จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 471
“ใครใช้ให้พวกแกมา นอกจากให้พวกแกก่อกวนที่ก่อสร้าง มันยังให้แกทำอะไรอีก บอกแผนที่แกรู้มาให้หมด”
หลี่โม่จ้องซ่างเปียวแล้วถามขึ้น
ซ่างเปียวฝืนยิ้ม “เดิมทีพวกเราอยู่กับซินแสจาง เขาพ่ายแพ้ให้แกไม่ใช่เหรอ ดังนั้นท่านหลงจึงออกโรงพาพวกเรามาล้างแค้นแก”
“ท่านหลงบอกให้ฉันสร้างเรื่องล่อแกออกมา ส่วนจะมีแผนการอะไรต่อจากนี้ ฉันไม่รู้ คำสั่งที่ได้รับตอนนี้คือก่อกวนไม่ให้พวกแกทำงานได้ตามปกติ”
หลี่โม่คาดเดาไว้แล้วว่าซ่างเปียวไม่รู้เนื้อหาสำคัญ นี่มันก็แค่ตัวล่อที่ไม่รู้แผนการที่แท้จริง
“ท่านหลงคือใคร ตอนนี้อยู่ไหน”
“ท่านหลงชื่อว่าหลงหานกวาง เป็นคนที่อยู่ในสำนักซินแส เรียกได้ว่าพอจะเป็นอาจารย์ของซินแสจาง แต่ได้ยินว่าในสำนักซินแส เขาก็แค่คนธรรมดาเท่านั้น แต่สำหรับพวกเรา เขาเหมือนเทพเซียน พละกำลังของเขาพวกเราเทียบไม่ติดเลย”
“ท่านหลงได้รับโทรศัพท์ระหว่างทาง เขาบอกว่าเพื่อนเก่าในเมืองฮ่านนัดเจอ ดังนั้นท่านหลงจึงแยกกับฉันระหว่างทาง ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน”
ซ่างเปียวพูดออกมาทั้งหมด ในเมื่อยอมแพ้ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้ออกมาสิถึงจะถูกต้อง
อากวางเข้ามาพูดว่า “คุณหลี่ ให้มันบอกลักษณะของท่านหลงสิครับ ผมจะให้ลูกน้องส่งข่าวออกไป น่าจะเจอเขาโดยเร็วเพราะหูตาของเรามีอยู่ทั่วเมืองฮ่าน”
ซ่างเปียวไม่รอให้หลี่โม่ถาม เขาเอ่ยขึ้นว่า “ท่านหลงสวมชุดคลุมแบบนักพรตเต๋า เขาดูเหมือนคนที่ละทางโลก เหมือนเซียนจริงๆ เขาสูงประมาณ 175 เซนติเมตร รูปร่างผอมและไว้หนวดเครายาว”
อากวางจดจำลักษณะที่ซ่างเปียวพูดออกมาอย่างเงียบๆ เขาพอจะเดาลักษณะของหลงหานกวางขึ้นมาในหัวได้แล้ว
“คุณหลี่ ผมจะสั่งลูกน้องให้พวกมันส่งข่าวออกไป”
หลี่โม่พยักหน้าอนุญาตให้อากวางทำเช่นนั้น เพราะมันเป็นหนทางหนึ่ง ถึงหลี่โม่จะคิดว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าก็เถอะ
“ยังมีอะไรจะถามอีกไหม ถ้าไม่มีก็ปล่อยพวกเรา พวกเราจะออกจากที่นี่ ชีวิตนี้จะไม่เหยียบมาที่เมืองฮ่านแม้แต่ครึ่งก้าว”
ซ่างเปียวกลัวหลี่โม่จริงๆ เขาคิดเพียงแค่ว่าต้องรีบออกจากที่นี่
หลี่โม่หัวเราะแล้วยกเท้าออกจากมือขวาของซ่างเปียว เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “โอเค แกให้ความร่วมมือดีมาก ฉันไม่กลืนคำพูดตัวเองแน่นอน อากวางพาเขาไปปล่อยลูกน้องออกมา และให้พวกเขารีบออกจากเมืองฮ่าน”
“ครับคุณหลี่”
อากวางตอบรับอย่างนอบน้อม จากนั้นจึงลากซ่างเปียวขึ้นจากพื้นและลากห้องไปข้างนอก เขาพาซ่างเปียวไปปล่อยพวกลูกน้องของมัน
คางเหวินซิงคิดว่าหลี่โม่พูดดีเกินไป ถ้าเป็นฉากในละคร เมื่อได้คำตอบก็ต้องทำลายอีกฝ่ายไม่ใช่หรือไง!
“อาจารย์จะปล่อยเขาไปจริงๆ เหรอ ไม่ได้ให้คนคอยซุ่มอยู่ข้างนอกใช่ไหม พอพวกซ่างเปียวถูกปล่อยออกมา ก็จะซุ่มยิงพวกเขา”
“นายดูหนังเยอะเกินไปแล้ว คำสัญญาของสุภาพบุรุษน่ะเคยได้ยินไหม ฉันบอกว่าจะปล่อยก็ต้องปล่อย ฉันไม่ซุ่มยิงอะไรทั้งนั้น”
หลี่โม่กลอกตามองบนแล้วเอ่ยขึ้น
คางเหวินซิงหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
กู้ชิงหลินดึงเฉินเสี่ยวถงเข้ามาหาหลี่โม่ เธอเหมือนเด็กประถมที่มาฟ้อง “เมื่อกี้เธอมองอย่างเพลิดเพลิน ไม่กลัวสักนิด เมื่อกี้เธออ้างว่ากลัวแล้วกอดนาย แสร้งทำเท่านั้น เธอกำลังยั่วนาย”
“ใครแกล้งทำ ฉันแค่พยายามเข้มแข็ง เพราะไม่อยากรบกวนพี่หลี่โม่ทำงานใหญ่”
เฉินเสี่ยวถงพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ
“หยุด!”
หลี่โม่ห้ามทั้งสองคนที่กำลังตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าให้พวกเธอทะเลาะกันต่อไปแบบนี้ ต่อไปหลี่โม่คงไม่ต้องทำอะไรแล้ว เอาแต่ดูพวกเธอทะเลาะกันก็พอ
“ถ้าต่อไปพวกเธอจะเถียงกัน ไปเถียงกันในที่ที่ฉันไม่อยู่ ตอนฉันอยู่ ฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินพวกเธอทะเลาะกันอีก ถ้าใครกล้าทะเลาะกัน ฉันจะส่งกลับ”
“ได้ ฉันฟังพี่หลี่โม่อยู่แล้ว”
เฉินเสี่ยวถงพูดและทำท่าเหมือนว่านอนสอนง่าย
กู้ชิงหลินจ้องเฉินเสี่ยวถง เธอกัดฟันด้วยความแค้น เธอแทบอยากจะฉีกหน้ากากของเฉินเสี่ยวถงออกมา ให้หลี่โม่ได้รู้ธาตุแท้ของเฉินเสี่ยวถง
เฉินเสี่ยวถงมองกู้ชิงหลินอย่างได้ใจ เธอแลบลิ้นปลิ้นตาใส่กู้ชิงหลิน “แบร่ๆๆๆ”
“แบร่ๆ อะไรของเธอ! ฉันจะฉีกปากเธอให้ขาดเลย!”
กู้ชิงหลินโมโหจนควันจะพุ่งออกทางหัว
เฉินเสี่ยวถงรีบหลบหลังหลี่โม่ เธอดึงชายเสื้อข้างหลังของหลี่โม่แล้วพูดว่า “พี่หลี่โม่ต้องปกป้องฉันนะ นังนี่มันบ้าไปแล้ว มันไม่ปฏิบัติตามกฎที่พี่กำหนดไว้สักนิด”
หลี่โม่ยื่นมือออกมาขวางกู้ชิงหลิน เขาพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “อย่าวุ่นวาย”
“หึ! ทำไมนายต้องปกป้องนังแม่มดขนาดนั้น! ฉันจะกลับไปบอกหยุนหลัน ดูสิว่านายจะอธิบายยังไง!”
กู้ชิงหลินใช้ไพ่ไม้ตายออกมา เธอเอากู้ชิงหลินมาขู่หลี่โม่
หลี่โม่กุมขมับ เขาตัดสินใจเลยว่าจะไม่พาผู้หญิงพวกนี้ออกมาอีก พวกเธอน่ารำคาญจริงๆ
“ฉันจะอธิบายกับหยุนหลันเอง เธออย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องก่อนหน้านี้ ถือว่าใจดีกับเธอมากแล้วนะ”
กู้ชิงหลินชะงักไป เธอก้มหน้าลง
หลี่โม่พูดถึงเรื่องเมื่อก่อน ก็เหมือนยื่นมือมาบีบคอกู้ชิงหลิน จนทำให้เธอไม่มีทางเถียงได้
เฉินเสี่ยวถงแอบดูท่าทีเจ็บปวดของกู้ชิงหลินผ่านไหล่ของหลี่โม่ เธอแอบยกนิ้วให้หลี่โม่ในใจ
“อาจารย์ งั้นเราควรกลับกันเลยไหมครับ”
คางเหวินซิงช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้น หวังว่าจะสามารถผ่อนคลายบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนได้
หลี่โม่ส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบ ให้พวกซ่างเปียวออกไปก่อนแล้วเราค่อยกลับ”
คางเหวินซิงมองหลี่โม่อย่างไม่เข้าใจ เขารู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของหลี่โม่ ไหนบอกว่าไม่มีคนซุ่มอยู่ไง ทำไมต้องอยู่รอส่งพวกซ่างเปียวด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่าพอพวกเขาไป ยังจะมีความลับอะไรที่สุดยอดอีก
ขณะที่คางเหวินซิงกำลังคิด ซ่างเปียวพาพวกเดินออกมา อากวางพาคนมายืนรอที่ประตู เขาแนะนำให้ลูกน้องของซ่างเปียวออกไปอย่างเป็นระเบียบ
ซ่างเปียวหันมาพูดกับอากวางไม่กี่คำ จากนั้นจึงพาลูกน้องออกจากฟาร์มป่า
ซ่างเปียวกับพวกเดินออกไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร คางเหวินซิงเอียงคอถามหลี่โม่ “อาจารย์ คนพวกนี้มีดีอะไร อย่าบอกนะว่าส่งพวกเขาออกไป จะสามารถปลดล็อกรางวัลใหญ่ได้”
“ดูไปก็รู้เอง ฉันแค่มีความรู้สึกบางอย่างเท่านั้น แต่ความรู้สึกจะถูกต้องหรือไม่ ยังคงต้องรอการพิสูจน์”
หลี่โม่กอดอก มองพวกซ่างเปียวออกไป