จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 485
คางหย่งอานต่อสายหาคางหย่งเฉียน พูดเสียงขรึม“หย่งเฉียน ได้ยินว่าแกกับเหวินซิงขัดใจกันเพราะคฤหาสน์บนยอดเขางั้นหรือ”
“พี่ใหญ่ ขัดใจกันจริง ศิษย์พี่เกิ่งโดนซ้อมขาหักอยู่นี่!ศิษย์พี่เกิ่งติดต่ออาจารย์โอหยางแล้ว เรื่องนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด!”
ในใจคางหย่งเฉียนโกรธคางเหวินซิง ถ้าไม่ใช่เพราะคางเหวินซิงพาหลี่โม่ไป ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก
แต่ว่าในเมื่อเรื่องมันเกิดแล้ว คางหย่งเฉียนก็ไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ได้แต่ระบายโทสะใส่หัวคางเหวินซิง
“หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงแกต้องรับประกันความปลอดภัยของเหวินซิง อาจารย์โอหยางจะลงมือกับเพื่อนของเหวินซิงพี่ไม่สนใจ แต่ห้ามทำร้ายเหวินซิงเป็นอันขาด!”
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ผมไม่กล้ารับประกัน ผมรับประกันได้ว่าลูกชายพี่ไม่ถึงชีวิตแน่นอน เอาเป็นว่าไม่ตายแล้วกัน ถ้าอาจารย์โอหยางจะลงโทษลูกชายพี่จริง ผมจะไปขวางยังไงไหว ผมไม่กล้าขวางหรอกนะ!”
คางหย่งอานขมวดคิ้วแน่น ถ้าตอนนี้คางหย่งเฉียนอยู่ตรงหน้าคางหย่งอานแล้วล่ะก็ คางหย่งอานคงจะตบฉาดลงไปบนใบหน้าแน่นอน
“หย่งเฉียน!แกเป็นอาของเหวินซิงนะ นี่คือคำพูดที่แกควรพูดงั้นหรือ”
“หึหึ ลูกชายสุดที่รักของพี่ไม่เคยเห็นหัวว่าผมเป็นอามันสักหน่อย และอาจารย์โอหยางเก่งกาจแค่ไหนพี่ก็ใช่ว่าไม่รู้ ตอนนี้ทำให้อาจารย์โอหยางโกรธแล้ว จองตัวเครื่องบินอีกสองวันก็กลับมา ทางที่ดีพี่ควรให้ลูกชายพี่มาขอขมาให้ศิษย์พี่เกิ่ง!”
คางหย่งเฉียนหัวเราะเย็นชาสองที พูดต่อ“ทางที่ดีให้หลานชายผมพาไอ้ฉิบหายสกุลหลี่นั่นไปด้วยนะ ถ้าหากว่าขอขมาดีๆ ส่งมอบคฤหาสน์ คนสกุลหลี่คนนั้นมอบสาวสวยข้างกายสองคนนั้นให้ ผมอาจจะขอให้อาจารย์โอหยางยกโทษให้ก็ได้ ไม่งั้น ผมก็ได้แต่หึหึ”
“ไอ้บ้าแก!”
คางหย่งอานโกรธจนอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง
บิดาฉันใดบุตรย่อมฉันนั้น คางหย่งอานย่อมรู้เงื่อนไขคางหย่งเฉียน และรู้ว่าคางเหวินซิงไม่ยอมรับแน่นอน
“ผมเป็นคนแบบนี้ ถ้าพี่ไม่สบายใจ ก็ตัดชื่อผมออกจากสกุลคางสิ ยังไงพี่ก็คิดว่าผมมันสร้างความขายหน้าอยู่แล้วนี่”
คางหย่งเฉียนพูดเสียงเย็น
คางหย่งอานรู้ว่านี่คือจังหวะการต่อรอง พูดต่อไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
“ตกลง งั้นแกก็ออกไปเสเพลข้างนอกเถอะ ถ้าเหวินซิงเป็นอะไรไป ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังมา คางหย่งเฉียนอดแค่นเสียงเย็นขึ้นไม่ได้
“ศิษย์พี่เกิ่ง เพื่อพี่ ผมทะเลาะกันจนแตกไปกับครอบครัวแล้ว ต่อไปพี่ต้องพูดถึงผมให้อาจารย์ฟังในทางที่ดีนะ”
ศิษย์พี่เกิ่งที่อยู่บนเตียง เอียงคอพูดกับคางหย่งเฉียน“ถ้าแกมีใจจริง งั้นก็ช่วยตรวจสอบหลี่โม่หน่อย พออาจารย์มา ต้องให้ตรวจสอบละเอียด”
“ศิษย์พี่เกิ่งวางใจเถอะ ผมกำลังติดต่อคนให้ไปตรวจสอบ คงจะตรวจออกมาได้สิบชั่วโคตรเลย”
ศิษย์พี่เกิ่งพยักหน้าเล็กน้อย แสดงให้รู้ว่าให้คางหย่งเฉียนรีบไปตรวจหาข้อมูลหลี่โม่
คางหย่งเฉียนออกจากห้องผู้ป่วย โทรศัพท์ออกไปทีละสาย ให้ตรวจหาข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับหลี่โม่
ไม่นานทุกฝ่ายก็รวบรวมข้อมูลหลี่โม่มาได้ สีหน้าแสดงความดูแคลน
“หึหึ ก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนหนึ่ง ยังจะต้องลำพองอะไรอีก ถ้าหากว่าคางเหวินซิงน้ำเข้าสมอง นับถือคนแบบนี้เป็นอาจารย์ คงต้องให้คางเหวินซิงดูข้อมูลให้ดีๆหน่อยแล้ว!”
คางหย่งเฉียนบ่นยกใหญ่ แล้วพลิกดูหน้าหลังๆ อ่านไปๆสีหน้าแสดงความดูแคลนก็พลอยหายไปด้วย ค่อยๆแปรเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าหนักอึ้ง
เมื่อเห็นข้อมูลที่เพื่อนส่งมาให้ และได้เห็นรูปการดวลปืนที่ฟาร์มป่า ขาทั้งสองของคางหย่งเฉียนก็สั่นขึ้น
“นี่เป็นเรื่องจริงหรือเนี่ย คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยสวะ หน้าใหญ่ใจโตได้ขนาดนี้เลยเหรอ มันจะเกินไปหน่อยละมั้ง!”
คางหย่งเฉียนเริ่มสงสัยในชีวิตมนุษย์ หลังจากที่บ่นไปสองสามคำ คางหย่งเฉียนก็เริ่มตระเวนโทรศัพท์หาเพื่อน สอบถามไปทีละคน
เมื่อได้รับการยืนยันเป็นที่แน่ใจ บอกว่าเป็นการดวลปืนที่หลี่โม่สร้างขึ้น คางหย่งเฉียนแทบไม่อยากคิด
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกสองวันโอวหยางจื้อจะมาถึง คางหย่งเฉียนคงจะออกห่างพวกศิษย์พี่เกิ่งแน่ๆ เรื่องที่หลี่โม่ก่อขึ้นนี่ช่างน่าตกใจเหลือเกิน
“ตกลง มันเป็นใครกันแน่วะ!จะต้องบอกเรื่องพวกนี้กับศิษย์พี่เกิ่งมั้ยเนี่ย”
คางหย่งเฉียนลังเลชั่วครู่ สุดท้ายเรื่องที่ฟาร์มป่าก็ถูกลบไป
ในความคิดคางหย่งเฉียน เรื่องคฤหาสน์ถ้าจะให้สืบสาว จะต้องพัวพันเข้าหาตัวแน่นอน ถ้าปล่อยให้ศิษย์พี่เกิ่งเห็นเอกสารพวกนี้ของหลี่โม่ เดี๋ยวจะยุ่งมาถึงตนเอง สู้ไม่ให้พวกเขารู้เรื่องไอ้สวะนี่เลยดีกว่า
หลังจากที่ลบข้อมูลฟาร์มป่าออก คางหย่งเฉียนจึงถอนหายใจ รู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
……
หลี่โม่เดินจูงมือกู้หยุนหลัน แล้วพาเฉินเสี่ยวถงกลับบ้าน
หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินนั่งคุยเล่นถึงเรื่องราคาบ้านอยู่บนโซฟา วันนี้ราคาพุ่งกระฉูด ทำให้หวังฟางที่กำลังคิดจะขยายบ้านให้ใหญ่ขึ้นปวดหัว
ทั้งๆที่หวังฟางมีโอกาสเปลี่ยนบ้านให้ใหญ่ขึ้นอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่หวังฟางไม่ได้ถนอมรักษาไว้ ตอนนี้อยากเปลี่ยนบ้านให้ใหญ่ขึ้น หวังฟางจึงได้แต่นั่งมองดูราคาแล้วถอนหายใจ
พอเห็นหลี่โม่กลับมา หวังฟางเดิมทีก็อารมณ์ขุ่นมัวอยู่แล้ว ยิ่งอารมณ์เสียไปใหญ่
บ้านอื่นมีลูกเขยที่มีความสามารถ ซื้อบ้านใหม่ให้แม่ยายอะไรแบบนี้ ลูกเขยบ้านตัวเอง หลี่โม่ก็ได้แต่เสเพลไปวันๆ
ก่อนหน้าหลี่โม่ยังรู้จักทำงานบ้าน ตอนนี้กำเริบเสิบสานไม่ทำอะไรทั้งสิ้น วันๆวิ่งออกไปไหนก็ไม่รู้
“พ่อ แม่ พวกเรากลับมาแล้ว”
หลี่โม่ทักทายสองสามีภรรยากู้เจี้ยนหมิน
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้า หวังฟางหน้าง้ำพูดขึ้น“ไปไหนกันมาห๊ะ หมู่นี้งานบ้านไม่ทำเลยนะ แข็งข้อเหรอแก”
“แม่คะ สองวันนี้หลี่โม่ทำธุระที่บริษัท แม่อยากให้หลี่โม่ก้าวหน้าหน่อยไม่ใช่หรือคะ วันๆให้เขาทำแต่งานบ้าน แล้วเขาจะก้าวหน้าได้ไง”
กู้หยุนหลันช่วยพูดกู้สถานการณ์
เฉินเสี่ยวถงนึกถึงคำสั่งของจางเต๋ออู่ ลูกตาจึงกลอกไปมา ยิ้มแล้วพูด“พี่หลี่โม่จะช่วยพี่หยุนหลัน วันๆฉันไม่มีอะไรทำ งานบ้านฉันทำให้เองค่ะ ฉันจะมากินฟรีอยู่ฟรีไม่ได้หรอก”
แค่รับผิดชอบทำงานบ้าน ก็จะหากุญแจลับนั้นได้ แค่ไม่รู้ว่ากุญแจหน้าตาเป็นอย่างไรแค่นี้เอง ปวดหัวจริ๊งง ถ้าหากุญแจลับได้ จะมอบให้จางเต๋ออู่โดยตรงไม่ได้ แบบนั้นจะโดนเขาควบคุม ต้องหาทางช่วยคนในบ้านให้ได้ก่อน!ไม่รู้ว่าพี่หลี่โม่จะช่วยคนในบ้านได้ไหม
ในตอนที่เฉินเสี่ยวถงกำลังครุ่นคิด หวังฟางก็ตบโซฟาดังป๊าบ“หลี่โม่แกดูเสี่ยงถง เป็นแขกอาศัยยังรู้จักช่วยทำงานบ้าน แล้วแกล่ะ!เพราะแกมันเป็นภาระของบ้าน ตอนนี้แค่จะเปลี่ยนบ้านให้ใหญ่ขึ้นก็ทำไม่ได้!”