จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 473
ขณะที่หัวหน้าทีมหนึ่งตะโกนขอกำลังเสริม ลูกกระสุนพุ่งมาที่กลางหน้าผากเขาหนึ่งนัด
หัวหน้าทีมหนึ่งเบิกตาโพลงมองลูกกระสุนที่พุ่งเข้ามา ร่างของเขาล้มลงกับพื้นทันที
หลังจากที่หลี่โม่เปลี่ยนแม็กกระสุนเสร็จและยิงหัวหน้าทีมหนึ่ง เขาก็ยิงไปยังสมาชิกทีมหนึ่งที่เหลืออยู่สามคน สามคนนั้นกำลังล่าถอย
หลังจากเสียงปืนดังขึ้นสามครั้ง คนในทีมหนึ่งตายเกลี้ยง
อากวางมองหลี่โม่ยิงศัตรูตาย โดยใช้กระสุนครั้งละนัดเท่านั้น เขาตื่นเต้นจนเลือดในตัวพลุ่งพล่าน จู่ๆ เขาก็กลายเป็นแฟนคลับของหลี่โม่
“โอ้โห คุณหลี่เก่งสุดยอด ใช้ปืนกระบอกเดียวกำจัดทั้งทีม ทักษะปืนของเขาสุดยอดยิ่งกว่าเทพแห่งการยิงปืนเสียอีก!”
เฉินเสี่ยวถงยกยิ้มมุมปากอย่างงดงาม เธอคิดว่าตัวเองเลือกไม่ผิด หลี่โม่แข็งแกร่งแค่ไหน มันยิ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ
เพราะหลี่โม่แข็งแกร่ง เขาถึงจะสามารถปกป้องเธอได้ ทำให้เธอไม่ต้องหวนคิดถึงช่วงเวลาที่อกสั่นขวัญแขวนอีกแล้ว
“พี่หลี่โม่เก่งมาก เก่งกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้นิดหน่อย”
คางเหวินซิงฟังบทสนทนาของทั้งสองคน เขาสะกดกลั้นความกลัวและพูดออกมา “พวกคุณพูดอะไร อาจารย์ของผมเป็นยังไงบ้าง”
“รีบลุกมาดูสิไอ้ขี้ขลาด ถ้าไม่มาดูนายจะเสียใจไปทั้งชีวิต เหตุการณ์จริงน่าดูกว่าหนังฮอลลีวูดเป็นหมื่นเท่า”
เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างตื่นเต้น
คางเหวินซิงกอดคนที่สลบอย่างกู้ชิงหลินขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะเขาสงสัยว่าหลี่โม่เก่งแค่ไหนกันแน่
หลี่โม่หยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาพาดบ่าสองกระบอก เขาหาแม็กกระสุนในกระเป๋า
จากนั้นเขาจึงยกปืนที่อยู่ในมือซ้ายและมือขวา เขามองไปยังตำแหน่งของเสียงเท้า
ทีมสองกับทีมสามใกล้เข้ามา เมื่อเห็นหลี่โม่เก็บปืนไรเฟิล และยิงใส่หน่วยสืบราชการลับที่อยู่ข้างหน้า
การที่สามารถจัดการทีมทั้งทีมด้วยตัวคนเดียว เขาเป็นคนที่อันตรายมาก ดังนั้นหน่วยสืบราชการลับต่างคิดเอาไว้และไม่พูดอะไรมาก
ปังๆๆๆๆ
กระสุนพุ่งออกมาไม่หยุด หลี่โม่แสยะยิ้มและหลบไปด้านข้าง เมื่อกระสุนของหน่วยสืบราชการลับพุ่งมา เขาก็ไม่อยู่ตรงตำแหน่งเดิมแล้ว
เมื่อหน่วยสืบราชการลับรู้ว่ายิงไม่โดน และเตรียมจะปรับปืน หลี่โม่ยิงปืนไรเฟิลที่อยู่ในมือซ้ายและมือขวาเพื่อโจมตี
ปัง ปังๆ ปัง
เสียงปืนดังออกมาเป็นจังหวะ ไม่เหมือนหลี่โม่ใช้ปืนจู่โจม เหมือนเขาใช้เสียงปืนสร้างเป็นดนตรี
สมาชิกของหน่วยสืบราชการลับล้มลงหลังจากเสียงปืนดังขึ้น ราวกับต้นข้าวสาลีโดนเกี่ยวด้วยมีดเกี่ยวข้าว
ภาพการต่อสู้ในที่เกิดเหตุถูกส่งไปยังรถสั่งการ ผีรองทั้งโกรธและทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นหลี่โม่จัดการกับหน่วยสืบราชการลับได้อย่างง่ายดาย
น่าโมโห น่าโมโหจริงๆ !
คนสิบกว่าคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่ ถ้าเรื่องนี้แดงออกไป เขาคงขายหน้ามาก
หลงหานกวางรู้สึกเสียวสันหลัง เขาแอบเสียใจที่บุ่มบ่าม ครั้งนี้เหมือนเขาจะหาเรื่องศัตรูที่เก่งกาจเข้าให้แล้ว!
“ไอผีรอง ไหนนายว่าคนของอาจารย์นายจะมา พวกเขาอยู่ไหนล่ะ”
หลงหานกวางอดถามไม่ได้
“ยังอยู่ระหว่างทาง น่าจะอีกสักพัก ทำไมไอ้เวรหลี่โม่มันแข็งแกร่งขนาดนี้!”
ผีรองพูดอย่างเคียดแค้นและหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา “ฉันผีรอง หลินเจิ้งหนาน ให้คนของนายเข้าไปกดดัน ใช้อาวุธทั้งหมดกับหลี่โม่ มีอาวุธหนักอะไรใช้ให้หมด! ฆ่ามันให้ตาย ฆ่ามันให้ตาย!”
“รับทราบ ผมเตรียมบาซูก้าเอาไว้แล้ว กำลังเล็งอยู่ครับ”
หลินเจิ้งหนานตกใจความน่ากลัวของหลี่โม่ ไม่รอให้ผีรองออกคำสั่ง เขาจัดการให้ลูกน้องเอาอาวุธออกมาเตรียมไว้
กระสุนถูกบรรจุเข้าไปในบาซูก้าสองกระบอก หลังจากที่เล็งบาซูก้าไปที่หลี่โม่ เขาก็กดปุ่มยิงทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว
มีประกายไฟออกมาจากบาซูก้าสองครั้ง กระสุนถูกยิงออกไปยังทิศทางที่หลี่โม่อยู่
หลี่โม่ได้ยินเสียงผิดปกติจากไกลๆ จู่ๆ เขาก็วิ่งไปข้างหน้า ขณะที่กระสุนจะตกลงพื้นและระเบิด หลี่โม่หลบอยู่หลังกองไม้เรียบร้อยแล้ว
ท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดจำนวนมาก สามารถขัดขวางแรงกระแทกของกระสุนได้ แต่พวกหน่วยสืบราชการลับที่ได้รับบาดเจ็บถูกแรงระเบิดของกระสุนทั้งสองนัดจนถึงแก่ชีวิต
เมื่อเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมา คางเหวินซิงกอดกู้ชิงหลินเอาไว้แน่น โดยไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองเอาหน้าของกู้ชิงหลินซุกเข้าไปในหน้าอกของตัวเองจนแน่น
ความรู้สึกขาดอากาศหายใจทำให้กู้ชิงหลินฟื้นขึ้นมา เธอพยายามเอาตัวรอดโดยการกัดที่หน้าอกของคางเหวินซิง
“โอ๊ะ!”
คางเหวินซิงร้องออกมาและปล่อยมือ กู้ชิงหลินไม่ทันได้ตั้งตัวและล้มลงกับพื้น
“โอ๊ย! ไอ้เวร นี่แกอยากร่วมมือกับคนต่ำตมนั่นลอบฆ่าฉันหรือไง!”
กู้ชิงหลินสูดหายใจเฮือกใหญ่ แต่ไม่ลืมก่นด่าออกมา
คางเหวินซิงมองรอยฟันบนอกตัวเอง เขาทำท่าเหมือนจะร้องและพูดว่า “ขอโทษครับ เมื่อกี้ผมกลัวไปหน่อย เลยไม่ได้ทันสังเกตว่าคุณเป็นยังไง”
เฉินเสี่ยวถงกำหมัดและพูดว่า “พวกนายอย่าตะโกนสิ มีกลุ่มคนบุกเข้ามาอีกแล้ว คนกลุ่มนั้นโหดเหี้ยมมาก ถึงขนาดที่ใช้บาซูก้า พวกนายรีบหาวิธีติดต่อคนสิ ถึงพี่หลี่โม่จะเป็นซูเปอร์แมนก็รับมือการโจมตีของคนพวกนั้นไม่ได้หรอก”
อากวางตั้งสติได้ เขารีบหยิบมือถือขึ้นมา “ผมจะโทรหาท่านเทียน!”
เขาหาเบอร์ของฉู่จงเทียนและกดโทรออก อากวางพูดอย่างร้อนใจว่า “แย่แล้วครับท่านเทียน พวกเราโดนล้อมไว้ที่ฟาร์มป่า อีกฝ่ายคนเยอะ อีกทั้งยังมีบาซูก้าด้วย รีบส่งคนมาช่วยพวกเราด้วยนะครับ!”
ฉู่จงเทียนสบถอยู่ในใจหลายครั้ง เขาไม่เข้าใจ แค่การสอบสวนคนต่างถิ่นไม่กี่คน ทำไมเรื่องถึงใหญ่โตได้ขนาดนี้ ถึงกับมีบาซูก้าด้วย นี่ไม่ได้ถ่ายหนังอยู่ใช่ไหม
ฉู่จงเทียนสับสนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากโทรศัพท์ เขารู้ทันทีว่าไม่ใช่เรื่องโกหก
“ฉันเข้าใจแล้ว กำลังคิดหาวิธีให้พวกนายอยู่ ให้ตายยังไง นายก็ต้องปกป้องคุณหลี่!”
จู่ๆ อากวางก็พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้หลี่โม่ต่างหากที่กำลังปกป้องพวกเขา ถ้าไม่มีหลี่โม่ พวกเขาคงตายไปแปดร้อยรอบแล้ว
ฉู่จงเทียนรู้ว่าเป็นเรื่องด่วน เขาวางสายโดยไม่รอให้อากวางตอบกลับ หลังจากที่เขาลังเลสักครู่ จึงโทรหาหัวหน้าจาง
ฉู่จงเทียนรู้จักกับสายตรวจเยอะแยะ ฉู่จงเทียนรู้หมดว่าในเมืองฮ่าน ที่ไหนมีสายตรวจที่มีพละกำลังจริงๆ ในบรรดาคนที่แข็งแกร่งและมีความรับผิดชอบที่สุด จะขาดหัวหน้าจางไปไม่ได้
“ฮัลโหล หัวหน้าจาง พูดแบบรวบรัดเลยนะ คนของผมกับคุณหลี่โดนล้อมไว้ที่ฟาร์มป่า คนที่ล้อมพวกเขามีอาวุธหนัก พวกนั้นเริ่มโจมตีแล้ว ขอความกรุณาให้คุณลงมืออย่างทันท่วงทีด้วย ผดุงความยุติธรรมด้วย”
คำว่าผดุงความยุติธรรมออกมาจากปากฉู่จงเทียน ทำให้หัวหน้าจางรู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อได้ยินว่ามีหลี่โม่อยู่ด้วย หัวหน้าจางจึงรีบรับปากทันที