จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 527
ระหว่างทางคางเหวินซิงขับรถ พลางถามอย่างตื่นเต้น “อาจารย์ เมื่อกี้ผมได้รับข้อความจากธนาคาร สามสิบสองร้อยล้านเชียวนะครับ! นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้ความสามารถของตัวเองหาเงินมาได้เป็นร้อยล้าน!”
ถึงคางเหวินซิงจะเป็นลูกคนรวย แถมยังรับผิดชอบโครงการลงทุนในตระกูลมูลค่าหลายพันล้าน แต่นั่นเป็นเพียงการที่ตระกูลคางต้องการฝึกฝนเขา และส่งเขาไปจัดการ
พูดตรงๆ การที่คางเหวินซิงไปก็แค่เป็นสัญลักษณ์เท่านั้น ลูกน้องฝีมือดีได้จัดการไว้เรียบร้อยแล้ว คางเหวินซิงไม่ต้องทำอะไรมาก อย่างมากก็แค่เซ็นชื่อเท่านั้น
คางเหวินซิงเคยทำโครงการเล็กๆ แต่เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น เงินที่ได้แค่แปดถึงสิบล้านเท่านั้น
ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว เขาสามารถทำเงินได้ถึงสามสิบสองร้อยล้าน คางเหวินซิงจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
เฉินเสี่ยวถงแบะปากและพูดอย่างไม่พอใจว่า “นั่นได้มาจากความสามารถของนายเหรอ ถ้าไม่มีพี่หลี่โม่ นายจะทำอะไรได้ กลัวว่าจะแพ้จนหมดตัวมากกว่า”
คำพูดของเฉินเสี่ยวถง เหมือนน้ำเย็นที่ราดลงมาบนหัวคางเหวินซิง ทำให้ความตื่นเต้นเมื่อครู่ดับวูบลง
“เฉินเสี่ยวถง คุณพูดถูก เป็นเพราะอาจารย์ ผมถึงหาเงินได้เยอะขนาดนี้ เมื่อกี้ผมตื่นเต้นจนลืมตัว”
“นี่สิถึงจะถูก คนเราต้องรู้จักตัวเอง ไม่งั้นก็จะอวดดีได้ง่ายๆ”
เฉินเสี่ยวถงพูดจบ ก็กอดแขนของหลี่โม่
“ฉันพูดถูกไหมพี่หลี่โม่ เมื่อกี้คางเหวินซิงเหมือนจะอวดดีออกมา ฉันเลยกดวิญญาณความอวดดีของเขากลับไป”
เฉินเสี่ยวถงเชิดหน้าอย่างได้ใจ สีหน้าของเธอเหมือนอยากได้รับคำชม
หลี่โม่สะบัดแขนเบาๆ เขาอยากดึงแขนที่ถูกเฉินเสี่ยวถงกลับมา
เมื่อสังเกตเห็นเจตนาของหลี่โม่ เฉินเสี่ยวถงยิ่งใช้แรงกอดแขนของหลี่โม่ ขณะเดียวกันเธอทำแก้มป่องและมองหลี่โม่ด้วยท่าทางน่ารัก
“พี่หลี่โม่ ให้ฉันกอดหน่อยสิ ฉันขอสัมผัสความรู้สึกปลอดภัยสักหน่อย เดี๋ยวกลับไป ฉันก็ทำได้แค่มองแล้ว”
เฉินเสี่ยวถงใช้ความออดอ้อนที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา
หลี่โม่หมดคำจะพูด เขาทำได้เพียงกุมขมับ “นี่ ทำตัวปกติหน่อยได้ไหม เธอเป็นแบบนี้ ฉันจะไล่เธอออกไปจริงๆ นะ”
“แงๆๆๆ ฉันน่าสงสารจะตาย พี่จะไล่ฉันออกไปได้ยังไง ฉันซักผ้า ล้างจาน กล่อมนอน ได้หมดเลยนะ”
น้ำเสียงของเฉินเสี่ยวถงออดอ้อนเป็นอย่างมาก เหมือนกับตัวการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น
ถึงจะเป็นหลี่โม่ ก็ยังต้านทานไม่ไหว เขาหลับตาแล้วพูดว่า “เงียบหน่อย ฉันขอสงบจิตสงบใจหรือที่เขาเรียกว่าจิ้งจิ้ง”
“ทำไมต้องจิ้งจิ้ง จิ้งจิ้งคือใคร หรือจะให้ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นจิ้งจิ้ง พี่จะได้ต้องการฉัน”
เฉินเสี่ยวถงพูดจบก็ยิ้มอย่างซื่อๆ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเฉินเสี่ยวถงที่บ้าผู้ชาย หลี่โม่ไม่มีวิธีรับมือเลย ไม่ว่าจะใช้ไม้อ่อนหรือไม้แข็งกับเฉินเสี่ยวถง ก็ไม่ได้ผลเลย
คางเหวินซิงทำสมาธิ เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และตั้งใจขับรถต่อไป
ความเร็วของรถอยู่ในระดับที่พอดี ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าก็ขับกลับมาถึง
เมื่อเห็นอาคารใกล้เข้ามา เฉินเสี่ยวถงแอบถอนหายใจเบาๆ เธอปล่อยแขนของหลี่โม่อย่างอาลัยอาวรณ์
ใกล้ถึงหน้าบ้านแล้ว กอดแขนหลี่โม่ต่อไปจะดูไม่เหมาะสม ถ้ากู้หยุนหลันเข้าใจผิดขึ้นมา เป็นเรื่องแย่แน่
ในจิตสำนึกของเฉินเสี่ยวถง เธอไม่ต้องกลัวหลี่โม่ แต่เธอต้องกลัวกู้หยุนหลัน
“อาจารย์ จะจัดการเงินสามสิบสองร้อยล้านยังไงครับ”
คางเหวินซิงเห็นหลี่โม่จะลงรถ เขาจึงถามขึ้น
“นายอยากจัดสโมสรแข่งรถไม่ใช่หรือไง ใช้เงินนี่เป็นต้นทุนในการขับเคลื่อนสิ หยุนจงหลันกรุ๊ปยังมีพื้นที่ว่าง สามารถจัดสรรให้นายทำเป็นสถานที่แข่งได้”
หลี่โม่พูดลอยๆ
ตอนที่หลี่โม่เอาที่ดินมา เขาได้ทำการจัดการขอบเขตพื้นที่ ตอนนี้มีพื้นที่ว่างอีกเยอะ แบ่งให้คางเหวินซิง จะได้ลดค่าใช้จ่ายด้วย ไม่งั้นการซื้อที่ดินผืนหนึ่ง จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก
“ขอบคุณครับอาจารย์ ผมจะบริหารสโมสรอย่างดี เหมือนกับเป็นอาชีพของผมเลยครับ!” คางเหวินซิงพูดอย่างจริงจัง
หลี่โม่ยิ้มแล้วโบกมือไปมา เขาพาเฉินเสี่ยวถงเดินเข้าไปในอาคาร
เมื่อเข้ามาในบ้าน กู้หยุนหลันกำลังนั่งดูทีวีเป็นเพื่อนพ่อแม่ เมื่อเห็นหลี่โม่กลับมา รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ
“มานี่เลย นายสอนคางเหวินซิง เป็นยังไงบ้าง”
กู้หยุนหลันถามอย่างสงสัย
หลี่โม่เดินมานั่งข้างกู้หยุนหลัน “ก็โอเค คางเหวินซิงมีพื้นฐานอยู่ แต่ความสามารถของเขายังธรรมดา ผลงานของเขาในภายภาคหน้าค่อนข้างมีขีดจำกัด แต่ตอนนี้เขาเริ่มทำสโมสรแข่งรถ คงจะเป็นการสานฝันของเขา”
หวังฟางได้ยินก็จ้องหลี่โม่ “หลี่โม่ เกิดอะไรขึ้นกับหยุนจงหลันกรุ๊ป ทำไมนายถึงมีหน้ามีตาขนาดนั้น”
“ผมไม่ได้มีหน้ามีตา ผมแค่ดวงดี พอดีกับการที่หยุนจงหลันกรุ๊ปรับสมัครประธาน ผมเลยใช้โอกาสนี้แนะนำหยุนหลัน หยุนหลันมีความสามารถด้วย เธอเลยได้ตำแหน่งนี้มา”
หลี่โม่พูดด้วยท่าทีปกติ
หวังฟางมองหลี่โม่อย่างสงสัย เธอรู้สึกว่าหลี่โม่ในตอนนี้ ไม่เหมือนกับหลี่โม่ที่เธอรู้จัก
เขาคือคนไร้ประโยชน์นี่นา!
ทำไมถึงช่วยแนะนำให้กู้หยุนหลัน ไปเป็นประธานได้ล่ะ!
ในใจของหวังฟางเต็มไปด้วยความตกใจ หลังจากที่ตกใจเธอก็สงสัยมาก คิดยังไงก็คิดไม่ออก
“นายอย่ามาหลอกฉัน ฉันได้ยินคนพูดกันว่า คนที่ลงทุนในหยุนจงหลันกรุ๊ป เป็นเศรษฐีลึกลับแซ่หลี่ นายเกี่ยวข้องอะไรกับเขาหรือเปล่า นายเป็นอะไรกับเขากันแน่ คงจะไม่ใช่ลูกนอกสมรสของเขาหรอกนะ”
ในความคิดของหวังฟาง หลี่โม่น่าจะเป็นลูกนอกสมรสของเศรษฐีคนนั้น จึงจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างสมเหตุสมผล
หลี่โม่อึ้งไป เขามองหวังฟางอย่างกระอักกระอ่วน
นี่มันเรื่องอะไรกัน เขาจะเป็นพ่อของตัวเองได้ยังไงกัน
“บนโลกใบนี้มีคนแซ่หลี่ตั้งเยอะแยะ จะมาเกี่ยวข้องกับผมได้ยังไงกัน ผมไม่รู้จักเศรษฐีแซ่หลี่อะไรนั่นจริงๆ ผมแค่แนะนำหยุนหลันผ่านเฉียนฝูเท่านั้น”
หลี่โม่โยนให้เฉียนฝู เพราะตอนนี้หลี่โม่ไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น มีอะไรก็โยนให้เฉียนฝูรับไป ยังไงเฉียนฝูก็ไม่ถือสาอะไรอยู่แล้ว
หวังฟางส่งเสียงหึออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจกับคำตอบของหลี่โม่
“เสแสร้งต่อไปเถอะ ถ้าเขาเป็นพ่อของนายจริงๆ นายก็ยอมรับเขาเป็นพ่อสิ ต่อไปหยุนหลันจะได้ใช้ชื่อเสียงของนายได้อย่างสง่าผ่าเผย”
กู้หยุนหลันเห็นว่าบรรยากาศกระอักกระอ่วน เธอจึงดึงแขนของหวังฟาง
“แม่อย่าพูดอะไรไร้สาระ ทำไมถึงให้หลี่โม่ไปทำอะไรแบบนั้น เศรษฐีแซ่หลี่คนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลี่โม่ แม่อย่าเดาอะไรมั่วๆ สิ”
“เดามั่วตรงไหน ถ้าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันเช่นนี้ เรื่องที่แกได้เป็นประธานจะอธิบายให้ชัดเจนได้ยังไง หยุนหลันแกจริงจังหน่อยสิ แกต้องคิดให้มากๆ”