จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 464
ท่านแปดครุ่นคิดคำพูดของราชินีของสำนักหลงเหมิน เขาพูดเนิบๆ ว่า “ผมว่าหลี่โม่มีเทคนิค ส่วนนู่หลั่งเป็นนักชกที่ไม่มีระเบียบแบบแผนใด เขาใช้คุณสมบัติที่ดีทางด้านร่างกายเท่านั้น คนที่ได้รับการฝึกเป็นระบบ ล้วนเอาชนะนู่หลั่งได้”
“นายคิดแบบนี้จริงๆ เหรอเจ้าแปด”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ท่านแปดตัวสั่นเล็กน้อย เขารีบก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “ผมคิดอะไรได้ก็พูดออกมาเท่านั้นครับ มันอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้”
“หึ ถึงแม้ฉันจะไม่ได้รู้ลึก แต่เรื่องพื้นฐานฉันก็รู้อยู่บ้าง ถึงนู่หลั่งจะไม่ใช่นักสู้ที่เก่งกาจ แต่เขาเรียกได้ว่าเป็นนักสู้ในระดับต้นๆ”
“ในบรรดาผู้คุ้มกันของสำนักหลงเหมิน มีคนที่เก่งกว่านู่หลั่งไม่น้อย แต่คนที่สามารถทำลายนู่หลั่งได้ง่ายดายเหมือนหลี่โม่มีแค่ไม่กี่คน ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้หลี่โม่อดทนและพยายามฝึกให้ตัวเองแข็งแกร่งมาตลอด โฉดชั่วเสมือนหมาป่าจริงๆ!”
จางเต๋ออู่รีบพูดเสริม “คุณพูดถูก หลี่โม่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าจริงๆ ผมดูออกตั้งนานแล้วว่าไอ้หมอนั่นมันชั่วไม่น้อย ต้องรีบกำจัดมันครับ”
ท่านแปดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรอีก ถ้าขืนพูดอะไรตอนนี้อาจจะแย่ ทำเป็นเหมือนคนว่านอนสอนง่ายจะดีกว่า
ราชินีของสำนักหลงเหมินเคาะนิ้วสองที เธอหลับตาแล้วพูดว่า “เอาวิดีโอกลับไป ให้พวกลูกน้องศึกษาพละกำลังของหลี่โม่ เต๋ออู่นายคอยช่วยหลินเจิ้งหนานเงียบๆ ให้เขาได้แก้แค้น”
“รับทราบครับ ผมจะไปจัดการให้”
จางเต๋ออู่ถอยหลังไปอีกด้าน เขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก
เมื่อมีคำสั่งจากราชินีของสำนักหลงเหมิน จางเต๋ออู่จึงกล้าจัดการกับหลี่โม่ แต่ต้องยืมมือของหลินเจิ้งหนานให้ทำเรื่องนี้แบบลับๆ
เมื่อจางเต๋ออู่ติดต่อเรียบร้อย ราชินีของสำนักหลงเหมินหาวและพูดออกมาว่า “ฉันเพลียแล้ว กลับกันเถอะ”
“ได้ครับ”
จางเต๋ออู่เดินมาข้างหน้าราชินีของสำนักหลงเหมินและประคองเธอขึ้นมา จากนั้นเขาจึงประคองแขนเธอเดินออกมาจากห้อง
เหล่าผู้คุ้มกันล้อมรอบราชินีของสำนักหลงเหมินและจางเต๋ออู่ จากนั้นจึงพาออกมาข้างนอก ส่วนท่านแปดยังรออยู่ในห้อง เมื่อเดาว่าราชินีของสำนักหลงเหมินออกไปแล้ว เขาจึงลุกออกมา
เมื่อออกมาจากสนามมวยและขึ้นรถของตัวเอง ท่านแปดหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาหลี่โม่
“เจ้านาย นี่ไอ้แปดเองครับ”
ท่านแปดยิ้มประจบประแจงและพูดออกมา
“อืม มีอะไร”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เมื่อกี้ราชินีของสำนักหลงเหมินมาดูงานแข่งมวยดำสากล เธอรู้ว่าคุณได้รับการเลื่อนขั้นแล้ว เธอโกรธจนแทบบ้าเลยนะครับ”
“เหอะๆ ถ้าเธอโมโหง่ายขนาดนั้น ฉันคงตามไปฆ่าที่สำนักหลงเหมินแล้ว”
หลี่โม่ไม่เชื่อคำพูดของท่านแปด ราชินีของสำนักหลงเหมินอาจจะโกรธ แต่ถ้าบอกว่าเธอโกรธจนแทบบ้า นั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง
ท่านแปดขำแห้ง เขาพูดเบาๆ ว่า “ฝ่ายผู้จัดงานให้วิดีโอตอนที่คุณฆ่านู่หลั่งช่วงซ้อม หลังจากที่เธอดูจบ เธอดูกลัวคุณมากและให้จางเต๋ออู่ช่วยหลินเจิ้งหนานแก้แค้น”
“หลินเจิ้งหนานคือพ่อของคุณชายสามหลิน เมื่อกี้ไอ้แก่นั่นมันมายั่วโมโหผม ช่วงนี้คุณจำเป็นต้องระวังหน่อยนะครับ ให้ผมส่งคนไปคุ้มครองคุณไหม เพื่อระวังเหตุสุดวิสัย”
ถึงแม้ท่านแปดไม่อยากปกป้องหลี่โม่ แต่เขาจะให้หลี่โม่โดนฆ่าไม่ได้ เพราะยาแก้พิษอยู่ในมือของหลี่โม่ เขาจำเป็นต้องเอายาแก้พิษจากหลี่โม่ทุกระยะ เขาถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อได้
หลี่โม่ขมวดคิ้วและแสยะยิ้มออกมา “ไม่รบกวนนายหรอก ถ้าพวกมันอยากตายก็ให้มันมา”
“งั้นคุณต้องระมัดระวังให้มาก ถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยบอกผมมาได้เลย อย่าเห็นว่าผมเป็นคนนอก ไอ้แปดผู้ภักดีจะคอยช่วยเหลือคุณทุกเมื่อ”
ท่านแปดพูดประจบประแจงจบ เขารู้สึกคลื่นไส้ตัวเอง ทำไมถึงพูดอะไรหน้าไม่อายแบบนี้ออกมาได้
สีหน้าของหลี่โม่ฉายแววประหลาด เขาจะอ้วกกับคำพูดของท่านแปด “จริงจังหน่อย ฉันวางละ”
เมื่อได้ยินเสียงวางสาย ท่านแปดถึงกับถอนหายใจออกมา เขารู้สึกว่าชีวิตมันยากซะเหลือเกิน
“กลับคฤหาสน์ ช่วงนี้ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของหลินเจิ้งหนาน ถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไรให้รายงานฉัน” ท่านแปดพูดสั่งผู้ช่วย
“รับทราบครับ”
ผู้ช่วยหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์อย่างรวดเร็ว คำสั่งถูกส่งออกไป
หลินเจิ้งหนานนั่งบนโซฟาในห้องสูท เหล่าลูกน้องฝีมือดียืนตัวตรงเป็นสองแถวอยู่ข้างหน้า
“หลี่โม่ฆ่าลูกชายฉัน นี่คือศัตรูที่ร้ายกาจ จำเป็นต้องล้างแค้น!”
หลินเจิ้งหนานพูดอย่างเคียดแค้น
“ท่านผู้นำตระกูลสั่งมาเถอะครับ พวกเราจะบุกน้ำลุยไฟโดยไม่บ่นสักคำ”
“ทีมมีดคมพร้อมแล้ว เป็นนักสู้ฝีมือดีของตระกูลเรา ทุกคนล้วนผ่านการนองเลือดและสนามรบมาแล้ว”
“ขอเพียงคุณสั่งมา พวกเราจะทำลายเมืองฮ่านให้ราบเป็นหน้ากลอง ให้พวกมันตายตามคุณชายสามไป”
เมื่อเห็นท่าทางฮึกเหิมของลูกน้อง หลินเจิ้งหนานยิ้มออกมาอย่างปลื้มใจ คนที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีแค่พวกนี้
ขณะที่หลินเจิ้งหนานกำลังจะออกคำสั่ง เสียงมือถือก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นว่าจางเต๋ออู่โทรมา หลินเจิ้งหนานจึงโบกมือไปมาให้พวกลูกน้องเงียบ
ลูกน้องต่างพากันเงียบ หลินเจิ้งหนานโค้งตัวลงสามสิบองศา เขารับสายด้วยรอยยิ้มเป็นกันเอง ราวกับจางเต๋ออู่อยู่ตรงหน้า
“สวัสดีครับคุณจาง”
“หลินเจิ้งหนาน ราชินีของสำนักหลงเหมินมีคำสั่งให้ฉันช่วยนายแก้แค้นหลี่โม่ ฉันเห็นว่าตระกูลหลินไม่มีคนมีฝีมือ ฉันจึงติดต่อคนมีฝีมือไปช่วยนาย”
หลินเจิ้งหนานดีใจจนแทบกระโดด การที่ได้รับความช่วยเหลือจากจางเต๋ออู่ เปรียบเสมือนได้พรจากสวรรค์
“ดีมากเลยครับ ดีจริงๆ ผมกำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะทำยังไง คิดไม่ถึงว่าราชินีของสำนักหลงเหมินจะเป็นห่วงตระกูลหลินของเรา ตระกูลของเราจะภักดีต่อราชินีของสำนักหลงเหมินตลอดไป”
“เหอะๆ”
จางเต๋ออู่หัวเราะอย่างเย็นชา เขาพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คนของฉันจะไปแนะนำการเคลื่อนไหวให้พวกนาย หน่วยสืบราชการลับจะช่วยเหลือพวกนายบางส่วน ฉันหวังว่าจะได้เห็นหลี่โม่เป็นศพ”
“คุณวางใจได้เลย ได้รับการสนับสนุนจากคุณ พวกเราจะทำเต็มที่ หลี่โม่อยู่ได้อีกไม่นานหรอกครับ!”
หลินเจิ้งหนานรู้สึกฮึกเหิม ถ้าจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ไม่เพียงแต่จะล้างแค้นได้ ไม่แน่อาจได้รับคำชมจากราชินีของสำนักหลงเหมินอีกด้วย อาจมีโอกาสทำให้ตระกูลหลินแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
“อืม ฉันจะรอฟังข่าวดีจากพวกนาย พวกเขากำลังจะไปหานาย”
จางเต๋ออู่วางสายและมองไปยังผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ผีรอง นายไปแนะนำการเคลื่อนไหวให้หลินเจิ้งหนาน หน่วยสืบราชการลับ จัดทีมให้นายห้าทีม ถ้าให้ดีติดต่อศิษย์พี่ของพวกนายให้มาช่วย ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้ผีใหญ่ด้วย”
“ครับ! ผมจะจัดการหลี่โม่ให้เละ เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”
ในใจของผีรองเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อหลี่โม่ การตายของผีใหญ่ทำให้เหล่าผู้คุ้มกันเจ็บแค้นจนอยากฆ่าหลี่โม่เพื่อล้างแค้น