จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 43
บทที่ 43 ทุกอย่างเสร็จสิ้น
ที่บ้าน.
กู้หยุนหลันและพวกเขาทั้งสามคน เอนกายบนโซฟาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ไม่ก็ ผมจะขอร้องคุณปู่ดู อาจจะเพิ่มเวลาให้สองสามวัน” กู้เจี้ยนหมินกล่าว
ยังไงก็เป็นลูกสาวของเขา พรุ่งนี้ให้เธอเอาสัญญากับบริษัทรุงคางมานั้น โอกาสเป็นไปได้นั้นน้อยมาก
เมื่อหวังฟางได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอก็รีบพูดว่า “ใช่ๆๆ คุณไปขอร้องพ่อของคุณดู ไม่แน่อาจจะได้ เพราะยังไง คุณก็เป็นลูกชายของเขาเช่นกัน”
กู้หยุนหลันส่ายหัวและถอนหายใจ “คุณลืมกู้ซิงเว๋ยไปแล้วเหรอ เขาจะเข้ามาขวางทุกวิถีทางแน่นอน คุณปู่ตอนนี้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเท่านั้น เราพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
น้ำเย็นๆ สาดตรงเข้าสู่หัวใจของพวกเขา
หวังฟางกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า “นี่ไม่ดี นั่นก็ไม่ได้ หรือว่าจะรอให้คุณปู่ไล่คุณออกจากบริษัท ”
ขณะที่เธอพูด เธอจ้องไปที่หลี่โม่ที่กำลังถูพื้น ลุกขึ้นและดุ “ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ คุณบอกมาซิ คุณจะมายุ่งทำไม! ถ้าหยุนหลันถูกไล่ออกจากบริษัท คุณก็ไสหัวออกไปจากบ้านของเราเลย! ”
หวังฟางกำลังจะถูกหลี่โม่ทำให้โกรธจนจะบ้าตาย!
“พอแล้วแม่ คุณอย่าดุเขาเลย เขาทำทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของฉันเช่นกัน” กู้หยุนหลันขมวดคิ้วเรียวดั่งใบหลิวของเธอและพูด
ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหลี่โม่ ดังนั้น เธอจึงไม่ได้มองไปที่เขาเช่นกัน
หลี่โม่พยายามจะบอกเรื่องทั้งหมดให้เขาหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันไป
ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าเขาจะพูด ใครจะเชื่อ?
ทันใดนั้น ออดก็ดังขึ้น
สีหน้าของหวังฟางไม่พอใจ เขาตะโกนว่าใครเหรอ จากนั้นจ้องไปที่หลี่โม่และตะโกนว่า”ยังยืนซื่อบื้ออยู่ที่นี่ทำไม ยังไม่รีบไปเปิดประตูอีก แค่เห็นก็น่าโมโห!”
หลี่โม่รีบวิ่งไป เปิดประตูด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ทันทีที่ประตูเปิดออก รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่โม่ก็แข็งตัวขึ้น
เพราะยืนอยู่ที่ประตู คือผู้ชายที่สง่าในชุดสูทราคาแพงที่ตัดเย็บอย่างเหมาะสม
ซู๋ไห่เทียน!
“ คุณมาทำไม?”
สีหน้าของหลี่โม่จมลง การแสดงออกของเขาไม่มีความสุขเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ กำลังตามจีบกู้หยุนหลัน อีกอย่าง เมื่อใดก็ตามที่เขามีโอกาส เขาก็จะเยาะเย้ยตัวเขา
หลี่โม่ยังจำครั้งก่อนที่เขามอบสร้อยคอให้หยุนหลันได้
“แหม ไห่เทียนมาแล้วเหรอ รีบเข้ามาเร็ว มานั่งข้างๆหยุนหลัน”
หวังฟางรีบลุกขึ้นทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น ผลักหลี่โม่ออกไปที่ขวางทางเธอ มองเขาอย่างดุร้ายและตะโกน “ยืนอยู่ที่หน้าประตูทำไม ยังไม่รีบออกไปรินชามาอีก! ”
เมื่อหวังฟางเห็นซู๋ไห่เทียน ถือกล่องของขวัญขนาดใหญ่และเล็กไว้ในมือ เธอก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นและหยิบมันขึ้นมา พูดว่า “มาก็พอแล้ว ทำไมยังเอาของมาเยอะขนาดนี้ เกรงใจเกินไปแล้ว”
“สมควรอยู่ ของพวกนี้ถือเป็นความเคารพที่ผมมีต่อป้าและลุง”
ซู๋ไห่เทียนยิ้มและมองไปที่หลี่โม่ที่กำลังเดินจากไป สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างประชดประชัน
เป็นขยะที่ทนคนอื่นจริงๆด้วย
แม่สามีปฏิบัติต่อคนนอกอย่างผม ดีกว่าลูกเขยอีก
หวังฟานทักทายซู๋ไห่เทียน ให้เขานั่งข้างๆกู้หยุนหลัน หวังฟางมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มและยิ่งมองพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน
แววตาของเธอดูกระตือรือร้น ราวกับว่ากำลังมองไปที่ลูกเขยในอนาคตของเธอและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าฉันพูดนะ สองคนนี้เหมาะสมกันจริงๆ ผู้หญิงสวยผู้ชายเก่ง”
ประโยคนี้ ทำให้บรรยากาศในห้องแตกต่างกันเล็กน้อย
กู้หยุนหลันมองบนใส่หวังฟาง พูดอย่างงอแง “แม่ แม่พูดอะไรของแม่?”
ตอนนี้ในใจเธอสับสนมาก
หวังฟางไม่สนใจ จ้องไปที่ลูกสาวของเธอและพูดว่า “อะไรฉันกำลังพูดอะไร ดูไห่เทียนสิ ทั้งหล่อและมีความสามารถ หน้าตาก็ดี มีภูมิหลังของครอบครัวที่ดีอีก ผู้ชายแบบนี้ ถือตะเกียงไปหาก็หาไม่เจอ ไม่เหมือนไอ้คนไร้ประโยชน์นั่น! ”
ในใจหวังฟางชอบซู๋ไห่เทียนมาก แต่เมื่อสายตาของเธอมองไปที่หลี่โม่ ก็กลายเป็นสายตาที่เย็นชาและไม่พอใจทันที
ลองดูสิ
ซู๋ไห่เทียนคนนี้ ลูกชายของบริษัทซู๋ซื่อ อายุยังน้อยก็มีทรัพย์สินหลายสิบล้านในเมืองฮ่าน
ถ้าลูกสาวแต่งงานกับเขา เธอจะต้องกลายเป็นคุณนายและตัวเธอก็สามารถถือโอกาสนี้อยู่อย่างสุขสบาย
กู้หยุนหลันรู้สึกอาย ใบหน้าของเธอแดง
หลี่โม่มาพร้อมกับน้ำชาและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
มันไม่สำคัญหรอก
คุณอยากพูดอะไรก็พูด
ซู๋ไห่เทียนหยิบชาที่หลี่โม่ชงขึ้นมา ชำเลืองมองเขาอย่างภาคภูมิใจ สีหน้านั้นดูหยิ่งทะนงและเย่อหยิ่ง
ในเวลาเดียวกัน สายตาของเขาก็มองไปที่กู้หยุนหลัน ซึ่งเต็มไปด้วยความเสน่หา
เขาชอบผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว
แต่เธอกลับแต่งงานกับหลี่ไม่ไอ้ขยะนี้!
กู้หยุนหลัน ผมจะทำให้คุณเข้าใจว่า หลี่โม่ไม่คู่ควรกับคุณเลย!
ผมซู๋ไห่เทียน เป็นเจ้าชายของคุณ! ซู๋ไห่เทียนกล่าวในใจ
“ จะยืนทำไม ยังไม่รีบไปถูพื้น!”
เมื่อเห็นหลี่โม่ยืนอยู่ข้างๆอย่างซื่อๆ หวังฟางก็ให้คำสั่งทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ
กู้หยุนหลันนั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัด เธอเหลือบมองไปที่หลี่โม่ที่หยิบไม้ถูพื้นขึ้นมาและยังคงถูพื้นอยู่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เขาไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อได้รับคำสั่งจากแม่เช่นนี้ สิ่งนี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว
แต่ซู๋ไห่เทียนมาถึงบ้านแล้ว เขายังจะมีอารมณ์มาถูพื้น
หรือว่า ในใจเขา ตัวเธอไม่สำคัญเลย?
ในเวลานี้ ซู๋ไห่เทียนดูเป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ จิบชาและพูดว่า “คุณป้า ผมคิดว่าหลี่โม่ทำงานที่สถานอาบอบนวดก็ได้เงินไม่มากนัก เอาล่ะ พอดีบริษัทของพ่อผมขาดคนพอดี ไม่ก็ให้หลี่โม่ไปทำงานที่ผมไหม?เป็นคนดูแลโกดังก็ได้ ได้เดือนละหกถึงเจ็ดพัน ซึ่งดีกว่างานของเขาในอาบอบนวดมาก ”
“โอ้จริงเหรอ?งั้นก็เยี่ยมมาก”
ใบหน้าของหวังฟาง เต็มไปด้วยความสุขและเธอก็เรียกหลี่โม่อย่างรีบร้อน กล่าวว่า “ยังไม่รีบขอบคุณไห่เทียน!”
ไอ้ขยะนี่ ไม่มีมารยาทเลย
อย่างไรก็ตาม
หลี่โม่หันกลับมาและพูดอย่างจางๆ “ไม่ต้อง งานของผมดีอยู่แล้ว”
งาน?
ฮ่าๆ
ถ้าผมจะบอกคุณว่าผมซื้อร้านสปาถิงเหม่ยไปแล้ว ผมกลัวว่าพวกคุณคงจะคุกเข่าลงทันที!
ในสายตาของผม เงินเป็นเพียงตัวเลข
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ หวังฟางก็โกรธมากและพึมพำคำสองสามคำ “เป็นขยะไร้ค่าจริงด้วย ปล่อยเขาไปเถอะอย่าไปสนใจ!”
ซู๋ไห่เทียนไม่ได้พูดอะไรเลย มันเป็นเพียงข้ออ้างที่จะถากถางและทำให้หลี่โม่อับอาย
“ ใช่แล้ว คุณป้า ที่ผมมาหาหยุนหลันคราวนี้ เพราะเรื่องบริษัทรุงคาง”
ซู๋ไห่เทียนดึงหัวข้อกลับมา
บริษัทรุงคาง?
ภายในห้อง ทั้งคนสามคน หกตา ทุกคนต่างมองไปที่ซู๋ไห่เทียนพร้อมเพรียงกัน
มีเพียงหลี่โม่เท่านั้นที่ยังคงถูพื้นและเช็ดโต๊ะ
“หมายความว่าอย่างไร? บริษัทรุงคางได้มองหาคนร่วมมือใหม่เหรอ?”หวังฟางถามเป็นคนแรกด้วยความกังวล
หากพวกเขาได้หาบริษัทร่วมมือใหม่ แล้วของกู้หยุนหลันจะทำอย่างไร?
ลูกสาวกำลังจะถูกไล่ออกจากบริษัทของตระกูลกู้แล้วใช่ไหม?
กู้หยุนหลันก็ตกใจเช่นกัน จ้องมองซู๋ไห่เทียนอย่างไม่ละสายตา เธอก็กังวลมากเช่นกัน
ซู๋ไห่เทียนแสร้งทำเป็นคาดเดาไม่ได้และจิบชา ยิ้มอย่างจางๆ “เรื่องของหยุนหลัน ผมรู้แล้ว ปัญหาไม่ใหญ่มากนัก ผมสามารถช่วยแก้ไขได้”
ทันใดนั้น หวังฟางก็รู้สึกตื่นเต้นและถามว่า “คุณสามารถช่วยได้เหรอ?ไห่เทียน อย่าโกหกป้านะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ถ้าหยุนหลันไม่สามารถเอาสัญญากลับมาได้ในวันพรุ่งนี้ เธอก็จะถูกไล่ออกจากบริษัทของตระกูลกู้ ”
กู้หยุนหลันบีบหัวใจของเธอแน่น มองไปที่ซู๋ไห่เทียนและพูดว่า “คุณมีวิธีจริงๆหรือ?”
ซู๋ไห่เทียนมองไปที่กู้หยุนหลัน สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดูและพูดว่า “ใช่ เมื่อวานนี้พ่อของผมได้ไปทานอาหารเย็นกับประธานหรุง มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก เรื่องนี้ เพียงแค่พ่อของผมออกหน้า สัญญาว่าจะไม่มีปัญหาแน่นอน”
“จริงๆเหรอ?”
หวังฟางกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น!
ฟ้าช่วยฉันไว้!
“สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงไหม?” กู้หยุนหลันถามอย่างไม่เชื่อ
ซู๋ไห่เทียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่มีโอกาสสูงมาก เดี๋ยวตอนกลางคืนผมกลับไป ผมจะให้พ่อช่วยพูดให้”
ขณะที่ทุกคนในห้องนั่งเล่นส่งเสียงเฮฮา หลี่โม่ที่นั่น ยืนอยู่ในครัวกำลังเช็ดตู้เย็นและโทรศัพท์ก็ได้รับข้อความสองข้อความ
หนึ่งอันคือเฉียนฝูส่งมา“ นายน้อย เสร็จแล้ว พรุ่งนี้หุ้นส่วนทั้งหมดในตระกูลกู้จะถูกตัดออกไป”
อีกหนึ่งข้อความหรุงปินเป็นคนส่งมา “คุณหลี่ เสร็จตามที่คุณสั่งแล้ว ผมจะส่งสัญญาไปให้ในอีกสักครู่”
หลี่โม่ยิ้มที่มุมปาก ส่งคำว่าโอเค จากนั้นมองไปที่คนในห้องนั่งเล่นอย่างมีความสุข
“หยุนหลัน ยังไม่รีบขอบคุณไห่เทียนอีก”
หวังฟางมีความสุขมาก
เดิมทีเธอก็อยากจับคู่ซู๋ไห่เทียนกับกู้หยุนหลันแล้ว แม้ว่าลูกสาวของเธอจะแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ผมกับหยุนหลัน ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก”
ซู๋ไห่เทียนโบกมือแล้วเก๊ก แต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
“หยุนหลัน คุณดูไห่เทียนซิ มีความสามารถจริงๆ ถ้าในครั้งนี้คุณสามารถจัดการเรื่องที่ร่วมมือกับ
บริษัทรุงคางได้สำเร็จ ฉันว่านะ คุณกับหลี่โม่ก็ควรหย่ากันได้แล้ว ไอ้ขยะนั้นจะเทียบกับไห่เทียนได้อย่างไร?”
ในขณะที่หวังฟางยกย่องซู๋ไห่เทียนไปด้วย จากนั้นก็ดูหมิ่นและพูดจาถากถางลูกเขยของเธอด้วย
เช่นกัน “ผู้ชายบางคนที่ไม่ไม่ได้เรื่อง วันๆไม่ทำอะไร ไม่มีประโยชน์กับครอบครัวเลย ยังจะมาเพิ่มปัญหาอีก!”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็มองไปที่หลี่โม่ที่เดินมา สายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกอย่างไม่
สามารถปกปิดได้
กับสิ่งนี้ หลี่โม่เพียงแค่ยิ้มจางๆ
สี่ปี เขาชินแล้ว
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของซู๋ไห่เทียนดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา ดูและพูดด้วยรอยยิ้มทันที”พ่อของผมโทรหาผมบางทีความร่วมมือจะมีผลออกมาแล้ว”