จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 489
หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จ กู้หยุนหลันกับหลี่โม่ และเฉินเสี่ยวถงไปที่บริษัท
หลังจากจอดรถที่บริษัทแล้ว หลี่โม่พูดขึ้น“กู้หยุนหลันขึ้นไปก่อน ฉันจะไปเรียกเหวินซิง จะคุยกับพวกเขาเรื่องชีวิตคู่”
“ค่ะ คุยกับพวกเขาดีๆนะ”
กู้หยุนหลันยิ้มลงจากรถ ทิ้งให้หลี่โม่กับเฉินเสี่ยวถงอยู่ในรถ
เฉินเสี่ยวถงรู้สึกว่าคำพูดของหลี่โม่แปลกๆไป จึงพูดอย่างตื่นเต้น“พี่หลี่โม่ จะคุยอะไรกับฉันเหรอ จะทิ้งฉันเหรอ”
“เอ่อ จะว่าทิ้งได้ไงกัน เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เธอดูสิ เธอครอบครองเตียงฉันอยู่ทุกคืนๆ”
“ฮือๆๆๆ เค้านอนโซฟาก็ได้นี่ อย่าไล่ฉันไปเลยนะ อย่าให้ฉันไปอยู่กับคางเหวินซิงเลยนะ ฉันอยากอยู่กับพี่และพี่หยุนหลัน ทำงานบ้านให้ ทำอาหารให้ อุ่นเตียงให้ได้ด้วย”
เฉินเสี่ยงถงออดอ้อนอย่างน่ารักน่าสงสาร พยายามออกเรี่ยวออกแรง
หลี่โม่มองเฉินเสี่ยวถงอย่างหมดคำพูด กระแอมสองทีพูดขึ้น“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย ขอถามหน่อย เรื่องหยกมังกรบนโต๊ะเครื่องแป้งน่ะ”
“ห๊ะ เอ่อ……”
ในหัวของเฉินเสี่ยวถงว่างสนิท คิดไม่ถึงว่าหลี่โม่จะเห็นหยกมังกรของตนเอง
แล้วจะอธิบายยังไงล่ะเนี่ย พี่หลี่โม่จะเข้าใจผิดมั้ยเนี่ย
เฉินเสี่ยวถงพยายามหาคำอธิบายที่เหมาะสม แต่คิดยังไงก็คิดคำอธิบายที่เหมาะสมไม่ออก
“ทำไมไม่พูดล่ะ พูดความจริงมาก็สิ้นเรื่อง ถ้าแต่งเรื่องโกหกนะ จะให้คางเหวินซิงพาตัวไป”หลี่โม่พูดเสียงเรียบ
“อย่านะ บอกให้ก็ได้”
เฉินเสี่ยวถงมองไปที่หลี่โม่อย่างน่าสงสาร พูดอย่างลังเล“คือฉัน เอามาประดับตกแต่งเป็นของโบราณน่ะ”
“โกหก จะโกหกก็ให้มันเข้าทีหน่อยได้มั้ย”
หลี่โม่มองทะลุคำลวงของเฉินเสี่ยวถง
เฉินเสี่ยวถงร้อนใจจนตาแดงก่ำ น้ำตาเอ่อเบ้า
“ฉัน ถ้าฉันพูดความจริงไป พี่จะไม่ พี่จะไม่ไล่ฉันไปใช่ไหม แล้วต้องปกป้องฉันด้วยนะ”
“อืม ว่ามาสิ ขอแค่พูดความจริง ฉันไม่ไล่เธอแน่นอน”
หลี่โม่พอเดาเรื่องออกจากท่าทีของเฉินเสี่ยวถง
“จางเต๋ออู่ส่งฉันมา เขาให้ฉันมาหากุญแจลับที่พี่ แต่ฉันไม่ได้คิดช่วยเขา ก็เลยว่าจะอำสักหน่อย ยังไงพวกเขาก็ไม่รู้ว่ากุญแจลับหน้าตาเป็นไง ฉันก็เลยปลอมขึ้นมา”
“ตอนเช้าไปดูคฤหาสน์ยอดเขา ฉันมีเมนส์เลยไม่ได้ไป แต่จริงๆแล้วคางเหวินซิงขับรถพาฉันไปที่เมืองขายของโบราณซื้อหยกมังกรมา ใช้เงินไปห้าล้าน ฉันว่าจะเอามาโมเมเป็นของจริง อีกสองวันว่าจะบอกจางเต๋ออู่ว่านี่เป็นกุญแจลับ”
หลี่โม่หัวเราะส่ายหน้า“ดูเธอสิ บอกมาแต่แรกก็หมดเรื่อง ฉันก็ไม่ใช่เสือร้ายสักหน่อย เธอปิดบังแต่งเรื่อง สุดท้ายก็เป็นการทำร้ายตัวเอง”
“ห๊ะ?”
เฉินเสี่ยวถงมองหลี่โม่อย่างงุนงง รู้สึกว่าหลี่โม่มีนัยยะในคำพูด“ทำไมถึงเป็นการทำร้ายตัวเองล่ะ”
“ไม่พูดเรื่องอื่นอ่ะ พวกเธอใช้เงินห้าล้านซื้อของปลอมมา ถ้าของนั่นให้จางเต๋ออู่ไป เธอก็รอโดนจัดการได้เลย”
เฉินเสี่ยวถงเบิ่งตาโต กัดฟันกรอด เหมือนลูกบอลพองลมที่รอระเบิด ทั้งตัวอึดอัดขึ้นมา
“จะเป็นของปลอมไปได้ไง ตอนซื้อก็คิดดีแล้วนะ ยังบอกว่ามาจากสมัยราชวงศ์หมิงเลย”
“พวกเธอไม่รู้จักของโบราณยังกล้าซื้อ นับถือเลยจริงๆ”
หลี่โม่รู้สึกซูฮกในความกล้าของพวกเขาจริงๆ ไม่เกรงกลัวอะไรเลยทั้งสิ้น
เฉินเสี่ยวถงย่นจมูก เบ้ปากพูด“พี่หลี่โม่ พี่คงไม่คิดว่าฉันเป็นคนร้ายหรอกนะ ต่อไปคงไม่ทิ้งฉันหรอกนะ ฉันอยากอยู่ข้างพี่ รู้สึกว่าอยู่กับพี่แล้วปลอดภัย ถ้าจางเต๋ออู่ส่งคนมา ฉันไม่ช่วยพวกเขาแน่ เพราะฉันไม่ได้อยากทำร้ายพี่”
“เอาล่ะ เธอสบายใจเถอะ ไม่มีใครไล่เธอหรอก นอกจากเธอเต็มใจไปเอง ต่อไปถ้าจางเต๋ออู่ให้ทำอะไร เธอมาบอกฉัน ฉันช่วยผสมโรงก็หมดเรื่อง”
หลี่โม่อยากจะส่งข้อความผ่านเฉินเสี่ยวถงกลับไปหน่อย แบบนี้ก็จะหลอกล่อพวกจางเต๋ออู่ได้
เฉินเสี่ยวถงรีบพยักหน้า“เข้าใจเข้าใจ ต่อไปจะปรึกษากับพี่นะ ช่วงนี้จางเต๋ออู่บังคับให้ฉันหากุญแจลับทุกวัน แต่กุญแจลับหน้าตายังไงฉันยังไม่รู้เลย”
“กุญแจลับ หึหึ ฉันก็ไม่รู้ว่าหน้าตายังไง แต่ความคิดเธอไม่เลว เอาหยกมังกรราชวงศ์หมิงมา คิดว่าคงหลอกไปได้สักพัก”
หลี่โม่ลูบคาง รู้สึกว่าตามความคิดเฉินเสี่ยวถงแล้ว เอาหยกมังกรมาก่อน ถึงเวลาค่อยส่งหยกนี่ออกไปแทนกุญแจลับ
เฉินเสี่ยวถงคิดถึงหยกมังกรปลอมราคาห้าล้าน ก็รู้สึกอัดอั้นบอกไม่ถูก
“ฉันจะไปหาเถียนจินหมิง หลอกเงินฉันไปตั้งห้าล้าน เกินไปแล้ว คางเหวินซิงก็อีกคน ไม่รู้เรื่องก็ยังวางท่ารู้เรื่อง ฉันคิดว่าเขารู้เรื่อง”
“ต้องให้เขาชดใช้ พอดีตอนบ่ายไม่มีธุระ เรียกคางเหวินซิงไปเมืองขายของโบราณอีกรอบ”
หลี่โม่โทรศัพท์ คางเหวินซิงก็บึ่งรถมา
“อาจารย์ จะไปไหนครับ”คางเหวินซิงยิ้มถาม
“ไปเมืองขายของโบราณ”
“เอ่อ?เมืองขายของโบราณ?อาจารย์ชอบของโบราณขนาดนั้นเลยเหรอครับ วันนี้อาจารย์ชอบอะไรผมจ่ายเงินให้”
คางเหวินซิงพูดอย่างตื่นเต้น
โอกาสที่ได้ประจบหลี่โม่ไม่ได้มีบ่อยนัก ถ้ามีโอกาสต้องรีบคว้า
เฉินเสี่ยวถงจ้องคางเหวินซิงอย่างโมโห“นายมีโอกาสจ่ายเงินแน่ ของที่ซื้อเมื่อเช้าน่ะของปลอม พี่หลี่โม่กำลังจะไปซื้อหยกมังกร”
“ของปลอมเหรอ เป็นไปไม่ได้ ก็ดูเหมือนดีนี่”
คางเหวินซิงพูดกระอักกระอ่วน
“เป็นไง ก็บอกแล้วว่าคางเหวินซิงไม่รู้เรื่องของโบราณหรอก ถ้าไม่ใช่เขา ฉันก็คงไม่ซื้อของปลอมมาหรอก”
หลี่โม่โบกมือ แสดงให้คางเหวินซิงออกรถ คางเหวินซิงเหยียบคันเร่งแบบเซ็งๆ มุ่งหน้าไปทางเมืองขายของโบราณ
พอมาถึงเมืองขายของโบราณ คางเหวินซิงนำทางหลี่โม่อยู่ข้างหน้า ไม่นานก็มาถึงร้านของเถียนจินหมิง
“แหม สองท่านมาอีกแล้ว วันนี้พาเพื่อนมาด้วยเหรอ”
เถียนจินหมิงทักทายอย่างเป็นมิตร รู้สึกว่าธุรกิจใหญ่มาอีกแล้ว
คางเหวินซิงที่กำลังเซ็งจะเอ่ยปากพูดขึ้น หลี่โม่จึงดึงคางเหวินซิงไป ยิ้มให้แล้วพูด“ฉันเห็นหยกมังกรที่เหวินซิงซื้อไปไม่เลว อยากซื้ออีกชิ้นที่คล้ายๆกัน ยังมีอีกไหม”
คางเหวินซิงกับเฉินเสี่ยวถงมองหลี่โม่อย่างตกตะลึง เราไม่ได้มาคืนของหรอกเหรอ ทำไมหลี่โม่ถึงจะซื้อหยกมังกรอีกชิ้นล่ะ
เถียนจินหมิงดีใจจนลมจับ เขาไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของคางเหวินซิงกับเฉินเสี่ยงถง รู้สึกว่าวันนี้โชดดีมีชัยเหลือเกิน