จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 528
หวังฟางแทบอยากจะให้หลี่โม่มีพ่อที่เป็นเศรษฐีลึกลับ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะได้ลืมตาอ้าปากได้ การที่ได้เป็นทองแผ่นเดียวกับเศรษฐีใหญ่ จะได้ไปพูดอวดกับพวกพี่ๆ ได้
กู้หยุนหลันยิ้มแล้วพูดว่า “รู้แล้ว แม่อยากคิดไปมั่ว หลี่โม่ไม่มีพ่อที่เป็นเศรษฐีอะไรนั่นจริงๆ”
“เฮ้อ!”
หวังฟางถอนหายใจออกมา ภาพฝันในใจของเธอดับวูบลงทันที
กู้หยุนหลันปฏิเสธแทนหลี่โม่แล้ว หวังฟางคงไม่สามารถยัดความคิดให้หลี่โม่ เป็นลูกของเศรษฐีแซ่หลี่คนนั้นได้อีก
กู้เจี้ยนหมินจ้องหวังฟาง เขาใช้ท่าทีของผู้นำตระกูลออกมา
“พอเถอะ อย่าพูดอะไรไร้สาระแบบนั้นเลย ทั้งหมดต้องดูที่ความสามารถของตัวเอง ในเมื่อหยุนหลันได้เป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ป งั้นก็ทำงานให้ดีและสร้างผลงานออกมา”
“หนูจะตั้งใจทำงาน สองสามวันมานี้ หนูกำลังศึกษาเรียนรู้ จะตั้งใจทำงานในหยุนจงหลันกรุ๊ปให้ดีอย่างแน่นอน ต้องทำให้หยุนจงหลันกรุ๊ปเป็นบริษัทด้านยาที่มีชื่อเสียงระดับสากล”
กู้หยุนหลันพูดอย่างมีชีวิตชีวา
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้าอย่างพอใจ “ลูกคิดได้อย่างนี้ก็ดี การที่จะเป็นประธานที่ดี ต้องมีความรู้รอบด้าน รวมถึงต้องมีความสามารถในการตัดสินใจ สองสามวันนี้ลูกตั้งใจเตรียมตัวที่บ้าน เพิ่มเติมความรู้ให้ตัวเอง”
“อื้ม หนูจะไปอ่านหนังสือ” กู้หยุนหลันทำตามสิ่งที่พ่อแนะนำ เธอกะพริบตาและเอียงคอมองหลี่โม่ จากนั้นจึงลุกขึ้น และเดินไปที่ห้อง
หลี่โม่เดินตามกู้หยุนหลันไปที่ห้อง เฉินเสี่ยวถงแอบแบะปาก เธอทำสีหน้าประจบประแจงและไปนั่งข้างหวังฟาง
“คุณน้า ชอบทานอะไรหรือเปล่าคะ พรุ่งนี้หนูจะไปตลาดและทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณน้าทาน หนูมาอยู่บ้านคุณน้าตั้งหลายวัน หนูไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกเกรงใจมากค่ะ”
หวังฟางยิ้มแล้วพูดว่า “เธอจะเกรงใจอะไรล่ะ ใช่สิ เธอจะไม่คิดเรื่องหลานชายที่ฉันแนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ”
เฉินเสี่ยวถงหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน “เราไม่เหมาะสมกันจริงๆ ค่ะ”
“โอเค งั้นฉันไม่บังคับ น้ายังมีผู้ชายที่เหมาะสมอีกหลายคน เป็นลูกหลานของพี่น้องในบ้านของน้าเอง รู้จักกันทั้งนั้น เดี๋ยวน้าจะแนะนำให้เธอรู้จักนะ”
วิญญาณความเป็นแม่สื่อของหวังฟางเต็มเปี่ยม เธอจับมือเฉินเสี่ยวถงแล้วพูดออกมายกใหญ่
หลี่โม่เดินตามกู้หยุนหลันเข้ามาในห้อง กู้หยุนหลันดึงหลี่โม่ให้นั่งลง เธอเปิดโน้ตบุ๊กและพูดว่า “นายดูสิ นี่คือแผนเริ่มต้นที่ฉันทำให้กับหยุนจงหลันกรุ๊ป”
“คุณเป็นประธาน จะบริหารยังไงก็แล้วแต่คุณเลย”
หลี่โม่พูดพลางกอดเอวบางของกู้หยุนหลัน เขาซุกหน้าเข้าไปในผมของเธอ สูดกลิ่นหอมบนตัวของเธอ เลือดในตัวของหลี่โม่พลุ่งพล่าน
“คุณภรรยา คืนนี้ให้ยัยเด็กเฉินเสี่ยวถง ไปนอนที่ห้องรับแขกเถอะ”
หลี่โม่พึมพำขึ้นมาเบาๆ
“นายคิดอะไรน่ะ อดทนอีกสองวัน เดี๋ยวเราย้ายไปที่คฤหาสน์ก็โอเคแล้ว”
กู้หยุนหลันซบอกหลี่โม่ เธอดวงตาปรือ
“แต่ยังต้องรออีกหลายวัน ผมทนไม่ไหวแล้ว คืนนี้ถ้าไม่ได้กอดคุณ ผมนอนไม่หลับแน่”
“อิอิ ฉันซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่ ให้นายกอดตอนนอนดีไหม”
กู้หยุนหลันพูดติดตลก
หลี่โม่มองกู้หยุนหลันอย่างหมดคำจะพูด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา
“โอเคๆ อดทนหน่อยนะ รอให้ย้ายไปที่คฤหาสน์ ฉันจะให้รางวัลนาย”
กู้หยุนหลันพูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
ถ้าไม่ได้ใกล้ชิดกับหลี่โม่ขนาดนี้ กู้หยุนหลันคงไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้ไฟในทรวงของกู้หยุนหลัน ถูกหลี่โม่จุดขึ้นมาแล้ว
ทั้งสองกอดกันแน่นขึ้น สุดท้ายทั้งสองก็คลอเคลียกัน
ข้างนอกห้อง ความอดทนของเฉินเสี่ยวถงถึงขีดสุดเป็นที่เรียบร้อย หวังฟางพูดใส่เธอจนเธอแทบจะระเบิดออกมา
ขณะที่เฉินเสี่ยวถงกำลังจะระเบิดคำพูดออกมา เสียงมือถือก็ดังขึ้น
“คุณน้า ฉันขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
เฉินเสี่ยวถงขอบใจคนที่โทรมามาก นี่เป็นการช่วยชีวิตเธอชัดๆ
หวังฟางจำใจหยุดพูดและให้เฉินเสี่ยวถงไปรับโทรศัพท์
เฉินเสี่ยวถงหยิบมือถือขึ้นมาดู เมื่อเห็นบนหน้าจอเป็นชื่อของจางเต๋ออู่ คำขอบคุณอย่างมากมายเมื่อครู่ หายวับไปในพริบตา
ถ้าให้เลือกรับสายจางเต๋ออู่กับนั่งฟังหวังฟางพูด เฉินเสี่ยวถงยอมนั่งฟังหวังฟางพูดดีกว่า
แต่เฉินเสี่ยวถงไม่รับสายจางเต๋ออู่ ก็ไม่ได้ ถ้ามีเรื่องสำคัญอะไร เธอต้องได้รู้และรีบบอกหลี่โม่
เธอเดินมาที่มุมห้องและกดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล”
“ทำไมเพิ่งรับสาย”
จางเต๋ออู่พูดอย่างไม่สบอารมณ์
“กำลังคุยกับแม่ยายของหลี่โม่ไง นายมีอะไร รีบพูดมา ไม่งั้นฉันจะโดนจับได้นะ” เฉินเสี่ยวถงหาข้ออ้าง
จางเต๋ออู่เลิกคิ้วขึ้น เขาอดกลั้นความไม่พอใจแล้วพูดว่า “หยกมังกรชิ้นนั้น อยู่ตรงไหน”
“ห้องนอนข้างในสุด ตรงมุมโต๊ะเครื่องแป้ง”
เฉินเสี่ยวถงพูดเสียงเบา
“คืนนี้ฉันจะให้คนไปขโมยหยกมังกร เธอต้องให้ความร่วมมือด้วย”
“จะให้ฉันทำยังไง ถ้าฉันโดนจับได้ จะทำยังไง ฉันต้องตายแน่!”
เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างไม่เห็นด้วย
“ฉันให้เธอพยายาม ไม่ได้บอกว่าต้องทำให้ได้!”
“เหอะๆ ความพยายามของฉันคือไม่สนใจอะไร แกล้งหลับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉันวางละ”
จางเต๋ออู่กัดฟันกรอด ก่อนหน้านี้ เมื่อเฉินเสี่ยวถงอยู่ต่อหน้าเขา เธอเชื่องอย่างกับแมว ตอนนี้เธอกล้ามาเถียงเขาแล้ว
“ตอนนี้เธอกล้ามาสินะ! รอให้เรื่องนี้จบก่อนเถอะ ฉันจะคิดบัญชีกับเธอแน่!”
จางเต๋ออู่กดตัดสายอย่างโมโห เขากัดฟันกรอด เหมือนจะบดขยี้เฉินเสี่ยวถงอย่างไรอย่างนั้น
บนเก้าอี้ยาวที่อยู่ไม่ไกล ราชินีของสำนักหลงเหมินในชุดนอนบาง หรี่ตามองจางเต๋ออู่
“เรื่องเป็นยังไงบ้าง”
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับ คืนนี้ส่งคนที่เคยเป็นราชาแห่งโจร ไปขโมยหยกมังกร รับรองว่าจะไม่มีอะไรเสียหาย”
จางเต๋ออู่พูดอย่างจริงจัง
ราชินีของสำนักหลงเหมินปิดตาลง เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “นายพูดเองนะ ถ้าเกิดเสียหายแม้แต่น้อย……”
เหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของจางเต๋ออู่ เขาพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ผม ผมพูดเช่นนี้ ผมจะพยายามไม่ให้เสียหาย หลี่โม่โรคจิตขนาดไหน คุณก็รู้ คางเฝยเอ่อที่ได้รับยาเพิ่มความแข็งแกร่ง ยังสู้เขาไม่ได้เลย”
“หึ! อย่ามาอ้าง ฉันไม่ต้องการความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ฉันต้องการความสำเร็จ!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินยิ่งพูดยิ่งโมโห
หลังจากมาถึงเมืองฮ่าน เหมือนจะไม่มีเรื่องที่ราบรื่นเลย เจอแต่เรื่องที่มีอุปสรรคทั้งนั้น
จางเต๋ออู่ก้มหน้าลง เขากลอกตาไปมา คิดว่าจะทำให้ราชินีของสำนักหลงเหมินคลายความกังวลที่อยู่ในใจอย่างไร
“เราไปจุดธูปไหว้พระที่วัดหลิงซานดีไหมครับ ได้ยินมาว่าที่นั่นศักดิ์สิทธิ์มาก”