเหมินแล้วงั้นเหรอ? เธอพูดว่าอะไร?”
“เมื่อเธอขึ้นมาก็ดุด่าผมเลยทันทีแล้วยังเอาส่วนแบ่งธุรกิจที่ผมรับผิดชอบอยู่ออกไปหมดเลย ตอนนี้ผมกลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบแล้วล่ะครับ นอกจากนี้ เธอยังให้ผมคอยอยู่ข้างตัวท่าน เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากท่าน จากนั้นก็ช่วยเธอหากุญแจลับ”
ท่านแปดได้รับความสนใจอย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็สงสัยตนเอง ถ้าอย่างนั้นตนเองก็ชิงเอนเข้าหาทั้งสองฝั่งก่อน รอจนสถานการณ์ต่อจากนี้ชัดเจนแล้วค่อยย้ายเข้าพวกอีกที
การเป็นนกสองหัวนั้นไม่ง่าย แต่ถ้าทำดีก็ยังมีหนทางรอด สถานการณ์ปัจจุบันนี้ทำให้ท่านแปดต้องเล่นบทจงรักภักดี น่ากลัวว่าจะต้องตายโดยไม่มีที่ฝังเสียแล้ว
หลี่โม่คิ้วขมวด กุญแจลับถูกยกขึ้นมาพูดอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นราชินียังเต็มใจส่งราชามังกรคนหนึ่งมาตามหากุญแจด้วย สิ่งนี้ทำให้ในใจของหลี่โม่สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย
เดิมทีหลี่โม่เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ากุญแจไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตนเองแม้แต่นิดเดียว แต่ทั้งหมดที่ราชินีของสำนักหลงเหมินกำลังทำอยู่ในตอนนี้กลับทำให้หลี่โม่คิดว่าราชินีจริงจังอย่างมาก
“เธอได้ให้เบาะแสใหม่อะไรกับคุณหรือเปล่า? เช่นได้บอกหรือเปล่าว่ากุญแจมีลักษณะยังไง?”
หลี่โม่ซักถาม
ท่านแปดฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ผมถามแล้ว แต่ว่าราชินีเองก็ไม่รู้ ราชินีบอกว่าเธอเองก็ไม่เห็นกุญแจมาก่อนจึงไม่รู้เลยว่าหน้าตาของกุญแจเป็นอย่างไร เหมือนเป็นแมวตาบอดไล่จับหนู ทั้งหมดนี้ต้องลองเสี่ยงดวงกันแล้ว”
หลี่โม่พูดไม่ออกอย่างสิ้นเชิง เขาคิดว่าราชินีของสำนักหลงเหมินมีอาการหวาดระแวงทางจิต ถึงอยากจะดึงเอากุญแจกลับไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วกับสิ่งของที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไมถึงมั่นใจนักว่าอยู่ในมือของเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยๆลองเสี่ยงดวงไปแล้วกัน เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณต้องสูญเสียไป ผมทำได้เพียงแสดงความเสียดายด้วยเท่านั้น”
ท่านแปดเอามือปิดหน้า ในใจก็คิดว่าอยากจะให้แกมาเสียดายอะไรกันเล่า รีบหากุญแจให้พบถึงจะเป็นเรื่องจริง ว่าแต่ไอ้กุญแจลับดอกนี้มันคือของบ้าอะไรกัน!