จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 426
เหล่าคุณชายต่างเคยเห็นเจออะไรมาไม่น้อย แต่เมื่อเห็นทักษะของลุงฝู พวกเขาจึงรู้ว่าลูกน้องในตระกูลใหญ่จริงๆ ควรเป็นแบบนี้
คนที่จะมีลูกน้องเป็นคนมีฝีมือขนาดนี้ ต้องไม่ใช่ตระกูลร่ำรวยธรรมดาๆ แน่นอน
ขณะที่พวกลูกคนรวยกำลังอกสั่นขวัญแขวน คนจำนวนมากกำลังครุ่นคิดถึงตัวตนของหลี่โม่ เพราะถึงแม้ว่าหลี่โม่จะไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา ราวกับมนุษย์ล่องหนอย่างไรอย่างนั้น แต่เฉินเสี่ยวถงที่มีลูกน้องแบบลุงฝู ทำไมเธอยังต้องหลบอยู่ข้างหลังหลี่โม่
ความสงสัยอยู่ในใจของทุกคน แต่ทว่ากลับไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริง
เมื่อเห็นการกระทืบเท้าที่น่ากลัวของลุงเป้า ลุงฝูส่งเสียงหึออกมา “หึ! คิดว่าทำแบบนี้จะทำให้กลัวได้เหรอ ให้ฉันเห็นหมัดเจ็ดพิการแห่งคงถงของแกหน่อยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน!”
“เฮ้อ ในเมื่อมองออกว่าฉันจะทำอะไร ตาเฒ่าอย่างแกนี่อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์!”
“บังอาจ!”
ลุงฝูโมโหมาก เขาสะบัดหมัดทั้งสองข้างเข้าไปหาลุงเป้า
ลุงเป้าไม่ได้ไร้ฝีมือ เขาพุ่งเข้าไปสู้กับลุงฝู
ทั้งสองคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่นานมันก็มีเงาสีดำและสีขาวปรากฏขึ้น ลำแสงทั้งสองฟาดฟันกันมา มีเสียงหมัดและเท้าปะทะกันดังขึ้นมา
คนข้างๆ มองไม่เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของลุงฝูและลุงเป้า ตอนนี้มีเพียงหลี่โม่เท่านั้นที่เห็นการต่อสู้ของทั้งสองคนอย่างชัดเจน
หลังจากทั้งสองคนต่อสู้ไปสามสิบกระบวนท่า หลี่โม่ส่ายหน้าช้าๆ เขาดูออกว่าลุงฝูไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลุงเป้า
หน้าผากของลุงฝูมีเหงื่อไหลออกมา ลุงฝูใช้พละกำลังไปมาก ทำให้ตอนนี้เขาไม่มีแรงแล้ว แต่ลุงเป้าอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการต่อสู้ เขาจึงยังมีพละกำลังเหลือล้น
เมื่อเห็นจุดอ่อนของลุงฝู ลุงเป้ารีบถีบไปที่ท้องน้อยของลุงฝู
ครั้นลุงฝูจะถอยหลังหลบก็สายไปเสียแล้ว เขาก้าวถอยหลังได้เพียงครึ่งก้าว ก็โดนลุงเป้าถีบเต็มแรง
“พรวด!”
ลุงฝูกระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือดออกมา เลือดกระจายไปในอากาศ มันเป็นความงดงามที่แปลกประหลาด
พลั่ก!
ลุงฝูกระแทกลงกับพื้น ศีรษะด้านหลังของเขากระแทกกับพื้นจนสลบไป
เฉินเสี่ยวถงตกใจเป็นอย่างมาก เธอมองลุงฝูที่สลบไปอย่างตื่นตระหนก
ลุงฝูถูกส่งมาจับตาดูเธอ ถ้าลุงฝูตาย อาจจะเป็นผลดีต่อเฉินเสี่ยวถง แต่ก่อนหน้านั้นเฉินเสี่ยวถงต้องหาคนที่ปกป้องเธอได้ ไม่งั้นเธอก็ต้องโดนคนของสำนักหลงเหมินควบคุมไม่ช้าก็เร็ว
คนที่กำลังกังวลอย่างเฉินเสี่ยวถงจับมือกู้หยุนหลันแน่นโดยไม่รู้ตัว กู้หยุนหลันเข้าใจว่าเฉินเสี่ยวถงกังวลเรื่องที่ลุงฝูได้รับบาดเจ็บ เธอจึงโอบเฉินเสี่ยวถงและพูดปลอบเบาๆ
หลี่โม่มองลุงฝู เขาคิดว่าลุงฝูไม่น่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นจึงย้ายสายตาไปที่ลุงเป้า
ลุงเป้ายืนตัวตรง เขาพูดกับคุณชายสามหลินอย่างนอบน้อม “ปฏิบัติภารกิจลุล่วงครับคุณชายสาม”
“ลุงเป้าทำได้ไม่เลว ต่อไปก็ติดตามฉัน ฉันจะตอบแทนนายอย่างดี”
คุณชายสามหลินพูดอย่างได้ใจ
“ขอบพระคุณครับคุณชายสาม ผมจะตั้งใจต่อไปครับ ต้องการให้ผมจับไอ้สวะนั่นมาให้คุณชายสามจัดการไหมครับ”
ลุงเป้าเอียงคอมองหลี่โม่ เขาเห็นหลี่โม่เป็นสิ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคุณชายสามหลิน
“หึหึ ได้สิ ครั้งนี้ลูกน้องของฉันเสียเปรียบมาก ต้องชำระแค้นกับไอ้สวะนั่น ไปจับมันมา ฉันจะหักกระดูกมันทีละข้อๆ เลย”
กู้ชิงหลินถึงกับโล่งอก เธอมองหลี่โม่อย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า “คุณชายสาม ฉันจะถีบเป้าไอ้สวะหลี่โม่ ทำให้มันไม่สามารถสืบพันธุ์ได้อีกต่อไป ให้มันไม่ได้เป็นผู้เป็นคนอีก! ให้มันเห็นคุณพลอดรักกับกู้หยุนหลันทุกวัน”
“ฮ่าๆๆๆ ชิงหลินนี่เยี่ยมจริงๆ ไม่มีปัญหา วันนี้จะให้เธอทำตามที่ต้องการ เดี๋ยวเธอจะได้จัดการไอ้สวะนั่น อยากกระทืบยังไงก็ได้”
สีหน้าของกู้หยุนหลันไม่สู้ดี คิดไม่ถึงว่ากู้ชิงหลินจะร้ายกาจเช่นนี้
หลี่โม่ตบหลังมือของกู้หยุนหลันเบาๆ “อย่าโมโห คุณไม่จำเป็นต้องโมโห”
“อืม ฉันไม่โมโห แต่ฉันคิดไม่ออกว่าทำไมทุกคนถึงไม่ดีต่อกัน ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”
“ครอบครัวเดียวกันแล้วยังไง มันมักจะมีคนที่โลภมากไม่รู้จักพอ ขี้อิจฉา ขอแค่มีความปรารถนา ความชั่วร้ายก็จะเข้ามาทันที”
หลี่โม่พูดจบจึงยืนขึ้น เขาเดินเอามือไพล่หลังเข้ามาหาลุงเป้า “แกจะจับตัวฉันเหรอ”
“หึหึ ใช่ หรือแกจะตายเอง ถ้าอย่างนั้นก็ดีสิ”
ลุงเป้าหัวเราะแล้วพูดออกมา เขาไม่เห็นหลี่โม่อยู่ในสายตาสักนิด
“สวะอย่างแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน เอ่อไม่ทราบว่าคุณชายสามหลินอะไรนั่น ยังมีคนมีฝีมือตามมาด้วยไหม เรียกออกมาสู้พร้อมกับแกเลยก็ได้นะ”
หลี่โม่พูดประชดประชัน
สีหน้าของลุงเป้าไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าหลี่โม่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด
“แกยังกล้าคุยโวโอ้อวดอีกนะ!”
ลุงเป้าตวาดออกมา เขากำหมัดหวังจะชกหลี่โม่ให้ล้มลงในหมัดเดียว หลี่โม่จะได้รู้ว่าเขาเก่งแค่ไหน
หลี่โม่ส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เขายื่นนิ้วออกมาจิ้มหมัดของลุงเป้า
“เคยได้ยินฌานหนึ่งดรรชนีไหม นี่เป็นกระบวนท่าที่แท้จริงของฉัน หมัดเท้าปักบุปผาของแกสู้ไม่ได้หรอก”
“ฌานหนึ่งดรรชนีบ้าอะไรของแก! วันนี้ฉันจะต้องจัดการ……อ๊าก!”
ลุงเป้าร้องโอดครวญออกมาอย่างเจ็บปวด เขามองหมัดของตัวเองปะทะกับนิ้วมือของหลี่โม่ จากนั้นกระดูกมือของเขาก็โดนนิ้วมือของหลี่โม่บดขยี้ นิ้วมือบดขยี้เข้ามาถึงฝ่ามือ
“ฉันบอกแล้วว่าเป็นกระบวนท่าที่แท้จริงของฉัน แต่แกก็ยังไม่เชื่อ”
หลี่โม่ยิ้มอย่างยียวน จากนั้นเขาจึงกระดกนิ้วขึ้น เนื้อฝ่ามือของลุงเป้ากระจายออกมา
ลุงเป้าถอยหลังอย่างรวดเร็ว มือขวาที่ได้รับบาดเจ็บสั่นระรัว เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เม็ดเหงื่อละเอียดปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา
คุณชายสามหลินกับกู้ชิงหลินเพิ่งจะได้ใจไม่ถึงสองนาที สีหน้าของเขาสลดขึ้นมาทันที เหมือนพวกเขานั่งรถขึ้นภูเขา มันโยกขึ้นโยกลงหลายครั้ง
“คุณ คุณชายสาม นี่ยังจะชนะได้ไหมคะ ถ้ายังมีผู้ฝีมือก็รีบเรียกมาสิคะ”
กู้ชิงหลินพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล
คุณชายสามหลินส่ายหน้าอย่างตื่นตระหนก “คนมีฝีมือผีอะไรล่ะ ลุงเป้าเป็นคนที่เก่งที่สุด! เธอบอกว่าหลี่โม่เป็นไอ้สวะที่เกาะผู้หญิงกินไม่ใช่เหรอ! คนเกาะผู้หญิงบ้านเธอมันเก่งขนาดนี้เลยเหรอ!”
“ฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อก่อนหลี่โม่มันสงบปากสงบคำ ใครทำอะไรก็ไม่ตอบโต้กลับ ยิ่งกว่าสวะเสียอีก!” กู้ชิงหลินพูดเหมือนจะร้อง
กู้ชิงหลินไม่คิดเลยว่าจู่ๆ หลี่โม่จะดุขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าหลี่โม่ดุขนาดนี้ ให้ตายยังไงเธอกับคุณชายสามหลินคงไม่กล้ามาอวดดีหรอก
แต่กู้ชิงหลินมาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เธอได้แต่อธิษฐานในใจให้ลุงเป้าพลิกกลับมาชนะได้
หลี่โม่ก้าวเข้ามาหาลุงเป้า “ตอนนี้แกจะพูดอะไรได้อีก หมัดเท้าปักบุปผาของแกยังใช้ได้อีกไหมล่ะ”
“แกคิดว่าแบบนี้จะชนะฉันได้เหรอ ฉันยังไม่ได้ใช้ไพ่ใบสุดท้ายเลย แกรอรับมือได้เลย!”
ลุงเป้าแผดเสียงออกมา มือซ้ายที่ไพล่อยู่ข้างหลังสะบัดอย่างรวดเร็ว แสงสีดำพุ่งออกมาจากมือของลุงเป้า
แสงสีดำพวกนั้นคือหนอนพิษ มันคือไพ่ที่ลุงเป้าเอาไว้ป้องกันตัว