จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 511
จางเต๋ออู่ เปิดกล่องสีเงิน ขณะที่เปิดกล่องในวินาทีนั้น ควันหนาทึบสีขาวลอยขึ้นมา
จากนั้นก็มีเกล็ดน้ำแข็งส่องแสงสว่างเกาะบนพื้นผิวของกล่อง
ควันสีขาวนั้นก็คือไนโตรเจนเหลว ภายในกล่องก็คือยาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งต้องใช้ไนโตรเจนเหลวเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำเป็นพิเศษ
จางเต๋ออู่ ใส่ถุงมือหนาเป็นพิเศษ ล้วงเข้าไป หยิบขวดยาเล็ก ๆ ในกล่องออกมา
“ยาของพวกเราไม่จำเป็นต้องฉีด เพียงแค่รับประทานก็ได้แล้ว รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆไม่เลวทีเดียว”
“ฟังดูไม่เลวเลยนะ งั้นให้ผมลองชิมหน่อยสิ”
คางเฝยเอ่อ แลบลิ้นแพลบ ๆ เลียริมฝีปากเบา ๆ มองดูแล้วเหมือนกับคิงคองตัวโตสีดำ
จางเต๋ออู่ตรวจวัดอุณหภูมิบนขวดยานั้น
ขณะที่อุณหภูมิขึ้นถึงศูนย์องศา จางเต๋ออู่จึงเปิดขวดยา ส่งยาให้กับคางเฝยเอ่อ
คางเฝยเอ่อ รับขวดยานั้นแล้ว เงยหน้าขึ้น ยกขวดยาขึ้นมาดื่มลงท้องในทันที
“เสร็จแล้ว คุณสามารถนอนพักผ่อน ให้ยาค่อย ๆ ออกฤทธิ์ในร่างกาย รอจนถึงเวลาที่คุณจะลงสนาม ฤทธิ์ยาก็จะออกฤทธิ์ไปถึงจุดสูงสุดพอดี ในเวลานั้นไม่มีอะไรที่จะแข็งแกร่งไปกว่าคุณอีกแล้ว”
จางเต๋ออู่ พูดด้วยน้ำเสียงอวดดี
“โอเค”
คางเฝยเอ่อ พูดจบเอนตัวลงนอน หลับตาเพื่องีบหลับสักครู่
แคลตี้ มองดูจางเต๋ออู่แล้วพูดว่า: “ต้องให้พวกเรารออยู่ที่นี่หรือไม่?”
“ดีที่สุดควรรอสักครู่เถอะ ถ้าหากมีปัญหาอะไร ฉันจะได้แก้ไขได้ทันเวลา”
“Ok งั้นรอสักหน่อยก็ดี”
แคลตี้และจางเต๋ออู่นั่งลง ทั้งสองต่างก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเล่นฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงเวลาการแข่งขัน
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า วินาทีแล้ววินาทีเล่า เกมการต่อสู้ผ่านไปเกมแล้วเกมเล่า ในที่สุดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้เริ่มต้นขึ้น
จางเต๋ออู่ยื่นมือออกไป ผลักคางเฝยเอ่อที่กำลังหลับสนิท
คางเฝยเอ่อค่อย ๆ ลืมตา แววตาพร่ามัวเล็กน้อย: “อืม? การแข่งขันของผมเริ่มต้นแล้วใช่มั้ย?”
“ใช่ เชิญคุณนั่งลงก่อน เคลื่อนไหวให้ช้าลงสักหน่อย อย่าพยายามออกแรงนะ”
จางเต๋ออู่พูดเตือน
แววตาคางเฝยเอ่อ แสดงถึงความสงสัย จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงตามปกติ
เตียงนอนเดี่ยวทำจากเหล็ก มีเสียงดังเอี๊ยดในทันที ขณะที่คางเฝยเอ่อนั่งลง
เมื่อคางเฝยเอ่อใช้มือทั้งสองจับที่ขอบเตียง แผ่นเหล็กที่ขอบเตียงก็ยุบลง
สังเกตุเห็นมีบางอย่างผิดปกติ เดิมคางเฝยเอ่อคิดที่จะใช้แรงประคองตัวให้สมดุล แต่เพียงแค่ใช้แรงเล็กน้อยเตียงนอนเดี่ยวทำจากเหล็กทั้งหลัง ก็พังทลาย
คางเฝยเอ่อนั่งอยู่ในหลุมขนาดใหญ่บนพื้น มองจางเต๋ออู่ด้วยใบหน้าตกตะลึง
“โอ้พระเจ้า นี่ผมเป็นอะไร? ผมก็ไม่ได้ใช้แรงสักเท่าไรเลยนะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่เป็นฤทธิ์ยาเสริมความแข็งแกร่งของพวกเรา ตอนนี้คุณยังไม่คุ้นเคยกับการใช้พลัง คุณค่อย ๆ ใช้แรง
กำหมัดเพื่อสัมผัสถึงพละกำลังของตัวเองก่อน แล้วสัมผัสกำลังที่แขน จากนั้นค่อย ๆ ควบคุมกำลังหนักเบาของตัวเอง ฝึกฝนให้คุ้นเคย”
คางเฝยเอ่อทำตามคำแนะนำของจางเต๋ออู่ ค่อย ๆ ใช้พลังของตัวเองให้คุ้นเคย
แคลตี้มองดูอยู่ด้านข้างด้วยความตะลึงงัน ร้องอุทานด้วยความประหลาดใจไม่หยุด
“มหัศจรรย์จริง ๆ ยาเสริมความแข็งแกร่งของพวกคุณ เป็นสูตรยาที่ขโมยมาจากเทพเจ้าไหนเหรอ?”
“ฮ่า ฮ่า มีเทพเจ้าจริง ๆด้วยเหรอ? ฉันไม่เชื่อ ดังนั้นยาของพวกเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเทพเจ้าแน่นอน”
จางเต๋ออู่กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
แคลตี้ขมวดคิ้วและแบะปากอย่างเสียไม่ได้
เดิมทีคิดจะใช้คำพูดเหล่านี้ แต่จางเต๋ออู่เป็นคนที่ลื่นเป็นปลาไหล แคลตี้จึงพูดไม่ทันคำพูดของเขา
คางเฝยเอ่อค่อย ๆ ปรับพลังในร่างกายให้คุ้นเคย รู้สึกเหมือนตนเองได้ปลุกพลังฟ้าดินให้ตื่นขึ้น มีความมั่นใจที่จะระเบิดพลังออกมาในชั่วพริบตา
“Fuck! มันยอดเยี่ยมจริง ๆ รู้สึกถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ ผมยังไม่เคยมีมาก่อน พวกคุณคอยดูแล้วกัน ผมจะต้องทุบกะโหลกไอ้หลี่โม่ให้แตกละเอียด ให้เขารู้ว่าใครเป็นเจ้าสังเวียนการต่อสู้แห่งนี้!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นคอยดูศักยภาพของคุณ แต่ฉันเดิมพันว่าคุณจะชนะหลี่โม่ภายในสามหมัด อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” จางเต๋ออู่หัวเราะคำโต
“จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน ผมต้องไปขึ้นสังเวียนแล้วล่ะ!”
คางเฝยเอ่อเดินขึงขังออกไปข้างนอก ทุกย่างก้าวทำให้พื้นสั่นสะเทือน จนเกิดเป็นหลุมรูปรอยเท้าของเขา และเกิดรอยปริแตกคล้ายใยแมงมุมกระจายออกไป
……
ผู้ดำเนินรายการขึ้นบนเวทีประลอง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลังเร่าร้อน : “การประลองรอบชิงชนะเลิศที่ทุกคนต่างเฝ้ารอกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว คู่ต่อสู้ในการแข่งขันก็คือนักชกไวด์การ์ด หลี่โม่ และราชาดาวเด่นการแข่งมวยดำของพวกเรา คางเฝยเอ่อ!”
“อันดับแรกขอเชิญหลี่โม่ ขึ้นบนเวทีประลอง!”
หลังจากผู้ดำเนินรายการพูดจบ มองไปทางขึ้นเวทีประลองขวามือ ไม่นานนัก หลี่โม่ ค่อย ๆ ก้าวขึ้นบนเวที
“หลี่โม่ การแข่งขันครั้งก่อน คุณทำให้ผมประหลาดใจอย่างมาก พูดได้ว่าคุณคือม้ามืดที่โดดเด่นของเวทีประลองนี้ ตอนนี้คุณต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างคางเฝยเอ่อ ไม่ทราบว่าคุณมีความรู้สึกตื่นเต้นบ้างหรือไม่”
หลี่โม่พยักหน้ายิ้มและพูดว่า: “ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้น? ก็แค่การแข่งขันธรรมดาเท่านั้น ไม่นานก็จะจบแล้ว”
“ว้าว ทุกคนได้ยินแล้วใช่มั้ย? ม้ามืดของเรามีความมั่นใจมาก งั้นลำดับต่อไป ขอเชิญ คางเฝยเอ่อขึ้นบนเวที มาดูกันว่า ราชาดาวเด่นการแข่งมวยดำจะพูดว่าอย่างไร !”
ตุ่ง ตุ่ง ตุ่ง!
คางเฝยเอ่อก้าวเดินมาอย่างหนักหน่วง ขึ้นบนเวทีประลอง ทุกก้าวย่างส่งเสียงดังสนั่น ทุกก้าวย่างปรากฏหลุมลึกบนพื้น ทุกก้าวย่างของคางเฝยเอ่อ ทำให้ผู้ชมด้านล่างเวทีประลอง ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“โอ้พระเจ้า! คางเฝยเอ่อเป็นคนหรือเปล่า? พละกำลังมากมายขนาดนี้ยังทำได้เลย!”
“สมแล้วที่เป็นราชาดาวเด่นการแข่งมวยดำ การแสดงพลังอำนาจตอนขึ้นเวทีประลองของคางเฝยเอ่อ ฉันวางเดิมพันว่าเขาเป็นฝ่ายชนะห้าสิบล้านเหรียญ!”
“เดิมทียังหวังว่าหลี่โม่อาจจะพลิกล๊อค แต่มองดูแล้วคงเป็นไปไม่ได้ ยังไงเสียพนันฝั่งคางเฝยเอ่อจะแน่นอนกว่า”
หลังผู้ชมแต่ละคนตื่นเต้นประหลาดใจ ต่างก็เลือกเดิมพันฝ่ายคางเฝยเอ่อ ยังไงการปรากฏตัวในขณะที่ขึ้นเวทีประลองของคางเฝยเอ่อนั้น ดูมีพลังอำนาจเหนือกว่าจริง ๆ
คางเหวินซิง และเฉินเสี่ยวถง นั่งอยู่ตรงมุมด้านหนึ่ง ต่างก็อกสั่นขวัญแขวน หัวใจทั้งสองคนเต้นระทึก
การปรากฏตัวของคางเฝยเอ่อในขณะนั้น แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อคนอื่น ๆ ของหลี่โม่ทั้งหมดที่เคยเจอมา
“ชายหนุ่มคนนี้มองดูแล้วท่าทางจะเก่งกาจมาก กังวลใจแทนพี่หลี่โม่จริง ๆ”
“ไม่ต้องกังวล จะต้องเชื่อมั่นในตัวอาจารย์สิ!”
คางเหวินซิงพูดแล้วยกมือขึ้น เรียกพนักงานประจำสนามประลองเข้ามา
“ไม่ทราบท่านต้องการอะไร?”
พนักงานแย้มยิ้มพูด
“เดิมพัน ฝ่ายหลี่โม่ชนะ”
“เอ่อ?”
พนักงานประจำสนามตกใจเล็กน้อย เวลาผ่านมาตั้งนาน คนที่เดิมพันฝ่ายหลี่โม่ มีจำนวนน้อยมาก นับดูแล้วเดิมพันฝ่ายหลี่โม่ อย่างมากก็มีแค่สองถึงสามหมื่นเท่านั้น
“ตอนนี้ อัตราการต่อรองของหลี่โม่เป็น 1ต่อ16 ไม่ทราบว่าคุณต้องการเดิมพันเท่าไหร่?”
“สองพันล้าน “
คางเหวินซิงพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“เฮ้ย อะไรวะ”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุที่อยู่ด้านข้าง พูดขึ้น: “น้องชาย คุณกล้ามากนะ จะพนันฝ่ายเป็นรองไม่ต้องโหดขนาดนี้ก็ได้”