จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 467
ราชินีของสำนักหลงเหมินกลับมาถึงที่พัก เธอนั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จางเต๋ออู่คุกเข่าอยู่ข้างเท้าราชินีของสำนักหลงเหมินอย่างรู้ตัว เขาใช้สองมือจับเท้าราชินีของสำนักหลงเหมินและช่วยเธอถอดรองเท้า จากนั้นเขาจึงเริ่มนวดเท้าให้เธอ
“คุณอย่ากังวลเรื่องหลี่โม่เลย ถึงมันจะเก่งกาจอีกสักแค่ไหน แล้วยังไง เส้นทางสายนี้ ใช้ว่าคนที่เก่งกาจจะทำอะไรก็ได้” จางเต๋ออู่พูดให้ราชินีของสำนักหลงเหมินสบายใจ
ราชินีของสำนักหลงเหมินคลึงหน้าผาก ทุกครั้งที่คิดถึงหลี่โม่ เธอมักจะรู้สึกใจไม่ดี
“แต่พอคิดถึงมันฉันก็รู้สึกไม่ดี คงไม่เหมาะที่จะใช้พละกำลังของแปดราชาของสำนักหลงเหมินจัดการมัน อีกอย่างมันมีชื่อที่เป็นสายเลือดที่แท้จริงอยู่ ทางที่ดีต้องทำให้มันพิการ ฉันจะได้ปกครองสำนักหลงเหมินได้อย่างถูกต้อง”
จางเต๋ออู่เริ่มนวดช้าลง เขามองราชินีของสำนักหลงเหมินและพูดขึ้นว่า “คุณวางใจเถอะครับ ผมส่งคนไปช่วยหลินเจิ้งหนานแล้ว อีกไม่นานหลี่โม่ได้กลายเป็นคนพิการแน่นอนครับ”
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น เรียกหัวหน้าผู้คุ้มกันเข้ามา ฉันอยากถามความเห็นเขา เกี่ยวกับพละกำลังของหลี่โม่”
“ครับ”
จางเต๋ออู่หยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาพูดสองประโยค ไม่นานหัวหน้าผู้คุ้มกันที่มีร่างกายกำยำเดินก้มหัวเข้ามา
“คารวะราชินีของสำนักหลงเหมินครับ”
“อืม นายดูวิดีโอแล้วใช่ไหม คิดว่ายังไง”
หัวหน้าผู้คุ้มกันเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเรียบเรียงคำพูดอยู่พักหนึ่ง “ไม่สามารถเห็นขีดจำกัดความแข็งแกร่งของหลี่โม่จากการแข่ง เพราะฝ่ายตรงข้ามง่ายเกินไป นี่เป็นระดับที่บดขยี้อย่างสมบูรณ์แบบ แสดงให้เห็นว่าพละกำลังของหลี่โม่เหนือกว่าคู่ต่อสู้สองเท่า”
“ฉันไม่อยากฟังอะไรที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง” สีหน้าราชินีของสำนักหลงเหมินฉายแววไม่พอใจ
หัวหน้าผู้คุ้มกันรีบโค้งคำนับ “ผมดูข้อมูลของนู่หลั่งแล้ว พละกำลังของนู่หลั่งนับได้ว่าอยู่ในระดับกลางของผู้คุ้มกันสำนักหลงเหมิน ถึงกระนั้นแม้แต่ตัวผมเองก็ไม่สามารถต่อกรกับผู้คุ้มกันระดับกลางในสำนักหลงเหมินได้ง่ายดายเหมือนหลี่โม่”
สีหน้าราชินีของสำนักหลงเหมินเคร่งขรึมขึ้น เธอรู้สึกใจไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ
“นายหมายความว่าหลี่โม่แข็งแกร่งกว่านายมากใช่ไหม”
“เขาแข็งแกร่งกว่าผม แต่ถ้าสู้กันอย่างจริงจัง ตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ”
หัวหน้าผู้คุ้มกันคิดว่าถ้าสู้กันอย่างจริงจัง ตัวเขาอาจมีโอกาสชนะหลี่โม่ อย่างน้อยก็น่าจะสูสีกันทั้งสองฝ่าย
“เลื่อนระดับการรักษาความปลอดภัยของฉัน ฉันต้องการระดับความปลอดภัยที่เข้มงวด!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดอย่างจริงจัง
“รับทราบครับ! ผมจะใช้แผนการรักษาความปลอดภัยระดับเข้มงวด”
ราชินีของสำนักหลงเหมินโบกมือไปมาอย่างอ่อนแรง หัวหน้าผู้คุ้มกันเดินออกไปอย่างเป็นงาน
จางเต๋ออู่พูดขึ้นเบาๆ ว่า “คุณอย่าใส่ใจหลี่โม่มาก ผมจะติดต่อคนมีฝีมือให้มากขึ้น มันต้านทานไม่ไหวแน่นอน”
“การวิจัยและพัฒนายาเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นยังไงบ้าง”
ราชินีของสำนักหลงเหมินถามขึ้นอย่างไร้เหตุผล
จางเต๋ออู่อึ้งไป จากนั้นเขาตั้งสติและพูดออกมาว่า “ยาเพิ่มความแข็งแกร่งยังไม่ค่อยเข้าที่ครับ มีเงื่อนไขต่อร่างกายของผู้ใช้เป็นอย่างมาก ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติทางด้านร่างกายสูงมากถึงจะต้านทานฤทธิ์ยาเพิ่มความแข็งแกร่งได้”
“แต่คนที่สามารถต้านทานฤทธิ์ยาเพิ่มความแข็งแกร่งได้ อย่างน้อยสามารถเพิ่มพละกำลังให้สูงเป็นสองเท่า ยิ่งร่างกายดีเท่าไร ก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้มากขึ้นเท่านั้น ระยะเวลานานที่สุดคืออยู่ได้ครึ่งชั่วโมงครับ”
“แต่ผลข้างเคียงหลังใช้รุนแรงมาก กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหดลีบ ตอนนี้จึงอยู่ในระยะทดลองครับ”
จางเต๋ออู่แนะนำอย่างละเอียด หลังจากราชินีของสำนักหลงเหมินได้ยินก็หลับตาครุ่นคิด
“รอดูการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ของหลี่โม่ ถ้าหลี่โม่เข้ารอบชิงชนะเลิศ เอายาเพิ่มความแข็งแกร่งออกมาชุดหนึ่ง ไว้ใช้กับคู่ต่อสู้รอบชิงชนะเลิศของหลี่โม่ เป็นทางเลือกที่ดีถ้ามันสามารถตายคาเวทีมวยได้”
ตอนนี้ราชินีของสำนักหลงเหมินหวาดกลัวหลี่โม่มาก เธอคิดว่าหลี่โม่หลบอยู่ในเมืองฮ่านเพราะกำลังสะสมพละกำลัง ถ้ารอให้เขากลับมาเคลื่อนไหวในสำนักหลงเหมิน วันนั้นคงเป็นวันซวยของเธอ
แม้ช่วงนี้ราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินจะใกล้ชิดกับเธอ แต่ราชินีของสำนักหลงเหมินรู้ดี แค่หลี่โม่แสดงพละกำลังออกมา ราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินจะต้องเอนเอียงไปหาหลี่โม่แน่นอน
ตอนนี้หลี่โม่กำลังเป็นต้นอ่อนที่กำลังเจริญเติบโต จำเป็นต้องหยุดการเจริญเติบโตของมันเอาไว้
จางเต๋ออู่ตบเข่าฉาด แววตาของเขาเป็นประกาย “ใช่เลยครับ! ราชินีของสำนักหลงเหมินฉลาดยิ่งนัก แค่ใช้ยากับพวกนักแข่งมวยดำที่มีร่างกายกำยำเหมือนสัตว์ป่า พละกำลังของพวกมันต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของพวกมันจะต้องต้านทานฤทธิ์ยาเพิ่มความแข็งแกร่งได้แน่นอน”
“อืม งั้นนายจัดการเรื่องนี้ด้วย พรุ่งนี้นายต้องจำให้ดี”
“รับทราบครับ คุณรอดูเรื่องสนุกได้เลย ไม่ว่าจะทำยังไง หลี่โม่ต้องตายแน่นอน”
จางเต๋ออู่ยิ้มอย่างตื่นเต้น เขาคิดไปถึงตอนที่ใช้ยาเพิ่มความแข็งแกร่งกับคู่ต่อสู้ของหลี่โม่แล้ว
ฉู่จงเทียนนั่งรออยู่ในสนามมวยอย่างเงียบๆ
เขาส่งลูกน้องไปจัดการพวกต่างถิ่นที่มาก่อกวนสถานที่ก่อสร้างแล้ว ผลก็คือยังต้องรอรายงานจากลูกน้อง
เขาค่อยๆ คิดไปถึงตอนซ้อม นู่หลั่งที่แข็งแกร่งเหมือนสัตว์ป่าไม่ระคายมือหลี่โม่แม้แต่น้อย ถ้างั้นหลี่โม่แข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ
ถึงแม้จะฝึกวิชาการต่อสู้มาก็ไม่น่าจะเก่งขนาดนี้
ไม่สิ หลี่โม่ต้องฝึกการต่อสู้อย่างแท้จริงมาแน่นอน การต่อสู้ที่ใช้ฆ่าคน มีระเบียบแบบแผนและจังหวะการหายใจ อาจจะถึงขั้นที่เป็นกำลังภายในเลยก็ได้
ไม่รู้ว่าหลี่โม่ฝึกวิชาอะไร พละกำลังของเขาถึงอยู่ในระดับสูง ไม่แน่อาจตามมาด้วยพละกำลังภายในอะไรทำนองนั้นด้วย
ขณะที่ฉู่จงเทียนกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น
หลังจากที่รับสาย เสียงของลูกน้องดังออกมา “ท่านเทียน จัดการเรียบร้อยแล้วครับ พวกมันแค่แก๊งหลอกลวงเท่านั้น เมื่อก่อนพวกมันอยู่กับซินแสคนหนึ่ง ซินแสคนนั้นพ่ายแพ้คามือหลี่โม่ พวกมันเลยรวมตัวกันมาแก้แค้น และใช้โอกาสนี้ข่มขู่เอาทรัพย์สิน”
“อ๋อ”
ฉู่จงเทียนตอบรับ เขารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
เรื่องแก้แค้นอะไรทำนองนี้ ฉู่จงเทียนได้ยินได้เห็นมาเยอะแล้ว โดยทั่วไปพวกที่กล้ามาแก้แค้น มักจะมีคนคอยหนุนหลัง ไม่มีทางที่จะโดนกำราบง่ายๆ
น่าจะมีเรื่องอื่นแน่นอน บางทีพวกมันแค่ตัวเปิดเท่านั้น
ฉู่จงเทียนวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาครุ่นคิดมาครู่ใหญ่ เขาคิดว่าควรจะให้หลี่โม่ตรวจสอบคนพวกนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกน้องของตัวเองมีจุดบกพร่องและจัดการเรื่องได้ไม่ดี ถ้ามีอุปสรรคขึ้นมาจะวุ่นวาย
“คุมตัวพวกต่างถิ่นไปขังไว้ที่ฟาร์มป่าในหุบเขา จับตาดูให้ดี ฉันจะบอกให้คุณหลี่โม่ไปสอบถาม พวกนายต้องให้ความร่วมมือกับคุณหลี่อย่างเต็มที่”
“รับทราบครับ พวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ งั้นผมพาพวกมันไปฟาร์มป่านะครับ”
“ไปเถอะ”
ฉู่จงเทียนวางสาย จากนั้นจึงโทรหาหลี่โม่
“คุณหลี่ครับ พวกที่ก่อความวุ่นวายโดนจับแล้ว แต่ผมคิดว่าพวกมันเป็นแค่ตัวเปิด ผมให้คนพาพวกมันไปขังไว้ที่ฟาร์มป่า คุณจะไปสอบถามพวกมันไหมครับ”