จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 523
เฉินเสี่ยวถงแลบลิ้นออกมา จากนั้นจึงจับแขนเสื้อของหลี่โม่แกว่งไปมาเบาๆ
“พี่หลี่โม่ พวกเราเป็นห่วงพี่ไง อีกอย่าง พวกเราออกไปตอนที่เสียงปืนหยุดลงแล้ว ฉันว่าแล้ว พี่เก่งจนสามารถเอาชนะพวกมันได้”
หลี่โม่จ้องเฉินเสี่ยวถงเขม็ง “ถ้าขืนยังดื้ออีก อย่าว่าฉันไม่พาเธอออกมาอีกก็แล้วกัน”
“แงๆๆ ต่อจากนี้ฉันจะเชื่อฟังพี่”
เฉินเสี่ยวถงทำเป็นออดอ้อน เธอเอาใบหน้าน่ารักของตัวเองถูไปมาบนแขนของหลี่โม่
คางเหวินซิงคิดในใจว่าเฉินเสี่ยวถงอ้อนเก่งจริงๆ ถ้าตัวเขาออดอ้อนแบบนี้ กลัวว่าจะ……
ไม่ใช่สิ ฉันเป็นผู้ชาย จะอ้อนใส่อาจารย์ได้ยังไงกัน!
จะมีความคิดแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
จำไว้ว่าตัวเองคือผู้ชายทั้งแท่ง!
คางเหวินซิงส่ายหัวอย่างแรง เพื่อสลัดความคิดแปลกประหลาดออกจากหัว
หลี่โม่จับทอมป์สันเดินออกไปข้างนอก คางเหวินซิงกับเฉินเสี่ยวถงเดินตามไปที่รถเบนซ์
“เหวินซิงนายมาขับรถ เสี่ยวถง เธอมานั่งข้างคนขับ”
หลี่โม่เอ่ยสั่งและเปิดประตูเบาะหลัง จากนั้นจึงยัดทอมป์สันเข้าไปในรถ
สีหน้าของทอมป์สันเต็มไปด้วยความหดหู่ เขามองหลี่โม่อย่างหวาดกลัว “นาย นายบอกว่าจะปล่อยฉันไม่ใช่เหรอ นี่จะพาฉันไปไหนอีก!”
“ฉันบอกว่าจะปล่อยตัวแก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“Fuck! อ๊าก!”
ทอมป์สันสบถออกมา ก็โดนหลี่โม่ตบหน้าอย่างแรง
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของทอมป์สัน เขาเพิ่งเข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองกลายเป็นนักโทษไปแล้ว
“นาย นายไม่ทำตามที่พูด! นายต้องปล่อยฉันตอนนี้”
“ลูกชายของไอ้ฉู่ยังโดนพวกแกจับอยู่ ถ้าตอนนี้ฉันปล่อยแก แต่ไอ้ฉู่ไม่ปล่อยแกแน่ คิดดูเอาเองแล้วกัน ถ้าแกอยากให้ฉันปล่อยแกตอนนี้จริงๆ ฉันจะทำให้แกสมหวัง”
ทอมป์สันสั่นไปทั้งตัว ความคิดไม่เข้าท่าที่อยู่ในหัวหายวับไปในทันที
ตอนนี้เขาเป็นคนมีอำนาจชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น แต่ฉันเองเนื้อบนเขียง ทำตัวตามสถานการณ์น่าจะดีกว่า
ทอมป์สันเงียบและหลับตาพิงเบาะ
คางเหวินซิงสตาร์ทรถและขับออกจากโกดังซ่อมบำรุง “อาจารย์ เราจะไปที่ไหนกันครับ”
หลี่โม่เกาหัว เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะขังทอมป์สันไว้ที่ไหนดี
“เข้าไปในเมืองก่อนละกัน”
“โอเคครับ”
รถเบนซ์เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน และมุ่งหน้าไปยังตัวเมือง
……
ผู้รับผิดชอบสนามบินพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาด้านหลังโกดังซ่อมบำรุง
เมื่อเห็นศพเต็มพื้น โดยเฉพาะศพที่เป็นชาวต่างชาติ ผู้รับผิดชอบสนามบินรู้สึกไม่ดีมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ผู้รับผิดชอบสนามบินรู้สึกหัวจะระเบิดออกมา นี่มันเรื่องใหญ่มาก!
ฉู่จงเทียนคาบบุหรี่และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก็อย่างที่นายเห็น ติดต่อหัวหน้าจาง ให้เขามาจัดการที่นี่ซะ”
“ฉัน ให้ฉันติดต่อเหรอ”
ผู้รับผิดชอบสนามบินขาสั่นไปหมด
“จะให้ฉันติดต่อหรือไง นายคือผู้รับผิดชอบสนามบิน คนโทรคือนายมันเหมาะสมที่สุดแล้ว แผนกซ่อมบำรุงได้เรื่องอะไรหรือยัง”
ผู้รับผิดชอบสนามบินหยิบมือถือออกมาด้วยสีหน้ากล้ำกลืน เขาพูดอย่างกลุ้มใจว่า “แผนกซ่อมบำรุงได้เรื่องแล้ว เป็นพนักงานซ่อมบำรุงที่ชื่อว่าหยางเซิน เขาขับรถซ่อมแซมไปตรวจสอบและซ่อมแซมเครื่องบินลำนั้น”
“ส่งรายละเอียดของพนักงานซ่อมบำรุงที่นั่นมาให้ฉัน”
“ได้ๆ”
ผู้รับผิดชอบสนามบินตอบตกลง จากนั้นจึงให้ลูกน้องที่เป็นหัวหน้าแผนกซ่อมบำรุง เอาข้อมูลของพนักงานซ่อมบำรุงที่ชื่อว่าหยางเซินส่งให้ฉู่จงเทียน
ฉู่จงเทียนดูข้อมูลของพนักงานซ่อมบำรุงในมือถือ
ประวัติของพนักงานซ่อมบำรุงที่ชื่อว่าหยางเซินไม่มีอะไรมาก หลังจากที่จบมัธยมสายอาชีพ ก็ทำงานที่สนามบินมาตลอด
“ปกติคนที่ชื่อหยางเซินสนิทกับใคร”
ฉู่จงเทียนขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
เขาไม่เห็นอะไรแปลกประหลาดจากประวัติ ฉู่จงเทียนจึงทำได้เพียงสอบถาม
ฉู่จงเทียนเข้าใจ การที่หลี่โม่ให้เขาจัดการให้เรียบร้อย ไม่ใช่แค่การจัดการศพพวกนี้ แต่คือการหาเบาะแสของพนักงานซ่อมบำรุงที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หัวหน้าแผนกซ่อมบำรุงเกาหัว “หยางเซินไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เขาไม่ค่อยสนิทกับใคร ชอบทำอะไรคนเดียว ขนาดทำงาน เขาก็ชอบทำคนเดียว”
“ส่วนใหญ่คนในแผนกของเราชอบแอบอู้งาน บางครั้งงานที่ควรจะช่วยกันทำ ก็โยนให้หยางเซินทำคนเดียว หยางเซินก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่บ่นสักคำ”
“พวกเราคิดว่าเขาเป็นคนแปลก แต่เมื่อเห็นเขาก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่บ่น ทุกคนเลยไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรและปล่อยให้เขาทำงานไปคนเดียว”
ฉู่จงเทียนเกาแก้ม คนที่ชอบทำอะไรคนเดียว มักจะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนใคร
“เขาพักอยู่ที่ไหน”
“เขาพักอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เขาเช่าบ้านส่วนตัว เดิมทีพวกเรามีคอนโดเดี่ยว แต่เป็นห้องที่พักได้สามคน หยางเซินไม่ชอบคนเยอะ เขาเลยย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้าน”
ฉู่จงเทียนเลิกคิ้วขึ้นและพูดกับหัวหน้าแผนกซ่อมบำรุง “พาฉันไปที่หมู่บ้านที่เขาอยู่”
หัวหน้าแผนกซ่อมบำรุงมีสีหน้าลำบากใจ “ผมไม่รู้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน ผมรู้แค่ว่าเขาพักอยู่ที่หมู่บ้านนั้น”
“รีบไปถามว่ามีใครรู้ไหม” ฉู่จงเทียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ได้ ผมจะไปถามให้”
หัวหน้าแผนกซ่อมบำรุงหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความไปในกลุ่ม แต่ข้อความที่ตอบกลับมาคือไม่มีใครรู้
“ไม่มีใครรู้เลย หมอนั่นไม่สุงสิงกับใครเลย ปกติเขาก็ไม่พูดกับใคร”
ฉู่จงเทียนถลึงตาใส่หัวหน้าแผนกซ่อมบำรุงอย่างไม่พอใจ จากนั้นจึงเดินไปหาผู้รับผิดชอบสนามบิน
“ติดต่อหัวหน้าจางหรือยัง”
“ติดต่อแล้วครับ หัวหน้าจางบอกว่าจะถึงภายในยี่สิบนาที”
“เอาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพวกนายมาให้ฉันใช้งานหน่อย ฉันจะพาพวกมันไปค้นหาหมู่บ้านที่หยางเซินพักอยู่ ถ้าหัวหน้าจางมาถึง นายบอกให้เขาไปที่หมู่บ้านนั่นด้วย บอกเขาว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับคุณหลี่”
ฉู่จงเทียนเอ่ยปากสั่ง
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นายพาคนตามท่านเทียนไปหาหยางเซิน ฟังคำสั่งของท่านเทียนด้วย!”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยักหน้าหงึกหงัก ความประจบสอพลอปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นจึงพูดกับฉู่จงเทียนว่า “ท่านเทียน เชิญทางนี้ครับ ตอนนี้ผมสามารถจัดหาคนได้ยี่สิบกว่าคน ทุกคนจะฟังคำสั่งของท่านเทียนครับ”
“ขึ้นรถ รีบไปที่หมู่บ้านที่หยางเซินพักอยู่ ปิดทางเข้าออกของหมู่บ้านให้หมด!”
“รับทราบครับ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดใส่วิทยุสื่อสาร เขาพูดสิ่งที่ฉู่จงเทียนสั่ง จากนั้นจึงพาฉู่จงเทียนเดินไปที่รถของทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
รถของทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเคลื่อนตัวออกจากสนามบิน และมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว