จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 505
“ดูท่าความไม่มีสมองของพวกแกนี่เป็นกรรมพันธุ์นะ ฉันจะจัดการกับคนสกุลเกิ่ง จะคอยสั่งสอนพวกแกทีละคน คิดไม่ถึงว่าพวกแกจะไม่ซึมซับบทเรียน”
หลี่โม่วางท่าราวกับผู้ใหญ่อบรมเด็ก
“บ้าเอ๊ย!ไว้หน้าขนาดนั้น!ดูว่ากูจะจัดการกับมึงยังไง!”
ลูกศิษย์ร่างกำยำคนหนึ่งอดระเบิดโทสะออกมาไม่ได้ ราวกับลูกศรที่พุ่งออกมา กำปั้นฟาดเปรี้ยงไปที่ใบหน้าหลี่โม่
หลี่โม่อดหัวเราะไม่ได้“สู้กับแกไม่ต้องใช้แม้แต่หมัด แค่หัวแม่โป้งก็พอ”
“บ้าเอ๊ย!กูเคยฝึกวิชามานะว้อย!”
ลูกศิษย์ที่พุ่งเข้าไปหาหลี่โม่ ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่เพียงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เนื้อหนังก็ดูแน่นหนา ไม่เหมือนกับคนธรรมดา
วิชาระฆังทองคุ้มกาย เป็นหนึ่งในวิชาขึ้นชื่อแห่งตำนาน
ใช้สมุนไพรแช่กาย บวกกับอบตัว ทำให้ผิวกายมีชั้นผิวที่หนาแน่นขึ้น และสามารถยกระดับความสามารถในการโจมตี
ว่ากันว่าเมื่อฝึกวิชาจนถึงขั้นสุด มีดกับปืนก็จะฟันแทงไม่เข้า
ลูกศิษย์คนนี้ของโอวหยางจื้อ แม้ว่าจะไม่เคยฝึกปืนดาบ แต่ร่างกายก็แกร่งผิดมนุษย์มนา ร่างกายไม่สามารถเจ็บปวดได้ง่ายๆ
“พอฝึกวิชาถึงขั้นสุด ที่เจ็บก็คือตัวเอง เป็นการเข้าสำนักที่ผิดเปล่าๆ”
หลี่โม่พูดเสียงเรียบ ชูหัวแม่โป้งนิ้วมือขวาออกไป
เมื่อหัวแม่โป้งสัมผัสกับหม้อดิน
ตามที่ทุกคนคาดหัวแม่โป้งไม่ได้หัก หากแต่หัวแม่โป้งของหลี่โม่คมกริบราวกับคมมีดก็ไม่ปาน ทำให้กำปั้นแตกกระจาย แล้วทิ่มเข้าไปในกำปั้น
“โอ๊ย!กำปั้นของกู!”
ลูกศิษย์ที่ลงมือกับหลี่โม่หน้าเปลี่ยนสี หน้าผากเม็ดเหงื่อเม็ดโตผุดพราย
พวกคางหย่งเฉียนที่ดูใจเต้นเนื้อเต้นไปตามๆกัน ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในการฝึกวิชากลายมาบอบบางราวกับกระดาษ นิ้วหัวแม่โป้งของหลี่โม่ทำจากอะไร หรือว่าทำจากเหล็กไหลทองคำ
คางเหวินซิงโห่ร้องอย่างตื่นเต้น“อาจารย์สุดยอดไปเลยครับ!เห็นยังว่าเวลาอาจารย์โมโหขึ้นมาเป็นยังไง ตกใจมั้ยล่ะ พวกแกถามใจตัวเองดู ว่าตกใจหรือเปล่า!”
ตกใจ ตกใจจริงๆ
แต่ไม่มีใครยอมรับหรอก อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องที่ขายหน้า ไม่มีทางยอมรับแน่นอน
“อาจารย์!อย่าลังเลอีกเลย นี่นับว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต ความเคียดแค้นชิงชัง ถ้าไม่ฆ่าไอ้ชาติหมานี่ เราจะกู้หน้ากลับมาไม่ไ!”
“ขอให้อาจารย์ลงมือเถิด!เพื่อหน้าตาของเรา ไม่อย่างนั้นเรื่องราวเผยแพร่ออกไป พวกเรายังจะมีหน้าตาไปยืนอยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้ต่างประเทศได้อย่างไร!”
“ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่เรื่องของคนๆเดียว แต่เป็นเรื่องของคนในวงการศิลปะการต่อสู้นับร้อย แล้วเกี่ยวพันถึงเรื่องปากท้องพี่น้องทุกคน!เชิญอาจารย์ลงมือเถอะครับ!”
พวกลูกศิษย์เอะอะมะเทิ่งกัน ต่างก็รอคอยให้โอวหยางจื้อลงมือ
โอวหยางจื้อที่ในใจเดือดดาลเป็นทุน พอโดนพวกลูกศิษย์กระตุ้น สติก็ขาดผึงลงทันที
เขาตบโต๊ะเสียงดังเปรี้ยง เสียงโต๊ะดังผาง
จากนั้นโอวหยางจื้อลุกขึ้นพลัน ค่อยๆเดินไปทางหลี่โม่
“พ่อหนุ่ม แกออกจะบ้าบิ่นไปหน่อยนะ ตอนแรกข้าก็อยากจะคุยกับเอ็งดีๆ แต่เอ็งทำให้ข้าผิดหวัง ต่อให้เอ็งเก่งกาจแค่ไหนก็เหอะ แต่จะมารังแกคนแบบนี้ไม่ได้!”
“ช่างน่าขัน รังแกใครหน้าไหนมิทราบ ผมว่าผมไม่ต้องพูดมากทุกคนก็น่าจะรู้แก่ใจดี”
หลี่โม่ดูแคลนโอวหยางจื้ออยู่เต็มอก
โอวหยางจื้อหรี่ตา หากในใจทวีความเคียดแค้นชิงชัง
“ได้!ในเมื่อคุยกันดีๆไม่รู้เรื่อง งั้นมาประลองกันสักยก เชิญ!”
โอวหยางจื้อวางท่า ตั้งท่าราวกับพยัคฆ์ลงเขา จ้องเขม็งไปที่หลี่โม่
หลี่โม่ยืนสบายๆ ไม่มีท่าอะไรทั้งสิ้น พูดอย่างสบายอารมณ์“งั้นก็มาสิ”
“กล้าดีนี่!อย่าหาว่าใหญ่รังแกเล็กแล้วกัน เตรียมรับล่ะ!”
โอวหยางจื้อแกว่งร่าง แล้วไปโผล่อยู่ข้างซ้ายของหลี่โม่ แกว่งกำปั้นชกเข้าไป
กระบวนท่านี้เพียงแค่ทดลอง หลี่โม่ก็มองออกว่าโอวหยางจื้อแค่ทดลองดู ก็เลยเพียงแค่ปัดผมตัวเองเบาๆ
ส่วนโอวหยางจื้อพอเห็นหลี่โม่ยกมือ จึงรีบเปลี่ยนท่าถอย
ฉากดูเหมือนหลี่โม่แค่ลูบหัวก็ทำให้โอวหยางจื้อตกใจจนถอยได้
“เอ๋ ถอยทำไมล่ะ ก็แค่ลูบผม ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”
หลี่โม่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
สีหน้าพวกคางหย่งเฉียนดูไม่น่ามองนัก เมื่อครู่โอวหยางจื้อก้าวถอย ทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้า
เดิมทีอาจารย์ควรเป็นฝ่ายลงมืออยู่แล้ว แล้วพวกเขาถึงเข้าไปตะลุมบอนหลี่โม่สมทบ
แต่สถานการณ์ตอนนี้ ไม่เหมือนที่วางเอาไว้ ไม่เหมือนกับที่พวกคางหย่งเฉียนคิด
โอวหยางจื้อสีหน้าแดงก่ำ กัดฟันกรอด เขาแทบอยากจะกัดหลี่โม่ให้ตาย
“ตอแหลดีนี่!จะดูว่าตอแหลไปได้อีกกี่น้ำ!”
โอวหยางจื้อด่าทอออกไป พลิกตัว ปล่อยหมัดออกไปอีกหมัด แขนแกว่งไกวกลางอากาศ
เห็นวิชาโอวหยางจื้อแล้ว พวกคางหย่งเฉียนอดกู่ร้องไม่ได้
“สวย หมัดนี้หมัดขึ้นชื่อของอาจารย์!”
“คราวนี้หลี่โม่เสร็จแน่ เจอหมัดหมัดลมหวลเข้าไป หนึ่งนาทีสามารถปล่อยเป็นร้อยหมัด!ดูว่ามันจะต้านยังไง”
“กระบวนท่าใต้หล้าอาศัยความไว ความเร็วของอาจารย์นี้สุดยอด!เป็นจอมยุทธ์เหนือจอมยุทธ์!”
พวกลูกศิษย์โอวหยางจื้อกู่ร้อง คางเหวินซิงเห็นหมัดโอวหยางจื้อเข้า พอได้ยินคำพูดลูกศิษย์โอวหยางจื้อ ก็กะเกณฑ์ใจไม่ถูก
“อาจารย์ ต้องระวังนะครับ”
คางเหวินซิงเตือนเบาๆ
“ระวังอะไรเล่า กับกระบวนท่าก๊อกแก๊กแบบนี้นี่นะ ต้องระวังอะไร แกดูให้ดีนะ คนที่ต้องระวังน่ะคือเขา”
หลี่โม่สัพยอกจบ แกว่งแขนเบาๆ พอเห็นหมัดของหลี่โม่ทะลุไป เสยคางโอวหยางจื้อเต็มที่
ผัวะ!
เสียงก้องกังวาน เงาหมัดหายไร้ร่องรอย
โอวหยางจื้อโดนหมัดนี้เข้าหมุนไปสามตลบแล้วหยุดลง
เขากุมหน้าที่ถูกหมัด โอวหยางจื้อมองหลี่โม่อย่างตะลึง
“แก แกทำได้ไง!”
“จะไปยากอะไรเล่า ก็แค่แกว่งหมัด แต่รอยมันเด่นชัดเอง ไม่รู้จริงๆว่าหัดมาได้ไง”
หลี่โม่ส่ายหน้าพูด
“ไอ้บ้า!สมควรตาย!แกดูถูกฉัน!”
โอวหยางจื้อที่โกธรจนตัวสั่นกระโดดเหยง เตะเข้าไปที่หน้าอกหลี่โม่
หลี่โม่จับจ้องโอวหยางจื้อเย็นชา มือขวาจับขาที่เตะโอวหยางจื้อไว้ จากนั้นก็เหมือนรถลม กระหน่ำหมัดลงไปที่โอวหยางจื้อ
พอหลี่โม่คลายมือ โอวหยางจื้อก็เหมือนระเบิด กระแทกตัวไปกับตู้ด้านหลัง